“เออดี อย่ามาโวยวายทีหลังละกัน” ผมกระตุกยิ้มร้ายเมื่อใบหน้าคมนั่นขมวดคิ้วงงๆ กว่ามันจะรู้ตัวริมฝีปากหยักบางสีชมพูระเรื่อก็กลายเป็นของผมซะแล้ว ผมไม่รู้ว่าคนตรงหน้ารู้สึกยังไงแต่ผมไม่ไหวมานานละ
กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆลอยมาแตะจมูกในขณะที่ผมสอดแทรกเรียวลิ้นเข้าไปในโพรงปากพลิกลิ้นไปซ้ายทีขวาทีไล่สติไอ้เวย์ให้มันหดหายเหมือนอย่างที่ผมเป็น
เอ้า สติไอ้เวย์ จงหายไปซะ ชิ่วๆ เคลิ้มซะดีๆ
โอเค ถึงความคิดผมจะบัดซบไปหน่อยแต่รู้อะไรมั้ย ผมหมั่นไส้มันมากที่ทำให้ผมร้อนวาบไปทั้งตัวในขณะที่มันทำหน้าเหมือนไม่รู้สึกอะไรเลย หรือเป็นเพราะผมเครื่องฟิต สตาร์ทติดง่ายเกินไปก็ไม่รู้ ที่รู้ๆคือตอนนี้ผีบ้าซาตานที่ไหนก็มาหยุดพี่เตย์ไม่ได้จริงๆ
ตึก ตัก ตึก ตัก!
เหอๆ ถ้าหัวใจผมจะเต้นแรงขนาดนี้ ผมถอนริมฝีปากออกก่อนจะหรี่ตามองปฏิกิริยาคนตรงหน้า แม้มันจะทำหน้านิ่งแต่จริงๆเหมือนมีอะไรแตกต่างออกไปนิดหน่อยทำให้ผมกระตุกยิ้มก่อนจะลากไล้ปลายลิ้นไปตามกรอบหน้า ยิ่งริมฝีปากผมสัมผัสกับผิวนุ่มเมื่อไหร่ หัวใจผมก็เต้นโครมครามแรงขึ้นทุกครั้งพยายามล่อลวงและปลุกเร้าคนตรงหน้าให้เป็นไปตามเกมแต่ดูจะยากกว่าที่คิดไว้เยอะ
ไอ้เวย์แม่งฉลาดทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องแบบนี้ เสือกตามไม่ทัน อยากจะด่า
“เวย์” ผมเรียกเสียงหวานชิดใบหูก่อนจะขบเม้มมันเบาๆ ก่อนจะพรมจุมพิตไต่แตะแซะไปตามลำคอนั่นไปเรื่อยกลิ่นน้ำหอมว่ายั่วแล้ว กลิ่นไอ้เวย์แม่งยั่วผมหนักกว่าหลายเท่า กระชากอุณหภูมิร่างกายให้สูงขึ้นจนเหงื่อเริ่มผุดพราวบนใบหน้าทั้งๆที่อยู่ในห้องแอร์เย็นฉ่ำ และมันคงจะเป็นแบบนั้นต่อไปถ้าไอ้เวย์มันไม่...
“ฮะฮะฮะ”
หัวเราะ -_-
ผมชะงักก่อนจะดับอารมณ์พลุ่งพล่านแบบฉับพลันแล้วหยุดการกระทำทุกอย่างมองหน้าไอ้เวย์อย่างไม่พอใจเต็มสตรีม ใครใช้ให้หัวเราะในเวลาแบบนี้วะ!
“ขำไร” ผมจิ๊ปากแล้วใช้มือบีบข้างแก้มเบาๆให้มันหยุดขำซะ
“จั๊กกะจี้”
มันกวนประสาทผมได้ทุกเวลาสิน่า
“ไม่ตลก” ผมพูดเสียงแข็งแล้วบีบแรงขึ้นอีกจนมันตีมือผมแรงๆเลยต้องปล่อยอย่างเสียไม่ได้
“ก็มันขำ”
“นี่เอาจริง ไม่ได้แกล้ง หัดฉลาดหน่อย โง่มากแล้วมันหงุดหงิด” ผมเบ้หน้าก่อนจะถอดเสื้อตัวเองโยนลงไปข้างเตียงบ่งบอกว่าผมเอาจริงไม่ได้หยอกเหมือนที่ชอบทำประจำ เวย์เงียบแล้วมองหน้าผมตาปริบๆก่อนจะพยายามดันตัวขึ้นมาแต่ฝันไปเหอะว่าผมจะให้ลุก!
“...” คนตรงหน้าเงียบเมื่อผมสบตาอย่างซีเรียสพร้อมกับกดบ่าทั้งสองข้างลง
“เอาจริง เข้าใจมั้ย?”
“...”
“เลิกตลกสักแป๊ปจะเป็นไรไป พ่อเป็นสามช่าไง๊?” ผมกวนประสาทก่อนจะก้มลงแกล้งมันบ้างข้อหาทำให้อารมณ์ผมสะดุด ตอนแรกก็กะจะจูบเฉยๆแต่พอมันพูดขึ้นมา...
“พ่อเป็นหมอ”
กัดคอแม่ง!
“โอ๊ยๆๆ ไอ้เตย์กัดทำไม เจ็บนะโว้ย” มันโวยวายแล้วจิกหัวผมรัวๆจนกระทั่งผมผละออก ลำคอขาวเนียนนั่นปรากฏรอยแดงจ้ำๆทำให้ผมสะใจสุดๆ
สมน้ำหน้า กวนตีนดีนัก
“บอกว่าเอาจริง นี่ก็ตลกแดกไม่เลิก”
“รู้จักคำว่า Friend ป่ะ” ไอ้เวย์ถอนหายใจแล้วตบหน้าผากผมดังแป๊ะอีกรอบ ผมก็เลยเอาหัวโขกหน้าผากมันกลับแรงๆทีนึงเป็นการเอาคืนก่อนจะหัวเราะเมื่อมันเบ้หน้าเจ็บปวดแล้วจึงพูดต่อ
“ละมึงรู้จักคำว่าเฟรนด์ฟิตๆป่ะ”
“Friend with benefit เฟรนด์ฟิตๆอะไรล่ะ โง่ -_-”
นั่นไง ด่าผมอีก ก็ผมคนไทยป่ะวะ จะไปรู้มั้ยล่ะ ภาษาอังกฤษรู้แค่กระจิริดผิดตรงไหน
“เออ นั่นเรียกให้เก๋ เรียกแบบทุเรศคือเป็นชู้กูเถอะ...ครับ”
ถ้าพูดตรงขนาดนี้แล้วมันยังไม่เข้าใจ ผมคงต้องหยิบโซระอายิโนโมโต๊ะมาเปิดให้แม่งดูละ จริง -_-^
“ถ้าสนุกจะลองคิดดู” ไอ้เวย์พูดนิ่งๆออกมาจากใจ ไม่รู้มันเป็นคนประเภทไหน แต่ที่แน่ๆคือติสต์มาก มีผู้หญิงนางไหนตอบแบบมันมั่งล่ะ ถ้าคนอื่นเคลิ้มตั้งแต่โดนจูบละ บ่องตรง ผู้หญิงบ้าอะไรปล้ำลำบากชิบหาย อาเตย์เหนื่อย
“สนุกรึเปล่าไม่รู้ รู้แต่มันส์เว่อร์ สนป่ะล่ะ”
“ยังไง?” มันเลิกคิ้วสูงทำให้ผมยกยิ้มชั่วร้าย
ติดกับดักพี่เตย์คนจริงลิงเผือกเจ้าแห่งความแรดซะแล้ว ฮ่าฮ่า
“ตบตับ ตบตับ ฟิน”
“เหอะ” มันพ่นลมหายใจเซ็งๆแล้วส่ายหน้าไม่โอเค “แรด”
“เออออ ยอมรับแต่พี่เตย์เป็นแรดสายพันธุ์ใหม่รู้ป่ะ”
“อะไร ไม่เก็ท -_-”
“ปกติแรดมีนอส่วนบน แต่นอพี่เตย์อยู่ส่วนล่าง” ผมทำหน้าเจ้าเล่ห์แล้วเลียริมฝีปากแผล่บๆก่อนจะกระชากเข็มขัดตัวเองออกเตรียมปลดผนึกให้ความพลุ่งพล่านออกมาโลดแล่น
“เหรอคะ” คนตรงหน้าว่าด้วยน้ำเสียงสูง
“ตามทันหน่อย เรียนหมอซะเปล่า อย่าโง่เรื่องพื้นฐานให้มันมากนัก” ผมหลอกด่ามันก่อนจะกระชากเศษเสื้อขาดๆบนตัวนั่นออกอีกนิดหน่อย ไอ้เวย์เม้มริมฝีปากหงุดหงิดที่โดนผมตอกกลับเพราะปกติส่วนใหญ่มันจะเป็นคนด่าผม
“นี่คงคิดว่าตัวเองเหนือกว่าใช่ป่ะเตย์?” มันเหยียดยิ้มร้ายก่อนจะไล้ปลายนิ้วที่ข้างแก้มพร้อมหรี่นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มนั่นลงอย่างยั่วยวน “รู้ใช่มั้ยว่าตั้งแต่เกิดมาฉันไม่เคยแพ้แก...”
“...”
“แม้แต่ครั้งเดียว!”
สิ้นสุดคำพูดของร่างบาง ผมก็ถูกกระชากตัวและพลิกร่างลงกับเตียงแทนในเสี้ยววินาที ยอมรับว่าจุกนิดหน่อยแต่แม่งเร้าใจชิบหาย...
“ใครโง่นะ เตย์” ร่างบางพูดเสียงหวานและนั่งอยู่บนลำตัวผมทำเอาอารมณ์ผมปั่นป่วนแล่นพล่านไปทั่วร่างกับท่าทียั่วยวนของคนตรงหน้า ทั้งๆที่แอร์เย็นฉ่ำแต่ผมกลับร้อนวาบจนเหงื่อซึมพร้อมๆกับที่ไรขนอ่อนลุกชันจนคิดว่าร่างกายผมเพี้ยนไปแล้วแหงๆ
“ใครโง่ ลองพูดใหม่สิ”
เวย์ว่าก่อนจะจิกเล็บลงกับแผ่นอกกรีดนิ้วลากไล้มายันลำคอแล้วหัวเราะร้าย ก่อนจะดึงเศษเสื้อที่เหลือออกจนเผยผิวขาวเนียนละเอียดทั่วร่าง ยิ่งกระตุ้นผมหนักกว่าเดิมอีกให้ตาย แต่ยิ่งผมจ้องตาถลนมากเท่าไหร่ยิ่งทำให้ไอ้เวย์รู้สึกเหนือกว่ามากเท่านั้น มันเขยิบร่างเข้ามาใกล้จนคัพซีของมันเสียดสีกับแผงอกทำเอาผมร้อนวาบ
นี่ก็ยั่วกันจริง...
“จะยอมเตย์ก็ได้” เวย์ว่าพร้อมกระซิบเสียงต่ำก่อนจะเป่าลมร้อนๆแกล้งให้ผมปั่นป่วนมากขึ้น แน่นอนว่าผมไม่นอนเฉยๆหรอก บางทีไอ้เวย์อาจจะแกล้งยั่วผมเล่นๆก็ได้ผมก็เลยใช้เวลาว่างดึงกระตุกบราเซียร์ที่ขวางหูขวางตานั่นออกแต่ไอ้ตอนที่มันขาดดังปุด มันดันเป็นเวลาเดียวกับที่ไอ้เวย์กดเศษเสื้อที่มันถอดเมื่อกี้ใส่ตาผม!
เล่นอะไรอีกวะเนี่ย!
“แต่ห้ามมอง” เวย์ว่าเสียงเรียบทำให้ผมกระตุกคิ้วไม่เข้าใจว่ามันกำลังคิดจะทำอะไรกันแน่
“ไม่” ผมปฏิเสธเสียงแข็งพร้อมพยายามดึงมือมันออกก่อนจะชะงักเมื่อมันพูดขึ้น
“น่านะ ตื่นเต้นดีออก”
เหอะๆ ก็ใช่แหละ แต่อาเตย์อยากเห็นมากกว่าว่ะ
“ไม่ๆๆๆ อุ่” เสียงผมขาดหายเมื่อจู่ๆก็รู้สึกได้ถึงสัมผัสร้อนๆที่ริมฝีปากและการรุกล้ำความเป็นส่วนตัวด้วยเรียวลิ้นเย็นๆของคนตรงหน้าชักพาให้ผมคล้อยตามคำเสนอ ดึงดัน เอาแต่ใจแต่ก็โน้มน้าวในคราวเดียวกัน
ให้ตายแม่งจูบเก่งชิบหายแล้วเสือกแอ๊บ!
“เป็นอันว่าตกลง” เวย์ผละริมฝีปากออกในขณะที่ผมมองไม่เห็นอะไรเลยนอกจากเงาลางๆเพราะเสื้อนั่นปิดตาผมอยู่ กว่าจะรู้ตัวผมก็ติดกับไอ้เวย์เข้าซะแล้ว เหอะๆ แม่งเอาผ้ามาผูกตาตอนไหนวะเนี่ย!
“เอามาปิดทำไม” ผมหงุดหงิดพยายามจะถอดมันออกแต่ไอ้เวย์ดันมาฉุดมือผมไว้ก่อน
“ตื่นเต้นดีไง”
“...” ผมเงียบไม่ค่อยจะเชื่อมันสักเท่าไหร่ ต่อให้ติสต์ก็ไม่น่าเล่นอะไรวิปริตแบบนี้ป่ะว่ะ ไม่ดิ มันก็ไม่ได้บัดซบอะไรขนาดนั้นแต่หน้าอย่างมันดูไม่เข้าเค้ากับรสนิยมสักเท่าไหร่ จากที่ผมใคร่ครวญในมันสมองสักพักก็สรุปใจความได้ว่า
“อาย...ใช่ป่ะ?”
“...”
แม่งเงียบเลย ชัดเจน!
“ก็ครั้งแรกป่ะวะ ไฟก็ไม่ปิด” มันว่าแล้วตบหน้าผากผมดังแป๊ะอีกรอบทำให้ผมหัวเราะชั่วๆอย่างเหนือกว่า ในที่สุดก็จับจุดอ่อนไอ้เวย์ได้แล้ว จะเล่นให้หนักๆเลย คอยดู!
ว่าแต่ว่าครั้งแรกแม่คุณก็เล่นเป็น The girl on top เลยเหรอวะ โหดไปนะบางที...
“อีกอย่างนะเตย์” ไอ้เวย์หัวเราะขำพร้อมกับซุกใบหน้าเข้ากับลำคอผมพร้อมกับกัดมันแรงๆราวกับจะเอาคืนทำเอาผมสะดุ้งโหยงอย่างตกใจ ผมกัดฟันกรอดว่าจะด่ามันสักหน่อยแต่เพราะไอ้ประโยคต่อไปของมันทำให้ผมยอมหยุดวาจาหมาๆนั่นอย่างเต็มใจ...
“ริจะเป็นชู้ก็ต้องเด็ดกว่าตัวจริงปะวะ?”