สายฟ้าไม่กลับบ้านมาเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์แล้ว ปอไหมไม่แน่ใจว่าเขาอยู่ในประเทศหรือไปประชุมต่างประเทศ แม้ว่าเธอจะไม่ใช่คนชอบยุ่งเรื่องของเขา แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่า เขาอยู่ได้อย่างไรโดยไม่มีเธอมาหลายคืนแล้ว เว้นแต่จะมีอะไรเกิดขึ้นกับเขา ซึ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะไม่เห็นมีข่าวอะไรออกมาเลย
หลังจากแต่งงานกับสายฟ้าแบบลับ ๆ มาหกเดือน หญิงสาวก็ไม่คุ้นเคยกับการอยู่ห่างจากเขาเป็นเวลานาน จิตใจเธอสับสนขณะเดินตามกานดาเข้าไปในร้านอาหาร วันนี้กานดาพาเธอมาฉลองการเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้จัดการของหล่อน และเพราะมัวแต่คิดอยู่ในภวังค์ ปอไหมจึงไม่ทันสังเกตว่าหล่อนหยุดเดินกะทันหัน
“สวัสดีค่ะท่านประธานสายฟ้า”
คำพูดของกานดาทำให้ปอไหมตื่นจากภวังค์ เธอหันไปมองตามกานดา ก่อนจะสบตากับผู้ชายที่ทำให้เธอกังวลในตอนนี้
“สวัสดีค่ะ... คุณสายฟ้า...” ปอไหมพูดติดอ่าง
ชายหนุ่มเพียงพยักหน้าให้ด้วยสีหน้าอ่านไม่ออก เธอสองคนจึงทักทายคนอื่น ๆ ที่อยู่รอบโต๊ะครอบครัวของเขาด้วย รวมทั้งผู้หญิงหน้าตาสวยที่นั่งอยู่ข้างเขา
หล่อนคือทับทิมนั่นเอง…
“ใครเหรอคะที่รัก” เสียงไพเราะของทับทิมถามขึ้น
“พนักงานของบริษัทโฆษณาน่ะ” สายฟ้าตอบอย่างไม่สนใจ ส่วนปอไหมยังคงยิ้มอยู่แม้ในใจจะปวดร้าว
จริงสิ แท้จริงแล้วเธอเป็นเพียงพนักงานคนหนึ่งที่ทำงานร่วมกับบริษัทเขาเท่านั้น ตอนนี้ทับทิมกลับมาแล้ว คงเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาไม่กลับบ้านมาหลายคืน โอเค เธอเข้าใจทุกอย่างชัดเจนแล้ว…
ทันใดนั้นเองทุกอย่างก็กลายเป็นภาพเบลอ จู่ ๆ ศีรษะของปอไหมก็ชาและสั่นเทาอย่างเจ็บปวด
“เธอโอเคหรือเปล่าไหม” กานดาถามด้วยความกังวล โชคดีที่เธอนั่งอยู่ห่างจากสายตาของสายฟ้าพอดี
“อืม… ไม่เป็นไร” ปอไหมยิ้มขณะตอบ น้ำเสียงของเธอสั่นเทาเล็กน้อย
“หน้าเธอซีดมากเลยนะ”
“ฉันแค่หิวน่ะ...” ปอไหมฝืนยิ้มกลบเกลื่อน
กานดาจ้องเพื่อนสาวอยู่พักหนึ่งอย่างไม่มั่นใจ ก่อนพูดเสียงเบาหลังจากสั่งอาหารแล้ว “ไม่ยักรู้ว่าคุณทับทิมกลับมาแล้ว… เห็นเธอทิ้งแฟนหนุ่มสุดฮ็อตอย่างท่านประธานไปแบบนั้น ฉันก็คิดว่าเธอจะไม่กลับมาแล้วเสียอีก”
ปอไหมไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงได้รู้สึกเจ็บปวดแบบนี้ นัยน์ตาสวยแอบชำเลืองมองไปยังอีกโต๊ะ รู้สึกเสียใจเมื่อมองเห็นความอ่อนหวานของทับทิมที่มีต่อสายฟ้า ทำเอารู้สึกขมคอขึ้นมาทันที ท้องไส้ปั่นป่วนอยากจะอาเจียน ลำคอของเธอขมปร่า เจ็บปวดราวกับตกนรก สิ่งที่ทำให้เธอเจ็บปวดอย่างสาหัส คือเมื่อสบตากับเขา กลับเห็นเพียงความเย็นชา… ไม่มีร่องรอยของความอ่อนโยนและความโหยหาที่เคยเห็นทุกครั้งยามอยู่ด้วยกันเลย เธอรู้สึกเหมือนเขาเป็นคนละคนกับคนที่เธอรู้จัก มันทำให้เธอรู้สึกไม่สำคัญ... ราวกับเป็นคนแปลกหน้า
ปอไหมรู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้ แต่ก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองถึงได้อ่อนแอและดราม่าขนาดนี้ นี่เธอคงคิดว่าตัวเองกลายเป็นคนสำคัญในชีวิตของสายฟ้าไปแล้วสินะ… ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าเขาแค่ชอบร่างกายเธอแค่นั้น
หญิงสาวพยายามมุ่งความสนใจไปที่กานดา ทว่ากลับหยุดคิดถึงเวลาที่ใช้ร่วมกับสายฟ้าไม่ได้ มันหวนกลับมาราวกับมีดแหลมคมที่ทิ่มแทงเจ็บปวดจนกลั้นน้ำตาเอาไว้แทบไม่ได้ เธอพยายามปกปิดมันไว้ให้แนบเนียนที่สุด และพยายามสนุกกับการเลื่อนตำแหน่งของเพื่อนสาว
“แน่ใจนะว่าเธอโอเคน่ะ” กานดาถามอีกครั้งเมื่อเห็นดวงตาแดงก่ำของปอไหม
“ฉันโอเค แค่ปวดหัวนิดหน่อยน่ะ เดี๋ยวก็หาย” ปอไหมหัวเราะเบา ๆ และแม้ว่ากานดาจะไม่ค่อยมั่นใจนัก แต่ก็ไม่คาดคั้นไปมากกว่านี้ ก่อนหน้านี้ที่อยู่บริษัท ปอไหมดูสบายดีแท้ ๆ แต่พอมาเจอซีอีโอหนุ่มอยู่กับแฟนสาวเข้า จู่ ๆ เธอก็ดูเปลี่ยนไป ไม่รู้เป็นเพราะอะไรเหมือนกัน
ไม่นานเมื่ออาหารมาเสิร์ฟ สองสาวก็รับประทานอาหารกันอย่างเงียบ ๆ กานดามองปอไหมซึ่งเอาแต่เขี่ยอาหารในจานไปมา ไม่ยอมกินเสียที จึงพูดขึ้น “ไหนบอกว่าหิวไง”
“อ๋อ เออ ใช่ ฉันหิว!...” ปอไหมสะดุ้งตื่นจากภวังค์แล้วรีบกินด้วยความกระตือรือร้นอย่างไร้รสชาติ ทุกอย่างจืดชืดไปหมด แม้แต่ไวน์ที่เธอดื่มก็ยังทำให้เจ็บคอทุกครั้งที่กลืนลงคอ ทว่าไม่นานเธอก็ฝืนทานจนหมด
กานดายังคงเหลือบมองปอไหมเป็นระยะ แต่เลือกที่จะเก็บความสงสัยไว้ ระหว่างเดินผ่านโต๊ะซีอีโอหนุ่มในตอนที่กำลังจะเดินออกจากร้าน ทั้งสองสาวทำเพียงแค่ก้มศีรษะ ปอไหมมองสายฟ้าเหมือนไม่รู้จักกัน เป็นเพียงหนึ่งในคนไม่สำคัญเท่านั้น ในตอนนี้แฟนสาวของเขากลับมาแล้ว ถือว่าเธอทำตามที่เขาต้องการสำเร็จลุล่วง การแต่งงานของเธอกับเขาเดิมทีก็มีจุดประสงค์แบบนี้นี่นา ดังนั้นเธอควรจะยินดีกับเขาสิ
“เธอมีอะไรจะบอกฉันไหม” กานดาพูดขึ้นมาทำลายความเงียบ หลังจากที่เดินมาถึงรถ
“ไว้ฉันจะบอกในตอนที่พร้อมนะ” ปอไหมยิ้ม ขอบคุณที่กานดาห่วงใยกัน “ขอบคุณนะดา”
"ไว้เธอพร้อมเมื่อไหร่ ฉันก็พร้อมจะรับฟังเสมอนะ" กานดาเอ่ยเสียงหนักแน่น ปอไหมพยักหน้า จากนั้นทั้งสองก็แยกย้ายกัน
ปอไหมตรงไปยังทะเลสาบใกล้กับอะพาร์ตเมนต์ที่เธอเคยอยู่ นึกอยากทำจิตใจให้แจ่มใสด้วยการเดินเล่น ทว่าน้ำตากลับไหลอาบแก้มโดยไม่รู้ตัว เธอจึงรีบเช็ดมันแล้วเดินไปที่ม้านั่ง รู้สึกละอายใจที่ร้องไห้แบบนี้ ความคิดของเธอล่องลอย รู้สึกสับสน... หลงทาง นี่เธอร้องไห้ทำไมกันนะ… เธอมีสิทธิ์อะไรถึงได้มาร้องไห้แบบนี้ เพียงเพราะว่าสายฟ้าอยู่กับแฟนสาวอย่างนั้นเหรอ… ความเจ็บปวดเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงที่เธอเซ็นสัญญาหรือเปล่า… เธอคาดหวังมากเกินไปใช่ไหมว่าจะเป็นส่วนสำคัญในชีวิตของเขา เพียงเพราะเขาโหยหาร่างกายของเธอน่ะ…
ทับทิม โชติการมีรูปร่างสวยน่าทึ่งไม่แพ้กัน อย่างไรเธอก็ไม่สามารถโดดเด่นไปกว่านักบัลเลต์ได้อยู่แล้ว แล้วทำไมน้ำตาเธอถึงไหลล่ะ… ทั้งที่เธอรู้จักที่ของตัวเองตั้งแต่แรกอยู่แล้ว และข้อตกลงที่ทำไว้ก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลงด้วย หรือบางทีเธออาจจะเปลี่ยนเป็นคนโลภไปแล้วกันนะ… มันเป็นเพราะเธอต้องการทุกอย่างจากสายฟ้ามากขึ้นหรือเปล่า…
พอรับรู้ทุกอย่างแล้ว ในหัวของปอไหมก็เกิดความขัดแย้งมากขึ้น ก่อเป็นความสิ้นหวังเต็มหัวใจ ไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงยอมให้ตัวเองตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ได้ มือบางจับหน้าอกแล้วร้องไห้ออกมาทั้งที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมถึงร้องไห้ รู้เพียงว่าหัวใจรู้สึกหนักอึ้งและเจ็บปวดมาก
“ฉันไม่ควรรู้สึกแบบนี้เลย…” เธอพึมพำอย่างเจ็บปวดเมื่อนึกภาพของสายฟ้ากับทับทิมขึ้นมา วินาทีนี้รู้สึกเสียใจยิ่งกว่าตอนที่บอลทิ้งไปเสยอีก “ฉันไม่ได้สำคัญกับเขาขนาดนั้นสักหน่อย”
สายฟ้าไม่มีข้อผูกมัดอะไรต่อเธอเลย การที่เธออยู่กับเขามันเป็นเพราะเงินค่าตอบแทนล้วน ๆ แล้วการแต่งงานครั้งนี้ก็เพื่อให้ทับทิมกลับมา ซึ่งตอนนี้หล่อนก็กลับมาแล้วจริง ๆ แล้วทำไมเธอถึงเจ็บปวดมากขนาดนี้ล่ะ… เธอปล่อยให้ตัวเองตกลงไปในเสน่ห์ของเขาได้อย่างไร เธอต้องการเขามากขึ้น ถึงขั้นยอมให้ตัวเองอยู่ในความฝัน โดยลืมจุดประสงค์ที่แท้จริง สนุกกับการเป็นภรรยาของเขามากเกินไปจนลืมความจริงที่ว่า ไม่ว่าเธอจะทำดีแค่ไหน เขาก็ไม่สามารถเป็นสามีของเธอจริง ๆ ได้ มันเป็นเพียงการแต่งงานจอมปลอมเท่านั้น และเขาก็มีเจ้าของอยู่แล้ว มันเป็นความผิดของเธอเองที่ปล่อยให้ตัวเองตกหลุมรักเขา เปิดใจให้เขา… โดยฝันว่าจะเป็นซินเดอเรลล่าอีกคนที่ได้อยู่กับเจ้าชายตลอดไป ทว่าทุกอย่างเป็นเพียงความฝัน วันหนึ่งเธอก็ต้องตื่นขึ้นมาเผชิญหน้ากับความเป็นจริงอยู่ดี
ปอไหมจ้องมองความมืดอันว่างเปล่า ปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยไม่รู้ตัว รู้สึกหมดแรง คิดว่าเป็นเพราะตัณหาครอบงำเธอแน่ ๆ จึงทำให้ไม่ได้เตรียมพร้อมสำหรับสิ่งที่อันตรายกว่าความปรารถนา
“ฉันรักเขา...” เธอกระซิบแผ่วเบา จากนั้นน้ำตาไหลลงอาบแก้มอีกครั้ง ตอนนี้เธอกล้าที่จะยอมรับกับตัวเองแล้วว่ารู้สึกอย่างไร เธอรวบรวมกำลังทั้งหมดเพื่อพูดออกมา “ฉันรักสายฟ้า... ฉันรักเขา... แต่เขามีเจ้าของ และมันก็ไม่ใช่ฉัน...”
เสียงสั่นเทาเปล่งออกมา ไหล่บางสั่นอย่างรุนแรง ความเจ็บปวดแผดเผาปกคลุมไปทั้งร่าง
“ทับทิมก็คงรักเขาเหมือนกันใช่ไหม” เธอถามอย่างขมขื่น “ฉันอิจฉาเธอมาก… แค่คิดว่าตอนนี้เธออยู่กับเขาก็อิจฉาแล้ว”
เพียงแค่คิดว่าสายฟ้าจะทำกับทับทิมแบบเดียวกันกับที่ทำกับเธอ หัวใจเธอก็เจ็บปวดมาก
“ฉันรู้ว่าฉันไม่มีสิทธิ์ แต่... แต่มันเจ็บมาก…” ปอไหมคร่ำครวญ นี่จะเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่เธอจะร้องไห้ให้กับสิ่งที่สูญเสียไป เธอร้องเพราะสูญเสียความรักที่เธอไม่เคยมี แต่เมื่อร้องจนพอแล้ว เธอก็ตัดสินใจกลับบ้าน เดินเข้ามาและได้รับการต้อนรับด้วยรอยยิ้มอบอุ่น