คนที่ไม่เคยลืม

1394 คำ
พัทยา งานเปิดตัวโรงแรมที่ได้บริษัทศิวัชออกแบบและก่อสร้างให้จนเสร็จเรียบร้อย โดยมีปรานนท์เป็นผู้คุมงานนี้คนเดียวตั้งแต่ต้นจนจบ ใช้เวลาเพียง 2 ปีในการก่อสร้างเท่านั้น ซึ่งเป็นที่น่าพอใจของเจ้าของโรงแรมมากๆ งานวันนี้จึงถูกจัดขึ้นอย่างใหญ่โตโดยมีนักข่าวมากันมากมาย รวมทั้งเหล่าดาราเซเล็บทั้งหลายที่มาร่วมแสดงความยินดีกับคุณศิวัช รวมทั้งเจ้าของงานในค่ำคืนนี้ด้วย “ผมภูมิใจมากๆเลยนะครับสำหรับการออกแบบและก็การก่อสร้างที่ทั้งรวดเร็ว และได้คุณภาพที่น่าทึ่งแบบนี้...” “ขอบคุณมากครับ...ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะผมมีลูกน้องฝีมือดีนะครับ โรงแรมของคุณสันติถึงได้เสร็จทันฤกษ์มงคลแบบนี้...” “ใช่แล้วครับ...ผมถูกใจจริงๆ คุณปรานนท์ลูกน้องคุณนี่เก่งสมคำล่ำลือจริงๆเลยนะครับ...” ปรานนท์หันไปยิ้มให้คุณสันติเจ้าของโรงแรมอย่างรู้สึกเขินๆ ที่ถูกชมต่อหน้าแบบนี้ “วันนี้ลูกสาวผมก็มาด้วยนะครับ ผมอยากจะแนะนำให้คุณศิวัชรู้จักสักหน่อย...” ศิวัชยิ้มให้สันติบางๆ เพราะเขารู้ว่าวันนี้สันติจะพาลูกสาวมางานนี้ด้วยเพราะต้องการจะแนะนำให้เขารู้จักกับเธอ เขาจึงต้องบังคับให้ปรานนท์มางานนี้ให้ได้เผื่อจะได้ช่วยกันเธอให้กับเขา “มาพอดีเลย...มาทำความรู้จักกับคุณศิวัชซิลูก...” เธอเดินเข้ามาหาพ่อของเธอพร้อมกับหันมาส่งยิ้มหวานให้ศิวัช แล้วยื่นมือออกมาทักทายเขา “สวัสดีค่ะคุณศิวัช...ปรางนรินค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ...” เขายื่นมือออกมาจับมือเธอเพื่อเป็นการทักทาย “ยินดีที่ได้รู้จักครับ.คุณปรางนริน.” “ได้ยินคุณพ่อพูดถึงคุณศิวัชบ่อยๆ เพิ่งจะได้เห็นตัวจริงก็วันนี้เอง...สมแล้วละคะที่สาวๆในงานต่างก็อยากครอบครองหัวใจของคุณศิวัชกันทั้งนั้น...” “ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ...” “แต่ไม่น่าเชื่อเลยนะคะว่าคนหน้าตาดีอย่างคุณศิวัชจะโสดจริงๆ...” เธอส่งสายตายั่วยวนมาให้เขา เขาจึงยิ้มตอบกลับไป “ใช่ครับ...ผมไม่โสดแล้ว...” เธอหุบยิ้มทันทีที่ได้ยินคำตอบของศิวัช รวมทั้งปรานนท์และคุณสันติเจ้าของโรงแรมด้วย ที่ยืนอึ้งกับคำตอบของเขา “ผมมีแฟนแล้วนะครับ จริงๆวันนี้เธอก็มางานนี้ด้วยนะครับ แต่พอดีว่าเธอไม่ชอบให้เป็นข่าวใหญ่นะครับเธอเลยไม่ยอมมาเดินคู่กับผม...” “แฟนคุณศิวัชอยู่ในงานนี้ด้วยหรอคะ..?” “ครับ...เธอไม่ใช่ดาราแล้วก็ไม่ใช่เซเล็บที่ไหน เธอเป็นผู้หญิงธรรมดาที่สวยแล้วก็น่ารักมากๆ...” ศิวัชพูดถึงแฟนเขาไปด้วยยิ้มไปด้วย ช่างเป็นรอยยิ้มที่ดูมีความสุขจริงๆจนปรานนท์เริ่มอยากจะเห็นแล้วว่าแฟนของศิวัชมีหน้าตาเป็นยังไง นักข่าวได้ยินที่เขาบอกกับปรางนรินว่าเขามีแฟนแล้ว ก็รีบกรูกันเข้ามาสัมภาษณ์เขากันยกใหญ่แต่เขาก็ไม่ยอมบอกว่าเธอคือใคร ทั้งที่นักข่าวพยายามตื้อถามเขาก็ไม่ยอมบอกง่ายๆ “พรุ่งนี้ข่าวที่คุณศิวัชมีแฟนแล้ว ต้องขึ้นหน้าหนึ่งแน่ๆเลยครับ...” “แกก็เวอร์ไป...ฉันแค่ประกาศว่ามีแฟนนะไม่ได้ไปฆ่าใครตายสักหน่อย...” ศิวัชแยกตัวออกมานั่งคุยที่ริมสระว่ายน้ำกับปรานนท์ 2 คน “แฟนของคุณศิวัชอยู่ในงานนี้จริงๆหรอครับ..?” “ใช่...” "..." ปรานนท์นิ่งไปแล้วก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ "อย่าบอกนะว่าแกไม่เชื่อว่าฉันมีแฟนแล้วจริงๆ...” “เปล่าครับ...ผมแค่สงสัยว่าทำไมคุณศิวัชถึงไม่พาเธอมาเปิดตัว..?” “งั้นพรุ่งนี้ฉันจะพาเธอมาแนะนำให้แกรู้จัก...” “...” เขายิ้มตอบกลับไปให้ศิวัช แล้วพวกเขาก็ชนแก้วดื่มด้วยกันนั่งคุยกันไปเรื่อยเปื่อย “แล้วแกล่ะ...เมื่อไหร่จะมี..?” “ผมยังไม่อยากมีนะครับ อยู่คนเดียวแบบนี้ก็สบายดีอยู่แล้ว...” “ตั้งแต่ฉันรู้จักแกมา ไม่เคยเห็นแกชอบผู้หญิงคนไหนสักคน ขนาดสาวๆในบริษัทที่ปลื้มแกกันตั้งหลายคนแกก็ยังไม่สนใจเลย...ทำแต่งานจนไม่ยอมดูแลตัวเองแบบนี้เพื่ออะไรว่ะ..?” “...” ศิวัชยื่นมือไปจับบ่าปรานนท์ไว้ ตัวเขาเองก็เห็นปรานนท์เป็นเหมือนน้องชายคนหนึ่ง เพราะตั้งแต่รู้จักกันมาปรานนท์เอาแต่ทำงานหามรุ่งหามค่ำ ไม่เคยคิดสนใจดูแลตัวเองเลยจนบางครั้งเขาก็รู้สึกเป็นห่วง “ผมไม่เป็นอะไรจริงๆครับ...คุณศิวัชไม่ต้องเป็นห่วงผมนะครับ...” “สาวๆในงานนี้มีตั้งหลายคน แกไม่ลองมองๆดูสักคนละเผื่อจะสนใจใครบ้าง...” “ไม่ดีกว่าครับ...ผมอยู่โสดๆแบบนี้ดีกว่า...” “ตามใจแก...” ปรานนท์ยกแก้วไวน์ขึ้นดื่มแล้ววางลงบนโต๊ะ “ผมขอตัวกลับห้องเลยนะครับ งานคงไม่มีอะไรแล้ว...” “อืม...เดี๋ยวฉันก็จะกลับเหมือนกัน อ่อ...พรุ่งนี้เช้าอย่าลืมมาทานข้าวพร้อมกันนะ..?” “ครับ...” ปรานนท์รับคำเขาเสร็จก็ขอตัวเดินออกไปจากตรงนั้นเพื่อตรงกลับห้องตัวเอง แต่ระหว่างทางที่เขาเดินกลับห้อง เขาเหมือนหันไปเห็นใครสักคนหนึ่งที่รู้สึกคุ้นเคยมากๆ เขาจึงรีบเดินตามใครคนนั้นไปอย่างเร็ว “ว๊าย.” “คุณ...” ปรานนท์ตกใจมากที่ไปเดินชนอย่างแรงกับผู้หญิงคนหนึ่งจนเธอล้มไปกองที่พื้น แต่พอเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นว่าเป็น “คุณปรางนริน...” “เดินไม่ดูตาม้าตาเรือเลยนะ จะรีบไปตายหรือไง..?” เขามองหน้าเธออย่างไม่พอใจที่เธอพูดจาแบบนี้ออกมา “ผมขอโทษครับที่เดินไม่ทันระวังจนชนคุณเข้า...นี่คุณเจ็บตรงไหนหรือเปล่าครับ..?” “เจ็บซิถามได้...” เธอมองแขนตัวเองก็เห็นว่าเป็นรอยแดง แล้วพอจะลุกขึ้นยืนก็รู้สึกเจ็บที่ข้อเท้า “โอ๊ย...!” “ให้ผมช่วยพยุงนะครับ..?” “จะถามทำไม...ก็นายเป็นคนชนฉันนายก็ต้องช่วยฉันไหมล่ะ...เร็วๆซิมาพยุงฉันเร็วๆ...” “...” เขาไม่ค่อยพอใจที่เธอโวยวายแต่ก็ยอมเข้าไปพยุงตัวเธอขึ้นยืน แต่เพราะเห็นว่าเธอน่าจะยืนไม่ไหวเขาจึงตัดสินใจอุ้มช้อนตัวเธอขึ้นมา “ทำบ้าอะไรเนี้ย..?” “คุณเดินไม่ไหวหรอกเดี๋ยวผมอุ้มไปนั่งที่โซฟารับรองแขกแล้วกัน...” เขาอุ้มเธอขึ้นมาจนตัวลอย เธอกลัวจะตกจึงกอดคอเขาไว้แน่น แล้วอยู่ๆใจเธอก็เต้นแรงขึ้นมา เธอหันหน้ามาจ้องหน้าเขาใกล้ๆได้เห็นใบหน้าเขาชัดๆ ก็รู้สึกว่าเขาทั้งหล่อแล้วก็เท่ห์สุดๆเลย เขาวางเธอลงบนโซฟาแล้วก็มีชาย 2 คนที่เป็นเจ้าหน้าที่โรงแรมเดินเข้ามาหาเธอ “คุณปรางเป็นอะไรครับ..?” “ฉันล้มนะแล้วขาฉันก็พิกด้วย...ให้คนเอารถเข็นไปส่งฉันที่ห้องทีซิฉันเดินเองไม่ไหว...” “ครับ...” ปรางนรินหันไปสั่งลูกน้อง 2 คน แล้วหันมามองหน้าปรานนท์อีกครั้ง “นายไปได้แล้ว...เดี๋ยวลูกน้องฉันเอารถเข็นมารับ...” “ครับ...ผมขอโทษอีกครั้งนะครับ...” “อืม...” เขาพูดจบก็ขอตัวเดินออกไป โดยมีสายตาของปรางนรินมองตามไปอย่างไม่ละสายตา   ... วันรุ่งเช้า เวลา 8 โมง “มาพอดีเลย...ไปตักอาหารซิ...” “แล้วแฟนของคุณศิวัชละครับ..?” “กำลังลงมา...” “...” ปรานนท์เดินไปตักอาหารเช้าจนเสร็จเรียบร้อย แล้วก็เดินกลับมาที่โต๊ะเห็นแผ่นหลังหญิงสาวคนหนึ่งที่นั่งข้างๆของศิวัชก็รู้สึกคุ้นๆ “นนท์มาพอดีเลย...” เขาเดินมาตรงหน้าเธอวางอาหารลงบนโต๊ะ หันไปมองผู้หญิงที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นแฟนของศิวัชชัดๆเต็ม 2 ตา “นี่อ้อม...แฟนฉันเอง...”    
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม