คุณเตลุกจากเก้าอี้ หัวใจฉันเต้นรุนแรงมาก เขาหล่อมาก เขาเท่มาก เขาดูสุขุม เขาดูอบอุ่น แม้ฉันจะไม่เคยได้รับความอบอุ่นจากเขา ทว่าฉันสัมผัสได้ว่าเขาเป็นคนอบอุ่น
“จ้องอะไรขนาดนั้น”
“...”
“พริ้งเพรา” นิ้วชี้จิ้มลงที่ไหล่ทำให้ฉันรู้สึกตัว
“คุณเต” ฉันถอยหนีเนื่องจากคุณเตขยับเข้ามาใกล้ฉันมาก ๆ มากจนทำให้ฉันหายใจไม่ทั่วท้อง หน้ามืดเหมือนจะเป็นลมเลย ความเป็นคุณเตทำฉันกระอักกระอ่วน
“เหม่ออะไร” ใบหน้าหล่อเหลามีรอยยิ้มเล็กน้อยที่มุมปากซ้าย
“ปะ เปล่าค่ะ” ฉันถอยอีกรอบเพราะรู้สึกว่าใกล้มาก ใกล้เกินไปแล้ว
“แล้วจ้องอาทำไมนัก” อา ใช่ เขาจะแทนตัวเขาว่าอา ฉันน่ะเลิกเรียกเขาว่าอามานานแล้ว เพราะว่าฉันไม่ได้อยากเป็นหลานสาวของเขา เราไม่ได้เกี่ยวข้องกันทางสายเลือดสักนิด
“...”
“อาแก่ขึ้นหรือไง”
“เปล่า เปล่านะคะ คุณเตยังเป็นผู้ชายที่ดูดี ๆ มากเหมือนเดิมเลยค่ะ” เมื่อหลายปีก่อนเป็นยังไง ตอนนี้ก็ยังเป็นเหมือนเดิมและดูดีมากกว่าเดิมด้วย วันเวลาไม่ได้ทำลายความหล่อของคุณเตให้ลดน้อยลงสักนิด
“หึ เด็กน้อย” มือใหญ่ของเขายกขึ้นมาลูบที่หัวฉันอย่างเอ็นดู นาน ๆ ทีฉันจะได้เห็นใบหน้านี้ยิ้มให้ฉัน รอยยิ้มของคุณเตละมุนใจฉันมาก
ฉันคว้ามือคุณเตมากุมก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน “พริ้งโตแล้วนะคะ ไม่เด็กน้อยแล้วค่ะ”
“ครับ โตแล้ว หนูพริ้งเด็กน้อยของอาโตแล้ว ไปกินข้าวกัน อารอหนูพริ้งมากินข้าวด้วยตั้งแต่เช้าเลย ตอนนี้หิวมาก ๆ”
“ค่ะ” ฉันยิ้มพลางคิดในใจ พริ้งไม่ได้อยากจะเป็นหลานสาวคุณเต พริ้งอยากเป็นคนรักของคุณเต แต่พริ้งก็รู้ดีว่าพริ้งเป็นไม่ได้ คุณเตมีคนที่รักมากมายเหลือเกิน แค่พริ้งจะไปสู้อะไรกับผู้หญิงเหล่านั้นของคุณเตได้
คุณเตอายุ 38 ปี เขาทำธุรกิจอาหารแมว อาหารแมวที่บริษัทของคุณเตผลิตตีตลาดแตก ขายดีมาก ๆ เขาเป็นคนโสดทำให้มีผู้หญิงเข้าหาเยอะ คุณเตก็ไม่เคยปฏิเสธเพราะเขาถือว่าเขาโสด จะลองคุยกับใครก็ได้ คนไหนถูกใจก็คุยกันนาน คนไหนเข้ากันไม่ได้ก็จบเพียงชั่วข้ามคืน ฉันไม่ชอบที่คุณเตมีผู้หญิงเข้าหาตลอด แต่ว่าฉันไม่มีสิทธิ์พูด และฉันก็ไม่อยากให้คุณเตแต่งงาน พูดให้เข้าใจง่าย ๆ ฉันอยากเป็นคนที่คุณเตรัก ทว่าคุณเตไม่ได้คิดกับฉันแบบนั้น
เขามองฉันเป็นหลานสาว เขาเห็นฉันเป็นลูกสาวของเพื่อนสนิท
“อามีของขวัญต้อนรับหนูพริ้งกลับบ้านด้วยนะ” หลังกินข้าวเสร็จคุณเตเขาพูดด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง ใบหน้าเรียบนิ่งของคุณเตมีเสน่ห์มาก
“อะไรคะ” นอกจากเงินคุณเตไม่เคยให้อะไรฉันเลยนะ ทุก ๆ เทศกาลหรือวันเกิดทุกปีสิ่งที่คุณเตให้คือเงิน
“ไปดูกัน” เขายิ้มละมุน คุณเตยิ้มแค่นิดเดียวก็ทำใจฉันละมุนไปหมด
คำว่าไปดูกันทำให้ฉันคิดว่าครั้งนี้คงไม่ใช่เงิน
ฉันเดินตามคุณมาที่ห้องห้องหนึ่ง คุณเตเปิดประตูเดินเข้าไปฉันก็เดินตาม ด้านในนี้เป็นห้องแมว ใช่ห้องแมวเพราะฉันเห็นแมว แมวสีส้มขนยาวปุกปุย น่ารักมาก
“คุณเตเลี้ยงแมวตั้งแต่เมื่อไหร่คะ” ถึงคุณเตจะทำบริษัทผลิตอาหารแมว แต่ว่าเขาก็ไม่เคยเลี้ยงแมว ข้อมูลตรงนี้ฉันแค่ยืนยันจากช่วงเวลาสิบปีที่รู้จักคุณเต
“อาเลี้ยงรอหนูพริ้งกลับมาครับ”
“นี่คือของขวัญที่บอกเหรอคะ” ฉันเป็นตุเป็นตะเอาเองอีกแล้ว
“ใช่ครับ หนูพริ้งไม่ชอบเหรอ”
“ชอบค่ะ น่ารักมากเลย” ส่งยิ้มพลางเดินเข้าไปใกล้น้องแมว แต่เหมือนว่าน้องจะไม่ชอบฉันสักเท่าไหร่เพราะว่าน้องถอยหนี ทั้งยังขนพองใส่
“เหลียนฮวายังไม่ชินกับหนูพริ้ง เจอกันบ่อย ๆ เดี๋ยวก็ชิน” คุณเตพูดมาฉันก็พอเข้าใจได้ เพราะดูจากอายุน้องน่าจะเกือบปีได้แล้ว
ถ้าให้เป็นของขวัญฉันทำไมถึงไม่ซื้อตัวเล็ก ๆ ให้นะ ฉันเลี้ยงตั้งแต่เล็กต้องคุ้นเคยกันมากกว่าตอนนี้สิ
ทว่าหนึ่งสิ่งที่เรียกความสนใจได้ดีก็คือ “เหลียนฮวา?”
“ชื่อแมวตัวนี้ไงครับ” คุณเตตอบ
“ชื่อเพราะมากค่ะ ใครตั้งคะ” ฉันว่าไม่ใช่คุณเตแน่ ๆ คุณเตไม่มีทางจะตั้งชื่ออะไรแบบนี้
“หนูพริ้งไม่ชอบชื่อนี้เหรอครับ”
“ชอบค่ะ น่ารักมาก” ในเมื่อชื่อนี้ไปแล้วก็ต้องเรียกชื่อนี้สิ ดูเหมือนว่าเหลียนฮวาจะไม่ใช่แมวที่ตั้งใจซื้อให้ฉันสินะ ทว่าเหลียนฮวาเป็นของขวัญชิ้นแรกที่ได้รับจากคุณเต นอกจากเงินอะนะ ฉันต้องรับไว้อยู่แล้ว “ขอบคุณนะคะคุณเต พริ้งจะดูแลอย่างดีเลยค่ะ”
ต่อให้ไม่ใช่ของฉันตั้งแต่แรก แต่คุณเตก็ยกเหลียนฮวาให้ฉันแล้ว จากนี้ฉันก็จะรักและดูแลเหลียนฮวาเป็นอย่างดี เพราะว่าเป็นสิ่งที่คุณเตที่ฉันหลงรักให้มา