หลังจากชำระร่างกายจนสะอาดและประคบน้ำมันหอมแล้ว จ้าวหลันก็ถูกจับแต่งกายด้วยอาภรณ์สีสันฉูดฉาดอย่างที่ไม่เคยใส่มาก่อน มันทั้งบางและเปิดเผยผิวหนังมากเกินไป โดยเฉพาะปทุมถันอวบใหญ่ที่ถูกพวกนางเค้นมันออกมามากเป็นพิเศษจนเกินงาม
“พี่หญิงทั้งสอง นี่ไม่...เปิดเผยเกินไปหรือ” จ้าวหลันถามด้วยความประหม่า ขณะนั่งมองใบหน้าที่ถูกแต่งแต้มด้วยความรู้สึกประหลาดใจ ราวกับภาพที่เห็นนั้นมิใช่ตัวตนของนาง
แม้แต่ตัวเองยังเกือบจำไม่ได้ แล้วอดีตคู่หมายที่มิได้พบหน้ากันถึงสิบปีจะจำหน้านางได้อย่างไร
“เปิดเผยได้มากกว่านี้เสียอีก เจ้ามิดูรุ่ยอวี้เป็นตัวอย่าง เพราะเช่นนั้นเหล่าคุณชายถึงได้ติดใจมิใช่หรือ คืนนี้เจ้าต้องปรนนิบัติท่านชายใหญ่ จะสวมใส่หลายชั้นให้ลำบากทำไมกัน”
คำกล่าวของนางรับใช้ทำให้ใบหน้าขาวของจ้าวหลันร้อนผ่าวอย่างมิอาจควบคุมได้ ปรนนิบัติอย่างนั้นหรือ ช่างเป็นวาจาที่ทำร้ายจิตใจนางเหลือเกิน ตัวนางมิเคยคิดว่าจะต้องถึงขั้นขายร่างกายเพื่อความอยู่รอดเลยสักครั้ง หากแต่ครั้งนี้คงยากจะหลีกเลี่ยง
จ้าวหลันกล้ำกลืนก้อนโศกาลงคอ ศักดิ์ศรีมิอาจทำให้นางมีชีวิตรอด หากนางสามารถผ่านด่านทดสอบอันแสนโหดร้ายในราตรีนี้ได้ สวรรค์ก็คงจะเห็นใจนางมากขึ้นบ้างกระมัง
“พวกเจ้ามัวทำอันใดอยู่ ให้ท่านชายรอนาน อยากหัวขาดกันหรืออย่างไร!” รุ่ยฝานรีบมาตามเมื่อเห็นว่าพวกนางรับใช้ยังไม่ส่งตัวจ้าวหลันไปยังห้องพำนักของท่านชายใหญ่ แต่ครั้นเห็นจ้าวหลันหลังจากผ่านการประทินโฉมก็รู้สึกเสียดายอยู่ไม่น้อย
ความงดงามของนางหากเทียบกับรุ่ยอวี้นั้นนับว่ามีมากกว่าอย่างน่าตกตะลึง ยิ่งเพ่งพิศก็ยิ่งงดงามราวกับภาพวาดของเทพธิดาบุปผา กิริยาท่าทางราวกับได้รับการอบรมมาอย่างดี หากเป็นเช่นนี้คงทำให้ท่านชายพึงพอใจได้ไม่ยาก และหากนางผ่านราตรีนี้ไปได้ ก็ส่งนางไปรับแขกผู้ใหญ่ คงจะได้ค่าตัวดีไม่น้อยเลย
“ไปได้แล้ว! ส่วนเจ้า ถือขลุ่ยตามนางไปด้วย”
“เจ้าค่ะนายหญิง” นางรับใช้เข้าไปรับขลุ่ย จากนั้นเดินนำจ้าวหลัน นำทางไปยังที่พำนักชั้นบนสุด อันเป็นชั้นที่ท่านชายไท่ซือเฉินกำลังพักผ่อนอยู่
จ้าวหลันเดินตามด้วยหัวใจอันสั่นรัว ทั้งประหม่าและกังวล ใกล้เคียงกับคำว่าหวาดกลัวเสียด้วยซ้ำ แต่นางจะทำเช่นไรได้ ในเมื่อนางเป็นเพียงแค่ทาส หากทำให้ท่านชายใหญ่ไม่พอใจ ชีวิตของนางคงจบสิ้นในวันนี้
“ให้เข้าเฉพาะนางเท่านั้น” ซ่างเจียงกล่าวเมื่อเห็นสตรีที่ท่านชายของตนหมายตาเอาไว้เดินเข้ามาพร้อมกับข้ารับใช้ โดยหลังจากที่เห็นใบหน้าแท้จริงของนางแล้วก็เข้าใจว่าเหตุใดสตรีผู้นี้จึงได้รับความสนใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
งดงามหมดจด สี่คำที่มอบให้ได้ ทว่าน่าเห็นใจอยู่ไม่น้อย หากคืนนี้นางไม่สามารถทำให้ท่านชายพึงพอใจได้ คงจบชีวิตลงในวันนี้
จ้าวหลันไม่กล้าสบสายตาผู้ใด ความหวาดกลัวท่วมท้นจนทำได้แค่กอดขลุ่ยที่ข้ารับใช้ส่งมาให้ ก่อนจะถูกนำเข้าสู่ห้องประหาร
สาวงามหากต้องกลายเป็นอาหารของปีศาจ นางยอมเป็นหญิงอัปลักษณ์ที่ไร้ผู้เหลียวแลยังดีเสียกว่า ครั้นเห็นเหล่าข้ารับใช้เดินจากไปเหลือเพียงนาง ก็เริ่มรู้สึกกระวนกระวาย
ข่าวลือของท่านชายใหญ่ช่างน่ากลัวยิ่งนัก หากนางเล่นผิดเพียงนิ้วเดียว คงถูกบั่นคอเป็นแน่
ซ่างเจียงเห็นท่าทางหวาดกลัวของสตรีตรงหน้าก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ “ตามข้ามา”
จ้าวหลันสะดุ้งเล็กน้อยจากนั้นค่อยพยักหน้าและเดินตามหลังคนสนิทของท่านชายเข้าไปด้านใน ไม่สามารถกระทำสิ่งใดได้ นอกจากก้มหน้ายอมรับในโชคชะตา
ภายในห้องพักที่ประดับด้วยเครื่องตกแต่งสุดหรูหรา ดูก็รู้ว่าห้องแห่งนี้มีเพียงผู้สูงศักดิ์เท่านั้นที่สามารถใช้งานได้ ทว่าด้านในกลับอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของกำยานชวนวิงเวียน แม้ว่าจ้าวหลันจะคุ้นชินกับกลิ่นหอมที่เหล่านางโลมใช้บนเรือนกาย แต่กลับไม่คุ้นเคยกับกลิ่นเช่นนี้มาก่อน เพราะเหมือนกับกลิ่นของสมุนไพร
ทว่าภาพที่ทำให้จ้าวหลันแทบหยุดหายใจ กลับเป็นภาพของบุรุษร่างสูงใหญ่ในอาภรณ์สีโลหิตกำลังนั่งเอนกายดื่มด่ำสุรารสเลิศ ดวงตาเย็นชาไร้อารมณ์ทอดมองนภายามราตรี ทว่าเมื่อนางขยับตัวเข้าใกล้ บุรุษผู้นั้นก็หันมามองทันที
เมื่อรู้สึกตัวว่าเผลอจ้องมองมากเกินไป ร่างอรชรก็รีบคุกเข่าคำนับทันทีด้วยความกลัว ต่อให้เป็นอดีตคู่หมาย ต่อให้มิได้พบหน้ากันถึงสิบปี อย่างไรนางก็ยังกลัวเขาอยู่ดังเดิม
ยิ่งไปกว่านั้นหากแคว้นโจวจงรู้ว่าสายเลือดสุดท้ายของสกุลจ้าวแห่งจ้าวจงยังมีชีวิตรอดอยู่ นางคงจะถูกตามล่าทำให้ต้องระหกระเหินอีกครั้งอีกคราเป็นแน่ และนางก็ไม่อยากกลับไปใช้ชีวิตเช่นนั้นอีกแล้ว
จ้าวหลันแนบหน้าผากชิดลงกับพื้น ร่างกายสั่นเทา ลมหายใจติดขัดครั้นสัมผัสได้ถึงไออุ่นจากลมหายใจที่ใกล้เข้ามา ยิ่งทำให้นางไม่กล้าเงยหน้าสบตา