เอิงเอยวิ่งไปหาพี่ชายที่รถและให้แบงค์รออยู่ที่รถก่อนเพราะเธอมีเรื่องจะคุยกับพี่
“พี่อาร์ตรอหนูก่อนค่ะ”
เขาชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะหันไปมองน้องสาวอย่างสงสัย นึกว่าจะรีบไปจดทะเบียนสมรสเสียอีกนี่เขาก็ช่วยน้องสาวอย่างสุดความสามารถแล้วนะ ยังไม่ได้แต่งอย่างน้อยจดทะเบียนสมรสไปก่อนก็ยังดี นี่ถ้าเกิดว่าไปลงทุนกับหมอนั่นแล้วเกิดอะไรขึ้นมาจะได้จัดการง่ายๆ ถ้าไม่จดทะเบียนสมรสแล้วโดนโกงไปจะแย่เอายิ่งไว้ใจไม่ค่อยได้อยู่แต่ก็ไม่อยากขัดเพราะดูเหมือนว่าจะเตือนไม่ได้
“ว่าไง”
“ขอบคุณนะคะที่ช่วยเอิงเอย พี่แบงค์ก็เลยยอมแต่งงานแล้วก็จะไปจดทะเบียนสมรสกันด้วย”
“นี่เค้าทำเพราะรักหรือว่าทำเพราะเงินสิบล้านกันแน่ เราคิดดีๆนะว่าที่ทำไปทั้งหมดเพื่ออะไร พี่ไม่อยากตักเตือนเพราะรู้ว่าเรามันไม่ยอมฟังใครอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นจงอดทนต่อสิ่งที่เลือก”
เฮียอาร์ตเอ่ยออกมาเสียงจริงจัง น้องสาวเขาได้เลือกแล้วว่าจะเอาผู้ชายคนนี้เป็นสามี เพราะฉะนั้นต้องรับผลที่ตามมาให้ได้
“หนูเลือกแล้วค่ะหนูรักเค้ามาก ยังไงหนูก็จะทำทุกอย่างให้เค้าอยู่กับหนู”
“ก็ตามใจแต่พี่ขอถามหน่อย ตกลงว่าเราหรือผู้หญิงอีกคนที่แย่งแฟนคนอื่น”
เขาจ้องหน้าน้องสาวอย่างจับผิดและเธอดูอ้ำอึ้งเหมือนไม่กล้าแก้ตัวและไม่กล้ายอมรับ แค่นี้เขาก็พอมองออกแล้วว่าสิ่งที่ญาดาพูดไม่น่าจะโกหก ไม่เคยคิดว่าเอิงเอยจะตกต่ำถึงขึ้นไปแย่งแฟนคนอื่นแบบนี้ ญาดาโชคดีที่หลุดพ้นจากผู้ชายคนนี้ไปได้แต่คนที่ต้องรับกรรมต่อคือน้องสาวของเขาเอง
“กะ…ก็ ก็ผู้หญิงคนนั้นนั่นแหละที่แย่งแฟนของเอิงเอย”
“พี่มองแป๊บเดียวก็รู้แล้วว่าใครพูดจริงใครโกหก เราเลือกเองนะหลังจากนี้จัดการชีวิตของตัวเอง และพี่จะไม่จ่ายรายเดือนเราอีกแล้วดูแลกันเองแล้วกัน”
เขาเอ่ยเพียงแค่นั้นก่อนจะเดินออกไปจากตรงนั้นแล้วขึ้นรถเดินทางกลับไร่ทันที ส่วนเรื่องของเอิงเอยในเมื่อเตือนไม่ฟังก็เรียนรู้กับโลกแห่งความเป็นจริงด้วยตัวเอง และภาวนาขอให้ผู้ชายคนนั้นสำนึกและรู้จักผิดชอบชั่วดีก่อนที่อะไรๆจะสายจนเกินไป
เอิงเอยมองตามพี่ชายไปก่อนจะหันไปมองว่าที่สามีจากนั้นก็วิ่งไปกอดแขนเขาเอาเอาไว้แน่น
“ไปกันเถอะค่ะรีบๆจดทะเบียนสมรสจะได้ไปเอาเงินจากพี่ชาย แล้วพรุ่งนี้พาเอิงเอยไปหาคุณหมอด้วยนะคะ”
“ได้สิพี่จะพาไป”
เขาโอบเอวหญิงสาวก่อนจะพาไปขึ้นรถอย่างอารมณ์ดี เดี๋ยวก็จะมีเงินมาต่อยอดธุรกิจที่คิดไว้หลายอย่างและเขาจะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้งในเร็ววัน อีกไม่นานอดทนไว้นะแบงค์….
ทางด้านของญาดาเธอตั้งใจทำงานที่พี่ลี่สั่งอย่างเต็มที่และนี่ก็เลยเวลาเที่ยงมาสักพักแล้วทำไมถึงยังไม่ไปกินข้าวอีก
“ญาดาไปพักกินข้าวเถอะ เดี๋ยวปวดท้องหรอก”
“อยากทำให้เสร็จก่อนค่ะอีกนิดเดียวเอง”
เธอยังไม่ยอมแพ้อยากจะทำทุกอย่างให้เสร็จเรียบร้อยก่อนแล้วค่อยไปพักผ่อนทีเดียว ไม่คิดว่าการเป็นเลขาผู้บริหารมันจะเหนื่อยขนาดนี้ เคยชินแต่อ่านเอกสารและแจกลายเซ็นไม่เคยนึกถึงพนักงานที่ต้องมาทำเอกสารให้ระดับผู้บริหาร การฝึกงานครั้งนี้เธอได้ประสบการณ์และแนวคิดในการทำงานมากมาย มีคนที่ลำบากกว่าเราและพวกเขาคือหัวใจที่ทำให้องค์กรเดินหน้าต่อไปได้ เพราะฉะนั้นจงรักษาพวกเขาไว้อย่างดีที่สุด
“กินก่อนเถอะที่นี่ไม่ใช่โรงงานนรกนะ เราจะขยันไปไหนเนี่ย”
เลขาลี่หัวเราะออกมาขำๆก่อนจะลุกขึ้นดึงมือญาดาแล้วพาไปหาของอร่อยกินที่ห้องอาหาร และที่นั่นมีพนักงานคนอื่นๆอีกหลายคนและล้วนแต่เป็นมิตรทั้งนั้น เธอคุยกับรุ่นพี่คนอื่นอย่างสนุกและไม่มีใครรู้ว่าเธอเป็นใครมาจากไหนรู้แค่ว่ามาฝึกงานที่นี่เท่านั้น
“ข้าวมันไก่น่ากินจังเลยค่ะ”
“อร่อยมากเลยนะจะบอกให้ น้ำจิ้มเด็ดมากอยากให้ลองรับรองว่าติดใจ”
เลขาลี่แนะนำหญิงสาวให้ลองกินดูเธอจึงสั่งขอข้าวมันไก่จานหนึ่งจากนั้นก็ถือจานมานั่งลงใกล้ๆรุ่นพี่คนอื่น บางคนก็กินก๋วยเตี๋ยวไก่ส่วนเธอเลือกข้าวมันไก่ตามคำแนะนำของพี่ลี่ บอกตามตรงว่าเคยกินครั้งเดียวที่มหาวิทยาลัยแต่รสชาติไม่ได้ว้าวขนาดนั้นก็เลยไม่สั่งกินอีก แต่ครั้งนี้จะลองดู
เธอตักเข้าปากลองชิมก่อนจะตาโตเมื่อน้ำจิ้มที่เลขาลี่แนะนำมันอร่อยถูกปากมากจนต้องตักกินอีกหลายคำ ความนุ่มของไก่เข้ากันกับน้ำจิ้มมากยกนิ้วให้เลย
“เป็นไงอร่อยจนพูดไม่ออกเลยใช่มั้ย”
“อร่อยมากเลยค่ะ เพิ่งเคยกินเป็นครั้งที่สองครั้งนี้อร่อยมากเลยค่ะ”
ทุกคนในโต๊ะดูตกใจไม่น้อยที่หญิงสาวบอกว่าเคยกินครั้งที่สองทั้งที่คนปกติเค้าต้องเคยกินข้าวมันไก่มากกว่าร้อยครั้งพันครั้งเพราะเป็นเมนูที่หาง่ายและราคาไม่แพง เธอเหลือบสายตามองทุกคนก่อนจะยิ้มแห้งออกมาเมื่อถูกมองแบบนั้น
“คือหมายถึงว่าเคยกินครั้งที่สองในรอบหนึ่งเดือนค่ะ”
“อ่อ อย่างนี้นี่เอง”
ทุกคนยิ้มออกมาอย่างสบายใจ ลูกมหาเศรษฐีอย่างเธอแม่บ้านชอบทำอาหารหรูหราและไม่เคยมีเมนูอาหารตามสั่งในบ้าน ไปที่มหาวิทยาลัยเมนูที่เธอกินบ่อยที่สุดก็คืออาหารญี่ปุ่นอาหารจีนอะไรแบบนี้เพราะมันกินง่ายได้เร็ว ส่วนอาหารตามสั่งคนต่อคิวเยอะเธอขี้เกียจรอก็เลยไม่เคยไปกินเลยสักครั้ง
“อร่อยนะคะข้าวมันไก่หนูชอบมากเลยค่ะ”
“อร่อยก็กินเยอะๆนะ ไม่พอไปเติมได้อีกที่นี่เติมได้ไม่อั้นเลยมีเจ้านายใจดีแบบนี้สนใจมาทำงานด้วยกันมั้ย”
เลขาลี่เอ่ยชวนหญิงสาว เธอทำได้เพียงแค่ยิ้มเพราะรู้ว่าสุดท้ายก็ต้องกลับไปช่วยงานที่บ้านอยู่ดีและไม่มีประโยชน์อะไรที่ต้องอยู่ที่นี่ ยิ่งรู้ว่าต้องอยู่กับผู้ชายคนนั้นด้วยเธอไม่เอาแน่นอน ใจร้ายใจดำนิสัยไม่ดีเธอเกลียดมาก
อาร์ตที่เดินเข้ามาในห้องอาหารเจอญาดากำลังนั่งกินข้าวกับพนักงานคนอื่นอย่างเอร็ดอร่อยก็ยืนดูเฉยๆไม่เข้าไปกวนเพราะดูท่าทางเธอจะสนุกที่ได้มีเพื่อนหลากหลายมากกว่าอยู่กับเขาแค่สองคน ดูจากสีหน้าบึ้งตึงในตอนอยู่กับเขากับสีหน้าอารมณ์ดีตอนอยู่กับคนอื่นก็พอมองออกว่าเธอคงไม่ชอบขี้หน้าเขามาก
เขากดโทรศัพท์ดูรูปที่น้องสาวส่งมา เป็นในทะเบียนสมรสที่ถ่ายอยู่หน้าอำเภอไม่ไกลจากที่ไร่ของเขามากนัก ชายหนุ่มกดโทรศัพท์ไปหาฝ่ายบัญชีก่อนจะสั่งให้เธอไปจัดการธุระให้หน่อย
“ช่วยโอนเงินสิบล้านเข้าบัญชีคุณเอิงเอยหน่อย แล้วส่งสลิปมาให้ผมที”
(ได้ค่ะเฮีย เดี๋ยวจัดการให้เลยค่ะ แต่ว่าอาจจะต้องโอนครั้งละล้านนะคะอาจจะหยิบย่อยหน่อยคิดว่าให้คุณเอิงเอยมาเอาเช็คเองจะดีกว่ามั้ยคะ”
“ไม่ต้องให้มาที่นี่คุณเอาไปส่งให้เธอเลยยังไงฝากจัดการด้วยนะขอบคุณมากครับ”
(งั้นก็ตกลงตามนี้ค่ะ)
เขากดวางสายก่อนจะหันไปมองญาดาที่ตอนนี้กำลังหัวเราะอย่างสนุกกับเพื่อนร่วมงานทุกคน ดูเธอมีความสุขแค่นี้เขาก็ดีใจแล้ว เธอไม่เหมาะกับการทำหน้าบึ้งตึงเลยแม้แต่น้อย ยิ้มแบบนี้ดูสวยขึ้นเยอะเลย อีกอย่างการที่เอิงเอยมาที่นี่จะมาเจอกันแล้วมันจะเกิดเรื่องอีกและถ้าสองคนนั้นแต่งงานกันเรียบร้อยเขาจะคืนโทรศัพท์ให้ญาดา
“ขอให้โลกใจดีกับเธอนะญาดานะ…”