CHAPTER 3 “พนักงานใหม่”

2674 คำ
บริษัท อินฟินิท อินเตอร์ เท็กซ์ไทล์ โมใช้เวลาเดินทางจากบ้านมาที่ทำงานประมาณเกือบชั่วโมง แต่ยังดีที่นั่งรถเมล์เพียงแค่สายเดียว แต่ด้วยระยะทางค่อนข้างไกลกัน ถ้ามาทำงานที่นี่จริง ๆ ช่วงเช้าอาจจะต้องเผื่อเวลามากกว่านี้อีกนิดหน่อย เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ในกระเป๋าดังขึ้น เมื่อโมเดินลงจากรถเมล์มาเรียบร้อย โมหยิบขึ้นมากดรับด้วยรอยยิ้มเมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์ของพี่แพร คงจะรู้เรื่องที่เธอจะมาวันนี้แล้วสินะ ‘ยัยโม ไม่คิดจะบอกพี่เลยหรอ ถ้าพี่ฟานไม่เล่าให้ฟังพี่ก็ไม่รู้เลยนะ นี่ถึงไหนแล้ว พี่มารอเราอยู่ข้างล่าง ใกล้ถึงรึยัง’ แพรเอ่ยถาม ทันที่ที่โมกดรับสาย “ถึงแล้วค่ะ เพิ่งลงรถเมื่อกี้เลย กำลังเดินเข้าไป รอแปปนึงนะคะ” โมตอบแล้ววางสายไป ก่อนจะรีบเดินไปหาพี่ ๆ ที่รออยู่ด้านหน้าประชาสัมพันธ์ “สวัสดีค่ะ พี่แพร พี่มุก เจ๊นักรบ อยู่กันครบเชียว” โมเอ่ยทักทุกคนที่ยืนรอเธออยู่ด้านล่างตึก “ไม่ได้สิ ต้อนรับพนักงานใหม่ ต้องมาให้ครบ” มุกเอ่ยแซวน้องรัก “พนักงานใหม่อะไรเจ๊ เค้ายังไม่รับเลยแค่มายื่นใบสมัครเฉย ๆ เอง” โมตอบกลับ เธอไม่กล้าหวังมากจริง ๆ “ไปกันเถอะ พี่ ๆ มากันครบหมดแล้ว สองคนไปรอแพรที่ห้องก่อนนะ” แพรบอกมุกและนักรบ ก่อนที่ทั้ง 4 คนจะพากันขึ้นไปด้านบน “เจ๊แพร ที่ว่ามากันครบ คืออยู่ครบทั้ง 5 คนเลยหรอ” แพรพยักหน้าแล้วยิ้มให้โม “ฮือ น่ากลัวอ่ะ น้องตื่นเต้น เจ๊เข้าไปกับน้องด้วยป่ะ” “เข้า แต่เข้าไปส่งนะ เดี๋ยวไปรอในห้องทำงาน อิอิ” แพรตอบพร้อมลากโมเข้าไปในห้องทำงานทีมผู้ถือหุ้น โดยไม่รอฟังเสียงโอดโอยของรุ่นน้อง ก๊อก!...ก๊อก!...ก๊อก!... “มาแล้วค่า” แพรส่งเสียงนำเข้าไปในห้อง พร้อมกับลากแขนน้องตามเข้าไป “นี่น้องโมค่ะ แพรฝากด้วยนะคะ เสร็จแล้วไปหาพี่ที่ห้องนะยัยโม” แพรบอกโมก่อนจะเดินออกจากห้องไป “เอ่อ...สวัสดีค่ะ” โมยกมือไหว้พี่ ๆ ทุกคนในห้อง ยืนถือแฟ้มประวัติงง ๆ ว่าควรจะส่งให้ใครดี “น้องโมไม่ต้องเกร็งครับ ตามสบาย ส่วนแฟ้ม ให้ไอ้ฟานเลย ได้ข่าวว่าเป็นคนเรียกมา” หมอกหย่อนระเบิดลูกแรกใส่ฟาน และนั่นส่งผลให้เพื่อนอีกสามคนหันไปมองหน้าพร้อมรอยยิ้มแซวฟานอย่างรู้ทัน “แหะ ๆ โมไม่ค่อยชินกับบรรยากาศแบบนี้เท่าไหร่ นี่ค่ะ” โมยิ้ม พลางยื่นแฟ้มประวัติให้ฟาน ที่สะดุดกับรอยยิ้มหวานนั้นชั่วขณะ จนเสียงกระแอมจากเพื่อนดังขึ้น “ครับ” ฟานรับแฟ้มประวัติมาเปิดดู รอยยิ้มค่อย ๆ เผยออกมา เมื่อเห็นผลการเรียนของคนตรงหน้า ฟานไม่ได้พิจารณาส่วนอื่นต่อ เนื่องจากกลัวจะใช้เวลานานเกินไป เค้าดูเพียงแค่ประวัติการศึกษาแล้วส่งต่อให้เพื่อนไป “ถ้าเลือกได้ น้องอยากทำตำแหน่งอะไรครับ งานสายบริหารมันมีหลายสาขา แต่ที่น้องจบมาคือการจัดการ คิดว่าตำแหน่งงานอะไรที่อยากทำมากที่สุด” ฟานถามระหว่างรอเพื่อน ๆ ดูประวัติน้องไปด้วย “จริง ๆ โมเลือกเรียนการจัดการเพราะอยากทำงานเลขาค่ะ ที่ยื่นสมัครที่อื่นไปก็ยื่นในตำแหน่งผู้ช่วยเลขา แต่โมไม่แน่ใจว่าที่นี่มีตำแหน่งนี้รึเปล่า” โมตอบ “น้องโมคิดว่า ถ้าจะต้องเรียนรู้งานทั้งหมดที่ต้องทำ จะต้องใช้ระยะเวลาประมาณเท่าไหร่ครับ” ปราบเอ่ยถามขึ้นบ้าง หลังจากดูประวัติน้องเรียบร้อย “คิดว่าไม่เกินสองอาทิตย์ค่ะ” โมตอบด้วยความมั่นใจ เธอเป็นคนเรียนรู้ค่อนข้างไว ยิ่งเป็นสิ่งที่เธอชอบ เธอจะยิ่งศึกษาและจดจำมันได้อย่างรวดเร็ว “จากประวัติ น้องทำงานพิเศษมาเยอะมากนะครับ แล้วเท่าที่พี่รู้มา เราทำงานพิเศษที่ผับด้วย ถ้าได้งานที่นี่งานพิเศษนี่จะต้องลาออกมั้ยครับ” หมอกถามเรื่องงานพิเศษ “ข้อนี้โมคงต้องตอบตามตรงนะคะ โมอยู่กับแม่สองคนและแม่โมไม่สามารถทำงานได้ ทำให้โมต้องหางานทำเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายมาตั้งแต่ก่อนเข้าปีหนึ่ง ส่วนถ้าโมได้งานที่นี่ งานพิเศษโมก็คงลาออกไม่ได้อยู่ดีค่ะ เพราะค่าใช้จ่ายที่โมต้องรับผิดชอบมีเยอะมาก แค่เงินเดือนเด็กจบใหม่แบบโม มันคงไม่พอ” โมตอบเสียงเบา เธอกลัวว่ามันจะส่งผลกับการตัดสินใจรับเธอเข้าทำงาน แต่เธอก็ต้องตอบกลับไปตามตรง “ถ้าทำงานกลางคืนด้วย จะไม่ส่งผลกับการทำงานที่นี่หรอครับ กว่าน้องจะกลับบ้าน แล้วยังต้องตื่นมาทำงานแต่เช้า มันจะไหวมั้ย” บอยถามออกมา หลังจากที่ได้ฟัง “โมมั่นใจว่ามันจะไม่ส่งผลกับการทำงานแน่นอนค่ะ โมไม่มีอะไรมายืนยัน อยู่ที่ว่าพวกพี่จะให้โอกาสโมมั้ย แต่โมมีความจำเป็นที่จะต้องทำงานทั้งสองที่ หรืออาจจะสามที่ในอนาคต” โมตอบด้วยเสียงที่มั่นคง “หมายความว่ายังไงครับ สามที่ในอนาคต” ฟานถามกลับทันทีที่ได้ยินประโยคสุดท้ายของคนตรงหน้า “ถ้าโมได้งานที่นี่ ก็คือทำงานแค่จันทร์ – ศุกร์ ส่วนกลางคืนโมก็ทำที่ผับทุกวัน โมยังมีเวลาช่วงกลางวันเสาร์และอาทิตย์ ซึ่งโมวางแผนไว้ว่าอาจจะหางานเสริมทำในช่วงสองวันที่ว่างอยู่ค่ะ” โมหันมาตอบฟาน “เอ่อ...พี่ขอถามเรื่องส่วนตัวนิดนึงนะครับ อะไรทำให้น้องต้องทำงานเยอะขนาดนี้ มันแทบจะไม่เหลือเวลาให้พักผ่อนเลยนะครับ” เซนยกมือขึ้น เพื่อให้โมเห็นว่าเค้าเป็นคนตั้งคำถาม “โมต้องดูแลแม่ค่ะ แม่โมป่วยไม่สามารถดูแลตัวเองได้ ค่าใช้จ่ายต่อเดือน นอกจากค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ ยังต้องมีค่าคนดูแล ค่าโรงพยาบาล หรือแม้กระทั่งต้องสำรองไว้สำหรับเหตุการณ์ฉุกเฉินอีก” โมเอ่ย “แต่น้องเรียกเงินเดือนมาแค่ 2 หมื่น มันจะพอหรอครับ” ปราบถามจากข้อมูล เงินเดือนที่ต้องการที่ระบุไว้ “โมถึงต้องหางานเพิ่มไงคะ คือจะเรียกมากว่านั้นมันก็คงไม่ควร โมเพิ่งเรียนจบมา ประสบการณ์ทำงานก็ยังไม่มี เรียกไป 2 หมื่นนี่ก็เกรงใจแล้วค่ะ แหะ ๆ” โมตอบกลับพร้อมยิ้มน้อย ๆ อย่างเกรงใจ “ถ้าพวกพี่ สตาร์ทเงินเดือนให้น้องที่ 3 หมื่นห้า จะทำให้น้องเลิกทำงานพิเศษที่อื่นได้มั้ยครับ” ฟานถาม “อะแฮ่ม!! เบาได้เบาครับ เพื่อนครับ” บอยหันมากัดฟันพูดกระซิบเพื่อน “โมว่ามันอาจจะเกินหน้าเพื่อนร่วมงานคนอื่นเกินไปถ้าเด็กจบใหม่จะได้เงินเดือนขนาดนั้น แต่ถ้าให้ตอบตามความจริง โมคงดีใจที่ได้เงินเดือนเยอะ แต่มันไม่ทำให้โมเลิกทำงานพิเศษได้หรอกค่ะ” โมตอบฟาน “แล้วคิดว่าเท่าไหร่ถึงจะพอครับ” ฟานยังคงยิงคำถามต่อ “เอ่อ...อันนี้คุณฟานถามจริงจังหรือว่ายังไงคะ โมไม่รู้ว่าควรจะตอบยังไง” โมตอบกลับเบา ๆ แล้วมองหน้าพี่คนอื่น ๆ เพราะไม่รู้ว่าควรจะตอบออกไปยังไง “โอเค เดี๋ยวน้องโมไปรอพวกพี่ที่ห้องแพรก่อนแล้วกันครับ พวกพี่ขอคุยกันก่อน แล้วเดี๋ยวให้คนไปเรียกอีกที” โมพยักหน้ารับ หลังจากที่หมอกสรุปให้ แล้วลุกออกจากห้องไป หลังจากโมเดินพ้นประตูห้องออกไปแล้ว หมอกก็กดโทรศัพท์ออกไปหาแพรที่ห้อง “แพร เดี๋ยวเฮียขอคุยกันก่อน เราอย่าเพิ่งบอกน้องเรื่องพี่ขวัญนะ ชวนคุยกันไปก่อน เดี๋ยวเฮียเรียกอีกที” “ไอ้ฟาน มึงจะออกอาการเยอะเกินไปแล้ว เล่นซะน้องไปต่อไม่เป็นเลยนะมึง” บอยโวยวายใส่ฟาน เมื่อเห็นว่าหมอกวางสายแล้ว “มึง กูแค่ไม่เข้าใจ กูแค่อยากรู้ว่าต้องเท่าไหร่ถึงจะพอวะ มึงดูน้องทำงานดิ เลิกงานที่นี่ไปทำพี่ผับ กลับบ้านตีสองตีสาม ต้องตื่นกี่โมงเพื่อจะมาเข้างานให้ทัน มีเวลานอนวันนึงกี่ชั่วโมงเองวะ แล้วยังมีที่บอกจะหางานทำเสาร์อาทิตย์เพิ่มอีก” ฟานบ่นให้เพื่อนฟัง เค้าแค่ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องทำงานเยอะขนาดนั้น “ถ้าน้องบอกมึงว่าเดือนละแสน มึงจะจ่ายเงินเดือนให้น้องเดือนละแสนมั้ย” ปราบถามเพื่อนกลับ “จ่าย ถ้าพวกมึงไม่ออก เดี๋ยวกูออกเอง” ฟานตอบกลับโดยไม่ต้องคิด “อ่ะ สายเปย์ก็มา เป็นอะไรกับน้องครับเพื่อน ตอบซะเต็มปากเต็มคำ” ปราบสวนทันทีที่ได้ยินคำตอบ “มึงต้องใจเย็น ๆ ไอ้ฟาน น้องบอกแล้วไงว่าน้องต้องมีเงินเก็บไว้สำรอง แล้วน้องก็เต็มใจที่จะทำงานไง” บอยพยายามพูดให้เพื่อนฟัง “นี่พวกกูไม่ได้ซ้ำเติมนะ แต่มึงแค่ชอบน้องนะฟาน กูย้ำ แค่ชอบ น้องไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ามึงชอบ แล้วมึงจะไปเจ้ากี้เจ้าการจัดการชีวิตน้อง มันก็ไม่ถูก” เซนเตือนเพื่อน “หรือถึงแม้ว่าในอนาคตมึงจะคบกับน้องแล้ว การที่มึงเปย์น้องแล้วสั่งให้น้องหยุดทำงาน น้องจะโอเคหรอ มึงต้องถามความเห็นน้องด้วย” “แม่ง! ยุ่งยากจังวะ แล้วสรุปกูทำอะไรได้บ้างเนี่ย” ฟานเริ่มหงุดหงิด “อย่างแรก ชอบเค้าก็บอกครับ จีบไปเลย จะได้ออกตัวแรงแบบเมื่อกี้ได้ นี่อะไร บอกเค้าก็ไม่บอก เสือกออกตัวแรงซะขนาดนั้น” บอยตอบเพื่อน “อ่อ แล้วถ้ามึงเป็นห่วงน้อง มึงก็แค่คอยดูแล ไม่ใช่ห้ามไม่ให้ทำ เข้าใจมั้ยครับเพื่อน” “เออ แนะนำอย่างกับตัวเองมีเมีย” ฟานหันไปแขวะบอย “งั้นตอนนี้กลับมาเรื่องงานก่อนมั้ย จากความเห็นกูเนี่ย น้องน่าจะแทนคุณขวัญได้ ผลการเรียนน้องดีมากและสนิทกับแพร เพราะฉะนั้นตัดปัญหาเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ออกไปได้เลย” หมอกเกริ่นเข้าเรื่องงาน “ส่วนเรื่องการทำงานพิเศษของน้อง ส่วนตัวกูคิดว่าไม่มีปัญหาว่ะ มึงคิดดูนะตอนเรียนน้องก็ทำงาน แต่สามารถจบมาได้ด้วยเกียรตินิยมอันดับ 1 ดังนั้นกูคิดว่าน้องมีวินัยในตัวเองพอที่จะทำงานไปพร้อม ๆ กันได้ หรือถ้ามีปัญหาจริง ๆ ก็ค่อยมาคุยกันอีกที” เซนเสนอความเห็น “กูเห็นด้วยกับไอ้เซน ส่วนเรื่องเงินเดือน กูให้ที่ 3 หมื่นห้า พวกมึงว่าไง” ปราบหันไปถามคนอื่นที่เหลือ “กูโอเค สมกับตำแหน่งเลขาประธานฝ่ายบริหาร” บอยตอบ เซนเองก็พยักหน้าเห็นด้วย “กูไม่มีปัญหาอยู่แล้ว ส่วนอีกคน คงไม่ต้องถามเนอะ มันน่าจะอยากให้มากกว่านี้ด้วยซ้ำ หึหึ” หมอกหันไปเหน็บเพื่อนที่นั่งเงียบอยู่ข้าง ๆ “มึงแม่งกวนตีนกู เรียกน้องมาได้แล้ว ป่านนี้กังวลแย่แล้วมั้ง” ฟานบอกเพื่อน ขณะพยายามปรับอารมณ์ให้กลับมาเป็นปกติ หมอกยิ้มขำเพื่อน ก่อนจะยกโทรศัพท์กดไปหาแพรที่ห้อง “แพรครับ ให้น้องโมเข้ามาเลย บอกคุณขวัญตามเข้ามาด้วยนะ” หมอกบอกแพรก่อนจะวางสายลง รอไม่นานโมและคุณขวัญก็เดินเข้ามาในห้อง “สรุปแล้วพวกพี่รับน้องโมเข้าทำงานนะครับ ถ้าพร้อมวันจันทร์ก็เริ่มงานได้เลย” ฟานเอ่ยออกมาเมื่อโมและคุณขวัญนั่งลงที่โซฟาเรียบร้อย “ขอบคุณมากค่ะ แล้วให้โมทำตำแหน่งไหนคะ” โมยิ้มกว้าง ดีใจที่ได้งานนี้อย่างที่หวังไว้ ทั้งที่เมื่อกี้นี้เธอค่อนข้างกังวลเรื่องที่พี่ ๆ ถามไว้ก่อนจะออกจากห้องไป “ตำแหน่งเลขาประธานกรรมการบริหาร หรือเลขาน้องแพรนั่นแหละครับ” โมหันไปมองหน้าคุณขวัญที่นั่งยิ้มอยู่ข้าง ๆ “น้องมีเวลาเรียนรู้งานจากคุณขวัญ 1 เดือน และต้องรันงานต่อได้เลยโดยไม่ให้มีการติดขัดอะไร คิดว่าไหวมั้ยครับ” ฟานถามอีกคน “ไหวค่ะ โมจะตั้งใจเรียนรู้งานจากคุณขวัญให้ได้เร็วที่สุด ขอบคุณนะคะที่ให้โอกาสโม” โมยกมือไหว้พี่ ๆ ทุกคนในห้อง “ผมฝากคุณขวัญด้วยนะครับ ผมมีเรื่องแจ้งเท่านี้ ไปทำงานต่อได้เลยครับ” ปราบเอ่ยกับทั้งสองคน คุณขวัญลุกขึ้นเดินนำโมออกไปจากห้อง แต่โมหยุดชะงักก่อนจะเดินก้าวพ้นประตูออกไป แล้วหันมาถามสิ่งที่ยังค้างคาใจเธออยู่อีกเรื่องนึง “เอ่อ...ขอโทษนะคะ สรุปแล้วโมได้เงินเดือนเท่าไหร่คะ แหะ ๆ” โมเอ่ยถามเสียงเบา อย่างกล้า ๆ กลัว ๆ “พวกพี่ให้เดือนละ 3 หมื่นห้าครับ ถ้าทำงานดีรันงานต่อคุณขวัญได้หลังพ้นโปร เดี๋ยวคงมีคนพิจารณาเพิ่มให้อีกที” เซนตอบคำถามโม พลางปรายตามองไปทางเพื่อนที่นั่งยิ้มมุมปากอยู่ที่โต๊ะ “ขอบคุณมากนะคะ แต่ 3 หมื่นห้าก็เยอะแล้วค่ะ เดี๋ยวคนอื่นรู้เค้าจะหาว่าโมใช้เส้น” โมตอบอย่างเกรงใจ “ก็เส้นจริง ๆ อ่ะเนอะ เพื่อนเนอะ” บอยยื่นหน้าไปกระซิบกับฟาน จนอีกคนหันมาแยกเขี้ยวใส่ “งั้นโมขอไปหาพี่แพรก่อนนะคะ ขอบคุณอีกครั้งค่ะ” โมยกมือไหว้พี่ ๆ แล้วเดินออกจากห้องไป “คืนนี้กูไป Devil ใครไปกะกูมั่ง ไอ้บอยไปป่ะ เมื่อวานก็เบี้ยวกู วันนี้คืนวันศุกร์นะจะไม่ไปได้หรอ” ฟานถามเพื่อนขึ้น หลังจากคุยรายละเอียดเรื่องงานกันเรียบร้อย “ครับ ไปก็ได้ครับ พูดขนาดนี้ก็บังคับกูไปเลยเถอะ” บอยหันไปตอบเพื่อน “เออ บังคับ ก็กูบังคับมึงได้คนเดียวแล้วไง ที่เหลือแม่งมีเมียกันหมดแล้ว จะไปไหนก็ต้องขอเมีย ชิ” ฟานไม่วายพาดพิงถึงเพื่อนอีก 3 คน “โทษที กูไม่ต้องขอว่ะ แค่บอกให้รับรู้ หึหึ” หมอกตอบด้วยความภูมิใจ เค้าไปไหนก็แค่บอกน้อง และน้องก็มีเหตุผลพอ ไม่เคยห้ามอะไรเค้าเลย “งั้นแสดงว่าไปได้ ถูกมะ” ฟานถามย้ำกับหมอกอีกครั้ง แล้วก็ได้รับการพยักหน้าแทนคำตอบ “พวกกูก็แค่บอกให้รู้เฉย ๆ ครับ แหม ให้ความเคารพไง เมียไอ้หมอกมันไม่ได้ดุเหมือนเมียพวกกูหนิ” เซนหันมาตอบเพื่อน “แล้วไง ตกลงจะไปไม่ไป” ฟานถามย้ำทั้งสองคน “เออไป ตามไปซัก 3 ทุ่มนะ ขอกินข้าวกับภรรยาก่อน แล้วจะตามไปนะครับ” ปราบตอบฟาน พร้อมกับเซนที่พยักหน้าตามเพื่อนไปด้วยอีกคน “งั้นเจอกัน กูไปทุ่มนึง พวกมึงตามไปและกัน” ฟานบอกเวลาเพื่อน “ไปช่วยเค้าเปิดร้านรึไงวะ พวกกูไปทำงานแล้วนะ ไอ้หมอกเข้าอัครพงศ์ป่ะเนี่ย หรือจะเฝ้าเมียอยู่กับไอ้ฟาน” ปราบบ่นเพื่อน ก่อนจะหันไปถามหมอก “ไปครับ มีเอกสารค้างนิดหน่อย” เพื่อน ๆ หันมาโบกมือให้ฟาน ก่อนที่ทั้ง 4 คนจะแยกย้ายกันไปทำงาน เหลือเพียงฟานที่ประจำที่อินฟินิทในวันนี้เพียงคนเดียว
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม