เฉินอ้ายเหม่ยถึงกับผงะ นางเพิ่งรู้ว่าที่ตนเองเชี่ยวชาญการใช้อาวุธ หูว่องตาไวก็เพราะนางคือนักฆ่า ที่น่าแปลกสามีของนางเป็นถึงรองหัวหน้าหน่วยมือปราบกลับเอานางมาซุกไว้หลังเรือน
นางเดินเหม่อจนกลับมาถึงเรือนหลังน้อย ความทรงจำบางส่วนในช่วงนี้กลับมาเป็นภาพบางภาพแล้วก็หายไป นางหงุดหงิดที่ตนคิดไม่ออกจึงได้คว้าเอากระบี่ออกไปฝึกอยู่ลานข้างบ้านจนเหงื่อไหลไคลย้อยก็ไปแช่น้ำเย็น สระผมเพื่อให้หัวโล่ง จากนั้นแต่งตัวแล้วออกไปหาซื้ออาหารอร่อยๆ มาตั้งโต๊ะรอสามี
“น้องหญิง เจ้าน่ารักนัก ตั้งโต๊ะรอเหมือนจะรอว่าข้าจะกลับเร็ว”
นางเออออเอาใจสามีอย่างเต็มที่ คาดหมายว่าวันนี้จะต้องได้ความจริงจากปากของเขา แต่ระหว่างสามีภรรยาการซักถามบนเตียงย่อมจะง่ายดายที่สุด สามีของนางอิ่มข้าวแล้ว และได้รับการปรนนิบัติอาบน้ำอย่างหวานชื่น เมื่อขึ้นไปนอนบนเตียงนางก็รีบฉอเลาะสามี
“ท่านพี่เจ้าคะ ได้เวลาที่ท่านจะต้องบอกความจริงกับข้าแล้ว”
มือของเหยาอิงหมิงที่กอดร่างไว้ชะงัก ใบหน้าของเขาเปลี่ยนไปพอสมควร เหยาอิงหมิงรู้ว่าวันนี้ต้องมาถึง เพียงแต่ไม่คิดว่านางจะรู้ตัวไวเยี่ยงนี้ เขารู้ว่าหัวหน้าสวีส่งคนมาคอยจับตามองนาง ส่วนนางเองก็แอบส่งคนไปตามสืบเรื่องหัวหน้าสวีกับโหลวซีห่าว
“ท่านพี่หนักใจมากหรือเจ้าคะ?”
หญิงสาวเห็นสามีถอนหายใจยาวก็รู้สึกว่าเรื่องของนางอาจจะเป็นที่หนักอกหนักใจ “ข้ารู้แล้วว่าตนเองเป็นนักฆ่า ท่านพี่...มิใช่ข้าไม่กลัว ข้าไม่เคยคิดจะไปจากท่าน”
“สักวัน ถึงอย่างไรความจริงก็ต้องปรากฏ”
“บ่ายวันนั้น หลังจากหัวหน้าสวีฆ่าหน้ากากเงินตาย พวกเรามือปราบก็มุ่งจับกุมนักฆ่าทั้งหมด แต่เพราะเจ้า...เจ้าช่วยชีวิตข้าจากคมดาบของนักฆ่า ข้ารู้สึกว่าตัวเจ้ามุ่งหวังจะหลบหนีโดยไม่ยอมต่อสู้กับผู้ใด? เมื่อข้ามีมือปราบเข้ามาช่วย เจ้าก็หายไปแล้ว พวกของเจ้าส่วนหนึ่งตายและส่วนหนึ่งก็หนี ข้าไม่พบศพของเจ้าในรถที่พวกเขาเก็บศพ จึงได้ย้อนกลับไปดูที่เกิดเหตุอีกครั้ง พบเจ้าบาดเจ็บอยู่ในพุ่มไม้จึงได้แอบนำตัวเข้ามาซ่อนไว้ในบ้านหลังนี้” เขายกมือขึ้นลูบร่างของนางเบาๆ “แต่ที่คิดไม่ถึงคือ พอเจ้าฟื้นขึ้นมากลับจำสิ่งใดไม่ได้ ข้าที่คิดจะแอบส่งเจ้าหนีออกจากเมืองเชียนเยาแต่ก็ทำไม่ได้ ทั้งยังล่วงเกินเจ้าไปมากแล้ว ไม่อาจตัดใจจึงต้อง...”
“โกหกว่าข้าเคยสัญญาจะตอบแทนท่านด้วยร่างกาย” สีหน้าและแววตาของนางดูขึงเครียด
“เจ้าอย่าโมโหไปเลยนะ ทุกอย่างที่ข้าทำล้วนเป็นไปเพราะ...”
นางยื่นใบหน้ามาจุมพิตริมฝีปากสามี “ข้าเต็มใจ! ข้าเต็มใจจะเป็นภรรยาของท่านพี่”
“นี่เจ้า...เจ้าไม่โกรธแล้วหรือ?”
“เราแต่งงานกันแล้ว ข้ายังมีสิ่งใดต้องโกรธสามีที่ดูแลข้าดีคนนี้ด้วย”
เหยาอิงหมิงยิ้มกว้างพลิกกายขึ้นเหนือนางจูบอย่างดูดดื่มและแนบแน่น หญิงสาวผลักไหล่ของเขาเบาๆ
“ท่านพี่ ข้าอยากรู้ความจริง ข้าได้เป็นนักโทษแผ่นดินหรือไม่?”
