บทที่ 4 ภัยร้ายคืบคลาน(1)

1418 คำ
เบญญาพรส่ายหน้าน้อยๆ ก่อนจะเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋า จากนั้นก็ก้าวเท้าฉับๆ เข้าไปในงานแบบไร้ความกังวล เธอเลือกอยู่ข้างเขาและเชื่อว่าเขาต้องปกป้องดูแลแม่อย่างที่พูดเอาไว้ได้แน่นอน เพราะฉะนั้นไม่จำเป็นต้องห่วงอะไรอีก หลังกลับมาจากถ่ายละคร ครองภพได้เข้าไปรับตำแหน่งประธานบริษัทจากบิดาอย่างเต็มตัวทำให้งานยุ่งไม่น้อย แต่ถึงงานจะยุ่งขนาดไหนเขาก็มีเวลาให้ครอบครัวเสมอ เมื่อมารดากับน้องสาวนัดออกไปกินข้าวเที่ยงด้วยมีเหรอที่เขาจะปฏิเสธ “คุณพ่อไปไหนครับคุณแม่” ลูกชายเอ่ยถามมารดาเมื่อเจอหน้ากันแต่ไม่เห็นบิดามาด้วย เพราะปกติคุณนำบุญมักจะทำตัวติดกับภรรยาเสมอ “วันนี้คุณพ่อขอไปตีกอล์ฟกับเพื่อน” มารดาตอบด้วยรอยยิ้ม คิดถึงสามีแล้วหน้าแดงเหมือนสาวน้อยเพิ่งหัดมีความรัก เพราะก่อนจะออกมาคุณนำบุญกำชับนักกำชับหนา ห้ามคุยกับผู้ชายคนอื่นเด็ดขาดนอกจากลูกชาย ดูเขาสิแก่ขนาดนี้แล้วยังจะมาหึงหวงกันอีก “ขวัญไม่ค่อยชอบกอล์ฟเลยค่ะ แดดแรง ผิวเสียหมด” ลูกสาวแสนสวยส่ายหัวเล็กน้อย เวลาคุณพ่อคุณแม่ชวนไปตีกอล์ฟเธอจะปฏิเสธเสียงแข็งทันที บอกตามตรงเป็นคนไม่ชอบแดด ถ้าต้องไปทำกิจกรรมกลางแจ้งเธอคนหนึ่งขอเซย์กูดบาย “แล้วเราชอบอะไรบ้าง แม่เห็นวันๆ เอาแต่ดูซีรีส์ ไม่ก็ช็อปปิง ตกลงเรื่องฝึกงานไปถึงไหนแล้ว” “จัดการเรียบร้อยแล้วค่ะ ขวัญจะไปฝึกงานที่บริษัทของเรา” “แผนกไหน พี่ไม่ว่างดูแลเราหรอกนะน้องขวัญ งานพี่ก็ล้นมือ” “เรียนการตลาดก็ต้องไปอยู่การตลาดสิคะพี่ไม้” “พี่บอกให้ไปฝึกงานบริษัทไอ้ฟ้าก็ไม่เอา” หมายถึงบริษัทของแผ่นฟ้าเพื่อนสนิทของตนเอง ครองขวัญถึงกับทำหน้าสยอง เธอไม่ถูกกับเพื่อนของพี่ชาย เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตั้งแต่เด็ก ถ้าต้องไปฝึกงานที่บริษัทนั้นมีหวังโดนกลั่นแกล้งอย่างแน่นอน “ทำไมต้องไปฝึกงานบริษัทคนอื่นด้วย บริษัทเราก็มีใช่ไหมคะคุณแม่” “ไม่ต้องเถียงกันค่ะ ลูกไม้กับลูกขวัญสั่งอาหารก่อนนะ แม่จะไปเข้าห้องน้ำ” “คุณแม่จะให้ขวัญไปเป็นเพื่อนไหมคะ” “ไม่ต้องลูก แม่ยังไม่แก่ขนาดนั้น ห้องน้ำก็อยู่ตรงนี้เอง” คนอายุเพิ่งจะหกสิบต้นๆ โบกไม้โบกมือห้ามปรามลูกสาวก่อนจะลุกจากโต๊ะแล้วเดินออกไปจากร้าน คุณครองรักเป็นคนดูแลตัวเองอย่างดีจึงดูเด็กกว่าอายุมาก ถ้าไม่รู้นึกว่าคนอายุสี่สิบกลางๆ ถึงจะดูแลตัวเองดีอย่างไรแต่มนุษย์เราก็หนีไม่พ้นเรื่องเจ็บป่วย ท่านจึงมีโรคประจำตัวคือความดันโลหิตสูงต้องกินยาทุกวัน หลังจากทำธุระเสร็จกำลังเดินออกมาอยู่ๆ เกิดเวียนหัวขึ้นมาทำท่าเซเหมือนจะล้ม ทว่ากลับมีใครคนหนึ่งเข้ามาประคองอย่างรวดเร็ว “เป็นอะไรไหมคะคุณน้า” เบญญาพรคือคนที่วิ่งเข้ามาประคองคุณครองรัก เธอเดินออกจากห้องน้ำพอดี เห็นคนที่กำลังเดินอยู่ข้างหน้าเหมือนจะเป็นลมจึงรีบเข้าไปช่วยเหลืออย่างไม่ลังเล “น้าเวียนหัวนิดหน่อยจ้ะ สงสัยวันนี้ลืมกินยา” คนมีโรคประจำตัวยิ้มบางเบา คิดว่าน่าจะลืมกินยาความดันตอนเช้าทำให้วันนี้มีอาการเวียนหัว เห็นทีต้องบอกให้ลูกสาวช่วยเตือนแล้วไม่อย่างนั้นเดี๋ยวลืมอีก “ดีขึ้นหรือยังคะ คุณน้ามาคนเดียวหรือมากับใครคะ” สาวแว่นใจดีเอ่ยถามด้วยความห่วงใย ในขณะที่มือยังประคองคนแก่กว่าไม่ยอมปล่อย ทำให้คุณครองรักเกิดความประทับใจ เด็กอะไรหน้าตาน่ารักแถมยังจิตใจดีอีกต่างหาก “มากับลูกจ้ะ พวกแกรออยู่ที่ร้านอาหาร” คิดถึงลูกแล้วไม่รู้จะโดนดุไหม ลืมกินยายังไม่พอ เมื่อสักครู่ลูกสาวจะมาเป็นเพื่อนก็ไม่ยอม เบญญาพรเห็นว่าร้านอาหารที่หญิงวัยกลางคนชี้ไปอยู่ไกลพอสมควรจึงอาสาไปส่งให้ถึงมือลูกๆ เธอกลัวท่านจะล้มลงอีกครั้ง คราวนี้ถ้าช่วยไม่ทันอาจจะเกิดเรื่องไม่ดีได้ “เดี๋ยวฝันไปส่งคุณน้าที่ร้านดีกว่าค่ะ เกิดเป็นลมเป็นแล้งจะแย่เอา” “ไม่รบกวนใช่ไหมหนู น้าไปเองก็ได้จ้ะ” ถามด้วยความเกรงใจ ทั้งที่จริงอยากให้สาวรุ่นลูกคนนี้ไปส่งเพราะท่านยังรู้สึกมึนหัวไม่หาย “ไม่เลยค่ะ แค่นี้เองสบายมาก” หญิงสาวค่อยๆ ประคองคนแก่กว่าเดินไปตามทางพร้อมกับสอบถามอาการของท่านไปด้วย ไม่นานทั้งคู่ก็เดินมาถึงร้านอาหาร บรรยากาศของร้านค่อนข้างหรูหราทำให้เบญญาพรรู้สึกเกร็งขึ้นมา ก่อนจะตาโตตกใจกับคนที่บังเอิญเจอกัน “คุณครองภพ!” / “คุณเหมือนฝัน!” สองหนุ่มสาวประสานเสียงพร้อมกัน เบญญาพรมองหน้าครองภพสลับกับผู้หญิงที่ตนเองช่วยด้วยความงงงวย “ลูกชายน้าเอง ครองภพ หนูน่าจะรู้จัก” คุณแม่ของพระเอกหนุ่มยิ้มภูมิใจกับความดังของลูกชาย เบญญาพรพยักหน้าหงึกๆ ยิ่งกว่ารู้จักอีก เธอกลัวตัวเองจะตาฝาดจึงเอามือขึ้นมาขยี้ตาแล้วมองอีกครั้ง ใช่ครองภพจริงเหรอ มันจะบังเอิญเกินไปไหม เธอช่วยแม่ของเขา “เลิกขยี้ตาได้แล้วคุณ ผมเองครองภพ” ชายหนุ่มยิ้มมุมปาก รู้สึกขำสีหน้าของเบญญาพร ก่อนจะปรายตามองการแต่งตัว วันนี้เธอแต่งตัวดูดีไม่น้อย ใบหน้ามีสีสันกว่าตอนอยู่ที่กองถ่าย “คุณครองภพคือลูกชายของคุณน้า” “ใช่จ้ะ ลูกชายแท้ๆ น้าคลอดเอง” “มีอะไรคะคุณแม่ คุณผู้หญิงคนนี้คือ?” ลูกสาวเอ่ยถามหลังจากมารดานั่งลงเรียบร้อย เธอจำได้ว่าไม่เคยรู้จักผู้หญิงที่กำลังยืนอยู่ตรงนี้ล้านเปอร์เซ็นต์ แล้วแม่พามาด้วยทำไมหรือว่าแม่อยากให้ลูกชายรู้จัก “พอดีตอนออกมาจากห้องน้ำแม่เวียนหัว เหมือนจะล้มได้หนูคนนี้ช่วยเอาไว้” “คุณแม่เป็นอะไรมากไหมคะ” “ไปหาหมอไหมครับคุณแม่” “แม่ไม่เป็นไรลูก หนูคนนี้ช่วยไว้ทัน” คนแก่ส่งยิ้มชื่นชมจากใจให้เบญญาพรที่กำลังจะบอกลาและขอตัวก่อนแต่พูดไม่ทัน “ขอบคุณนะคะที่ช่วยคุณแม่ ขอบคุณจริงๆ” “ไม่เป็นไรค่ะ เรื่องเล็กน้อยมาก” “ลูกไม้รู้จักกับหนูคนนี้เหรอ” “รู้จักครับ พนักงานบริษัทของน้าเทพ เราเพิ่งจะไปถ่ายละครกันมา” นอกจากถ่ายละครแล้วยังร่วมมือกันทำภารกิจหักหลังคนผู้นั้นด้วย เรื่องคนร้ายเขายังไม่ได้บอกครอบครัวเพราะกลัวพ่อแม่กับน้องสาวเป็นห่วง หลายวันมานี้ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นทำให้เขาคิดว่าคนร้ายอาจจะยอมรามือแล้ว “บังเอิญมากเลย ขอบใจมากนะจ๊ะหนู” “ไม่เป็นไรค่ะ ถ้าไม่มีอะไรแล้วฝันขอตัวก่อนนะคะ” “เดี๋ยวสิคุณ วันนี้ไม่ทำงานเหรอ” “ไม่ค่ะ วันนี้ลา ฝันจะไปเยี่ยมแม่” เพราะยังมีวันลาเหลืออีกมาก เบญญาพรจึงใช้โอกาสนี้พักผ่อนหลังจากทำงานหนักมาหลายวัน ใจจริงเธออยากลายาวสักสามสี่วันแต่เกรงใจหัวหน้าจึงยื่นใบลาเพียงวันเดียว “กินข้าวไหม ถ้ายังไม่ได้กินข้าวก็นั่งด้วยกันสิ” เขาชวนเธอ “เก้าอี้ยังว่างอยู่นะคะ เชิญนั่ง” น้องสาวก็ชวนเหมือนกัน “เอ่อคือไม่ดีกว่าค่ะ ฝันเกรงใจ” ใช่ว่าอยากปฏิเสธน้ำใจของคนที่มอบให้แต่เธอเกรงใจจริงๆ “ไม่ต้องเกรงใจหนู ถือว่าน้าเลี้ยงที่หนูช่วยน้าเมื่อกี้” คนถูกชะตากับเด็กสาวรีบเชื้อเชิญอย่างมีน้ำใจ “งั้นก็ได้ค่ะ รบกวนด้วยนะคะ” เบญญาพรเห็นสีหน้าของคุณครองขวัญ ที่พยายามชวนเธอนั่งกินข้าวด้วยกันแล้วปฏิเสธไม่ลง บวกกับอาหารตรงหน้าที่กำลังยั่วน้ำลาย ทำให้เธอตัดสินใจนั่งลงข้างเขา หาได้สนใจว่าใครจะมาเห็นและเข้าใจผิดคิดว่าเธอคือคนรักของเขา
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม