นิสาชลกับแม็กเซสรวมถึงทุกคนที่ได้เห็นฉากพิสูจน์คราบน้ำนม ต่าง ก็พากันอึ้งไปตามๆกัน
“เธอทำอะไรลงไปรู้ตัวหรือเปล่านีซ ”
“นั่นสิ ฉันทำอะไรลงไปหรือแม็ก ฉัน...ฉันยังงงๆเบลอๆอยู่เลย”
“เธอก็บ้าไปแล้วนะสิ แล้วการที่เขาพูดทิ้งท้ายเอาไว้แบบนั้น ก็ระวัง ตัวไว้ดีๆล่ะ การทำแบบนั้นเหมือนเป็นการไปจุดไฟราคะในตัวเขาขึ้นมา แล้วถ้าหากมันติด ฉันก็ช่วยเธอไม่ได้นะที่รัก” แม็กเซสพูดแล้วทำเอาคนฟังถึงกับขนหัวลุก
“แม็ก ฉันว่าเขาคงไม่ติดใจอะไรกับเด็กที่ปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมอย่างฉันหรอก”
“ทีอย่างนี้ละก็ยอมรับ แต่ฉันว่านี่มันก็ดึกแล้ว ฉันจะไปส่งขึ้นรถแท็กซี่นะ”
“ขอบใจจ้า”
แม็กเซสเดินมาส่งนิสาชลที่ถนนใหญ่ รอจนกระทั่งรถแท็กซี่ขับมาจอดข้างหน้า
“ขอโทษด้วยนะที่ไม่ได้ขับรถไปส่ง”
“ไม่เป็นไร รีบกลับเข้าไปทำงานเถอะ เธอบอกเองนี่แม็ก ว่าแท็กซี่เมืองนี้ไวใจได้”
“อืม ยังไงก็ระวังตัวนะ มีอะไรก็โทรหาฉันได้ตลอดเวลา” แม็กเซสดูภายนอกเขาคือชายมาดแมนร้อยเปอร์เซ็น แต่จริงๆแล้วเขาคือชายที่รักชาย ซึ่งความจริงข้อนี้นิสาชลรู้ดี
“ไปนะแม็ก”
“เดี๋ยวสิ ฉันมีบางอย่างจะบอก”
“อะไรเหรอ”
“เอาหูมาใกล้ๆสิ”
นิสาชลเอียงหูให้คนที่มีความลับ
แล้วเขาก็กระซิบบอกเธอเบาๆพอให้ได้ยินกันสองคน ก่อนที่จะขึ้นรถแท็กซี่
“ถ้าถึงคราวคับขันจริงๆ หากกำลังจะโดนรังแก ให้บอกออกไปว่า ‘เธอเป็นผู้หญิงของเอเลียส’ นะ ไม่ต้องถามว่าทำไม แต่น้องสาวของฉันใช้ได้ผลตลอด”
นิสาชลเกือบจะถามแล้ว แต่คำอธิบายคงยาว และตอนนี้มันก็ดึกมากแล้วล่ะ
“อือๆ ขอบใจจะสำหรับคำแนะนำ”
นิสาชลก้าวขึ้นไปนั่งบนรถแท็กซี่ รถเริ่มวิ่งไปไกลแล้วแต่คำถามหนึ่ง ยังติดอยู่ในหัวเธอ
‘แล้วนายเอเลียสนี่เป็นใคร ตัวตนเขาเป็นยังไง เธอเคยได้ยินแต่ชื่อจากปากของเจนสุดาครั้งหนึ่ง ว่าเขาเป็นถึงเจ้าพ่อที่ทรงอิทธิพลและรํ่ารวยมาก หากใครได้เป็นเมียคงสบายไปถึงชาติหน้า’
“อา..เอเลียส” ร่างงดงามเปล่าเปลือยกำลังโยกร่อน สะโพกอยู่เหนือร่างใหญ่อย่างเร่าร้อน เธอสูดปากครางซี๊ดด้วยความซ่านกระสันเป็นที่สุด นานเหลือเกินกว่าจะได้ครอบครองเจ้ามังกรยักษ์ของผู้ชายคนนี้ มันช่างใหญ่ยาว เติมเต็มเธอจนแทบจะปริขาด
“เอเลียส” เธอกระแทกตัวเองลงแรงๆ ลงบนแก่นกายคึกแข็งที่ทิ่มแทงขึ้นไปอย่างร้อนแรงเช่นกัน
เขาอัดบั้นท้ายเด้งเข้าหาเธอเต็มแรงหลายครั้งอย่างต่อเนื่อง
“อืม...” ลีลาของหล่อนช่างดุเด็ดเผ็ดมันเหลือเกิน
มือบางขยำกล้ามเนื้อนม ขยี้เม็ดสีแดงเข้มตามแรงอารมณ์ ยิ่งขยี้บดบี้ เขายิ่งเสียดเสียวรุนแรง เธอเองก็เสียวเสียดแทบขาดใจ
ยิ่งปลายนิ้วใหญ่มากดคลึงที่ปุ่มสวาทกลางกลีบเนื้อนุ่มที่บีบรัดเขา อยู่ หญิงสาวถึงกับแหงนเงยหวีดร้องออกมา เพราะกระสันสุดขีดจนแทบจะ แตะขอบสวรรค์ ต้องอดกลั้นความหฤหรรษ์สุดฤทธิ์จนใบหน้าสวยบิดเบี้ยว ด้วยความรัญจวนวาบหวามลึกลั้า
“จะไม่ไหวแล้วเอเลียส ๆ” เธอร่อนสะโพกเข้าหารัวเร็ว อัดแน่น กระทั้นกระแทกเข้าหาอย่างไม่กลัวเจ็บ จนได้ยินเสียงเนื้อกระทบเนื้อดังสนั่นกลางอากาศ
“แรงอีกซอนน่า แรงๆ อ่าส์...อูววว์”
“โอย... โอว... ใกล้แล้วเอเลียส มะ... ไม่ไหวแล้ว”
แล้วจังหวะร้อนสุดท้ายก็มาถึง เธอบดบี้ความอวบลูบรุ่มร้อนของ ตนเองเข้าสวมแก่นกายใหญ่ลํ่าเต็มพิกัดอย่างแนบแน่น ก่อนจะยกตัวขึ้นกระแทกรัวแรงลงมาไม่ยั้งอย่างต่อเนื่อง ร้อนแรง
“กรี๊ดดด...”
“อูวววว์...” เนิ่นนานกว่าเอเลียสจะถอดถอนลำกายที่หุ้มด้วยถุงยางใสๆออกมา
และนานหลายวินาทีกว่าที่ทั้งสองจะกลับมาหายใจเป็นปกติ ทว่า นางแบบสาวชื่อดัง ยังคงยั่วชายหนุ่มไม่เลิก เธอเลื่อนตัวลงหมายจะลิ้มรสลำ รักที่เพิ่งผ่านศึกสวาทมาหยกๆอีกครั้ง แต่ชายหนุ่มเชยคางเธอไว้
“พอแล้วซอนน่า มันดึกมากแล้ว คืนนี้ฉันไม่ได้ค้างที่นี่”
“คุณจะกลับแล้วเหรอคะ”
“ใช่”
“อยู่ต่ออีกนิดไม่ได้เหรอคะ”
“ไม่ได้หรอก แม่บ้านโทรมาบอกว่าเลอเบสใกล้จะคลอดลูกแล้ว ฉันต้องไปดูแลมัน” เลอเบสที่ชายหนุ่มพูดถึงก็คือเจ้าสุนัขพันธุ์ชิสุตัวเมียที่เขา โปรดปรานนั่นเอง และเลอเบสเป็นชื่อที่แม่บ้านเก่าแก่ซึ่งเป็นคนไทยตั้งให้
“อย่าบอกนะคะว่าเลอเบสที่คุณพูดถึงคือสุนัข”
“ใช่”
“ก็แค่สุนัขตัวหนึ่งจะคลอดลูก ให้คนอื่นทำคลอดให้ก็ได้นี่คะ”
“ถ้าคุณซื่อสัตย์ได้สักครึ่งหนึ่งของเจ้าเลอเบส ผมอาจจะยอมทิ้งมัน แล้วเริงรักกับคุณต่อก็ได้นะ” เจ้าพ่อหนุ่มยิ้มหยันมุมปาก ก่อนจะลุกจากที่นอนแล้วสวมเสื้อผ้าเข้าตามเดิม
เมื่อเอเลียสเดินออกจากห้องไปซอนน่าถึงกับออกอาการ กระฟัดกระเฟียด
“เอเลียส! คุณกำลังด่าฉันใช่ไหม” แสดงว่าเขารู้ตลอดน่ะสิว่าเธอไม่ได้มีเขาแค่คนเดียว หน้าอกนางแบบสาวกระเพื่อมขึ้นลงตามแรงอารมณ์ โกรธ นี่ขนาดว่าเธอปิดเรื่องระหว่างเธอกับพระเอกหนุ่มชื่อดังมิดแล้วนะ หู ตาของเอเลียสนี่ยิ่งกว่าสับปะรดจริงๆ
‘มีอะไรบ้างนะที่จะรอดพ้นหูตาของเขาไปได้’
ยามดึกสงัดประมาณตีสามได้ ร่างเพรียวบางในชุดนอนขายาว ลายคิตตี้สีหวาน กำลังย่องตามเจ้าสุนัขขนปุยขึ้นไปบนบันไดวน จนไปถึงชั้นสูงสุด ก็เห็นเจ้าสี่ขาเดินเลี้ยวเข้าไปยังห้องห้องหนึ่ง มันท้องแก่ใกล้คลอดแล้วสิ สงสัยว่ามันจะหาที่สงบๆคลอดลูก
...แต่ทำไมมันต้องขึ้นมาสูงขนาดนี้ด้วย...
ตอนแรกหญิงสาวก็ไม่คิดจะเดินตามมันมาหรอก เธอแค่เดินออกมา ชมบรรยากาศข้างนอกคฤหาสน์ยามคํ่าคืนเท่านั้น แต่หลังจากที่นอนได้งีบหนึ่งแล้ว หูก็ได้ยินเสียงป้ามูนลุกขึ้นไปเปิดประตูห้องออกไปยามดึก เธอก็ เลยตื่นตามจากนั้นก็นอนไม่หลับอีกเลย พยายามนอนแล้วแต่ตาก็ยังใสแจ๋ว
ไหนๆพรุ่งนี้เธอก็จะกลับเมืองไทยแล้ว ก็อยากจะชื่นชมบรรยากาศรอบๆตัวคฤหาสน์หลังนี้สักหน่อย แล้วก็อยากไปยืนดูพระจันทร์บนชั้นดาดฟ้าด้วย แต่สายตาก็เหลือบแลไปเห็นเจ้าสุนัขที่กำลังท้องแก่นั่นเสียก่อน จึงเป็นเหตุให้เธอเดินตามมันมาจนถึงห้องนี้
“อยู่ไหนน้า มืดๆแบบนี้จะเห็นไหมเนี่ย”
หญิงสาวจึงเอื้อมมือไปเปิดสวิซต์ไฟ พอหลอดไฟกะพริบแสงและ ส่องสว่างไปทั่วห้องเท่านั้นแหละ นิสาชลถึงกับอุดปากตนเองด้วยอาการช็อกจังงังอยู่กับที่
...เมื่อเห็นผู้ชายนอนเปลือยกายอยู่บนเตียง!...
...เขาสวมหน้ากากนอนด้วย พิลึกแท้เขาคือเจ้าของคฤหาสน์หลังนี้ ตามที่ป้ามูนของเธอพูดให้ฟังสินะ...
“เจ้าของคฤหาสน์หลังนี้คือคุณเอเลียส เขาเป็นลูกชายของอดีตมาเฟียผู้ยิ่งใหญ่”
‘เขาคือเอเลียส เจ้าพ่อคาสิโนแห่งนีซที่เจนสุดาพูดถึงสินะ’
จากอาการช็อก ก็เริ่มเกิดความสงสัยเมื่อเหลือบแลสายตาไปสะดุด เข้ากับเครื่องประดับชั้นหนึ่งบนโต๊ะโคมไฟ
...มันคือแหวนมังกรทอง!!...
...คุ้นๆนะเหมือนเคยเห็นที่ไหน...