รพิชาตาโตอีกครั้ง เพราะไม่ใช่ข้างนอกเท่านั้นที่โอ่อ่า แต่ในห้องน้ำก็ใช่ย่อย มีอ่างอาบน้ำแบบสมัยเก่า ๆ ที่มีขาเหล็กรองรับ ออกแนวฝรั่งเศสจ๋ามาก ๆ ของประดับตกแต่งในห้องน้ำทุกอย่างดูหรูหราหมาเห่า เทียบไม่ได้กับบ้านของเธอเลยสักนิดเดียว นึกเปรียบเทียบ คนที่เขาร่ำรวยมีอันจะกินล้นเหลือ ชาติที่แล้วเขาทำบุญกันด้วยอะไร
“ในห้องมีโทรศัพท์นะคะ ถ้าคุณทอฟฟี่ต้องการอะไรเพิ่มเติม ก็โทรไปได้ที่เบอร์แปดค่ะ จะมีคนคอยรับสาย และคอยรับใช้บริการคุณอยู่ค่ะ”
“ขอบคุณมากนะคะคุณนีอา”
“ยินดีค่ะ” พลางพ่นลมหายใจระบายออกมา สีหน้าของคุณนีอาดูโล่ง ๆ แล้วยังหันมามองรพิชาอย่างไม่วางตาอีกด้วย
“คุณนีอามองทอฟฟี่แปลก ๆ นะคะ”
“คือ คุณน่ะหน้าเหมือนกับคุณคริสตัลมากเลยค่ะ”
“เป็นธรรมดาค่ะ ในบรรดาญาติพี่น้องของพวกเรา ดูเหมือนจะเบ้าหน้าแบบนี้หมดนะคะ ไม่ใช่ฉันที่เหมือนกับพี่คริสตัล แต่ทุกคนก็จะคล้าย ๆ กัน”
“คุณเป็นพี่น้องคลานตามกันมากับคุณคริสตัลหรือคะ”
นีอาเพิ่งมาอยู่ที่นี่ หลังจากที่คุณคริสตัลเลิกกับคุณฟาอินไปเรียบร้อยแล้ว จึงไม่ค่อยรู้ประวัติของคุณคริสตัลสักเท่าไร
“เปล่าค่ะ ฉันกับพี่คริสตัล เราเป็นเพียงลูกพี่กับลูกน้องกันเท่านั้นค่ะ พี่คริสตัลเป็นลูกสาวของพี่สาวของแม่ของฉันน่ะค่ะ” รพิชาสาธยาย
“อ๋อ... แบบนี้นี่เอง”
“ฉันมอง ๆ ดูแล้ว ไม่เห็นมีรูปของใครติดฝาผนังเลย”
ซึ่งมันจะผิดปรกติไปสักหน่อย บางบ้านจะมีแต่รูปคนในครอบครัวติดอยู่เต็มไปหมด
“นีอาเข้ามาอยู่ที่นี่ ก็ไม่เคยเห็นเหมือนกันค่ะ”
“ฝาบ้านดูโล่งไปนะคะ”
“ใช่ค่ะ”
“แล้วที่นี่มีรูปของพี่คริสตัลไหมคะ”
“มีค่ะ อัลบั้มรูปเก่า ๆ จะถูกเก็บในห้องหนังสือของคุณฟาอินค่ะ แต่คุณฟรานก็มีรูปของคุณแม่ของแกนะคะ คุณฟราน แอบเอาไว้ คงจะกลัวว่าคุณพ่อจะเห็น เลยเอาซุกเอาไว้ นีอาเห็นแล้วนะคะ แต่ก็ไม่ได้ทักท้วงแกค่ะ”
“เขาไม่ชอบให้ฟรานดูรูปแม่ของแกหรืออย่างไร”
“ที่นี่... ทุกคนไม่มีใครกล้าถามหรือพูดอะไรกับคุณฟาอินหรอกค่ะ” รพิชาพยักหน้า
เธอนึกไปถึงคนรวย ๆ ในหนังหรือละครไทย ถ้ารวยมากก็มักจะเอาแต่ใจทุกคน คุณฟาอินก็คงจะเป็นแบบนั้นเหมือนกัน
“คุณฟรานก็มักจะพูดบ่อย ๆ นะคะว่าเกลียดแม่”
“หา! จริงหรือคะ” รพิชาค่อนข้างตกใจ
“แต่แกยังเด็กน่ะค่ะ ปากก็บอกว่าไม่รักแม่ เกลียดแม่ แต่ก็เก็บรูปของแม่ไว้ ความเป็นจริงถ้าจะให้นีอาออกความคิดเห็น แกต้องคิดถึงแม่ของแกมาก ๆ ค่ะ”
รพิชานึกถึงที่ป้าเล่า พี่คริสตัลได้สามีใหม่ และตอนนี้ก็ได้ลูกใหม่กับฝ่ายนั้นไปแล้ว กรรมเวรก็ต้องตกมาเป็นของฟราน ที่พ่อไปทาง แม่ไปทาง เด็กอยู่ตรงกลางก็จะมีแต่ความเหงาหงอย
“ทำไมฟรานถึงได้บอกว่าเกลียดแม่นะ” รพิชาเปรยออกมา
“ตั้งแต่นีอามาอยู่ที่นี่ ไม่เคยเห็นคุณคริสตัลมาหาแกเลยค่ะ น่าสงสารที่สุด”
“กี่ปีแล้วคะ” รพิชาถาม เพราะว่าเธอไม่ค่อยจะได้เข้าไปวุ่นวายกับครอบครัวของป้า จะพบเจอก็เทศกาลสำคัญ ๆ ของครอบครัวเท่านั้น
“น่าจะสักสี่ปีแล้วค่ะ ตั้งแต่คุณฟรานสองขวบ ตอนนี้หกขวบแล้วค่ะ”
“โธ่เอ๊ยน่าสงสารจริง ๆ” รพิชาต้องมารับรู้ปัญหาเรื่องนี้ คนที่น่าสงสารและเห็นใจที่สุดก็คือ... ฟราน
“นีอาขอลงไปข้างล่างก่อนค่ะ จะไปดูคุณฟรานน่ะค่ะ”
“ฉันจะรีบอาบน้ำ และตามลงไปค่ะ”
“คุณจัดกระเป๋า จัดเสื้อผ้า อะไรก่อนก็ได้นะคะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันจะทำหลังจากนั้นได้ค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นเสร็จธุระแล้ว คุณก็ตามลงไปนะคะ”
ก่อนจะออกจากประตูห้อง คุณนีอาก็หันมาถามรพิชาอีกครั้ง
“คุณทอฟฟี่หิวหรือเปล่าคะ”
“ตอนนี้นะเหรอคะ” เพราะมันผิดเวลาไปหมด เธอมองนาฬิกาที่แขวนอยู่บนฝาผนัง เวลาสิบหกนาฬิกาสามสิบนาที แต่ที่ไทยห่างกันหกชั่วโมง ตอนนี้ก็น่าจะเป็นเวลาสี่ทุ่มครึ่ง
“ฉันไม่ค่อยหิวค่ะ”
“นีอาลืมบอกคุณ ใต้โต๊ะนั้น มีตู้เย็นนะคะ” เธอก้มดู
“มีช็อกโกแลต มีผลไม้ น้ำอัดลม และมีน้ำหวาน ได้ยินคุณฟาอินเล่าว่าคนไทยชอบกินอะไรหวาน ๆ”
ฟังคุณนีอาพูดแล้ว รพิชาก็คิดถึงชานมไข่มุกที่หน้าปากซอย ‘อดกินไปอีกนานแสนนานแน่ ๆ’
แล้วนึกถึงทั่วทุกหัวมุมถนนในเมืองหลวง มีแต่ของขาย โดยเฉพาะของหวาน ๆ
“คุณเคยกินของหวานจากประเทศไทยหรือเปล่าคะ”
“ยังไม่เคยเลยค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นวันหลัง ทอฟฟี่จะทำให้กินนะคะ”
“ดีเลยค่ะ” การเป็นการผูกมิตร และพูดคุยกันถูกคอไปเสียได้
“นีอาขอตัวไปดูคุณฟรานก่อนนะคะ”
“ค่ะ”
เมื่อบานประตูปิดลง พอคุณนีอาไปแล้ว
หญิงสาวถึงจะพ่นลมหายใจออกมา รพิชาทรุดตัวลงไปนั่งที่เตียงอย่างอ่อนล้า เมื่อวานนี้ยังอยู่ที่ประเทศไทยอยู่เลย แต่ตอนนี้มาอยู่ที่นี่แล้ว
รพิชาคิดถึงคุณแม่ ตอนที่อยู่ด้วยกันหญิงสาวกับแม่ก็กระทบกระทั่งกันบ้าง แต่ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นคือความสุข
ได้คิดถึงแม่ ก็พลอยคิดถึงป้าไปด้วย รพิชายังคงมีหน้าที่ที่จะต้องทำตามคำขอร้องของป้า
‘ฟราน’ ชื่อที่ผุดขึ้นมาทำให้เธอต้องรีบอาบน้ำแต่งตัว เพื่อที่จะได้ไปเจอกับหลานชาย
รพิชาไม่ลืมที่จะหยิบมือถือไปด้วย เพราะจะได้ถ่ายรูปและคลิปวิดีโอสั้น ๆ ของฟรานส่งไปให้ป้ากนกแก้ว แต่ตอนนี้เธอก็มีปัญหานิดหน่อย คือมือถือไม่มีอินเทอร์เน็ต เธอก็ลืมถามคุณนีอาไป สำหรับรพิชาแล้ว เธอให้ป้ากนกแก้วของเธอได้คุยกับฟราน
รพิชาเดินลงบันไดมาข้างล่าง จนเกือบถึงบันไดขั้นสุดท้ายอยู่แล้ว เธอต้องตกใจเมื่อเห็นเด็กชายยืนเท้าสะเอวอยู่ที่ข้างล่าง
ฟรานมีใบหน้าเหมือนกับในรูปเป๊ะ ทว่าตอนนี้ใบหน้าบึ้งตึงอย่างเห็นได้ชัด ไร้รอยยิ้มบนใบหน้าของเด็กชาย
เมื่อเห็นใบหน้าของรพิชาชัด ๆ เพราะเธอเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าแล้วนั่งลงคุกเข่าอยู่ใกล้ ๆ หญิงสาวส่งยิ้มให้กับหลานชายตัวน้อย แต่ไม่มีสัญญาณการผูกมิตรส่งมาถึงรพิชาเลยสักนิด
ฟรานนั้นหัวใจเต้นแรง เขาตกตะลึงมากที่เห็นใบหน้าของหญิงสาวที่คล้ายกับคุณแม่ของเขามาก ๆ แม้ว่าฟรานจะเห็นแม่แค่ในรูปเท่านั้น แม่ที่ไม่รักเขา และไม่หวนกลับมาเยี่ยมเยียนอีก
หัวใจของเด็กชายเต้นเร็วยิ่งกว่าเดิม ไม่มีวันไหนที่ฟรานไม่ถวิลหาแม่ เขาคิดถึงสุดหัวใจ