และวันถัดมามิลานก็ต้องแปลกใจเมื่อมีดอกไม้ช่อโตส่งมาให้เธอที่ห้องทำงาน เธอเปิดการ์ดออกดูและพบว่าเป็นอีธานที่ส่งมาให้
“’ยินดีที่ได้รู้จัก’ อะไรกัน...อีธาน...คนเมื่อวานนี่”
พออ่านชื่อ มิลานก็รู้ได้ในทันทีว่าเป็นใคร หน้าสวยค่อยๆแดงระเรื่อขึ้น เมื่อไม่คิดว่าเขาจะรุกเธอเร็วขนาดนี้ และพอพลิกอ่านด้านหลังเธอก็เจอข้อความขอนัดทานข้าวกับเธออีก
“ไปง่ายๆก็ไม่ใช่มิลานสิ”
พออ่านจบ มิลานก็ก้มลงไปหอมดอกไม้ช่อใหญ่ด้วยความรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก ก่อนเธอจะนั่งลงที่โต๊ะทำงานด้วยรอยยิ้ม โดยไม่รู้เลยว่าคนที่ส่งมาให้เธอกำลังยิ้มเหยียดเมื่อเขาแน่ใจว่าเธอต้องชอบมันอย่างแน่นอน
“เจ้านายครับ ซาร่ารออยู่ที่ห้องแล้วนะครับ”
“อืม นายไปพักได้ เดี๋ยวบ่ายๆฉันจะไปหาบิชอป เตรียมเอกสารเอาไว้ด้วย”
“ครับ”
พอรับคำสั่งเสร็จ ทิมก็เดินกลับออกจากห้องพักของเจ้านายไป ส่วนอีธาน ตอนนี้เขากำลังสนุกกับเกมที่เขาเป็นคนเริ่ม เมื่อเข้าหาโลแกนคงยาก เขาเลยคิดจะเข้าหาน้องสาวของโลแกนและทำให้โลแกนเจ็บปวดปางตายไม่ต่างจากที่เขาเคยรู้สึกมาก่อน
จากนั้นอีธานก็เดินไปที่ห้องข้างๆ ซึ่งเป็นห้องที่เขาจองเอาไว้มีความสุขกับสาวๆที่เขาจ้างมาไว้ช่วยปลดปล่อยความกำหนัดของตัวเอง
“คุณรู้แล้วใช่ไหมว่าต้องทำยังไงบ้าง?”
“ค่ะ คุณทิมบอกซาร่าเอาไว้หมดแล้ว”
“อืม ดี”
อีธานที่เดินเข้าไปในห้องแล้วเจอกับสาวสวยหุ่นนางแบบที่นั่งรอเขาอยู่ก่อนแล้วถามขึ้น ก่อนเธอจะยิ้มกว้างแล้วพยักหน้าตอบรับออกมา เมื่อรู้ว่าแขกของเธอวันนี้ค่อนข้างเรื่องมาก แต่กลับกระเป๋าหนักจนเธอปฏิเสธไม่ลงเลยทีเดียว
จากนั้นเขาก็เดินไปนั่งลงที่โซฟาตัวใหญ่ โดยมีร่างบางเยื้องย่างสะบัดชุดคลุมที่ใส่อยู่ออกเดินเข้ามาหาเขาอย่างยั่วยวน อีธานมองภาพตรงหน้าด้วยสายตากระสันอย่างเห็นได้ชัดเมื่อหลายวันแล้วที่เขาไม่ได้ปลดปล่อยเพราะยุ่งกับงาน
“ถ้าถูกใจซาร่า เรียกใช้ได้ตลอดเลยนะคะ รับรอง ซาร่าบริการถึงใจแน่นอนค่ะ”
ซาร่าบอกขึ้น พร้อมกับนั่งคุกเข่าลงตรงหน้าเขา มือเล็กค่อยๆปลดเข็มขัดของอีธานออกก่อนจะรูดซิบกางเกงราคาแสนแพงของเขาลง เธอลูบไล้มือไปบนความใหญ่โตที่ค่อยๆขยายขึ้นเมื่อถูกเธอสัมผัสแล้วงัดเอามันออกมาจากกางเกงชั้นในสีดำสนิทของเขา
“อ่า...มันช่าง...ดูน่า...กลัวจังเลยค่ะ...”
ถึงปากจะบอกว่าน่ากลัว แต่การกระทำกลับตรงกันข้าม เมื่อสายตาที่มองจ้องเหมือนต้องการกลืนกินมันเข้าไปโดยมีมือเรียวกอบกำมันเอาไว้แน่น
“แน่ใจเหรอว่าน่ากลัว หึหึ”
อีธานพูดขึ้น เมื่อท่าทางของเธอดูกระสันอยากมากกว่ากลัว ก่อนที่ซาร่าจะเริ่มเล้าโลมเขาอย่างที่เขาชอบ ลิ้นเรียวตวัดเลียไปตามลำเอ็นใหญ่อย่างเชื่องช้าแต่กลับทำให้อีธานต้องหลับตาแน่น เพราะความเสียวสยิวกำลังเล่นงานเขา
“อ๊า!...”
เสียงครางของอีธานดังขึ้นอย่างพึงพอใจ ร่างใหญ่เอนตัวนั่งพิงพนักโซฟาด้วยท่าทางสบายอารมณ์โดยมีซาร่านั่งอยู่ที่พื้นพรมและกำลังเลียเล่นไปตามลำเอ็นของเขา จากนั้นเธอค่อยๆครอบครองเขาด้วยปากร้อน ทำเอาอีธานถึงกับกัดกรามแน่น เมื่อคู่นอนของเขาวันนี้ดูท่าจะช่ำชองในการใช้ปากไม่ใช่เล่น
บ๊วบ บ๊วบ บ๊วบ
“อื้อ อื้อ อื้อ อื้อ...”
เสียงครางหวานดังขึ้นไม่หยุด เมื่อแท่งรักของอีธานช่างน่ากลืนกิน ลำเอ็นสีหวานสวยแต่กลับดูแข็งกร้าวจนน่าหลงใหล
ซาร่าใช้ทุกวิธีที่เธอได้เรียนรู้มาเพื่ออยากให้อีธานประทับใจ เมื่อเขาช่างถูกตาถูกใจเธอเหลือเกิน ก่อนอีธานจะเริ่มทนไม่ไหวปรือตาขึ้นมอง
“พอได้แล้ว...”
เสียงแหบพร่าบอกขึ้น เมื่อเขาเกือบที่จะปลดปล่อยแต่คงไม่ใช่ตอนนี้
“อร่อยจังเลยค่ะ หวานเหมือนไวน์แดงที่มีรถเฝื่อน...แต่ไม่มาก...”
อีธานมองซาร่าอย่างชอบใจ เพราะทั้งวันเขาดื่มแค่ไวน์แดงรสเลิศเพียงเท่านั้นจริงๆ
“หึหึ ต้องให้รางวัลแล้วล่ะ”
อีธานบอกขึ้น เมื่อเขาไม่เคยเจอใครที่แค่ได้ชิมแท่งรักก็เดาได้แล้วว่าเขากินอะไรมาแบบนี้มาก่อน ก่อนซาร่าจะหยิบอุปกรณ์ป้องกันในกล่องที่ทิมเอามาวางไว้ให้ขึ้นมา แล้วค่อยๆสวมเข้าไปในแท่งรักอันใหญ่โตของอีธาน
“ใหญ่จังเลยค่ะ”
คำชมที่ผู้ชายทุกคนชอบดังขึ้น ก่อนซาร่าจะลงไปนั่งคร่อมร่างใหญ่ที่นั่งเอนกายอยู่ เธอหย่อนกลางกายสาวลงไปที่แก่นกายชายที่ชูชันพรั่งพร้อมอย่างเชื่องช้า
สวบ!...
“ฮึ่ม!!!”
“อ๊ะ! อ๊าา”
เสียงครางดังขึ้น เมื่อสองร่างเชื่อมประสานกันเรียบร้อยแล้ว ซาร่าปรือตาขึ้นมองริมฝีปากสีแดงของอีธานที่เม้มแน่น ก่อนเธอจะจูบลงไปอย่างทนไม่ไหวเมื่อตอนนี้ความอัดแน่นเสียวกระสันกำลังเล่นงานเธออย่างหนัก
“ขยับ”
เสียงกระสันสั่งขึ้นพร้อมกับโอบกำสะโพกผายของเธอเอาไว้แน่น จากนั้นซาร่าก็เริ่มโยกกายขยับเสียดสี ก่อนจะเร่งความเร็วเมื่อเธอรู้ว่าอีธานต้องการเซ็กที่ดุดันและเร่าร้อน ความต้องการอันมากมายที่เขามีน้อยคนนักที่จะทนมันได้ พวกเธอมักยอมแพ้ไปก่อนที่เขาจะไปสู่จุดสูงสุดของความสุขตลอด
“อ๊าาา”
ส่วนซาร่า ศึกเล็กศึกใหญ่เธอก็รับมาหมดแล้ว สองคนสามคนหรือเป็นหมู่เธอก็ยังรับไหว เพราะฉะนั้นเธอแน่ใจมากว่าอีธานต้องติดใจรสสวาทของเธออย่างแน่นอน
จากนั้นบทรักอันหนักหน่วงเร่าร้อนระหว่างทั้งสองก็เกิดขึ้น อีธานแทบสำลักความกระสันตายเมื่อซาร่าช่างมีประสบการณ์สวาทอันมากมายเหลือเกิน เธอรองรับทุกท่วงท่าทุกการกระแทกกระทั้นที่เขากระหน่ำใส่อย่างไม่คิดปฏิเสธ จนสุดท้ายเป็นเขาเองที่หมดแรงลง ซึ่งก็กินเวลาไปกว่า 5 ชั่วโมง
“อะไรกันน้องสาวพี่ มีเรื่องดีๆเกิดขึ้นเหรอถึงได้นั่งยิ้มแบบนั้น หืม?”
“พี่โลแกน พึ่งกลับเหรอคะ พอดี...วันถ่ายโฆษณาของบริษัทเสร็จแล้วน่ะค่ะเลยอารมณ์ดี”
มิลานเลี่ยงที่จะบอกเรื่องดอกไม้ช่อใหญ่ที่เธอได้รับในวันนี้ เพราะไม่อยากให้พี่ชายคิดมาก เมื่อโลแกนดูท่าจะไม่ค่อยชอบอีธานด้วย
“เหรอ ไม่ใช่เพราะดอกไม้ช่อใหญ่พี่ก็เบาใจ”
“พี่โลแกนรู้?”
“หึหึ มีอะไรบ้างล่ะที่พี่ไม่รู้ นายนั่นน่ะเป็นมาเฟียในคราบนักธุรกิจ พี่ไม่อยากให้เราไปยุ่งเกี่ยวด้วย งั้นพี่ขอตัวก่อนนะ ต้องไปเจอเจสัน”
พูดจบ โลแกนก็เดินออกจากบ้านไป ปล่อยให้มิลานที่นั่งอยู่ที่เดิมแต่กลับไม่มีรอยยิ้มอันมีความสุขนั้นอีก เมื่อพี่ชายดันรู้ไปซะหมดทุกเรื่องแบบนั้น
ส่วนโลแกน พอเดินขึ้นรถใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นจริงจังทันที
“ข้อมูลมีแค่นั้นเองเหรอ?”
เขาถามแจ๊คกี้ ลูกน้องคนสนิทของเขาเมื่อขึ้นมาบนรถแล้ว
“ครับ ข้อมูลส่วนตัวของหมอนั่นเหมือนจะถูกปิดเป็นความลับ จะมีก็แค่จากข้อมูลข่าวเก่าๆของหมอนั่นเท่านั้นเองครับ”
“อืม...”
พอรู้แบบนั้น โลแกนก็ได้แต่นั่งเงียบอย่างใช้ความคิด เพราะเขารู้มาว่าตอนนี้อีธานกว้านซื้อหุ้นของบริษัทคู่แข่งของเขาไปได้เยอะแล้ว เมื่ออีธานไม่ได้คิดมาเปิดบริษัทใหม่แต่กลับคิดจะเข้ามาเป็นคู่แข่งของเขาอย่างเป็นทางการนี่สิ
“ให้คนคอยตามมิลานอย่าให้คลาดสายตา หมอนั่นพยายามเข้าหาน้องสาวฉัน ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น ฉันเอาตายแน่”
“ครับ”
แจ๊คกี้ตอบรับก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรไปสั่งงานลูกน้องคนอื่นๆตามที่โลแกนสั่ง ส่วนโลแกน เขารู้สึกหนักใจกับการปรากฏตัวของอีธานเป็นอย่างมาก