“ผมไม่หิว ไปนอนได้เลย” เขาสั่ง ก่อนเดินไปที่ประตู
“หวังว่านายท่านจะตระหนักถึงความผิดพลาดของตัวเองที่ปล่อยให้คุณปอไหมไปนะ” สาวใช้คนหนึ่งเอ่ยขึ้นมา ขณะมองอาหารบนโต๊ะที่ยังไม่ได้ถูกแตะต้อง “ป้าคิดว่านายท่านไม่รู้สึกอะไรจริง ๆ เหรอคะที่คุณปอไหมจากไป”
“เราไม่มีทางรู้ว่านายท่านคิดอะไรอยู่ แต่ฉันคิดถึงคุณปอไหม ฉันกลัวว่านายท่านจะพาคุณทับทิมมาอยู่ที่นี่อีกครั้ง” จินดาพึมพำเสียงเศร้า
"ฉันก็เหมือนกัน... ทำไมถึงเป็นคุณปอไหมไปตลอดไม่ได้กันนะ เธอสวยกว่าคุณทับทิมตั้งเยอะ คุณทับทิมน่ะเอาแต่ใจ แถมยังตีสองหน้าด้วย ฉันชอบคุณปอไหมมากกว่าอีก เธอใจดีมาก ไม่เคยจิกใช้พวกเราเลย” แม่บ้านคนเดิมบ่น
“เธอลาออกจากงานเมื่อสามวันก่อนครับบอส” แซมรายงานหลังจากที่สายฟ้าสั่งให้ไปตามปอไหมมาพบที่ห้องทำงาน ประโยคนั้นทำให้สายฟ้าจ้องมองคนสนิท พร้อมทั้งหยุดเซ็นเอกสารบนโต๊ะ “ไม่มีใครรู้ว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหน แม้แต่เพื่อนสนิทของเธอที่ชื่อกานดาครับบอส”
จังหวะนั้น สุวรรณีเลขาของสายฟ้าเดินเข้ามาขัดจังหวะ เธอยื่นซองจดหมายให้เขาแล้วยืนรออยู่หลังแซม
“มีคนส่งของมาให้ค่ะบอส”
“นี่อะไร… คูปองส่วนลดเหรอ” สายฟ้าถามอย่างหงุดหงิดขณะโยนซองจดหมายไปทางสุวรรณีอย่างไม่สนใจ ทำให้การ์ดที่อยู่ด้านในหลุดออกมาจากซองจดหมาย ทันใดนั้นเองมีบางอย่างดึงดูดความสนใจเขาไว้ เขาหยิบการ์ดใบหนึ่งขึ้นมาอย่างรวดเร็วแล้วอ่านดู ชื่อที่เขียนอยู่ในนั้นคุ้นมาก เมื่อพลิกการ์ดไปมาและอ่านอย่างระมัดระวังจึงตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา กดหมายเลขที่ระบุไว้บนการ์ด
(ร้านลิต้าบูติกให้เช่าชุดสวัสดีค่ะ ดิฉันปนัดดามีอะไรให้ช่วยไหมคะ)
“ผมได้รับคูปองส่วนลดเป็นชื่อคุณปอไหม” สายฟ้าพูดโดยไม่แนะนำตัวเอง แซมและสุวรรณีเองก็ฟังด้วยความสงสัยว่าสายฟ้าสนใจคูปองส่วนลดอะไรพวกนี้ไปทำไม
(ค่ะท่าน คุณเป็นสามีของเธอเหรอคะ คุณปอไหมเป็นลูกค้าคนสำคัญของเรามาหกเดือนแล้วค่ะ เธอเช่าชุดแทบจะทุกวัน ทางร้านของเราเลยอยากมอบคูปองสะสมคะแนนให้เธอค่ะ แต่เราติดต่อเธอไม่ได้ เลยส่งไปที่อยู่ที่ระบุไว้ในข้อมูลบัตรที่เธอใช้บริการแทนค่ะ) พนักงานร้านอธิบายอย่างเป็นกันเอง
“เช่าชุด?”