“ในหมู่นักฆ่าทั้งหมดไม่มีบันทึกรายชื่อเอาไว้ เช่นนั้นไม่มีผู้ใดรู้ว่าที่แท้แล้วนักฆ่าในกลุ่มที่หน้ากากเงินดูแลมีทั้งหมดกี่คน ตัวเจ้าเองน่าจะเป็นหนึ่งในนักฆ่าที่เพิ่งถูกส่งมาปฏิบัติหน้าที่ครั้งแรก”
เฉินอ้ายเหม่ยจึงเล่าความทรงจำและความฝันบางส่วนที่ผุดขึ้นมาให้สามีฟัง เขาจึงสรุปว่าให้นางอยู่เช่นนี้ไปก่อน
“ข้าจะค่อยๆ สืบเสาะความจริงช่วยเจ้าเอง” ใช่ว่าเหยาอิงหมิงจะไม่กังวล เขาเองก็กลัวเช่นกันว่านางจะเคยทำคดีร้ายแรงเอาไว้ แต่ไม่ว่าจะพยายามสืบหาจากหลายแหล่งก็ไม่พบ
สองสามีภรรยากอดปลอบกันจนนอนหลับไปยามฟ้าสาง เขากับนางต่างกังวลว่าสักวันหัวหน้าสวีกับนายอำเภอโหลวอาจจะมีคำสั่งจับกุมเมื่อพบว่านางเคยกระทำผิดกฎหมาย
สุดท้ายความคับข้องของเหยาอิงหมิงก็เก็บเอาไว้กับตัวไม่ได้ เขาจึงเข้าไปหาสวีเสี่ยวถงตามลำพังและสารภาพความจริงอย่างหมดเปลือก
“ข้ารอเจ้ามาตั้งนาน คิดว่าจะไม่หวังพึ่งพาข้าเสียแล้ว”
“หัวหน้าสวี ท่านรู้แล้วใช่หรือไม่?”
“ข้ารอให้เจ้ามาสารภาพกับข้าด้วยตัวเอง”
เหยาอิงหมิงจึงได้ทรุดตัวลงคุกเข่าประสานมือค้อมศีรษะเล่าสิ่งที่ตนเองได้ทำลงไป เขายอมรับว่าตนเองทำผิดกฎหมายที่ซ่อนตัวของนักฆ่าอย่างนางเอาไว้
สวีเสี่ยวถงคลี่ยิ้มน้อยๆ ก่อนจะจ้องตาของลูกน้องคู่ใจ
“เอาล่ะ! คราวนี้ข้าจะพูดเรื่องของนางให้เจ้าฟัง”
เหยาอิงหมิงลุ้นด้วยใจระทึก
“เฉินอ้ายเหม่ยผู้นี้ แท้จริงชื่อว่าอวงหลิง บ้านของนางคือหมู่บ้านในแคว้นเว่ยบนภูเขาฟากโน้นที่ถูกสำนักนักฆ่าหน้ากากเงินบุกฆ่าเมื่อสิบกว่าปีก่อน นางกับเด็กหญิงหลายคนจะถูกจับมาเลี้ยงเอาไว้โดยนักฆ่าหญิง และฝึกเด็กพวกนี้ให้เก่งในการร่ายรำ เล่นดนตรีและปรนนิบัติบุรุษเพื่อใช้ให้ไปทำงาน กลุ่มของพวกนางเพิ่งจะถูกส่งมาทำงานนี้เป็นครั้งแรก นับว่ายังไม่เคยกระทำผิด ต่อให้พวกเราจับกุมได้หลังสอบสวนก็มีสิทธิได้รับการปล่อยตัว”
สีหน้าของมือปราบหนุ่มเมื่อได้ยินคำบอกเล่านี้ราวกับยกภูเขาออกจากอก เขาก้มศีรษะขอบคุณหัวหน้าสวีซ้ำแล้วซ้ำอีก เขาเคยได้ยินมานานแล้วว่านางมีสายสืบส่วนตัวจำนวนมากซึ่งเขาคาดว่าเป็นคนของพรรคมังกรเทพที่นางรู้จักและสนิทสนม หากนางสืบแล้วย่อมเป็นเช่นนั้น
“ขอบพระคุณท่านหัวหน้า”
“ข้าแจ้งท่านพี่เรียบร้อยแล้ว ในเมื่อเจ้าให้นางชื่อเฉินอ้ายเหม่ยก็ให้เป็นเช่นนั้นเถอะ นางนับว่ามีฝีมือไม่น้อย หากต้องการเป็นมือปราบข้าก็จะอนุญาตให้นางมาทดสอบฝีมือได้”
เหยาอิงหมิงยิ้มกว้างกล่าวขอบคุณซ้ำๆ อีกหลายครั้ง แต่เรื่องที่จะให้นางมาเป็นมือปราบเหมือนหัวหน้าของเขานั้น เห็นทีจะต้องเก็บเอาไว้ก่อน เขายังอยากให้นางอยู่เฝ้าบ้านรอคอยเขากลับมามากกว่าจะมาเดินตรวจตรารอบอำเภอให้ชายอื่นได้เห็นความงดงามเย้ายวนของนาง
เฉินอ้ายเหม่ยได้ฟังเรื่องที่สามีเล่าให้ฟังแล้วก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก ในเมื่อนางมิเคยได้ทำคดีที่เลวร้ายเช่นนั้นนางก็สามารถใช้ชีวิตเยี่ยงคนปกติได้
“น้องหญิง คนของหน้ากากเงินคือคนที่ฆ่าครอบครัวของเจ้า และยังจับเจ้าไปเพื่อฝึกให้เป็นนักฆ่า บัดนี้พวกเขาก็ตายไปหมดแล้วเช่นนั้นชีวิตเจ้าทั้งบุญคุณและความแค้นล้วนสิ้นสุด ต่อไปเจ้าก็เป็นเฉินอ้ายเหม่ยภรรยาสุดที่รักของข้าได้อย่างสบายใจแล้ว”
***********************