(ไรท์เตอร์)
“มันยังไม่ตายใช่ไหม?” แม่ของฤทธิ์ที่ชื่อจันมาถามลูกชายตัวเองเมื่อเห็นว่าชะอมเงียบนิ่งไป
“ยังหรอกแค่โดนตีหัวจะตายง่ายขนาดนั้นเลยหรือไง?” ฤทธิ์บอกอย่างไม่ใส่ใจ
“มึงลองเอาจะนิ้วไปอังจมูกมันก่อนไอ้ฤทธิ์ดูให้แน่ใจถ้ามันตายจะเรื่องใหญ่และพิธีจะไม่สมบูรณ์ตามหลักแล้วมันต้องสาวพรมจรรย์และไม่ตายมันจะตายก็ต่อเมื่อเราฝังมันลงดินแล้ว”
“ก็ได้ ๆ ...ยังอะหายใจอยู่”
“ซวยหน่อยนะอีชะอมแต่เราไม่มีทางเลือกมึงเหมาะสมที่สุดแล้วในเวลานี้”จันมามองและพูดกับร่างนิ่งสนิทของชะอม
“พี่ฤทธิ์ไม่เป็นไรใช่ไหมคบหากันมาตั้งหลายปีนิ” ยอดลูกน้องที่กำลังผูกสายสิจน์ถาม
“กูไม่ได้รักสักหน่อยที่คบด้วยเพราะกลัวว่าใครจะเอามันต่างหาก กูต้องคอยเฝ้าระวังไว้หน่อยถ้ามันเสียพรมจรรย์แล้วจะหาคนอื่นก็ยาก”
“นั่นสิ ผู้หญิงแบบนี้หายากส่วนเมียจะหาเมื่อไหร่ก็ได้ทั้งนั้นแหละ” สินธุพ่อของฤทธิ์และเป็นหมอผีประจำหมู่บ้านปัจจุบันบอก
“ใช่ ถ้าแกถูกใจคนไหนก็บอกแม่เดี๋ยวไปขอให้”
“จริงเหรอแม่?!” ฤทธิ์พูดอย่างตื่นเต้น
“จริงสิ แต่แค่แกรับขันต่อจากพ่อแกเดี๋ยวก็มีผู้หญิงเข้ามาให้เลือกเป็นเบือ!!เพราะงั้นแค่อีชะอมคนเดียวช่างมันเถอะ” ทั้งหมดพูดกันเหมือนกับชะอมไม่ใช่คนและเป็นเพียงเครื่องเท่านั้น
ชะอมได้ยินทั้งหมดแต่ไม่อาจจะลุกขึ้นมาต่อต้านได้ร่างกายเย็นเฉียดเพราะเลือดที่ไหลออกมาเป็นจำนวนมาก ไม้ที่ฟาดลงมาโดนจุดสำคัญพอดีบวกกับแรงชายเลยทำให้มีบาดแผลใหญ่
“ฉันว่าเรารีบทำพิธีเถอะฟ้าเปิดแล้วและอีกอย่างเลือดออกเยอะเดี๋ยวตายก่อน” ยอดรีบบอกสามพ่อแม่ลูกที่กำลังคุยกัน
“เออ!!เริ่มเลยทุกคนเข้าสายสินจ์!!ต่อไปนี้ตระกูลเราจะเป็นตระกูลที่ได้รับคาถาศักดิ์สิทธิ์ ได้รับพลังที่แข็งแกร่งจะไม่มีใครมาเทียบตระกูลเราได้อีกแล้ว!!” สินธุบอกกับทุกคน
“ครับพ่อ”
“พนมมือไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอย่าออกจากสายสิจน์เด็ดขาด!!!” หมอผีสินธุบอกก่อนจะพนมมือไหว้และสวดคาถามที่ตัวเองได้เจอว่าเป็นคาถาเพิ่มพลังและอำนาญ เป็นคาถาที่ไม่ว่าใครก็ไม่กล้าต่อลองด้วยและเงิน บารมีจะเข้ามาไม่ขาดสาย ตอนนี้บ้านสินธุเป็นเพียงสำนักหมอผีที่ไม่ใหญ่มากนักเลยอยากมีอำนาญเพิ่มขึ้น เลยพยายามหาวิธีเพิ่มความศักดิ์สิทธิ์ให้ตัวเองจนเจอบทคาถามนต์ดำว่าต้องใช้สาวพรมจรรย์ที่ยังไม่ตายและท่องบทสวดที่ให้มาเจอนั้นก็ฝังทั้งเป็นเพื่อเป็นการเสร็จพิธี...
หลังจากนั้นหมอผีสินธุก็เริ่มสวดมนต์ดำที่ได้มาฝนฟ้าจากที่หยุดไปก็เริ่มกลับมารุนแรงอีกครั้ง ต้นไม้ไหวเอนเพราะลมพัดแรงแต่ทุกคนก็ไม่ได้กลัวเท่าไหร่นักนั่งพนมมือในสายสิจน์ไม่ไปไหน
“โอมมม~อุอะอุอะมิมายะ โอมมมม~ อะอุอะอุ...”
และเพราะว่าบาดแผลขอชะอมมันฉกรรจ์มากทำให้เลือดออกเป็นจำนวนมากสุดท้าย ชะอมก็สิ้นใจลงอย่างเงียบ ๆ พวกนั้นไม่รู้เลยว่าชะอมตายแล้วและยังคงสวดมนต์ต่อไป
และเพราะร่างบูชาสิ้นใจแล้วเลยทำให้พวกผีที่โดนเรียกมาเปลี่ยนเป้าหมายเป็นคนอื่นแทน....
“นะมามิ....” หมอผีสินธุสวดจบแล้วแต่ก็ยังไม่มีใครรู้วางแผนของเขานั้นไม่สำเร็จ
“ไปเอามันลงหลุด”
“พ่อแต่ยังไม่เห็นมีพวกผีมากินเลยนะมันสำเร็จแน่ใช่ไหม?” ฤทธิ์ถามอย่างไม่มั่นใจเท่าไหร่เพราะว่าทุกอย่างมันนิ่งไปหมด
“เออน่า!ไม่มีอะไรหรอกพวกผีเดี๋ยวมันก็ลงตามพิธีเราแค่สวดมนต์และฝังมันเอาไว้ก็พอหลังจากนั้นตระกูลเราจะเริ่มรุ่งเรืองขึ้น หึ” ความจริงแล้วหมอผีสินธุก็ไม่มั่นใจเท่าไหร่นักเพราะมันเป็นการทำพิธีครั้งแรกและไม่รู้ว่ามันจะได้ผลไหมแต่มันก็คุ้มที่ลองแม้ว่าจะต้องฆ่าคนสักคนก็ตาม...
ที่นี่เป็นบ้านนอกไม่มีไฟค่ำก็เข้าบ้านแล้วไม่มีใครมาเห็นหรือมาเจอในสิ่งที่พวกเข้ากำลังอยู่ ยิ่งดึก ๆ แบบนี้ก็ไม่มีใครออกมาหรอก
“จ๊ะพ่อ เฮ้ย!!ไอ้ยอดมาเอาชะอมลงดิ” ทั้งสองออกจากสายสิจน์เพื่อไปเอาร่างของชะอมลงดินโดยไม่รู้เลยว่าเธอได้ตายไปแล้วและพิธีกรรมก็เปลี่ยน เพราะร่างที่เอามาสังเวยนั้นเป็นศพไม่ใช่ร่างที่ยังหายใจจากจะช่วยทำให้ตระกูลรุ่งเรือนก็กลับตาลปัตรเป็นอย่างอื่นแทน...
ปัก! ปัก! ปัก!!
“อ่า~โคตรเหนื่อยเลยพี่” และเมื่อร่างของชะอมโดนฝังเสร็จแล้วผีที่รอให้จบพิธีการก็พุ่งมา
“นะนั่น...พวกผีมากินร่างอีชะอมแล้ว!!!!” จันมาพูดพร้อมยิ้ม
“ฮ่า ๆ ดี ๆ เลยไอ้ฤทธิ์ไอ้ยอดกลับเข้าในสายสิจน์เร็ว!!” หมอผีสินธุพูดอย่างสะใจเพราะคิดว่าผีพวกนั้นจะมากินร่างของชะอมแต่ความจริงแล้วผีพวกนั้นมากินคนในสายสิจน์ต่างหาก
ฟิ้วววววววว
“อ๊ากกกกกกกกก!!!!!!” ทั้งยอดและฤทธิ์กำลังก้าวเข้าสายสิจน์ก็ต้องหยุดเมื่อผีที่เรียกมาเข้าไปกัดกินพ่อแม่ของเขาที่อยู่ด้านใน
“กรี๊ดดดดดดดดดด!!!” จันมาและหมอผีสินธุร้องอย่างทรมานเพียงสังเวยผิดประเภทผีพวกนั้นก็เปลี่ยนเป้าหมายทันที
“พะพี่ฤทธิ์มันเกิดอะไรขึ้น?!!!” ยอดถามอย่างตกใจ
“กูจะไปรู้ไหมเล่า?!!” ฤทธิ์มองภาพตรงหน้าอย่างตกใจเพราะพ่อแม่เขากำลังโดนผีมากมายรุมกินวิญญาณ
“อยู่ไม่ได้แล้วเว้ยยยยยย!!!” ยอดกลัวตายเลยวิ่งหนีไปก่อน
“พ่อ...แม่....” ฤทธิ์มองพ่อแม่อย่างสิ้นหวังทิ้งตัวลงพื้นไม่สามารถทำอะไรได้ทั้งนั้น
หลังจากนั้นเขาก็ขึ้นเป็นหมอผีแทนพ่อตัวเองและเปิดสำนักเรื่อยมา...จากรุ่นสู่รุ่น
(เจ้าแม่ชะอมทอง)
เฮือกกกกกก!!!!
พรึ่บบบ!!
“ตกใจหมดอยู่ ๆ ก็ลุกขึ้นมา...” หมับ!!ฉันตื่นจากฝันที่มันเคยเกิดขึ้นจริงและเมื่อได้ยินเสียงของอัลมอนด์ข้าง ๆ ฉันก็หันไปกอดเขาทันที
“แฮ่ ๆ ” ฉันหายใจอย่างเหนื่อยหอบมันเป็นฝันร้ายที่ฉันลืมไม่ลงแม้จะผ่านมาเป็นร้อยปีแล้วก็ตาม
“ปะเป็นอะไร?” เขาถามและเอามือลูบหลังฉันอย่างอ่อนโยน
“อัลมอนด์...” ฉันเรียกชื่อเขา
“อืม ฉันเองเป็นอะไรฝันร้ายเหรอ?” เขาผละออกนิดหน่อยและถามฉันปาดเหงื่อที่ไหลออกมาไป
“อืม...ฝัน...เรื่องที่นานมาแล้ว...” ฉันพูดออกไปอย่างเหม่อลอย
“เรื่องที่นานมาแล้ว?”
“เฮ้ออออ!!ไม่มีอะไรหรอก!!ไม่มี!!” ฉันสะบัดความฝันทิ้งไปเพราะว่าไม่อยากจมปลักกับมันอีกแล้วตอนตายใหม่ ๆ ฉันทุกข์มากเสียใจมากและเอาแต่นั่งร้องไห้เป็นสิบ ๆ ปีใต้ต้นชะอมไปไหนก็ไม่ได้พ่อแม่ก็ไม่รู้ว่าฉันหายไปไหนแต่ทั้งสองก็พยายามทำบุญและกรวดน้ำให้ฉันเรื่อย ๆ เสมอมา จากที่เสียใจเรื่องผู้ชายก็เป็นเสียใจที่ไม่ได้มีโอกาสตอบแทบพ่อแม่มากกว่าจากนั้นฉันก็สะบัดบ็อบและเลิกเสียใจเพราะผู้ชายคนนั้นตลอดไป
“เอ้า!!เมื่อกี้ยังทำหน้าหมาจะร้องไห้อยู่เลย”
“ก็มันไม่มีอะไรแล้วนิ!!!ว่าแต่นายเถอะไปไหนมาฮะ?!” ฉันเท้าเอวและมองหน้าของเขา
“ฉันก็กลับมาที่นี่แหละไม่ได้ไปไหนสักหน่อย”
“แล้วเข้ามาในห้องนี้ทำไม?” ห้องนอนของฉัน
“ทีเธอยังเข้าห้องฉันได้เลยทำไมฉันจะเข้าห้องเธอไม่ได้อย่ามาหวงหน่อยเลยยัยชะอมขม!!”
“ไม่ขมย่ะ!!!ฉันมันหวานร้อยยยยยอยู่แล้ว!!โอ๊ยยยยย!!” ฉันสะบัดร่างกายแรงไปหน่อยจนลืมว่าตัวเองพึ่งสู้กับหมอผีมา
“เป็นอะไร?”
“บาดเจ็บจากการต่อสู้ไง โอ๊ยยย!!!ปวดร่างกายไปหมดเลยโว้ยยยยย!!” ฉันโวยวาย
“จะโวยวายทำไมแล้วมันต้องทำยังไงถึงจะหายอะ?” เขาถามฉัน
“ทายาหมองให้หน่อยอยู่ตรงหัวเตียง”
“ใช้ฉัน?” เขาชี้หน้าตัวเอง
“จ๊ะ พ่อหนุ่มสุดหล่อ^^” ฉันยิ้มให้เขาก่อนจะนอนคว่ำเพื่อรอให้เขามาทายาหมองให้
“ฉันไม่ทำ”
“ใช้นิดใช้หน่อยก็ไม่ได้ผัวประสาอะไรเนี่ย เฮ้ออออ” ฉันแกล้งบ่น
“ใครผัวเธอ?!!!” เขาถามเสียงดัง
“ฉันได้นายแล้วเพราะงั้นนายนั่นแหละผัวววววววว!!ฉันอัลมอนด์^^”
“....!!”
“เอายามาทาเร็ว ๆ เมื่อย!!!!”
“จิ๊!”