(ค่ะท่าน เธอเช่าเสื้อผ้าที่ร้านเราในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ทางร้านยังเตรียมสิทธิพิเศษสำหรับเธอไว้อีกด้วยนะคะ เธออนุญาตให้เราถ่ายรูปแล้วโพสต์ลงโซเชียลได้ ทำให้มีลูกค้าสนใจเสื้อผ้าเราเพิ่มขึ้น ทางร้านเลยให้ส่วนลดเธอห้าสิบเปอร์เซ็นต์ค่ะ)
“เธอเช่าแต่ไม่ได้ซื้องั้นเหรอ” สายฟ้าถาม พลางบดกรามเข้าหากันแน่น
(เธอบอกว่าไม่อยากซื้อเสื้อผ้าพวกนั้นค่ะ เธอจะใส่แค่ชั่วคราวเท่านั้น คุณปอไหมเป็นลูกค้าที่น่ารักมากเลยนะคะ คุณโชคดีที่ได้เธอเป็นภรรยาค่ะ ทั้งสวยแล้วยังรู้จักวางแผนเรื่องการใช้เงินด้วย) พนักงานสาวยังคงคุยอย่างร่าเริงโดยไม่รู้ว่ากำลังคุยกับใคร คำพูดของเธอทำให้สายฟ้าเจ็บแปลบขึ้นมา
“เสื้อผ้าที่เธอเคยเช่ายังอยู่หรือเปล่า”
(ยังว่างค่ะท่าน ชุดที่เธอใส่เป็นชุดที่สั่งตัดมา น้อยคนมากที่จะใส่ไซซ์เดียวกับเธอได้)
“เก็บทุกอย่างที่เธอเคยเช่าไว้ด้วย ผมจะแวะไปร้านคุณ” สายฟ้าสั่งก่อนจะตัดสาย คว้าเสื้อสูทขึ้นมาคล้องแขนแล้วพูดกับคนสนิท “ฉันจะออกไปข้างนอก ไม่ต้องโทรตามถ้าไม่มีเรื่องด่วน”
ตลอดการเดินทาง สายฟ้าเอาแต่ครุ่นคิด ตอนนี้เขารู้สึกเหมือนเจอทางตัน การวิ่งไล่ไปตามเส้นทางยาว ๆ นั้นไม่รู้เลยว่ามันจะพาเขาไปทางไหน ตอนนี้ทับทิมกลับมาแล้ว แต่เขากำลังทำอะไรบางอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อนเพื่อคนไม่สำคัญคนหนึ่ง… มันทำให้เขาตั้งคำถามว่า ปอไหมสำคัญกับเขาหรือเปล่า เขาถึงได้ลงทุนทำอะไรแบบนี้… กระทั่งรถจอดลงหน้าร้านเช่าเสื้อผ้าชื่อเดียวกับคูปองที่ส่งไปที่บริษัท จึงพบว่ามันตั้งอยู่ในย่านใจกลางเมืองที่มีคนพลุกพล่าน
สายฟ้าก้าวลงจากรถ ทันทีที่เขาเดินเข้าไปในร้าน พนักงานทุกคนก็ค้อมศีรษะทักทาย ด้วยไม่มีใครไม่รู้จักเขา นักธุรกิจหนุ่มเจ้าของห้างสรรพสินค้า โรงแรม กาสิโน คอนโดมิเนียม ไปจนถึงบริษัทสายการบินที่มีชื่อเสียงระดับโลก
“สวัสดีครับคุณสายฟ้า”
“พนักงานที่ชื่อปนัดดาอยู่ไหน” แทนที่จะตอบรับคำทักทาย เขากลับถามหาปนัดดาทันที
“ดิฉันชื่อปนัดดาค่ะคุณสายฟ้า” หญิงสาวคนหนึ่งก้าวออกจากแถวมาอย่างงง ๆ สงสัยว่าท่านประธานคนนี้รู้จักเธอได้ยังไง
“คุณเตรียมเสื้อผ้าให้ภรรยาผมแล้วหรือยัง”
“คุณหมายถึงเสื้อผ้าของใครคะ” ปนัดดามองเขาอย่างประหม่า
“ปอไหม วรกิจธาดา เธอคือภรรยาผม”
ได้ยินดังนั้น ปนัดดาอ้าปากค้างอย่างไม่อยากเชื่อ
“คุณปอไหมเหรอ…” เธอพึมพำก่อนจะรีบวิ่งไปทางชุดที่เตรียมไว้ ในขณะที่ทุกคนยังคงอ้าปากค้าง “มาแล้วค่ะคุณสายฟ้า”
ปนัดดาลากราวที่มีล้อเลื่อนออกมา พร้อมกับเสื้อผ้าที่ปอไหมเคยเช่า เธอไม่เคยคาดหวังว่าจะได้พูดคุยกับซีอีโอระดับท็อปของประเทศ หนำซ้ำเขายังเป็นสามีของปอไหมลูกค้าประจำของเธอด้วย มีคำถามมากมายเต็มหัวเธอไปหมด แต่เธอไม่มีเวลาไตร่ตรองในตอนนี้
สายฟ้าตรวจสอบเสื้อผ้าเหล่านั้นและพยายามนึกย้อนว่าเคยเห็นปอไหมใส่หรือเปล่า ก่อนเหลือบมองไปทางปนัดดา
“ชุดจั๊มสูทสีดำล่ะ”
“เอ่อ… เดี๋ยวฉันไปหยิบมาให้ค่ะ” ปนัดดารีบวิ่งไปทันที ก่อนจะกลับมาพร้อมกับชุดที่เขาถามหา
“เดรสยาวแขนกุดสีขาวที่ยาวถึงข้อเท้า มีโบว์ด้านหลังด้วย” เขาเอ่ยขึ้นมาอีกครั้ง ทำให้ปนัดดาและพนักงานคนอื่น ๆ รีบวิ่งไปช่วยหาชุดนั้น “ชุดเดรสลูกไม้แขนยาวสีดำอีก”
ครู่ใหญ่ชายหนุ่มก็ดูพอใจเมื่อได้ชุดที่หายไปทั้งสามชุดกลับมา สายฟ้าพยายามคิดเพิ่มเติมว่ายังขาดชุดไหนไปอีกบ้าง ก่อนจะยกชุดสีดำชุดหนึ่งขึ้นมาให้บรรดาพนักงานดู
“ต่างหูที่เธอใส่คู่กับชุดนี้ล่ะ มันอยู่ที่ไหน"
“เดี๋ยวฉันจะไปเอามาให้คุณดูตอนนี้เลยค่ะ” ปนัดดารีบวิ่งไปที่ประตูอีกบานแล้วกลับมาพร้อมกับกล่องใส่เครื่องประดับ เธอส่งมันให้อรนุชหญิงวัยกลางคนเจ้าของร้าน
“มันเป็นหนึ่งในคอลเลกชันของร้านเราค่ะ ฉันให้เฉพาะลูกค้าคนสำคัญดูเท่านั้น แต่คุณปอไหมช่วยร้านเราไว้มาก ฉันเลยเอาให้เธอเช่าค่ะ” อรนุชว่า
“งั้นผมจะซื้อ และก็นี่ด้วย” สายฟ้าชี้ไปที่สร้อยคอจี้รูปหัวใจ จากนั้นชี้ไปยังสร้อยข้อมือสีโรสโกลด์ซึ่งมีเพชรล้อมรอบ และแม้ว่าจะดีใจมากที่ชายหนุ่มซื้อทุกอย่าง แต่อรนุชก็พยายามสงบอารมณ์ไว้
"ได้ค่ะ ต่างหูคู่นี้ราคาสองหมื่นหกพันดอลลาร์จีเอช สร้อยคอราคาสามแสนสี่หมื่นดอลลาร์จีเอช และสร้อยข้อมือราคาสองแสนห้าหมื่นดอลลาร์จีเอชค่ะคุณสายฟ้า” อรนุชแจ้งราคาขณะวางสิ่งของทั้งสามชิ้นอย่างระมัดระวังในกล่องเครื่องประดับแยกชุด
“โอเค แล้วก็ชุดพวกนั้นทั้งหมดด้วยนะ” เขาชี้ขณะยื่นบัตรสีดำให้เธอ
“ได้ค่ะ” อรนุชยิ้ม ไม่นานของทั้งหมดก็ถูกแพ็กอย่างดี ก่อนจะถูกขนขึ้นไปบนรถตู้
หลังจากออกมาจากร้าน แซมซึ่งในมือถือถุงกระดาษบางส่วนไว้เอ่ยถามเจ้านายขึ้นมาว่า “เราจะให้คนขับรถเอาของไปที่คฤหาสน์ใช่ไหมครับบอส”
“เอาไปที่เพนต์เฮาส์” สายฟ้าพึมพำก่อนจะขึ้นรถ กล่องทั้งหมดถูกจัดเรียงไว้ในรถเรียบร้อย เมื่อมองของเหล่านั้นเขาก็ถอนหายใจออกมา ตอนนี้ปอไหมหายไปอย่างไร้ร่องรอย แต่พอได้เห็นเสื้อผ้าที่เธอเคยใส่ ใจของเขาก็สงบลงมากขึ้น เขาหันไปหาแซม “นายไปเช็กที่สนามบินหรือยังแซม”
“ครับบอส ผมให้คนของเราไปที่สนามบินแล้ว พวกเขารายงานว่าไม่มีชื่อเธอในทุกสายการบินครับ”
“แล้วธนาคารล่ะ”
“เธอถอนเงินสดหลายครั้งช่วงหกเดือนที่ผ่านมาครับบอส ตอนนี้เงินยังติดตามไม่ได้ครับ”
"แล้วครอบครัวเธอล่ะ”
“เธอไม่ได้เป็นคนที่นี่ครับ ไม่มีบันทึกเกี่ยวกับที่อยู่ของเธอจากนายจ้าง มีแต่ที่อยู่อะพาร์ตเมนต์ที่เธออาศัยอยู่ล่าสุด”
“เธอคงไม่อยากให้ฉันหาเจอสินะ…” สายฟ้าพึมพำอย่างเคร่งเครียด พลางเอามือลูบหน้าตัวเอง ทั้งที่เขารู้ว่าระหว่างเขากับเธอจบลงแล้ว แต่ส่วนลึกในจิตใจเขากลับยังอยากพบเธอราวกับเป็นคนงี่เง่า ไม่รู้ว่าควรหยุดแค่นี้หรือตามหาเธอต่อไป ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคาดหวังอะไรจากสิ่งที่กำลังทำอยู่กันแน่… รู้เพียงว่าเขาอยากเจอเธอเพื่อคุยด้วย แม้จะไม่รู้ว่าต้องพูดอะไรก็ตาม
“บอสจะให้ผมตามหาเธอต่อไปไหมครับ” แซมถามอย่างจริงจัง พลันความเงียบเข้าครอบงำขณะที่สายฟ้ากำลังคิดหาทางออก และในที่สุดเขาก็ตอบออกมา
“ไม่ต้อง ปล่อยเธอไปก่อน”