รอยรักบนรอยแค้น บทที่3.

1581 คำ
แอนนาหย่อนก้นลงนั่งบนเก้าอี้ชายหาดตัวหนึ่ง “ทำไมมาอยู่ตรงนี้กัน ไหนว่าส่องผู้ชายอยู่ที่ริมสระไง” “เบื่อแล้ว...ส่องจนเพลีย มันไม่แหล่เราสักคน” อริสลาตอบเสียงเพลียสุดขีด นั่งอ่อยนานนับชั่วโมง ไร้ผู้ชายสนใจ ขนาดอวดโฉมแทบหมดหน้าตัก ฝรั่งเหล่านั้นกลับแหล่สาวตัวดำ ผอมแห้งแทนเสียนี่ “สงสัยพิมกับยัยอริสไม่ใช่สเปคของฝรั่ง ดูแต่ละนางที่พวกนั้นรุมแทะสิ...ไม่ดำ ก็ผอมกะหร่อง” พิมพิสาบ่นอุบ “อิๆ” แอนนาอดไม่ได้ที่จะขำ เมื่อเพื่อนแสดงอาการเบื่อออกมาทางสีหน้า “ตรงนี้ก็โอเคนะ มีผู้เดินผ่านไป ผ่านมาปละปลาย แถมงานดี นั่งอยู่นู่น!!” อริสลาปรายตามองไปยังเก้าอี้ชายหาดตัวถัดไป มีหนุ่มสายฝอนั่งดื่มเบียร์กันอยู่ตรงนั้น แอนนามองตามสายตาเพื่อน เธอสะดุ้ง!! หน้าซีดตัวสั่น เมื่อผู้ชายหนึ่งในสองคนนั้น...คือคนที่เธอสาปส่งชั่วชีวิต...คีริว วอลคอฟ!! ต่อให้มีแค่ ‘เงา’ พาดผ่าน ผู้ชายหน้าตาแบบนี้ เธอจำได้ไม่มีทางลืม... “ใช้ได้เลยแหละ เสียอย่างเดียวซอมซ่อไปหน่อย” พิมพิสาเปรยลอยๆ หล่อนเองก็แอบชำเลืองสองหนุ่มนั่นมาพักใหญ่ๆ “หิวแล้ว...ไปหาอะไรกินกันเถอะ” แอนนารีบชักชวนเพื่อน เธออึดอัดและไม่อยากเห็นหน้าคน คนนั้นอีก “เมื่อย ขี้เกียจเดิน อริสถามแม่ค้าแล้ว เธอมีอาหารบริการด้วย...” อริสลาตอบ เธอดันตัวลุกขึ้นยืน เดินไปคุยกับระพัด ก่อนจะเดินยิ้มแฉ่งกลับมา “สารพัดยำ...กับข้าวผัดปูจานใหญ่...เอาแค่นี้แล้วกัน...มื้อหน้าค่อยจัดเต็ม” เสียงหล่อนร่าเริง แต่แอนนารู้สึกว่าอริสลาจะส่งเสียงดังเกินเหตุ เธอถึงบางอ้อ เพราะสองหนุ่มที่นั่งอยู่ถัดไปมองมายังกลุ่มเธอพร้อมกับยิ้มหวาน แอนนาจึงรีบก้มหน้าหลบ... บทที่3.คนที่เธอสาปส่ง… นิโคไลผุดลุกขึ้นจากที่นั่ง เขาเดินตรงไปยังซุ้มขายเครื่องดื่ม...ของระพัด สาวหน้าคม ดวงตาแฝงแววท้าทาย ที่มองมาพักใหญ่ๆ “เฮ้!! มีอะไรขายมั้งนี่” หน้าโซนยุโรป แต่สำเนียงไทยชัดเป๊ะ!! ระพัดหันมามอง เธอแค่นยิ้มรับ... “เท่าที่เห็นค่ะ อยากได้อะไรล่ะ ถ้าไม่เกินกำลังจะหาให้” ลูกค้าคือพระเจ้า เมื่อพวกเขาเอาสตางค์มาให้เธอ แม้จะไม่ชอบแววตาหมาหยอกไก่ของคนตรงหน้าเท่าไหร่ เธอบอกตรงๆ ไม่ถูกชะตาตั้งแต่สบตาเลยทีเดียว มันเหมือนคนตรงหน้ามีอะไรลึกๆ ซ่อนอยู่ข้างใน...ถึงหน้าจะฉาบไว้ด้วยความขี้เล่นก็ตาม... “แน่ใจ๋!!” โทนเสียงสูง เหมือนต้องการท้าทาย “ค่ะ...ถ้าอะไรที่คุณต้องการแล้วไม่ทำให้ใครเดือดร้อน แถวนี้มีขาย... ฉันก็หาให้ได้ค่ะ” “ไม่น่าอยาก... ไปนั่งดื่มกับเราหน่อยมั้ยล่ะ” ระพัดหมุนตัวหันหลังให้ เธอตอบเสียงโทนเรียบ ทั้งที่ในใจเดือดปุดๆ “ขอบคุณค่ะที่ชวน แต่ฉันทำงานอยู่ ไม่สะดวกที่จะร่วมดื่มด้วย” “ผมมีจ่ายน่า” นิโคไลกล่าวติดหงุดหงิดหน่อยๆ สาวเจ้าของร้านเครื่องดื่มหมุนตัวกลับมาเหมือนเดิม หล่อนยิ้มแต่ปาก นัยน์ตาวาววับ “ฉันรู้ค่ะ เพราะหากคุณไม่มีจ่าย ฉันคงตะเพิดออกไปแล้ว...” “อยากได้เท่าไหร่ล่ะ ที่โยกโย้นี่ เล่นตัวหรือเปล่า?” คงเป็นเพราะเท่าที่สัมผัสมา นิโคไลเจอลูกไม้แบบนี้บ่อยมาก ทำยักท่า เล่นตัว แต่หากเปย์หนักๆ ก็แทบจะถลาใส่ “ดูเหมือนเพื่อนคุณจะชะเง้อมองแล้วนะ แต่...บอกให้เป็นวิทยาทานประดับสมองกลวงๆ ของคุณสักหน่อยก็ได้ค่ะ ผู้หญิงมีหลายประเภทนะคุณ เท่าที่คุณเคยรู้จัก...คงมีแต่คนแบบที่คุณพูดถึงเป็นส่วนใหญ่ในชีวิตของคุณ... สำหรับฉัน...ไม่คือไม่...ฉันไม่ได้เล่นตัวอย่างที่คุณคิด...ฉันแค่ไม่ขายศักดิ์ศรีกิน...ฉันมีงานทำค่ะ เชิญ!!” หญิงสาวออกปากไล่แบบไม่เกรงใจ เธอยิ้มเย็นมุมปาก ชังน้ำหน้านิโคไลมากขึ้นนับเท่าตัว “เห็นผมโทรมๆ แบบนี้ ผมมีสตางค์นะคุณ” นิโคไลชักฉุน นี่เป็นครั้งแรกที่คนระดับเขาถูกตะเพิด “เก็บสตางค์ของคุณไว้...แด..ข้าวเถอะค่ะ ฉันไม่ต้องการ” ระพัดฉุนขาด เมื่อคนตรงหน้ายังตื๊อไม่เลิก “แปลก...ยังมีคนไม่ต้องการเงินอีกเหรอ?” นิโคไลยกมือเกาคาง เขาเปรยเสียงแผ่วๆ ทอดตามองระพัดนิ่งๆ “ฉันไม่ได้ปฏิเสธเงินค่ะ แต่ฉันชอบหาด้วยตัวเอง... และไม่ต้องการความปรานีแบบมีบางอย่างเคลือบแคลงจากใคร” หญิงสาวมองนิโคไลด้วยสายตาชิงชังแบบเปิดเผย “เรามาดูกัน...” CEO หนุ่มแห่งทีเซ่นกล่าวทิ้งท้าย ก่อนจะถอยหลังเดินจากไปเงียบๆ เหมือนตอนที่เดินเข้ามา “เชอะ...ฝรั่งจิ๊กกะโล่ ทำเบ่ง!!” “ลมเสียอะไรวะ?” คีริวเอ่ยถาม เมื่อเพื่อนเดินกลับมาหน้ายับยู่ยี่ “แม่นั่น!! ...ช่างเถอะ...แค่ผู้หญิงพื้นๆ” นิโคไลตวัดตาผ่านหน้าซุ้มขายเครื่องดื่มของระพัด ก่อนจะปัดความไม่พอใจทิ้ง เมื่อหล่อนไม่ได้สำคัญขนาดที่ทำให้เขาใส่ใจได้ “นู้น...มีสาวตั้งสามคน...สวยๆ ทั้งนั้นด้วย” ชายหนุ่มบุ้ยปากไปทางเก้าอี้ชายหาดที่แอนนากับเพื่อนนั่งอยู่ นิโคไลมองตาม เขายิ้มกรุ้มกริ่ม “สเปคคุณนี่นาคีริว” เสียงกลั้วหัวเราะเปรย เมื่อมองเห็นแอนนาเต็มตา ดวงตาหวานซึ้ง หน้าหวาดหยด ทรวดทรงองเอวได้สัดส่วน ผิวขาวเนียนเกลี้ยงเกลา ผมดำยาวสลวย... คีริวยิ้ม แต่ไม่ได้ตอบ... เขาสะดุดตาแม่สาวคนนั้น ตั้งแต่หล่อนเดินเข้ามารวมกลุ่ม...ที่ติดใจมากที่สุด คงเป็นเพราะปฏิกิริยาต่อต้านของหล่อนต่างหาก...ไม่ว่าเขาพยายามสบตาหล่อนเท่าใด...ดูเหมือนว่าหล่อนจะรู้ทัน และพยายามหลบสายตาเขาทุกครั้ง... คีริวยิ้มเก๋...ช่วงจังหวะที่แอนนาเงยหน้าขึ้น สายตาสองคู่สานสบกันครั้งแรก ก่อนที่แอนนา จะค่อยๆ เบือนหน้าหลบ เหมือนเดิม... แอนนากำลังงง?? หมอนั่นจำเธอไม่ได้ หรือเขากำลังวางแผนอะไรอยู่!! คีริวไม่ใช่คนความจำสั้น และเธอก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากมายอะไรเลย... แอนนาไม่รู้... เด็กหญิงในความทรงจำของคีริว...เด็กนั่นมีรูปร่างอวบท้วม ผมสั้นไม่เป็นทรง แถมยังฟันเหยิน...แต่แอนนาในเวลานี้ ตั้งแต่หัวจรดเท้า แทบจะหารอยตำหนิไม่เจอ เธอเป็นสาวสะพรั่งสมวัย วงหน้าหวานสะดุดตา แม้จะอยู่ไกลในระยะ200เมตร... “ว้ายๆ หนุ่มๆ ยิ้มให้ฉันด้วยล่ะ” เสียงกรี๊ดกร๊าดของอริสลาดังขึ้น เมื่อหล่อนมองเห็นรอยยิ้มของคีริวเข้าพอดี “Hi…” อริสลารีบกล่าวทักทาย เธอโบกมือไปมา แอนนากระตุกแขนเพื่อนไว้...แต่คงไม่ทัน เมื่อคีริวดันตัวลุกขึ้น ยืนเดินตรงมายังที่ ที่เธอกับเพื่อนๆ นั่งอยู่ “Hi…” พิมพิสาทักคีริวด้วย ชายหนุ่มตอบกลับ “How do you do?” พร้อมกับยิ้มกว้าง “ผมพูดไทยได้ครับ” เขาเสริมประโยคทักทาย ด้วยสำเนียงไทยค่อนข้างชัด พิมพิสายกมือปิดปาก “ว้าว...ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ...คุณ...” เธอเว้นช่องไว้ เปิดโอกาสให้ชายหนุ่มได้แนะนำตัว “คีริวครับ ผมชื่อคีริว” แอนนากลืนน้ำลายฝืดๆ เหงื่อซึมเต็มหน้าผาก หลังชายหนุ่มแนะนำชื่อแซ่ “พิมค่ะ นี่อริส แล้วนั่น แอนนา” พิมพิสารีบแนะนำ เธอผายมือให้ชายหนุ่มแปลกหน้านั่งลงข้างๆ คีริวโบกมือให้นิโคไล อีกหนึ่งหนุ่มที่เหลือเลยฉวยขวดเบียร์ แล้วเดินมาสมทบ หัวใจแอนนาเต้นตึกตัก!! เธอพยายามทำใจให้สงบ เรื่องเก่าเก็บที่ควรลืม ไม่สมควรรื้อฟื้นขึ้นมาอีก มันเป็นความเจ็บปวดที่เธอต้องกดไว้ให้ลึกที่สุด “นี่เพื่อนผม นิคครับ” ชื่อแซ่ของนิโคไล อาจทำให้สามสาวสะดุด เมื่อชายหนุ่มเป็นคนดัง เขาเลยหั่นชื่อของนิโคไลเสียสั้นกุด สองสาวคุยจ้อยๆ ความสัมพันธ์คืบหน้าขึ้น จนมองเผินๆ เหมือนรู้จักกันมานาน... คีริวชำเลืองมองแอนนาบ่อยครั้ง...หล่อนเป็นคนเดียวที่ไม่ค่อยคุย แถมยังทำตัวเหินห่างกับเขา กับนิโคไลหล่อนกลับยิ้มให้ แต่หากรอยยิ้มนั่นยังค้างอยู่บนหน้า ถ้าผ่านมาทางเขา รอยยิ้มนั่นจะหุบฉับลงทันใด!! “คืนนี้ไปแดนซ์กันมั้ยครับ?” นิโคไลเอ่ยชวน “ว้าว...น่าสนใจค่ะ ที่โรงแรมหรือผับด้านนอกคะ?” “ที่ไหนก็ได้เลย หากคนสวยต้องการ” หนุ่มใจป้ำเปิดทางให้...สองสาวที่กำลังตื่นเต้นก็กระโจนใส่ “อริสพักที่โรงแรม...เอาเป็นที่โรงแรมแล้วกันค่ะสะดวกดี” เหมือนหล่อนตั้งใจจะคุยโอ่ นิโคไลยิ้มมุมปาก “ผมก็พักที่นั่นพอดีเลย แหมใจตรงกันเลยนะครับ” พิมพิสากะพริบเปลือกตาปริบๆ ย้อนกลับมามองสองหนุ่มใหม่อีกครั้ง เมื่อการแต่งตัวไม่ได้บ่งบอกถึงเงินในกระเป๋า ถึงแม้พวกเธอจะได้บัตรกำนัลมาฟรี ราคาหลังลดแล้วก็ยังแพงอยู่ดี เมื่อเทียบกับสองหนุ่มตรงหน้านั้น ไม่คิดเหมือนกันว่าเขาสองคนจะมีจ่าย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม