“ไปไหนมายัยหนู”
เสียงของมารดาทำให้เธอสะดุ้งสุดตัว ท่านกลับมาตั้งแต่ตอนไหนกัน ข้างกายมีเด็กหนุ่มคนหนึ่งทำให้เธอต้องเบือนหน้าหนี
“แม่ถามไม่ได้ยินหรือไง”
“แม่เอาเวลาที่จะสนใจหนูไปสนใจคนที่อยู่ข้างๆ แม่เถอะค่ะ” เธอพูดแล้วก็สะบัดหน้าเดินหนีขึ้นบ้าน
“กลับมานี่ก่อนยัยหนู เอ๊ะ! เรายังคุยกันไม่รู้เรื่องเลยนะ”
เสียงของมารดาไม่ได้ทำให้นุดีสนใจแม้แต่น้อย บิดามารดาเหมือนกันทุกอย่าง เสมอต้นเสมอปลายจริงๆ กับการวางอำนาจกับเธอ เพื่อให้ได้ดั่งใจของท่าน อีกไม่นานเธอก็จะได้ออกไปจากบ้านหลังนี้สักที
นุดีขังตัวเองอยู่แต่ในห้องนอน เธอเผลอหลับไป ก่อนที่จะรู้สึกว่าอะไรมาลูบไล้เรียวขาของเธอ
เด็กสาวผวาสุดตัวเมื่อเห็นว่าเป็นสามีเด็กของมารดา เขาเข้ามาในห้องเธอได้ยังไง
“แกเข้ามาในห้องได้ยังไง ออกไปนะ”
“เล่นตัวจริงนะ ไม่สนใจฉันเหรอ รับรองว่าลีลาเด็ด ไม่งั้นไม่ทำให้แม่เธอติดใจหรอก”
“ต่ำ! สารเลว”
“จุ๊ๆๆ พูดไม่เพราะเลย”
“อย่าเข้ามานะ ไม่งั้นฉันร้องให้คุณแม่มาช่วย”
“คงไม่มาช่วยหรอก ฉันบำรุงบำเรอจนตอนนี้หลับปุ๋ยไปแล้ว”
“แกเอาอะไรให้คุณแม่กิน ถึงหลับขนาดนั้น ถ้าฉันตะโกนเขาก็ต้องมาช่วย”
“โอ๊ย! เขาบอกเองว่าลูกสาวก็ร่านเหมือนเขานั่นแหละ ไม่งั้นไม่เปิดโอกาสให้ฉันทำแบบนี้หรอก”
“อย่าเข้ามานะ ไอ้สารเลว ไม่งั้นฉันจะฆ่าแกแน่”
“กลัวตายแหละ กลัวเหลือเกิน”
มันทำท่ายียวน นุดีเริ่มกลัวเพราะมันตะครุบเธอบนเตียง รัดร่างเธอเอาไว้
“ปล่อยนะ”
“ยอมดีๆ เถอะ เธอกับแม่ใครจะลีลาเด็ดมากกว่า”
นุดีพอจะรู้ว่าทำไมมันคิดกับเธอในแง่นี้ก็มารดาของเธอเป็นคนอย่างที่เห็นไง ไม่รักนวลสงวนตัว ประชดบิดาแบบนี้ มันก็เลยพูดจาดูถูก
เธออยากโทษว่าเป็นความผิดของทุกคนบนโลกนี้ แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครยอมรับว่าตัวเองผิดสักคนเดียว มีแต่คนทำแต่ไม่มีคนยอมรับ
ทุกคนมักมีเหตุผลเข้าข้างตัวเองเสมอว่าตัวเองถูก ฉันไม่ผิด และฉันไม่ได้เป็นคนผิด และโยนความผิดให้คนอื่น
จึงมีคนบอกว่าความผิดของตัวเองเท่าแมงเม่า ความผิดของคนอื่นใหญ่เท่าช้างสาร
“อย่าทำอะไรฉันเลยนะ ปล่อยฉันไปเถอะ นายเข้ามาทำมิดีมิร้ายในห้องนอนฉันแบบนี้ เดี๋ยวแม่ก็ตื่นมาเห็นหรอก”
นุดีพยายามเอาน้ำเย็นเข้าลูบ เธอตั้งจิตอธิษฐานให้เขามาช่วย ไม่งั้นเธอคงไม่รอดแน่ๆ เธอสู้แรงมันไม่ไหวจริงๆ
“เอาน่า ลองหน่อย รับรองว่าจะติดใจ”
มันตรงเข้าซุกไซ้ นุดีพยายามดันหน้าของมันออกไม่รุนแรงนัก แต่ก็ไม่ยอมให้มันเข้ามาทำอะไรเธอได้ ถ้าดิ้นรุนแรงกลัวมันจะชกหน้าท้องหรือทำร้ายจนเธอสลบไม่ก็บาดเจ็บ ผู้ชายคนนี้น่ากลัวกว่าที่คิด เธอเคยเห็นเขาทำร้ายผู้หญิงมาแล้ว แต่พอเธอเล่าให้มารดาฟัง ท่านก็หาว่าเธอใส่ร้ายสามีใหม่ เธอจึงได้แต่น้อยใจ
“อย่าทำอะไรฉันเลยนะ”
“โธ่ โว้ย! อย่าเล่นตัวไปหน่อยเลย”
เขากดมือของเธอเอาไว้ เธอคิดว่าถ่วงเวลาได้นานพอสมควรแล้ว มันก้มลงมาหาอีกครั้ง ในขณะที่เธอยกเข่าขึ้นกระแทกที่หว่างขาของมันเต็มแรงๆ
“โอ๊ย!”
“ไอ้สารเลว” นุดีผลักมันจนกระเด็น
มันวิ่งตะครุบร่างเธอบนพื้น ก่อนจะกดเอาไว้ เธอดิ้นมันก็ตบเผียะเข้าให้
“โอ๊ย!” นุดีหน้าหันไปตามแรงตบ
“ฤทธิ์มากนักนะ วันนี้มึงต้องเป็นเมียกู”
“แกไม่ตายดีแน่”
เธอพูดอย่างแค้นใจ มันก้มลงมาบดจูบ นุดีกัดลิ้นของเขาเต็มแรง
“โอ๊ย! นังนี่”
มันรับรู้ถึงเลือดในปาก ก่อนจะง้างมือตบเธออีกครั้ง แต่ครั้งนี้มีคนมารับฝ่ามือของมันเอาไว้
“โอ๊ย! ใครวะ”
มันร้องเสียงหลงเมื่อโดนบีบมือเอาไว้จนแทบหัก
“อาณัฐ”
เธอดีใจที่เขามา เพราะตอนที่กำลังถ่วงเวลาสามีใหม่แม่ เธอก็แอบกดโทรออกให้ณัฐมาช่วยเหลือ
“มึงเสือกอะไรด้วย โอ๊ย!”
มันโดนเตะเข้าที่ปลายคางจนน็อกคาที่ นุดีโผเข้ากอดณัฐเอาไว้อย่างหวาดกลัว
ร่างเธอสั่นเทาอยู่ในอ้อมกอดของเขา
“ไม่เป็นไรแล้วนะ”
“ยัยหนู เป็นยังไงบ้างลูก”
ปู่ย่าตายายของเธอก็มา เธอเห็นบิดายืนหน้าซีดอยู่กับผู้หญิงคนหนึ่ง เธอไม่สนใจท่าน แต่โผเข้ากอดคนเป็นย่า กอดท่านเอาไว้และซบหน้าร้องไห้จนสาแก่ใจ
มารดาของนุดีตื่นขึ้นมาพร้อมกับความงุนงง คราแรกเธอเข้าข้างสามีเด็ก แต่โดนดุเข้ามากๆ ก็หน้าหงอไม่กล้าเถียง แต่พอโดนดุสามีก็ยิ่งทับถม เธอจึงได้ฮึดฮัดเกรี้ยวกราดแต่ก็ถูกปรามเอาไว้
“ทั้งสองคนนั่นแหละ อายุไม่ใช่น้อยๆ แล้ว เธอเองก็ทำตัวไม่เหมาะสม ผู้ชายมันชั่วก็อย่าไปชั่วตามมัน ดีที่พ่อณัฐเขามาช่วยเอาไว้ได้ทัน ไม่งั้นยัยหนูดีจะเป็นยังไง ไม่โดนสามีเธอข่มขืนกระทำชำเราไปแล้วรึ”
คุณยายเป็นคนดุด่าว่ากล่าว เพราะนั่นเป็นลูกสาวของตัวเอง แต่ก็อดจะเหน็บแนมลูกเขยเจ้าชู้ไม่ได้ คำว่า “ชั่ว” ทำให้คนที่นั่งอยู่อีกด้านสะดุ้งในทันที
“เราเองก็เหมือนกัน พาเมียเด็กอายุรุ่นราวคราวเดียวกับลูกเข้าบ้าน ไม่คิดบ้างเหรอว่าลูกสาวตัวเองจะเป็นยังไง จะคิดยังไง ถ้ายัยหนูดีชิงสุกก่อนห่ามท้องโย้ขึ้นมา จะโทษลูกไม่ได้นะ แล้วถ้ายัยหนูจะถูกผู้ชายรุ่นราวคราวเดียวกับแก แถมยังหัวงูเหมือนกันหลอกฟันแล้วทิ้งจะทำยังไง แกมีลูกสาวไม่ห่วงลูกสาวบ้างเหรอ ไปทำกับลูกสาวคนอื่นแบบนี้”
คุณย่าด่าลูกชายตัวเอง แต่ด่ามาเยอะแล้ว ไม่มีใครสำนึกกันเลย
“แล้วไอ้หมอนี่ใครครับ”
นพเอ่ยถาม เขาเห็นว่าผู้ชายคนที่นั่งใกล้กับบุตรสาวดูห่วงใยนุดีเกินไป มันผิดวิสัยคนรู้จักกันทั่วไป
“ว่าที่สามีหนูดี พอใจหรือยังล่ะ”
คุณย่าเป็นคนตอบ นพอ้าปากค้าง ทำท่าจะโวยวายไม่รับณัฐท่าเดียว แต่คำของบิดาทำให้นพหุบปากฉับ
“ถ้าแกพูดมาก สมบัติสักสตางค์แดงเดียวฉันก็จะไม่ให้ พวกเราปล่อยให้แกสองคนดูแลลูกจนเหลวแหลกไปหมดแล้ว ดีที่ไปเจอพ่อณัฐ ถ้าเจอผู้ชายคนอื่น ป่านนี้หลานสาวฉันป่นปี๋ไปหมดแล้ว พอพ่อกับแม่พายัยหนูดีไปเลี้ยง เมียแกก็ไปโวยวายจะเอาลูกมาเลี้ยง แล้วยังไง ปล่อยให้ลูกโดนผัวใหม่ทำร้ายเอา”
“แล้วพอพ่อกับแม่พายัยหนูดีไปเลี้ยง ผัวแกก็ไปโวยวายจะเอามาเลี้ยงเอง บอกว่าเลี้ยงได้ พวกแกจะเอาชนะกันไปถึงไหน จากนี้ไป พวกแกไม่มีสิทธิ์ในตัวหนูดีอีกแล้ว พวกแกจะไปเอาชนะคะคานที่ไหนก็เชิญตามสบาย แต่หนูดีต้องมีอนาคตที่ดี”
จู่ๆ นุดีก็น้ำตาซึม เธอเบื่อกับปัญหาครอบครัวแบบนี้เต็มทีแล้ว หลายคนบอกว่าชีวิตเธอเหมือนนิยาย แต่เธอก็คิดว่ายิ่งกว่านิยาย มีพ่อแม่หลายคนที่เป็นแบบเธอ หรืออาจจะหนักหนาสาหัสกว่าเธอ หลายคนจึงบอกว่ามันเป็นเวรกรรม ให้ยอมรับมันและเดินต่อไป
ณัฐบีบมือของเด็กสาวเบาๆ อย่างให้กำลังใจ นุดีรู้สึกอบอุ่นใจเสมอเมื่อมีเขา
“ถ้าแกสองคนยังคิดไม่ได้ก็ไสหัวไปซะ บางทีฉันเองก็คิดว่าจะตัดพวกแกออกไปซะ ถ้าไม่คิดว่ามีลูกแค่คนเดียว”
หลังจากนั้นเป็นต้นไป นพและนภัสสรไม่ได้เข้ามายุ่งวุ่นวายกับนุดีอีกเลย ปู่ย่าตายายของเธอเลี้ยงดูเธอเอง เพราะอย่างน้อยก็อยากให้นุดีเรียนจบในเทอมนี้
นุดีมีความสุขในแบบฉบับของเธอ ไม่ต้องคอยหวาดระแวงว่าวันนี้บิดามารดาจะทะเลาะกันอีก จะพาสมาชิกใหม่เข้ามาในบ้านแล้วมาทำร้ายเธอไหม
เธอเปิดเทอมและตั้งใจเรียนมากขึ้น เพราะเมื่อจบม.หก ญาติผู้ใหญ่จะอนุญาตให้เธอหมั้นหมายกับณัฐ
ในช่วงเวลานี้ณัฐไปมาหาสู่เธอบ่อย ไปรับไปส่ง แต่ก็อยู่ในสายตาญาติผู้ใหญ่ เขาไม่ได้ทำเรื่องอะไรให้เสียหาย แม้เธอจะแอบอยากกินตับเขา หรือลากเขาขึ้นเตียงแค่ไหนก็ตามที