EP01 ll เราชื่อของขวัญ

1319 คำ
ว้าย นั่นมุกหรือหอยแครงอ่ะหนู หลอกไม่ดูตาม้าตาเรือเลยนะ ควรขำให้น้องเขามั้ยเนี่ย ฮ่าฮ่าฮ่า หน้าน้องยังกับไอ้เด็กสมบูรณ์อายุอานามไม่น่ามากกว่า 13 บวกลบอย่างน้อยสองปี มากสุดก็สิบห้า หนูจะบอกว่าผู้ชายหน้าหล่อวิ๊งค์คนนั้นอายุเท่าหนูอะเหรอ หนูเพ้อเจ้ออะไรคะลูก ถึงพี่จะตะกละแต่พี่ก็ไม่กินหญ้านะจ๊ะหนู “จ้า เพื่อนก็เพื่อนเนาะ งั้นก็จดไลน์พี่ไว้นะคะ พี่ชื่อของขวัญ” ฉันหัวเราะตามมุกน้องก่อนที่จะแตะตัวเขาเล็กน้อยแอบหลอกถามโปรไฟล์ของคนที่มาจีบ “ว่าแต่ว่าพี่ชาย เอ๊ย เพื่อนน้องเรียนที่ไหนเหรอคะ” “ธรรมประสาสน์” อีเด็กนั่นว่าในขณะที่มองจอมือถือฉันแล้วหยิบมือถือตัวเองขึ้นมาพิมพ์ ฉันกับอีหรั่งมองกันตาเป็นประกาย ต๊าย ผู้ชายหล่นทับ! นอกจากจะหน้าตาดีและยังมีสมองอีก เขาเรียนมหาลัยธรรมประสาสน์แสดงว่าฉลาดเว่อร์ ไม่ใช่ทุกคนที่จะสอบเข้าที่นั่นได้ ด้วยคะแนนที่สูงและการแข่งขันที่เอาเป็นเอาตาย ฉันพูดได้เลยว่าเขาดีมาก หน้าตาก็น่าจะเฟรชชี่ ขึ้นปีหนึ่งหรือไม่ก็อยู่ปีสอง เป็นน้องฉันปีสองปี... หรือไม่ก็อาจจะเท่ากัน คนนี้ ฉันดีล! “โห เก่งจังเลย เรียนคณะอะไรเนี่ย” ฉันยิ้มกริ่มแล้วชายตาไปมองคนตัวสูงเพื่อหว่านเสน่ห์ น้องคนนั้นสบตากับฉันแล้วเลื่อนสายตาไปจ้องหม้อชาบูด้วยความเขิน “คณะไรเหรอ” อีน้องตี๋เด็กสมบูรณ์ทำหน้างง สงสัยน้องคงจะยังเด็กเกินไปถึงไม่ได้รู้จักคำว่าคณะและสาขาวิชาของแต่ละมหาลัย ฉันนี่ก็บื้อจริง น้องมันจะไปรู้อาไร๊ น้องมันก็แค่เด็กอายุประมาณสิบสามที่เพิ่งเรียนจบประถมและกำลังตั้งหน้าตั้งตาเรียนสมการเลข! “โอ๊ย ช่างเถอะหนู หนูเชิญพี่ชาย เอ๊ย เชิญเพื่อนหนูมานั่งกินข้าวด้วยกันสิลูก” อีหรั่งเปิดทางอย่างรู้ใจก่อนจะพยักเพยิดใส่ฉัน “เฮ้ย ไอ้โย!” พอได้ยินอีหรั่งพูดจบปุ๊ป นังเด็กตาตี่นั่นก็รีบกวักมือเรียกพี่ชายสุดฮอตมายิกๆ ตาพี่ชายนั่นก็ดูจะเอียงอายเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆ ลุกขึ้นมาทางพวกเรา “อะไรเหรอ” ยิ่งมองน้องก็ยิ่งดูมีของมากๆ พอน้องมายืนใกล้ๆ น้องก็ทำหน้าเขินจนแก้มระเรื่อ ทำให้เขาดูน่ารักมากขึ้นไปอีก ฉันยิ้มให้นิดๆ แต่ไม่พูดอะไรมากเพราะฟอร์มอยู่ “นี่มานั่งด้วยกันก็ได้นะคะ” อีหรั่งออกโรงอย่างรู้งานก่อนจะชี้นิ้วมาตรงที่นั่งข้างๆ ฉัน “เนี่ย นั่งข้างๆ เพื่อนเราเลยนาย” “จะดีเหรอ” น้องเกาแก้มเล็กน้อย ดูไม่ค่อยกล้าเท่าไหร่ ผิดกับอีเด็กตาตี่ที่เสนอหน้ากระแทกก้นตรงฝั่งที่นั่งอีหรั่งแล้วทำตัวเป็นเจ้าของร้านชาบู “มึงอย่ามากเรื่องสิวะ เขาบอกให้นั่งก็นั่งน่า เขินอยู่นั่นแหละ” ไอ้เด็กตาตี่นี่แก่แดดผิดกับหน้าตามาก นางกล้าเรียกพี่ชายสุดฮอตของนางว่ามึง! และดูท่าทางน้องโยอะไรนี่จะไม่ได้สนใจสรรพนามนั่นเท่าไหร่ก็เลยนั่งลงข้างฉันอย่างเก้ๆ กังๆ มันเป็นเพราะใจฉันยังละอ่อน ฉันก็เลยรู้สึกเขินตามน้องขึ้นมา ยิ่งน้องเกร็ง ฉันก็เกร็งด้วย ก่อนหน้านี้ฉันตักหมูเข้าปากแบบสามสิบชิ้นต่อนาที ไม่มีการรักษาภาพพจน์ใดๆ ทั้งสิ้น หากแต่พอน้องมานั่งข้างฉันปุ๊ป อากัปกิริยาฉันก็เปลี่ยน จากคนเถื่อนเข้าสู่สภาวะคุณผู้หญิง ที่ทำอะไรก็อ่อนช้อยและดูเป็นกุลสตรีไปเสียหมด “เราชื่อโยนะ” น้องแนะนำตัว พร้อมๆ กับที่อีเด็กตาตี่ยกมือเรียกบ๋อยและแจ้งย้ายโต๊ะ นางจัดแจงปิ้งหมูที่อยู่ตรงหน้าและกินต่อโดยไม่แคร์ “อะ อ๋อ เรารู้แล้วแหละ เราชื่อของขวัญ” ฉันยิ้มตอบ ได้กลิ่นหอมแป้งๆ จากตัวน้องด้วย โอ๊ย น่ารักจัง เด็กมันดีอย่างนี้เองสินะ ฉันแอ๊บเรียกตัวเองว่าเรา เพราะไม่อยากแสดงความชราภาพให้น้องได้รับทราบมากนัก ถ้าน้องไม่ถาม ฉันก็ไม่พูดแล้วกัน ยังไงหน้าฉันก็ดูใสๆ ไปกับน้องได้อยู่ ดูรุ่นราวคราวเดียวกัน “อ๋อ...” น้องว่าแล้วก็เงียบไปนานมาก “แล้วนายเรียนคณะไหนเหรอ เห็นน้องคนนี้บอกว่าเรียนธรรมประสาสน์” “คณะ? หมายถึงเรียนห้องอะไรอะเหรอ” ห้องอะไรวะ น้องพาฉันงงนะเนี่ย “เอ่อ ก็หมายถึงวิชาเอกน่ะ” “Gifted น่ะ” “หมายถึงวิทยาศาสตร์อะเหรอ” ฉันงงกับน้อง ปกติฉันเคยได้ยินคำนี้ช่วงมอปลาย บางโรงเรียนก็มีตั้งแต่มอต้น ส่วนใหญ่จะได้ยินคนอื่นใช้เรียกเด็กห้องโครงการพิเศษวิทยาศาสตร์คณิตศาสตร์ที่ฉลาดๆ แต่เขาคงเขินๆ จนสับสนล่ะมั้ง “ก็อะไรประมาณนั้นแหละ” น้องตอบฉันแล้วเหล่มองนิดหน่อย มือข้างนึงหยิบตะเกียบแล้วคีบหมูใส่จานฉัน พอฉันมอง นางก็หลบสายตาด้วยท่าทีน่ารัก “แล้วเธอเรียนที่ไหนเหรอ” “ก็เรียนแถวๆ นี้แหละ” ฉันยิ้มแต่ไม่ได้บอกเขาไปตรงๆ เพราะฉันต้องการเล่นตัวบ้าง ยังไงน้องก็มาจีบฉันนะ ฉันต้องไว้ลายสักหน่อย แม้น้องจะน่ารักน่าชังแค่ไหน ฉันก็จะทำให้เขาได้ใจมากเกินไปไม่ได้ “เออ ไอ้โย ของขวัญให้ไลน์กูมาละนะ” ไอ้เด็กตาตี่นั่นว่าก่อนจะยกตะเกียบชี้เข้าที่หน้าน้องโย “เนี่ย ไม่ต้องอยู่คุยกันนานหรอก วันนี้มึงกลับไปทำงานให้กูด้วยมึงรับปากละนะ” แหม อีเด็กนี่เอาใหญ่เลยนะ การบ้านตัวเองไม่ยอมทำแต่มาใช้พี่ชายเหรอ!! ฉันถลึงตานิดๆ ก่อนที่น้องโยจะยกนาฬิกาข้อมือมาดู “เออ รู้ละน่า” เขาว่าแล้วถอนหายใจก่อนจะมองหน้าฉัน “ของขวัญ วันนี้เราอยู่นานไม่ได้ เดี๋ยวเราคงต้องกลับแล้ว กลับค่ำเดี๋ยวพ่อจะว่าเราน่ะ” “ฮะ อะ อ๋อ ไม่เป็นไร ไว้คุยกันนะ” ฉันยิ้มให้ แอบอึ้งๆ นิดหน่อย นึกว่าน้องอยู่หอซะอีก ที่แท้อยู่บ้านเหรอเนี่ย แถมยังแอบดูกลัวพ่อด้วย โตขนาดนี้แล้ว... แต่ก็เอาเถอะ ก็ดูเป็นเด็กดีอยู่ในกรอบ ในศีลธรรมดีออก ฉันลองมีแฟนเป็นเด็กน่ารักๆ เนิร์ดๆ บ้างไม่เห็นเป็นไร “ปกติเธอนอนดึกมั้ยเหรอ” “หืม ก็แล้วแต่วันนะ ทำไมเหรอ” ฉันกะพริบตาปริบๆ ให้น้อง คนตัวสูงยิ้มเล็กๆ ก่อนจะเกาแก้มด้วยท่าทีเอียงอาย “ก็วันนี้เราคงทักได้ดึกๆ ถ้ายังไม่นอนเราจะได้ทักไปหา” “หืม ทำไมทักได้ดึกๆ ล่ะ คุยกับผู้หญิงเหรอ?” ฉันแอบจับผิดเขานิดๆ ด้วยหน้าตาที่น่ารักเข้าขั้น มันก็เป็นไปได้ยากที่น้องจะไม่มีใครคุยๆ อยู่ด้วยเลย ดีไม่ดีอาจจะแอบมีกิ๊กมีกั๊กหรือมีแฟนแล้วก็ได้ น้องหัวเราะนิดหน่อยแล้วปัดมือไปมาเพื่อปฏิเสธ ไอ้ที่คุยกับผู้หญิงหรือเปล่า เอาเข้าจริง ฉันก็ไม่ได้สนใจมากนักหรอก เพราะถ้าเขาแค่คุยแต่ไม่ได้มีสถานะ ฉันก็ยังถือว่าตัวเองมีโอกาส แต่ไอ้ที่เขาบอกน่ะมันทำให้ฉันรู้สึกแปลกๆ “อ๋อ ไม่ได้คุยกับใครหรอก แต่วันนี้อาจารย์สั่งการบ้านเยอะ เราเลยกะจะนอนดึกไง”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม