7

1472 คำ
ส่งหนูนาถึงบ้าน ตอนนั้นมีแม่บ้านคนหนึ่งจากบริษัทรับจ้างทำความสะอาดอยู่เป็นเพื่อนเจ้าสัวชาญ คนเป็นลูกชายเข้าไปสวมกอดพ่อ ภาพนี้... ทำให้หนูนาเกิดอีกความรู้สึกหนึ่งแวบเข้ามาเอง รอยยิ้มจึงผุดขึ้นมาโดยที่เธอเองไม่รู้ตัว พร้อมกับความรู้สึกเช่นนั้น เกิดอาการคิดถึงบ้านในบัดดล ชีวินขับรถกลับออกไปแล้ว มีสายเข้าจากคุณภูมิ หนูนาไม่อยากรับ เพราะรู้สึกเหมือนถูกหลอก แต่สุดท้าย เธอสามารถหักห้ามอารมณ์ กดรับสาย... “เป็นไงบ้างหนูนา” “ก็ดีค่ะ” “ผมค่อยโล่งใจหน่อย” เสียงของคุณภูมิแสดงอาการว่าโล่งจริง ๆ “ทำไมล่ะคะ พูดแบบนี้เหมือนมีอะไรบางอย่างปกปิดฉันอยู่ ใช่ไหมคะ” “เปล่า ๆ” ปลายสายปฏิเสธลิ้นรัว เพียงเท่านี้ก็เกินพอ ไม่จำเป็นต้องคาดเดาอะไรอีกแล้ว “เอาเป็นว่า ถ้าไม่อะไร ผมอยากให้คุณทำงานที่นั่นต่อไป มันจะเป็นผลดีกับตัวคุณ ผมเชื่อนะ” “ก็หวังอยู่นะคะ” ตัดสายติดต่อไม่ทันไร แว่วได้ยินเสียงเรียก...ดังมาจากข้างใน “หนูนา... ช่วยดูทีว่าฉันเรียบร้อยหรือยัง” เสียงของเจ้าสัวชาญ “ค่ะ มาแล้วค่ะ” ชายสูงวัย... แต่ เมื่อแรกเห็น ตรึงหนูนาให้อยู่กับที่ ด้วยบุคลิกภูมิฐาน เขาไม่ใช่คนแก่ เป็นแค่หนุ่มใหญ่คนหนึ่ง อันที่จริง บุคลิกช่างแตกต่างจากลูกชายอย่างสิ้นเชิง อาจเป็นเพราะวัยต่าง... “ดูดีแล้วค่ะ” ร่างสูง ในชุดลำลอง ค่อนข้างเป็นทางการหันมายิ้มให้กับหนูนา “ขอบใจเธอมากนะหนูนา” “ท่าทางเหมือนคุณจะออกข้างนอก” “ใช่ ฉันจะพาเธอไป” “หนูว่าอย่าดีกว่าค่ะ คุณ...” เกือบหลุดคำว่า ไม่สบาย ออกไปแล้ว แต่ยับยั้งเอาไว้ได้ทัน “ไปไหนคะ” เขาหันมาเผชิญหน้ากับเธอ ก่อนขยับเข้าใกล้ ใจของหนูนาเริ่มเต้นรัวผิดจังหวะอีกครั้ง เธอควรขยับออกห่าง แต่พลังงานของเธอกลับเหลือน้อยเต็มที เป็นแบบนี้ทุกครั้งสิน่า “หนูนา...” ไม่ใช่แค่พูด หนุ่มใหญ่เอื้อมมาคว้ามือของเธอดึงเข้าหาตัว “ฉันขอบใจเธอมากนะที่เธอยินดีกลับมาหาฉันอีกครั้ง...เรื่องเมื่อวาน ถ้าเป็นคนอื่นคงไม่คิดจะกลับมาเหยียบที่นี่อีกแล้ว” ค่อย ๆ เงยหน้าสบตากับเขา “คุณไม่คิดว่าหนูหิวเงินเหรอคะ เพราะคุณมีเงิน หนูถึงยอมกลับมา” “เปล่าเลย ฉันไม่เคยคิดอะไรแบบนั้น” “แต่หนูหิวเงินจริง ๆ นะคะ งานนี้มันไม่ได้เลวร้ายนักหรอก หนูอยากถอนทุนคืน” “เป็นฉันก็จะทำเหมือนกันนะหนูนา ลงทุนแล้วก็ควรได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่า เธอจะไม่เสียเปล่าหรอกนะ” “ทำไมวันนี้คุณพูดดีจังคะ ไม่ได้เป็นผู้ชายหื่นกระหายเหมือนเมื่อวาน” “ฉันแค่ลองใจเธอ” “โห...” “เธอเหมือนฟ้านะ เหมือนมาก ๆ” “แต่หนูเปล่า” “ใช่ เธอไม่ใช่ฟ้า แค่เหมือน” สบตากับเขาเต็มสองตา หัวใจหวั่นไหวอีกครา ยอมรับว่าความอบอุ่นอ่อนโยนของเขา เหมือนกับมีอำนาจตรึงเธอให้นิ่งงัน หรือยอมจำนน ตอนนี้... ยินยอมให้เขาโอบ โธ่...เธอจะดิ้นยังไงหลุดล่ะ เมื่อวานลองแล้ว เหนื่อยเปล่า ผู้ชายคนนี้เต็มไปด้วยพละกำลังเหลือเฟือ เรี่ยวแรงมหาศาล ไม่ได้เหมือนคนสูงอายุแม้แต่นิดเดียว พอ ๆ กับชีวินผู้เป็นลูกชายนั่นแหละ “คุณไม่ใช่คนป่วยแล้วนะคะ ท่าทาง...” “ใครบอกฉันป่วย” “หนูได้ข้อมูลมา” “ฝีมือไอ้ลูกชายของฉันละ จริง ๆ ฉันไม่ได้ป่วย แต่จะโทษเค้าก็ไม่ถูกเหมือนกัน ฉันแค่ต้องการวางมือทุกอย่าง ดึงเขากลับมาจากเมืองนอก... ยกทุกอย่างให้เค้าจัดการไป ฉัน...อยากใช้ชีวิตบั้นปลายอย่างสงบ” หนูนาถึงกับนิ่งงัน “ฟ้าล่ะคะ เรื่องของคุณฟ้า” “เป็นความจริง ฉันเล่าให้เธอฟังแล้วนี่ ฉันสูญเสียเธอให้กับคนสนิทของฉัน จนเดี๋ยวนี้ก็ยังลืมเธอไม่ได้” “มันคืออะไรคะ... ความรักเหรอ” “อาจจะใช่ ฉันไม่เคยให้ค่าความรักจนกระทั่งสูญเสียเธอไป” เจ้าสัวชาญโอบกระชับร่างของหนูนา มือใหญ่ของเขาเลื่อนไปวางเหนือสะโพกผายของเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ตัว สะดุ้งเฮือกอีกครั้ง เมื่อมือนั้นกดน้ำหนัก และรั้งร่างของเธอเข้าหา “หนูนา... ลองคบคนแก่ดูไหม ยังไม่ต้องให้คำตอบฉันตอนนี้ก็ได้” “อะ...อะไรนะคะ” หนูนาหลุดปากออกมาด้วยน้ำเสียงค่อนข้างตระหนก เพราะว่า...เธอเพิ่งได้ยินคำพูดแบบนี้มาก่อนหน้านี้ ระหว่างอยู่ในรถของชีวิน ลูกชายขอคบกับเธอก่อน “คบคนแก่เป็นแฟนไหม อันที่จริง ฉันไม่ได้แก่อะไรนักหนาหรอก ร่างกายยังฟิตเปรี๊ยะ ปล้ำเธอได้สบาย ๆ ถ้าฉันคิดจะทำ” “อย่าทำอีกเลยค่ะ” หนูนาว่า “หนูเหนื่อย ไม่อยากดิ้น” “ใช่ ฉันก็เหนื่อยนะ ต้องออกแรงกว่าปกติหลายเท่า... สรุปว่า โอ นะ ลองคบกับคนแก่ดู” “เอ้อ...” “ฉันจะถือว่าเธอรับปากนะ มันไม่มีอะไรเลวร้ายหรอกน่า ไปเถอะ...” “ไปไหนคะ” “ไปหาอะไรทาน ไปเที่ยวดูโน่นนี่” เป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมายของหนูนาเหมือนกัน ไม่ได้ทำงานอะไรเลย แค่นั่งมาในรถของเจ้าสัวชาญ เป็นรถอีกคันที่เขาโทร.หาใครบางคนนำมาส่งให้ หลังจากนั้นจึงขับรถออกจากบ้านโดยมีเธอนั่งเคียงข้าง ได้กลิ่นนิยาย...น้ำเน่าชัด ๆ ! เขาไม่ได้ป่วย และยังคงยืนยันด้วยน้ำเสียงอันหนักแน่นเช่นเดิมว่าเขายังปกติดี “ภูมิ มักจะคอยช่วยเหลือฉัน เห็นใครมีรูปร่างหน้าคล้าย ๆ กับฟ้า จะส่งตัวมาให้ฉันจัดการ...เอ๊ย ไม่ใช่ ส่งมาดูแลฉัน” เขาพูดกลั้วเสียงหัวเราะ “ไม่ตลกเลยนะคะ หนูไม่ขำด้วยเลย” “หนูนา... ฉันชอบเธอนะ เธอไม่เหมือนใคร มีความเป็นตัวของตัวเองดี” “ไม่อยู่... ไปไหน... ติดต่อไม่ได้” ชีวินคือคนที่กำลังงุ่นง่านหงุดหงิด ต้องบึ่งรถกลับมาบ้านเพื่อดูให้แน่ใจก็ได้รับคำตอบจากแม่บ้านว่า...เจ้าสัวชาญให้คนเอารถมาให้ ก่อนจะขับออกไปพร้อมกับ...หนูนา “ไปไหน ทำไมถึงไม่เปิดมือถือ” “ความจริงมือถือของท่านยังอยู่ในห้องนั่งเล่นเลยค่ะ ท่านไม่ได้เอาติดตัวไป” ชีวินไม่เคยหงุดหงิดแบบนี้มาก่อนเลย เรื่องพ่อของเขา...ไม่ได้ป่วย แค่เป็นกลอย่างหนึ่งเพื่อจะส่งทอดมรดกให้กับเขา ใช่ว่าเขาจะไม่รู้ แต่แกล้งทำโง่เหมือนกัน อย่างน้อยที่สุด... พ่อจะได้พักผ่อนบ้าง อีกอย่าง... เขาเหลวแหลกมานานเกินไปแล้ว ถึงเวลาต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองแล้ว เจ้าสัวชาญขับรถเร็วมาก... ความคล่องแคล่วบวกกับสมรรถภาพของรถ ทำให้หนูนาที่นั่งเกร็งตลอดเส้นทางเริ่มผ่อนคลายลง เขาแกล้งซักถาม แต่น่าจะรู้ข้อมูลของเธอมาทั้งหมดแล้วละจากคุณภูมิเจ้าของโรงเรียนการบริบาล เขากำลังพาเธอกลับบ้านที่ต่างจังหวัด! ที่บ้านนอก บ้านของหนูนา ตื่นเต้นกันใหญ่ เมื่อเห็นรถหรูแล่นเข้ามาภายในหมู่บ้านอย่างเงียบกริบ เพราะไม่เคยมีใครคาดคิดว่าหนูนาจะกลับบ้านในช่วงเวลานี้ ถึงแม้ว่าจะมาอย่างฉุกละหุก แต่มีของฝากเต็มท้ายรถ เป็นเงินของเจ้าสัวชาญ ท่าทางของเขาดูจะชื่นชอบวิถีชีวิตแบบนี้ เขาคุยกับพ่อและแม่ของหนูนา ราวกับสนิทสนมกันมานาน... จนกระทั่งได้เวลากลับ ออกจากบ้านค่ำแล้ว “เราคงไปต่อไม่ไหว ฉันเหนื่อย” เจ้าสัวชาญพูดขึ้น “หาโรงแรมนอนกันไหม” หนูนาแอบถอนใจ เธอจะไปทำอะไรได้ล่ะ ในเมื่อทุกอย่างอยู่ที่การตัดสินใจของเขาแต่เพียงผู้เดียว เขาพามาบ้านเกิด แม่แอบมากระซิบถามว่า เธอกับเขาเป็นอะไรกัน และท่าทางของแม่ดูจะพึงพอใจ ถ้าหากเธอจะตกล่องปล่องชิ้นกับผู้ชายอย่างเขา คนแก่น่ะ ไม่มีอะไรเสียหาย... ยิ่งรวย เอ็งจะยิ่งสบาย แม่ว่างั้น นี่ถ้าแม่รู้ว่า ก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้นบ้างกับชีวิตเธอ แม่จะพูดว่าไงนะ อาจจะหัวใจวายไปในพริบตา “ไม่ต้องกลัวหรอก ฉันจะไม่ทำอะไรเธอ...” คนสูงวัยพูดสีหน้าเรียบเฉย โดยเฉพาะในตอนท้ายของประโยค เขายังว่า “ถ้าไม่จำเป็น”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม