“แล้วถ้าฉันไม่ยอมรับกฎบ้าๆ นั่นล่ะ” ตัวตนของจัสมินก็กลับมา เรื่องไม่ยอมคนเธอถนัดนักล่ะ
“ก็แบบนี้ไง” พูดจบเขาก็โน้มใบหน้าลงมาอย่างรวดเร็ว แล้วก็จูบเธอตามกฎที่เขาว่าจริงๆ และมันก็ได้ผลอีกเหมือนเคย เมื่อตอนนี้เธอได้แต่ยืนนิ่งอึ้ง ทั้งๆ ที่เขาก็ถอนจูบไปนานแล้ว
“มีอะไรสงสัยอีกไหม อ๊ะๆ ไม่ตอบ ไม่ตอบงั้นจูบอีกนะ” เขาทำทีว่าจะโน้มลงมาอีก ทำเอาเธอถึงกับสะดุ้งและรีบตอบกลับไป
“มะไม่มี ไม่มีแล้ว”
“ดีมาก น่ารักที่สุด” ว่าแล้วเขาก็โน้มใบหน้าลงมาและจูบเธออีกครั้ง
“นี่ ฉันก็เชื่อฟังคุณแล้วไง ทำไมยังจูบอีกเล่า” เธอแหวใส่ ไม่เข้าใจว่าตัวเองผิดอะไรอีก
“ก็คุณน่ารัก ผมก็เลยอยากจูบ” เขาว่าหน้าตาเฉย ทำเอาคนฟังถึงกับกลอกตาไปมา
“เฮอะ! น่ารักก็จูบ ไม่น่ารักก็จูบ ถ้าอย่างนั้นฉันไม่ต้องโดนคุณจูบตลอดเวลาเลยรึไง” เธอท้าวสะเอวด้วยความไม่สบอารมณ์
“ความจริง มันก็เป็นความคิดที่ดีเหมือนกันนะ เอาเป็นว่าตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ผมจะจูบคุณทุกครั้งที่อยากจูบก็แล้วกัน” ริชาร์ดสรุปเอาเองตามใจตัวเองอีกครั้ง
“อ๊าย! นี่จะบ้าเหรอ เชิญคุณบ้าจี้ไปคนเดียวเลย ฉันไม่เอาด้วยแล้ว” ด้วยความเขินและขัดใจไปในคราวเดียวกัน ไม่คิดมาก่อนว่าตัวเองต้องมาเจรจาเรื่องจูบกับเขาหน้าห้องน้ำแบบนี้ เอ้อ! จะที่ไหนก็ไม่น่าทั้งนั้นแหละ ดังนั้นเธอจึงตัดบทด้วยการเดินออกไปให้ไกลจากที่นี่ซะ แต่ก็ได้แค่คิดเท่านั้นแหละ ก็คนเอาแต่ใจรั้งแขนเธอกลับมาซะก่อน แล้วก็ยัง อ๊าย! คิดดูสิว่าเขาจะทำอะไร ถ้าไม่ใช่จูบเธออย่างที่เขาถนัด
ในขณะที่เพื่อนรักทั้งสองคนกำลังอยู่ต่างที่ต่างสถานการณ์ ชมพูแพรเองก็ไม่ได้พักอยู่ที่ห้องอย่างที่บอก แต่เธอกลับมาที่ตึกแบรนเดอร์อีกครั้ง และเป้าหมายของเธอก็คือ พาราดีสคลับสุดหรูที่ตั้งอยู่ชั้นบนสุดของตึกแห่งนี้
“โอ๊ย! แล้วจะเข้าไปยังไงล่ะเนี่ย” เธอยืนบ่นพึมพำอยู่หน้าลิฟท์ ด้วยไม่สามารถขึ้นไปอย่างที่ต้องการได้ ในเมื่อคนที่จะขึ้นไปที่นั่นได้จะต้องมีบัตรสมาชิกกิตติมศักดิ์ ซึ่งเธอมีแค่บัตรส่วนลดร้านอาหาร (เขาใช้แทนกันได้ไหมเล่า)
“คุณครับ มีอะไรให้ช่วยไหมครับ” รปภ. เดินเข้ามาทัก เนื่องจากเห็นว่าเธอเดินไปเดินมาด้วยท่าทางลุกลี้ลุกลนอยู่นานแล้ว โชคยังดีที่ รปภ. คนนี้ไม่ใช่คนเดียวกับเมื่อตอนกลางวัน เนื่องจากที่นี่เปิดให้เข้าตลอดทั้งกลางวันกลางคืน รปภ. จึงปรับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป ไม่อย่างนั้นเธอคงถูกจับโยนออกไปตั้งแต่ตอนเข้ามาแล้ว เพราะถ้าเป็นคนเก่า รายนั้นต้องรู้ดีว่าระดับเธอ ไม่มีปัญญาเข้าไปในที่หรูๆ แบบนั้นแน่
“อะเอ่อ ไม่มีค่ะ พอดีฉันรอเพื่อนน่ะค่ะ ว่าจะขึ้นไปพร้อมกัน ดูสิเนี่ยป่านนี้ยังไม่มา ปล่อยให้ฉันมารอตั้งนานสองนาน เจอหน้าจะด่าให้เข็ดเชียว เอ้อ! เชิญคุณ รปภ. ทำหน้าที่ต่อได้ตามสบายเลยนะคะ อีกเดี๋ยวเพื่อนของฉันก็คงจะมาแล้ว” เธอหาทางเอาตัวรอดด้วยการเฉไฉไปเรื่อย และในขณะนั้นเอง ก็มีผู้ชายคนหนึ่งซึ่งเธอคุ้นหน้ามากเดินเข้ามา
“เอ๊ะ! นั่นมันผู้ชายที่เราเคยเห็นในภาพนี่ ใช่คนเดียวกันรึเปล่านะ เอ๊ะ! หรือว่าไม่ใช่ หึๆ อยากรู้ก็ต้องเข้าไปถามสิ” ยังไม่ทันที่เธอจะได้เข้าไปทักผู้ชายคนดังกล่าว แขนกลมกลึงของเธอก็ถูกดึงมาจากด้านหลัง ทำให้เจ้าตัวต้องหันไปมองด้วยความโมโห
“เอ๊ะ! นี่คุณ เฮ้ย! ไอ้โรคจิต” เธอตะโกนเสียงดัง เพราะจำเขาได้เป็นอย่างดี ซึ่งไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้เจอเขาที่นี่อีก และเสียงที่ดังราวกับโทรโข่งของเธอทำเอาริคาโด้ถึงกับหุบยิ้มฉับ
“นี่ คุณลูกโป่งตู้มๆ ครับ คุณเรียกผมแบบนี้ ผมไม่กลายเป็นบุคคลอันตรายไปเลยรึไง เอาเป็นว่าต่อไปเวลาเจอหน้าผม ให้คุณเรียกผมว่า ริคที่รักแล้วกันนะครับ” ทันทีที่เห็นเธอ ริคาโด้ก็อารมณ์ดีขึ้นและรีบเข้ามาทักเธอทันที แต่คำทักทายของเธอนี่สิ ทำเอาเขาแทบหมดอารมณ์
“แหวะ! ฉันไม่เรียกเด็ดขาด แล้วฉันก็ไม่อยากเจอคุณอีกแล้วด้วย หวังว่าเราคงไม่ต้องพบกันอีกนะคะคุณโรคจิต ลาล่ะ” เธอว่าแล้วก็รีบหันกลับไปเพื่อตามหาเป้าหมายเมื่อสักครู่
“เดี๋ยวสิ กว่าเราจะได้เจอกัน คุยกันแค่นี้เองเหรอ อยู่คุยกันก่อนสิ” เขารั้งแขนเธอไว้อีกครั้ง และยังตามตื๊อไม่เลิก
“โอ๊ย! นี่อย่าเพิ่งยุ่งกับฉันตอนนี้ได้ไหม ฉันกำลังยุ่งอยู่ไม่เห็นรึไง เฮ้ย! ไปไหนแล้วล่ะ เพราะคุณคนเดียวแท้ๆ เลยที่ทำให้ฉันคลาดกับคนเมื่อกี้นี้น่ะ” เธอหันมาแหวใส่เขาอีกครั้ง เมื่อไม่เจอเป้าหมายที่กำลังตามหา
“นี่ อย่าบอกนะว่ามาหาลูกค้าถึงที่นี่ เล่นของสูงเหมือนกันนะคุณเนี่ย เอางี้ไหมล่ะ ไหนๆ คุณก็คิดจะขายแล้วก็ขายผมสิ ผมสู้ราคานะ เห็นแก่ที่คุณมาไกลถึงนี่ ผมให้คุณเสนอราคาตัวเองมาได้เลย ว่ามาคุณอยากได้เท่าไหร่” เขายื่นข้อเสนอ เพราะยังไม่เปลี่ยนความคิดที่มีต่ออาชีพของเธอ ‘หึๆ เลือกเกรดลูกค้าได้ดี คงหวังรวยทางลัดล่ะสิ’
“ไอ้โรคจิต บอกแล้วว่าไม่ขายๆ ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องรึไง” ชมพูแพรหันมาแหวใส่ด้วยความโมโห เมื่อเขายังพยายามยัดเยียดอาชีพแบบนั้นให้เธอ
“แล้วทำไมถึงยอมขายให้คนอื่น หรือคิดว่าผมรวยสู้คนพวกนั้นไม่ได้” เขายังคงหาเรื่องไม่เลิก แค่คิดว่าเธอยอมขายให้คนอื่น แต่ไม่ยอมขายให้เขา ก็อดหงุดหงิดไม่ได้ ‘แบบนี้มันหยามน้ำหน้ากันชัด’
“กับใครก็ไม่ขายโว้ย ดูปากฉันให้ดีๆ นะ ฉัน ไม่ ใช่ ผู้ หญิง ขาย ตัว จำเอาไว้ด้วย คราวหน้าถ้ายังหาว่าฉันขายตัวอีกล่ะก็ ฉันจะซัดคุณให้ปากเจ่อไปเลยคอยดู” ชมพูแพรเน้นย้ำชัดๆ ด้วยความโมโห
“ผมอยากปากเจ่อ” ริคาโด้เผลอคลางเสียงแผ่วในขณะที่กำลังจดจ้องมองปากสีแดงสดของเธอ ก็เธอบอกว่าให้ดูปากเธอชัดๆ เขาก็ต้องมองให้ชัดๆ น่ะสิ (นี่ก็ตรงเกิ๊น)
“เป็นบ้าอะไรของคุณอีกเนี่ย ฮึ่ย! ฉันไม่คุยกับคุณแล้ว” ทันทีที่เห็นว่าเธอกำลังจะผละออกไปอีก ริคาโด้จึงรีบเข้าไปรั้งเอาไว้
“นี่ๆๆ เอะอะก็จะหนีท่าเดียว เอางี้เรามาคุยกันดีๆ แล้วผมจะไม่กวนใจคุณอีก แต่คุณต้องตอบคำถามผมดีๆ ด้วยนะ” เขายื่นข้อเสนอ ซึ่งมันก็ไม่ได้เสียหายอะไรถ้าเธอจะรับไว้พิจารณา
“ก็ได้ งั้นว่ามา” เธอตกลงพร้อมกับเร่งรัดเวลาเขาอีก ด้วยไม่อยากเสียเวลากับเขาอีก
“โอเค ถ้าคุณไม่ได้ขายตัว แล้วคุณมาทำอะไรที่นี่” ได้ยินประโยคแรก ชมพูแพรถึงกับหันขวับไปมองเขาตาขวางอีก