บทที่1.1

1972 คำ
“อาหาร อาวุธ ไฟฉาย กล้อง มือถือ แบตฯ สำรอง...” ขณะปากขยับ มือก็จัดเรียงสิ่งจำเป็นลงบนเตียงทีละชิ้น ตรวจสอบให้แน่ใจว่าของที่ตระเตรียมไว้สำหรับการผจญภัยครั้งใหม่ครบถ้วนดีหรือยัง เพราะสถานที่ที่กำลังไปเยือนนั้นห่างไกลจากแหล่งอาศัยของผู้คน ทั้งยังขึ้นชื่อเรื่องความอันตราย ฉันจึงต้องเตรียมพร้อมไว้ให้ดีเผื่อกรณีฉุกเฉิน ในฐานะยูทูบเบอร์สาวสายสยองขวัญที่หากินกับยอดเอนเกจเมนต์ ที่ไหนว่าน่ากลัว ที่ไหนประวัติน่าสนใจ และที่ไหนแปลกใหม่พอให้ลิ้มลอง ฉันไม่เคยเกี่ยง เพราะยิ่งคอนเทนต์บ้าบิ่นมากเท่าไหร่ น่าขนลุกมากแค่ไหน ยอดวิวและคอมเมนต์มักพุ่งกระฉูดมากเท่านั้น เผลอ ๆ ได้รับโดเนทจากผู้ชมอีกเป็นกระบุง ด้วยยึดอาชีพนี้เป็นหลัก ฉันจึงทุ่มทุนกับมันมากชนิดว่าต่อให้สถานที่ดังกล่าวอยู่ไกลสุดขอบประเทศ ฉันก็พร้อมแพ็กกระเป๋า ตีตั๋วเดินทางในรุ่งเช้าวันถัดไป และใช่ ครั้งนี้เองก็ไม่ต่างกัน พักหลังมานี้กระแสเริ่มตก อัลกอริทึมลดการมองเห็น ยอดวิวจากหลักแสนเหลือเพียงหลักหมื่น เพื่อความอยู่รอดในอาชีพที่ตนเองรัก และเพื่อแข่งขันกับครีเอเตอร์สายสยองขวัญที่มีมากขึ้นในปัจจุบัน ต่อให้ครอบครัวจะต่อว่าที่ฉันเอาตัวเข้าไปเสี่ยงในสถานที่ลี้ลับอยู่เสมอ ฉันก็ไม่แคร์ คราวนี้ฉันมีจุดหมายปลายทางเป็นป่าลึกลับแห่งหนึ่ง...ซึ่งอยู่ห่างจากที่นี่เป็นระยะทางกว่าเจ็ดสิบกิโลเมตร เดือนที่ผ่านมา สถานที่แห่งนี้เป็นที่พูดถึงในวงกว้างของคนแวดวงเดียวกัน ฉันมีโอกาสได้ดูคลิปของครีเอเตอร์บางคน สภาพป่ามีความซับซ้อนไม่เหมือนป่าทั่วไปของประเทศไทย ที่น่าสนใจคือพบร่องรอยการมีอยู่ของคน พบรอยเท้าเปล่าเปลือย บ้างเป็นลวดลายของรองเท้าอันบ่งบอกว่าสถานที่แห่งนั้นอาจมีคนมาเยือนก่อนแล้ว หรือบางทีอาจเป็นแหล่งอาศัยของคนที่ตัดขาดจากโลกภายนอกเฉกเช่นบางชนเผ่าของแอมะซอนที่เราเคยศึกษา ในภายหลัง เมื่อป่าแห่งนั้นโด่งดังขึ้นมา สายคอนเทนต์ครีเอเตอร์จึงแห่กันไปลองดีเป็นว่าเล่น และด้วยจำนวนคนที่เข้าออกไม่ขาดสาย จึงมีการส่งต่อเรื่องราวมากมายที่ผสมผสานความจริงและบางส่วนอาจเมกขึ้นมาเพื่อความน่าสนใจ บางคนบอกเจอวิญญาณชายชุดดำวับ ๆ แวม ๆ หลังต้นไม้ บางคนได้ยินเสียงกรีดร้องแหบแห้งชวนสิ้นหวัง บางคนประจันหน้ากับสัตว์ป่าแปลกประหลาด บางคนหลงทาง เดินวนจุดเดิมนานหลายวัน กระทั่งหมดแรงจนต้องรอการช่วยเหลือจากชาวบ้านและหน่วยกู้ภัย หนักหน่อย บางคนสติหลุดลอย...พึมพำว่าเจอปราสาทเก่าคร่ำครึกลางป่า ครั้นให้ชาวบ้านซึ่งชำนาญเส้นทางไปยังจุดบอกกล่าวก็พบว่ามันว่างเปล่า หาได้มีสิ่งปลูกสร้างใดในป่าอันแสนกว้างใหญ่นั้น เพราะความหลากหลายจากปากของผู้ประสบพบเจอ เป็นเหตุให้เกิดสนใจจนอยากลิ้มลอง ฉันเผชิญหน้ากับความกลัวแทบทุกรูปแบบตลอดสี่ปีที่อยู่ในวงการ หนำซ้ำยังพานพบเรื่องราวที่ไม่สามารถอธิบายได้ตั้งแต่เด็ก ดังนั้น...เรื่องแค่นี้จึงไม่อาจทำให้ฉันสั่นกลัวจนวิ่งหนีหางจุกตูดอย่างแน่นอน ดีเสียอีก! หากเจอเรื่องน่าตื่นเต้นในป่าจริง ๆ ฉันจะได้มีฟุตเทจสุดเจ๋งไว้อัปลงช่องตัวเองไง จนถึงตอนนั้นฉันคงดังเป็นพลุแตกแน่ แค่คิดก็ฟินจนหุบยิ้มไม่อยู่แล้ว! “อีเสี้ยว มึงจะไปจริง ๆ เหรอ” ขณะละเมอเพ้อพก เสียงคุ้นหูของป้าพลันกระชากฉันออกจากผลลัพธิ์ที่ยังไม่เกิดขึ้น เมื่อหลุดออกจากภวังค์แสนหวาน จึงพบว่าป้าที่เลี้ยงดูกันเสมือนลูกในไส้คนหนึ่งกำลังทำสีหน้าเป็นกังวลอยู่ตรงกรอบประตูห้องที่ฉันเปิดอ้าไว้ตามความเคยชิน “เสี้ยวตัดสินใจแล้วป้า” ยืนกรานรอบที่สิบของวันพลางหยิบทุกสิ่งทุกอย่างที่เตรียมไว้ยัดใส่เป้ใบโปรด “กูไปอ่านมา เขาก็บอก ๆ กันแล้วนะว่าอันตรายมาก ถึงขนาด ขึ้นป้ายเตือน กูว่าไม่ธรรมดาแล้ว” ป้ากล่าวเสียงเครียด ไม่ใช่ครั้งแรกหรอกที่ท่านทักท้วงหรือหาเหตุผลมาฉุดรั้งเจตนารมณ์ของฉัน แต่เมื่อเทียบกับความทะเยอทะยาน ความเด็ดเดี่ยว และนิสัยกล้าได้กล้าเสียของฉันแล้ว คำพูดพวกนั้นไม่มีผลอะไรเลย “ยิ่งเตือนสิยิ่งดี” ฉันรูดซิปกระเป๋าเป้ หัวใจสั่นโครมครามด้วยความตื่นเต้น “ป้าก็รู้ว่าเสี้ยวชอบความท้าทาย” ตอนกล่าวประโยคนี้ น้ำเสียงฉาบแฝงด้วยความถือดีอย่างไม่ปกปิด “เฮ้อ กูเลี้ยงมึงมาอย่างดี แต่มึงดันชอบทำอะไรแผลง ๆ หาเรื่องตายทุกวัน กูปวดหัวมากนะ” ป้ายกมือตบหน้าผากตัวเอง ด้วยรู้ว่าพูดให้ตายยังไงหลานคนนี้ก็ยังยึดมั่นในความคิดอันบ้าบิ่นนี้อยู่วันยันค่ำ “ตายเตยอะไรก่อน คนแก่อย่าคิดมาก” ฉันดึงเป้ขึ้นมาสะพาย ก่อนตรงเข้าไปสวมกอดป้าที่ยังไม่คลายความกังวล จากนั้นก็หอมแก้มเหี่ยว ๆ ของท่านหนึ่งที “เสี้ยวไปละ ไม่ชินเส้นทาง คงต้องเผื่อเวลาหน่อย” “...” ป้าพรูลมหายใจอย่างจนตรอก ก่อนปล่อยให้ฉันก้าวเท้าออกจากบ้านอย่างมุ่งมั่นตั้งใจ ทว่ายังไม่พ้นรัศมีบ้านด้วยซ้ำ สองเท้าพลันชะงักค้าง เมื่อได้ยินเสียงแสบหูของนกแสกเหนือหลังคา ครั้นเหลียวกลับไปยังต้นตอ...ก็พบว่าเจ้าตัวการกระพือปีกบินจากไปไกลเสียแล้ว ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เพราะตั้งแต่เกิดมา ฉันมักดึงดูดสิ่งอัปมงคลเข้ามาในชีวิตเสมอ นกแสก งูเห่า แม้กระทั่งฝูงตะขาบนับร้อย ฉันพัวพันกับพวกมันจนเรียกได้ว่าชาชิน ดังนั้นแค่เสียงร้องแสบหูที่ใครต่างบอกว่าเป็นสัญญาณเตือนภัยร้าย ก็ไม่อาจทำให้ฉันอกสั่นขวัญแขวนจนต้องถอยทัพ ด้วยเหตุผลพวกนี้ ฉันถึงสามารถคลุกคลีกับความน่ากลัวแทบทุกรูปแบบได้มาทั้งชีวิต กระทั่งมันกลายเป็นความสนอกสนใจ อยากรู้อยากเห็น จวบจนพัฒนาเป็นความคลั่งไคล้ที่ฉันวิ่งเข้าใส่อย่างไม่ลังเลเช่นทุกวันนี้ “ขอให้หนูดังเปรี้ยงปร้างได้เท่ากับเสียงร้องของมันทีเถอะ เพี้ยง!” ... “เดี๋ยวอีกสามชั่วโมงลุงมารับนะหนู” “ได้ค่า ขับรถ...อ้าวลุง!” ฉันขานรับคุณลุงคนขับและกะว่าจะอวยพรแกตามมารยาทสักหน่อย ทว่าเปล่งเสียงออกมาไม่ทันจบประโยค คนที่ฉันอุตส่าห์จ้างให้ขับมาส่งด้วยเงินสดสองพันบาทกลับเหยียบคันเร่งพารถกระบะคันเก่าจากไปอย่างด่วนจี๋ ชนิดที่ว่ากะพริบตาไม่กี่ปริบ รถคันดังกล่าวก็ไกลห่างจากระยะสายตาจนเหลือขนาดเพียงหยิบมือเดียว “โห สภาพงี้ อีกสามชั่วโมงไม่ใช่ว่าชิ่งเลยเรอะ” รอยยิ้มพิมพ์ใจเฉกเช่นหญิงสาวผู้น่ารักเปลี่ยนมาบิดเบี้ยว ฉันใช้ลิ้นดันกระพุ้งแก้ม ยกนิ้วมือขึ้นมาหักดังกรอบแกรบอย่างคับแค้นใจ ในหัวจินตนาการไปแล้วล่วงหน้าว่าหากตาลุงคนนี้ไม่รักษาสัญญาตามที่ปากลั่นไว้ละก็ ฉันจะพลิกฟ้าออกตามล่า แล้วจับถอนหงอกให้หมดหัว อันที่จริงพอดูออกอยู่หรอกว่าลุงท่าทางหัวเสธนั่นไม่ได้อยากมาส่งฉันที่ป่าลึกลับแห่งนี้เท่าไหร่ เป็นฉันเองที่ดื้อด้านถึงขั้นดันทุรัง อยากมาที่นี่จนตัวสั่น ยอมควักแบงก์พันสองใบออกมาโชว์ขณะทำข้อตกลงกันเมื่อสองวันก่อน สุดท้ายเมื่อทนต่อความโลภไม่ไหว ลุงจึงยอมพามาส่งถึงที่ แล้วก็จากไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน ยังดีที่ขามาฉันจ่ายให้ลุงแกไปครึ่งหนึ่ง เราตกลงกันแล้วว่าจะจ่ายครบก็ต่อเมื่อมารับฉันกลับบ้านอย่างปลอดภัย ถ้าไม่อยากได้เงินที่เหลือก็ตามสบาย แต่ลุงจะได้รู้ซึ้งว่าหมาบ้า (ฉันเอง) ที่มันกัดไม่ปล่อยนั้นหน้าตาเป็นยังไง เตรียมผ้าซับเลือดไว้ดี ๆ แล้วกัน! ครั้นรถกระบะคันเก่าที่จะพังแหล่ไม่พังแหล่หายไปจากรัศมีสายตา ฉันก็ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู เมื่อพบว่าเป็นเวลาห้าโมงสี่สิบห้านาทีแล้ว ความหัวร้อนเมื่อครู่นี้พลันถูกแทนที่ด้วยความกระตือรือร้น จำเป็นต้องเก็บฟุตเทจก่อนพระอาทิตย์ตกดินไว้ เพราะเอกลักษณ์งานของฉันคือ ในหนึ่งคลิปที่เสร็จสมบูรณ์แล้วจะฉายช่วงเวลาก่อนแสงสว่างจะหายไปกับตอนที่รอบข้างมืดสนิท เพื่อให้ผู้เสพเห็นถึงความแตกต่างของบรรยากาศ ดังนั้นเมื่อตั้งใจว่าจะใช้วิธีเล่าเรื่องแบบนี้ ฉันจึงเผื่อเวลาไว้สำหรับมันเสมอ แต่รอบนี้ล่าช้ากว่าปกติเพราะลุงคนนั้นขับช้ายิ่งกว่าเต่าเป็นอัมพาต พาหลงตรงปากทางเข้าซอยอยู่สองสามรอบ ฉันยกกล้องตัวเล็กที่คล้องไว้ตรงลำคอขึ้นมาเปิด ตรวจเช็กและตั้งค่าให้เหมาะสม ก่อนเปลี่ยนมาถือตามองศาที่ตนเองถนัด เตรียมพร้อมสำหรับการผจญภัยครั้งใหม่ เอาล่ะจันทร์เสี้ยว แกต้องไม่มาเสียเที่ยว งานรอบนี้จะต้องดังเปรี้ยงปร้างเป็นพลุแตกแน่นอน... “สวัสดีค่ะ” เรียกขวัญกำลังใจให้ตัวเองเสร็จสรรพก็ขยับปากเป็นน้ำเสียงที่ถูกดัดให้เคร่งขรึมกว่าปกติครึ่งหนึ่ง พลางขยับกล้องไปรอบทิศอย่างแช่มช้าเพื่อให้เห็นภาพรวมของบรรยากาศช่วงใกล้ค่ำ “ตอนนี้เสี้ยวมาอยู่ที่ป่าอนธการแล้วค่ะ ไม่สิ จริง ๆ แล้วเสี้ยวยังอยู่ที่หน้ารั้วอยู่เลย แต่ถ่ายบรรยากาศด้านนอกให้เพื่อน ๆ ดูก่อนว่าขนาดยังไม่เข้าไปยังวังเวงเบอร์นี้” ไม่โกหกว่าแถวนี้วังเวงจริงตามที่ปากว่า แต่ความกลัวหาได้ก่อตัวในจิตใจง่ายดายถึงเพียงนั้น ฉันละสายตาจากกล้อง ให้มันบันทึกภาพเหล่านั้นของมันเอง ส่วนตัวเองก็กวาดมองทุกสิ่งผ่านตาเนื้อ ป่าลึกลับที่ฉันเพิ่งมาเยือนมีชื่อเรียกว่าอนธการ มีความหมายว่าดำมืด...แม้สองเท้ายังไม่ได้ก้าวย่างเข้าไปในเขตหวงห้ามซึ่งอยู่หลังรั้วหนามทางด้านซ้าย แต่ธรรมชาติที่อยู่นอกเขต...นับจากหนึ่งเซนติเมตรแรกหลังออกจากรั้ว รวมพื้นที่ที่ฉันยืน จวบจนอาณาบริเวณทั้งหมดตรงฝั่งขวาซึ่งมีลักษณะเป็นคูน้ำขุ่นมัวที่กำลังสะท้อนเงาของต้นไม้ในละแวกนั้น...กลับเหมือนได้รับอิทธิพลจากมันมามากกว่าครึ่ง จนพานรู้สึกเย็นยะเยือกขึ้นมาครามครัน ฉันเดาว่าส่วนหนึ่งอาจเพราะไม่มีคนอยู่อาศัย ไร้สิ่งปลูกสร้าง อีกทั้งเป็นช่วงใกล้มืดเต็มที ปัจจัยเหล่านี้หากนำมารวมกันจะขับให้ทุกอย่างดูน่าพิศวงก็ไม่แปลกนักหรอก และเมื่อลากสายตากลับมายังจุดหมายที่หัวใจเพรียกหา มองลึกทะลุรั้วหนามที่ขึงกั้นเป็นทางยาว ฉันพลันพบว่าลักษณะของธรรมชาติที่มองเห็นในระยะสายตาจะธรรมดาก็ไม่ใช่ จะแปลกใหม่ก็ไม่เชิง ภาพนี้ตรงตามคลิปที่เคยดูมาไม่มีผิด แต่อย่างว่า ของจริงมันอยู่ข้างใน ถ้าไม่เข้าไปจะรู้ไหมว่าประหลาดจริงหรือจกตา
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม