รุ่งเช้าเพ็ญศรีนิวัฒน์และจีน่าเดินทางมาวันแต่เช้าเพื่อเก็บกระดูกเพื่อจะเอาไปลอยอังคาร จีน่าบอกกับเพ็ญศรีว่าเธออยากจะเอากระดูกของผู้เป็นแม่ไปลอยอังคารครึ่งหนึ่งและเก็บไว้อีกครึ่งซึ่งเพ็ญศรีก็เห็นด้วยก็เลยตกลงที่จะทำแบบนั้น
เมื่อลอยอังคารเสร็จทั้งหมดก็กลับมายังที่บ้านนิวัฒน์ขับรถมาจอดตรงหน้าบ้านของนิพลก็เห็นรถของนิพลจอดอยู่
"จีน่าหนูไปอยู่กับลุงและป้าดีไหมลูก"นิวัฒน์ถามเด็กน้อยที่นั่งมองโกศของผู้เป็นแม่อยู่เบาะหลัง
"จีน่าอยู่ที่นี่ได้ค่ะ จีน่ารบกวนคุณลุงคุณป้ามามากแล้ว"ตั้งแต่เกิดเรื่องวันนั้นก็มีคุณลุงและคุณป้าทั้งสองช่วยเหลือเธอมาตลอดจนเธอรู้สึกเกรงใจ
"เกรงใจอะไรกันจีน่า ไปอยู่กับป้ากับลุงเถอะนะถ้าหนูอยู่ที่นี่ก็ต้องโดนสามคนพ่อแม่ลูกนั้นรังแกหนูอีกแน่ ๆ "เพ็ญศรีรู้ดีว่าถ้าหากจีน่าอยู่ที่นี่ก็จะต้องคอยรองมือรองเท้าของสองแม่ลูกนั่นยิ่งจันทร์ตายไปแล้วทีนี้ใครจะคอยปกป้องจีน่าล่ะ
"ไม่เป็นไรจริง ๆ ค่ะคุณป้า จีน่าอยู่ที่นี่ได้"จีน่ายังคงยืนยันที่จะอยู่ที่นี้ต่อเธอกอดโกศที่ใส่กระดูกของผู้เป็นแม่เอาไว้แน่นเพราะนี้คือตัวแทนของแม่และสิ่งสุดท้ายที่เธอเหลืออยู่
"เอางั้นก็ได้ แต่ถ้าคนบ้านนี้ทำอะไรหนูต้องรีบวิ่งไปหาป้ากับลุงเลยนะลูก"สุดท้ายเพ็ญศรีก็ต้องยอมเมื่อจีน่าไม่ยอมไปอยู่กับเธอแต่เธอก็อดที่จะเป็นห่วงไม่ได้
"ค่ะ ถ้ามีอะไรหนูจะรีบวิ่งไปหาคุณลุงกับคุณป้า"
"รักษาเนื้อรักษาตัวด้วยนะลูก ถ้ามีอะไรก็วิ่งไปหาลุงกับป้าได้"นืวัฒน์บอกกับเด็กสาว เขาอยากจะให้เด็กคนนี้ไปอยู่ที่บ้านเพราะถ้าหากว่าอยู่ที่นี่เด็กคนที่ต้องโดนรังแกทุกวันแน่ ๆ และมันคงจะยิ่งแรงว่าเดิมอีกด้วย
"ค่ะคุณลุง งั้นหนูขอลาก่อนนะคะสวัสดีค่ะ"จีน่ายกมือไหว้ก่อนจะเปิดประตูลงจากรถถือโกศของผู้เป็นแม่เดินก้มหน้าเดินเข้าไปในบ้าน ส่วนรถของนิวัฒน์ก็วิ่งออกไปหลังจากที่เห็นว่าจีน่าเดินเข้าไปในบ้านเรียบร้อยแล้วแต่ไม่รู้ทำไมใจของสองผัวเมียคู่นี้มันรู้สึกเต้นปิดจังหวะหลังจากที่ขับรถออกมาจากบ้านหลังนั้น
จีน่าเปิดประตูเดินเข้ามาในบ้านก็เจอเข้ากับสามคนพ่อแม่ลูกที่นั่งอยู่บนโซฟา ทั้งสามคนนั่งพูดคุยหยอกล้อกันเล่นอย่างมีความสุขซึ่งมันต่างกับเธอยิ่งนักจีน่าจ้องมองไปยังสามคนนั้นกำโกศที่ใส่กระดูกของผู้เป็นแม่แน่น
"กลับมาแล้วเหรออีลูกไม่รักดี"นิพลหันมาเห็นจีน่ายืนอยู่หน้าประตูก็หยุดคุยก่อนที่จะเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของเธอ
"มึงมองกูแบบนั้นทำไม"
"ทำไมพ่อไม่ไปงานศพแม่คะ"คำถามนี้คือคำถามที่เธออยากรู้มากว่าทำไมพ่อถึงไม่ไปทั้ง ๆ ที่เขารู้อยู่แล้วว่าแม่ตาย
"แล้วมึงจะทำไม ถึงกูไม่ไปมึงก็เผาแม่มึงได้นี่"นิพลตอบจีน่าด้วยน้ำเสียงที่ไม่แยแสหรือเสียใจแม้แต่สักนิด
"พ่อพาน้าสิริกับเม็ดทรายไปเที่ยวมาใช่ไหมคะ"เพราะเธอเห็นถุงที่ใส่ของที่หน้าถุงมีคำว่า"หัวหิน"เขียนไว้อยู่
"ใช่ แล้วมึงทำไม"
"แต่แม่เป็นเมียของพ่อนะทำไมพ่อถึงไม่ไป พ่อไม่รู้เหรอว่าแขกที่มาในงานใคร ๆ ก็เอาแต่ถามหาพ่อกันทั้งนั้น"จีน่าตวาดออกมาเสียงดัง ดวงตาของเธอแดงก่ำทุกคนที่มาในงานต่างถามหาผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าพ่อของเธอและสามีของแม่ว่าไปไหนทำไมถึงไม่มางานศพเลยแต่ป้าเพ็ญศรี ลุงนิวัฒน์ และเธอก็ได้แต่เงียบไม่กล้าที่จะบอก เพราะไม่รู้ว่าจะบอกยังไงดี จะให้บอกเหรอว่าพ่อของเธอกำลังพาเมียและลูกคนใหม่ไปเที่ยวที่ไหนอยู่ก็ไม่รู้
"มึงต้องใช้คำว่าเมียเก่า แม่มึงมันคือเมียเก่ากู ส่วนเมียปัจจุบันก็คือสิริที่นั่งอยู่ตรงหน้ามึงและที่กูไม่ไปงานศพ ใช่ กูพาสิริและเม็ดทรายไปเที่ยวทะเลมา พอใจมึงเหรอยัง"นิพลชี้ไปยังสิริที่นั่งเชิดชูคอเป็นคุณนายของบ้านซึ่งบนตักของสิริก็มีเม็ดทรายที่นั่งแลบลิ้นส่งมาให้เธอ พวกเขาทั้งสามคนหนีไปเที่ยวตั้งแต่รู้ว่าจันทร์ตายนิพลคิดว่าถึงไม่มีเขายังไงศพของเมียเก่าก็ต้องถูกเผาอยู่ดีเขาก็เลยไม่สนใจเที่ยวกันสนุกตามประสาครอบครัวกันอย่างมีความสุขพึ่งจะกลับมาถึงบ้านเมื่อกี้นี่เอง
"แต่ถึงยังไงแม่ก็เป็นเมียพ่อ เป็นเมียคนแรกพ่อก็หน้าจะให้เกียรติแม่บ้าง"
เพียะ
"มึงไม่ต้องมาสอนกู กูจะให้เกียรติใครหรือไม่ให้เกียรติใครมันก็เรื่องของกูมึงจำไว้"ฝ่ามือใหญ่ฟาดลงบนหน้าของเด็กสาวที่ขึ้นชื่อว่าลูกก่อนที่จะพูดด้วยวาจาที่จีน่าเจ็บปวดไปถึงในหัวใจ
"ฮึก พ่อตบจีน่า พ่อเปลี่ยนไป"ฝ่ามือน้อยนาบแก้มข้างที่ถูกตบมองผู้เป็นพ่อด้วยสายตาที่ตัดพ้อ
"กูจะเป็นยังไงมันก็เรื่องของกู และต่อแต่นี้ไปมึงขนเสื้อผ้าและของ ๆ มึงลงมานอนห้องด้านล่าง"
"เพราะกูจะยกห้องนั้นให้ลูกทรายแทน"นิพลบอกจีน่าเสียงแข็ง
"จริงหรือคะคุณพ่อ คุณพ่อจะยกห้องนั้นให้น้องทรายจริง ๆ เหรอคะ"เม็ดทรายรีบลุกวิ่งออกจากตักผู้เป็นแม่เด็กน้อยรีบวิ่งมาอ้อนออเซาะผู้เป็นพ่อคนใหม่ของตัวเองด้วยความดีใจ
"จริงสิพ่อจะยกห้องนั้นให้เป็นของลูก"ความอบอุ่นของนิพลถูกมอบให้กับเม็ดทรายพร้อมกับส่งยิ้มกว้างไปให้ รอยยิ้มที่จีน่าเคยได้มันเมื่อก่อน
"ไม่ได้ หนูไม่ยอมห้องนั้นเป็นห้องของหนู หนูไม่ให้"จะเธอยกห้องที่ผู้เป็นแม่ออกแบบให้เธอไม่ยอมหรอก
"คุณพ่อคะพี่จีน่าเขา"เม็ดทรายปรับเสียงและสีหน้าให้สลดลงทำตัวเองให้นิพลส่งสารและมันก็สำเร็จ
"ถ้ามึงไม่ยอมมึงก็ออกจากบ้านนี้ไป แล้วเอากระดูกผีแม่มึงออกไปด้วย ไป๊"
"ฮึก คุณพ่ออย่าไปบังคับพี่จีน่าเขาเลยนะคะน้องทรายมานอนที่โซฟาก็ได้"เม็ดทรายเมื่อเห็นว่าจีน่าโดนด่าก็ยิ่งทำตัวให้น่าสงสารขึ้นไปอีก
"หนูไม่ต้องนอนที่โซฟาค่ะ ส่วนมึงถ้ายังอยากอยู่ที่นี่ก็ไปเก็บของ แต่ถ้าไม่ทำตามก็เก็บเสื้อผ้าและกระดูกผีแม่ของมึงออกไปจากบ้านนี้ซะ "จีน่ายืนมองผู้เป็นพ่อที่ออกปากไล่เธอเหมือนกับหมูกับหมาตัวนึง เธอมองไปยังลูกรักคนใหม่ของพ่อก็เห็นว่าเม็ดทรายกำลังทำหน้าตาเยาะเย้ยเธอ
"ก็ได้ค่ะ ถ้ามันทำให้คุณพ่อสบายใจหนูก็จะย้ายมาอยู่ด้านล่างก็ได้ค่ะ"ในที่สุดเธอก็ต้องเป็นฝ่ายยอมอีกสินะที่เธอต้องยอมเพราะเธอไม่มีที่จะไปจะให้เธอไปอยู่บ้านป้าเพ็ญศรีเธอก็เกรงใจ
จีน่าเดินผ่านผู้เป็นพ่อที่โอบลูกสาวคนใหม่เอาไว้เพื่อที่จะเดินขึ้นไปบนชั้นสองเพื่อที่จะเก็บของย้ายมาอยู่ที่ใหม่แต่จีน่าก็ต้องหยุดเดินเมื่อมีเสียงเรียกเธอเอาไว้
"เดี๋ยวจ๊ะหนูจีน่า"สิริเรียกจีหน้าด้วยน้ำเสียงที่หวานขนลุกซู่ต่างจากสายตาที่เย้ยหยันที่มองไปยังจีน่า
(.....) จีน่าหยุดยืนก่อนที่จะหันมามอง
"ถ้าหนูเก็บของเสร็จแล้วช่วยทำความสะอาดห้องให้ลูกสาวของน้าด้วยนะ เพราะห้องของหนูมันคงจะเต็มไปด้วยฝุ่นและ สิ่งสกปรก"คำว่า 'สกปรก'สิริกดเสียงต่ำอย่างชัดเจนมุมปากยกยิ้มราวเหมือนกับสะใจที่เธอสามารถแย่งทุกอย่างมาจากจีน่าได้
จีน่ากำราวบันไดแน่นมองสิริก่อนที่จะหันหลังแล้ววิ่งขึ้นไปด้านบนด้วยน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม เมื่อจีน่าเดินเข้ามาในห้องเธอก็ปิดประตูล็อกกลอนอย่างแน่นหนาเธอนั่งลงตรงหน้าประตูก่อนที่เธอจะเอาโกศที่ใส่กระดูกของแม่ขึ้นมากอดพร้อมกับร้องไห้ออกมาอย่างหนัก
"แม่จ๋าพ่อไม่รักจีน่าแล้ว"จีน่าร้องไห้กับโกศของผู้เป็นแม่อยู่นานในหัวใจของเธอตอนนี้มันมีแต่ความเศร้าและความเจ็บปวดเธอมองไปรอบ ๆ ห้องมันก็ชั่งว่างเปล่าสำหรับเด็กน้อยอย่างเธอ
"แม่จ๋า น้องจีน่าคิดถึงแม่เหลือเกิน"
ปัก ปึง โครม