น้ำหวานเดินออกมาจนพ้นร้านกาแฟก็พ่นลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก นึกว่าจะต้องอยู่ในสถานการณ์อันน่าอึดอัดแบบนั้นนานกว่านี้เสียอีก เกิดมามีผู้ชายมาจีบตั้งมากมายแต่ยังไม่เคยเจอผู้ชายแบบดัชกรมาก่อนในชีวิต
"น่ากลัวชะมัดคนอะไร ซื้อผู้หญิงตรงๆแบบนี้เลยเหรอไง คนบ้าเอ้ย"
หญิงสาวทำท่าทางขนลุกก่อนจะรีบเดินออกไปทันทีโดยไม่รู้ว่ามีคนขับรถตามอยู่ อาร์ทีขับรถตามหญิงสาวไปจนถึงที่บ้าน มองป้ายหน้าบ้านก็กดถ่ายภาพแล้วออกมาจากตรงนั้นทันที เขาส่งภาพไปให้นักสืบก่อนจะกดโทรศัพท์โทรไปหา
"สืบผู้หญิงที่ชื่อน้ำหวานให้หน่อย ป้ายนี้น่าจะเป็นนามสกุลของเธอ สืบให้ละเอียดเลยนะ"
(ครับนาย)
เขากดวางสายก่อนจะขับรถกลับไปยังบริษัท ท่านรองให้เขาตามดูหญิงสาว ท่าทางจะสนใจคนนี้มากถึงขนาดให้เขาตามสืบถึงครอบครัว โดยปกติเขาจะไม่แสดงอาการแบบนี้เพราะถ้าต้องการคนไหนเขาแค่มองตาเท่านั้น
ดัชกรกลับมาที่บริษัทเดินวนไปมาภายในห้องด้วยความร้อนรน ทำไมเขาถึงถูกน้ำหวานปฏิเสธทั้งที่ผ่านมาไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนทำแบบนี้กับเขามาก่อนแม้แต่คนเดียว
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
อาร์ทีเดินเข้ามาพร้อมกับซองเอกสารในมือ เขาส่งมันไปให้เจ้านายตรงหน้า ดัชกรรีบเปิดดูก่อนจะอ่านข้อมูลในนั้นอย่างละเอียด
"นารีรัตน์ กิตติภากุล ลูกสาวคนเดียวของท่าน ภพธร กิตติภากุล เจ้าของมหาวิทยาลัยเคป้า มีสิบสาขาทั่วประเทศ มหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังซะด้วย ลูกคนรวยนี่เองมิน่าล่ะถึงได้ปฏิเสธผมแบบนั้น"
เขาวางเอกสารลงก่อนจะยิ้มมุมปากออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ สวย รวย มีเสน่ห์น่าดึงดูดแถมยังไม่ง่ายเหมือนผู้หญิงที่ผ่านมาด้วย แบบนี้ค่อยน่าตื่นเต้นหน่อย
"เป็นลูกพี่ลูกน้องของคุณไบร์ท เพื่อนสนิทนายด้วยครับ"
เขาหันไปมองอาร์ทีก่อนจะยิ้มออกมาอย่างพอใจ คุณสมบัติของน้ำหวานเหมาะกับเขามากเลยนะ สวย รวย ตำแหน่งผู้บริหารมหาวิทยาลัยด้วย ถ้าได้มาครอบครองคงมีแต่คนอิจฉาน่าดู อีกอย่างเขาไม่รู้สึกแบบนี้กับผู้หญิงคนไหนมาก่อน หรือว่ามันถึงเวลาที่เขาจะมีความรักและมีครอบครัวเหมือนน้องสาวสักที
"ท่านรองครับยิ้มอะไร"
อาร์ทีเอ่ยถามอย่างสงสัย เขาเงยหน้ามองผู้ช่วยก่อนจะยักไหล่แล้วยิ้มออกมา
"เปล่า พรุ่งนี้ช่วยส่งดอกไม้ไปให้คุณน้ำหวานที่ทำงานหน่อย สืบได้ใช่มั้ยว่าเธอทำงานที่ไหน"
"มหาวิทยาลัยเคป้าสาขาใหญ่ครับ ห้องผู้บริหาร"
"ดีมาก สมกับที่เป็นผู้ช่วยคนสนิทของผมมานาน เขียนการ์ดไปด้วยว่าผมเป็นคนส่ง แล้วก็ไปหาเบอร์ติดต่อของเธอมาให้ผมด้วย"
"ได้ครับท่านรอง"
อาร์ทีโค้งตัวเล็กน้อยก่อนจะเดินออกไปจัดการตามที่เจ้านายสั่ง เขาหยิบรูปภาพที่อยู่ในซองออกมาดูเป็นภาพของน้ำหวานที่ยิ้มกว้างมองแล้วโลกสดใสไปหมด
"ทำไมน่ารักแบบนี้เนี่ย"
เขายิ้มออกมาก่อนจะเอารูปถ่ายของเธอติดไว้บนโต๊ะทำงาน เซ็นเอกสารไปมองรูปถ่ายไปดูเป็นเอามากเลยนะเขาเนี่ย
"ทำยังไงดีนะ ทำไมใจเต้นแบบนี้"
เขาเท้าคางบนโต๊ะมองรูปน้ำหวานก่อนจะยิ้มออกมาคนเดียว ใครมาเห็นคงคิดว่าเขาเป็นบ้าแน่นอนเลย ไม่ได้การแล้วเขาต้องทำอะไรบางอย่างเกี่ยวกับเรื่องของน้ำหวานซะแล้ว
'ยังไงคนนี้เขาต้องได้ ไม่อย่างนั้นตายตาไม่หลับแน่นอน'
เช้าวันต่อมา...
น้ำหวานเดินทางมาทำงานอย่างเช่นปกติ เมื่อมาถึงที่มหาวิทยาลัยเธอเดินเข้ามาในห้องทำงานก็เจอช่อดอกไม้วางอยู่บนโต๊ะทำงาน หญิงสาววางกระเป๋าลงหยิบช่อดอกไม้ขึ้นมาดูก่อนจะนิ่วหน้าเล็กน้อย
"ช่อดอกไม้.. ใครส่งมา"
เธอหมุนช่อดอกไม้โดยรอบก็เจอการ์ดใบเล็กห้อยอยู่ เธอหยิบมาดูก่อนจะเงียบไปอย่างใช้ความคิด
'ดอกไม้สำหรับคนสวยค่ะ ดัชกร'
"พี่ดัชเหรอ เก่งเนาะเจอกันวันเดียวหาที่ทำงานเธอเจอแล้ว สุดยอดจริงๆ"
น้ำหวานถอนหายใจออกมาก่อนจะวางช่อดอกไม้ลงที่โต๊ะแล้วเดินไปนั่งทำงานของตัวเองต่อจนถึงช่วงกลางวัน หญิงสาวดูนาฬิกาบอกเวลา11.45น. เธอเก็บของทุกอย่างใส่กระเป๋าก่อนจะถือช่อดอกไม้ติดมือไปด้วย
"พี่พัชคะเดี๋ยวเอาช่อดอกไม้ใส่แจกัน แล้ววางไว้ที่โต๊ะทำงานให้หน่อยนะคะ"
"ได้ค่ะคุณน้ำหวาน"
เธอส่งช่อดอกไม้ไปให้เลขาก่อนจะเดินออกไปหน้าอาคารผู้บริหาร หยิบกุญแจรถออกจากกระเป๋าเงยหน้าขึ้นมองไปตรงหน้าก็เจอพี่ดัชกำลังเดินเข้ามา ใบหน้าโดดเด่นเห็นมาแต่ไกล สวมแว่นตาดำเป็นจุดเด่นสำหรับผู้ที่พบเห็น
"จะไปไหนคะคนสวย"
ดัชกรเอ่ยทักทายหญิงสาวด้วยรอยยิ้มกว้าง ไม่ต้องเสียเวลาไปหาเพราะบังเอิญเจอกันพอดี น้ำหวานเจอชายหนุ่มก็ยกมือไหว้ตามมารยาท
"สวัสดีค่ะ มาทำธุระเหรอคะ"
"เปล่าค่ะมารับน้ำหวานไปทานข้าวไง"
"ห๊ะ... รับน้ำหวานไปทานข้าวเหรอคะ"
เธอถามย้ำเพื่อความแน่ใจ ทำไมอยู่ๆมารับเธอไปทานข้าวล่ะ นี่ตกลงว่าเขาเอาจริงเหรอเรื่องที่จะขอเลี้ยงดูเธออ่ะ เมื่อวานเธอว่าตัวเองพูดชัดเจนไปแล้วนะ เขายังต้องการอะไรอีก
"ใช่ค่ะ วันนี้พี่จะพาไปกินอาหารญี่ปุ่นแบบพรีเมี่ยม ร้านเปิดใหม่"
"น้ำหวานเลือกได้มั้ยคะ"
เธอเอ่ยถามเสียงเบา เขายักไหล่ก่อนจะเดินมากุมมือเธอไว้แล้วพาออกไปทันที หญิงสาวดึงมือกลับแต่ว่าไม่สามารถสู้แรงผู้ชายอย่างเขาได้จึงปล่อยให้เขาจับไว้แบบนั้น
"อย่าเลือกเลย"
"บังคับชัดๆเลย"
เธอบ่นออกมาแต่ก็ยอมไปด้วยอย่างปฏิเสธไม่ได้ ถ้าบอกไม่ไปเขาก็บังคับไปอยู่ดี อาร์ทีวิ่งไปเปิดประตูให้เจ้านายขึ้นรถเพราะอากาศวันนี้ค่อนข้างร้อน สำหรับคนอื่นอาจจะเย็นสบายแต่ดัชกรเป็นคนขี้ร้อนมากสภาพอากาศแบบนี้จึงไม่ได้สบายสำหรับเขา
"สวัสดีครับคุณน้ำหวาน เชิญข้างในครับ"
เขาผายมือเชิญให้เธอเข้าไปข้างใน น้ำหวานมองทั้งสองคนก่อนจะเดินเข้าไปแต่ยังคงระแวงทั้งเจ้านายและลูกน้อง เอาเถอะเขาคงไม่กล้าทำอะไรเธอหรอก ถ้าไม่อย่างนั้นนะจะโทรไปฟ้องดาริกาและคุณพ่อของเขาเลย เห็นแบบนี้เธอสนิทกับท่านณเรศนะ เมื่อก่อนเจอกันบ่อยมากเพราะท่านชอบชวนเธอกับเพื่อนทานข้าว แต่ช่วงหลังไม่ค่อยได้ไปตั้งแต่เพื่อนสนิทคบหากับชายคนรักอย่างจริงจัง แต่เธอยินดีมากที่เพื่อนได้มีครอบครัวอบอุ่น อาจจะเจอกันน้อยลงแต่เราสองคนก็ได้คุยกันตลอด
"น้ำหวานชอบกินอาหารญี่ปุ่นมั้ยคะ"
เขาชวนหญิงสาวคุยในระหว่างที่กำลังเดินทางไปร้านอาหารที่เขาจองไว้ ถ้าเธอบอกว่าไม่ชอบเขาก็จะเปลี่ยนเมนูให้เพราะที่ร้านไม่ได้มีแต่ห้องอาหารญี่ปุ่น ยังมีอีกหลากหลายให้เลือกทาน
"ก็กินได้ค่ะ พี่ดัชรู้ได้ยังไงคะว่าน้ำหวานอยู่ที่นี่"
"ก็พี่ให้อาร์ทีตามน้ำหวานเมื่อวานจนรู้ว่าเราเป็นใครและทำงานที่ไหน วันนี้พี่ก็เลยมาหาถูกไงคะ ว่าแต่น้ำหวานชอบดอกไม้ที่พี่ส่งให้มั้ย"
เขายิ้มแก้มปริหน้าระรื่นไม่รู้สึกผิดใดๆทั้งที่ตัวเองให้คนตามหญิงสาวถึงบ้าน คนอย่างดัชกรเป็นผู้ชายตรงๆ เขาไม่เคยโกหกความรู้สึกของตัวเองหรือพูดในสิ่งที่ไม่เป็นความจริง เขาทำอะไรก็บอกตรงๆไปแบบนั้นแหละ เหมือนจะเป็นคนตรงและจริงใจแต่สำหรับน้ำหวานแล้วเขาเป็นคนที่น่ากลัวคนหนึ่งเลยนะ เพราะด้วยความที่เขาไม่เกรงกลัวอะไรเนี่ยแหละเธอถึงได้กลัวใจเขาไง
"ก็สวยดีค่ะ"
"งั้นพรุ่งนี้พี่จะส่งให้อีก ส่งให้ทุกวันไปเลยเป็นไง ดอกไม้สวยๆก็ต้องเหมาะกับสาวสวยจริงมั้ยคะ"
เขายิ้มออกมาก่อนจะมองหญิงสาวด้วยรอยยิ้มหวานหยาดเยิ้ม เธอยิ้มแห้งมองเขาเบือนหน้าหนีหลบสายตาที่เขามองมามันชวนให้ขนลุกแปลกๆ
'เขาคงไม่คิดปล้ำเธอในรถใช่มั้ย... ฮือออ อยากออกไปจากตรงนี้จัง'