"นายปล่อยหนูไปเถอะ"
หญิงสาวที่กำลังท้องโตกรีดร้องอย่างสุดเสียงตลอดทางที่ถูกภูผาฉุดกระชากให้เดินตามเขา
เสียงของเธอดังลั่นไร่ศีขรินแต่กลับไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วย ทุกคนในไร่ได้แต่ยืนมองกันเงียบๆ ด้วยไม่มีใครกล้าเสี่ยงเข้าไปตายแทนเธอ
"อีหวาน"
ไผ่ที่ถูกยิงจนเลือดอาบนอนอยู่กับพื้นร้องเรียกเมียรักเสียงหลง เพราะมันคงเป็นการร้องเรียกครั้งสุดท้าย ด้วยรู้อยู่แก่ใจดีว่าเมียรักจะไม่ได้กลับออกมาจากป่าทึบด้านหลังของไร่ศีขรินอีกแล้ว
"เพราะมึงอีหวานมันถึงต้องตาย ไอ้ชาติชั่ว"
ทิดดำเดินเข้าไปเตะร่างหนาของไผ่ที่นอนเลือดท่วมตัวอยู่ด้วยความคับแค้นใจที่ต้องมาเสียหญิงสาวที่เขารักและเอ็นดูเหมือนน้องคนหนึ่งไปเพราะความหึงหวงไม่เข้าท่าของมัน
"อยากไปที่ศุสานหลังไร่กันหรือไง อยากไปตายเป็นเพื่อนอีหวานมันกันหรือไง"
สุขุมคนงานเก่าแก่ที่ทำงานที่นี่มาตั้งแต่สมัยพ่อเลี้ยงอาทิตย์เป็นคนดูแลไร่แห่งนี้ยาวนานมาจนถึงไร่แห่งนี้ตกเป็นของลูกเลี้ยงคนโตของพ่อเลี้ยง ตะคอกใส่คนทั้งคู่ที่เริ่มจะทะเลาะกันอีกรอบด้วยวันนี้คนแก่อย่างเขาไม่อยากเห็นใครต้องมาตายอีก
"โธ่โว้ย"
ทิดดำใช้เท้ากระทืบหน้าของไผ่เต็มแรงให้หายแค้นใจแล้วพยุงร่างกายที่บอบช้ำกลับเข้าห้องพักที่อยู่ไม่ไกลจากตรงนั้นไป
"โอ๊ย"
ส่วนไผ่ที่นอนจมกองเลือดอยู่มีคนงานชายสองสามคนเข้ามาช่วยกันหามออกไปส่งยังโรงพยาบาล พร้อมกับการสลายตัวของกลุ่มคนงานที่มามุ่งดูเหตุการณ์ทะเลาะกัน
"ไว้ชีวิตหนูกับลูกเถอะนะนาย"
เสียงของหวานยังคงร้องขอชีวิตไปตลอดทางถึงแม้จะถูกพาเดินมาจนถึงบ้านหลังเล็กที่อยู่กลางหุบเขาท้ายไร่ศีขรินแล้วก็ตาม ที่ซึ่งใครที่ถูกพาเข้ามาจะไม่มีชีวิตรอดกลับไป เธอได้เห็นกับตามาแล้วหลายต่อหลายคนตลอดระยะเวลาสองปีที่ภูผาเข้ามาดูแลไร่ศีขรินแห่งนี้
"หุบปาก"
ภูผาเหวี่ยงร่างบางของหญิงสาวให้เข้าไปในบ้านก่อนเขา แล้วตัวเขาถึงเดินตามเข้าไปพร้อมกับปิดประตูลงกลอนล็อกอย่างแน่นหนา
"นายอย่าฆ่าหนูเลยนะ นายอย่าฆ่าหนูเลย"
หญิงสาวนั่งลงกับพื้นแล้วก้มกราบแทบเท้าของภูผาที่เดินเข้ามาภายในบ้านไม้สักหลังกะทัดรัดน่าอยู่แต่ไม่น่าเข้ามาแห่งนี้เพื่อขอชีวิตของเธอกับลูกให้ได้อยู่ต่อ เธอยังไม่อยากตายเหมือนคนก่อนๆที่ถูกพามาที่นี่
"มึงมันสำส่อนสมควรตาย"
ปลายกระบอกปืนในมือของภูผาเขี่ยไปมาบนศีรษะของหญิงสาวราวกับล้อเล่นด้วย สายตาคมมองลงไปดูอย่างดุดันอยากจะยิงจริงๆให้ความตายมันตัดสินเรื่องทะเลาะวิวาทที่แสนวุ่นวายนี้ให้จบไป
"หนูไม่ได้เล่นชู้ นายอย่าฆ่าหนูเลยนะ"
หวานถึงกับตัวสั่นไปด้วยความกลัวไม่คิดเลยว่าชีวิตจะสั้นแบบนี้ จะต้องมาตายไปพร้อมกับลูกทั้งที่ยังไม่ได้เห็นหน้ากันเลย
"มึงอย่ามาตอแหล อย่าคิดว่ากูโง่เหมือนไอ้พวกนั้น"
ภูผาตวาดลั่นใส่คนงานสาวของเขาเพราะเขานั้นรู้ดีว่าเธอไปท้องกับใครมา ถึงแม้ว่าเขาจะแทบไม่ออกจากไร่แห่งนี้ไปข้างนอกเลยก็ตาม แต่ทุกครั้งที่ออกไปคนอย่างเขาจะสังเกตสิ่งรอบตัวอย่างละเอียดและครั้งล่าสุดที่เขาออกไปเมื่อไม่นานมานี้มันก็ช่างตรงจังหวะกับที่เขาเห็นคนงานสาวคนนี้กำลังอยู่กับผู้ชายคนอื่นพอดี
"หนูกับพี่เทพเรารักกัน แต่พ่อหนูกลับยกหนูให้พี่ไผ่ เราสองคนเลยต้องแยกจากกัน"
หวานที่ร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ก่อนหน้านี้แล้วยิ่งร้องหนักขึ้นอีกเมื่อต้องพูดความจริงอันแสนเจ็บปวด เธอนั้นรักอยู่กับผู้ชายอีกคนแต่กลับไปแต่งงานออกเรือนกับไผ่เพราะพ่อของเธอต้องการเงินของเขา เธอไม่ได้เต็มใจและไม่ได้รักกับไผ่เลยทำให้เธอต้องกลายเป็นผู้หญิงเลวแบบนี้
"ค่าจ้างหนึ่งปีของมึง รู้ใช่ไหมว่าควรจะทำยังไงเพื่อให้ไอ้เด็กนั้นได้เกิดมา"
ภูผาเดินเข้าไปภายในห้องนอนที่อยู่ไม่ไกลจากห้องโถงกลางบ้านที่เขาให้คนงานสาวนั่งรออยู่ เขาหายไปไม่นานก็กลับออกมาพร้อมกับเงินปึกใหญ่เอามายื่นให้กับหญิงสาว
"นาย"
สาวที่กำลังร้องไห้อย่างหนักเพราะความกลัวตายถึงกับหยุดชะงักกลางอากาศแล้วเบิกตาให้กว้างขึ้นอย่างไม่อยากจะเชื่อว่าผู้เป็นเจ้านายที่แสนโหดเหี้ยมเป็นที่เกรงกลัวของทุกคนจะยื่นเงินก้อนโตขนาดนี้ให้กับเธอ
"เดินออกไปทางด้านหลังข้ามลำธารไปแล้วเดินไปทางเหนือมันจะเจอกับคลองแล้วมึงจะจำได้เองว่าต้องไปยังไงต่อ แล้วอย่ากลับมาให้กูเห็นหน้าอีก"
ภูผาชี้ทางออกไปจากกลางหุบเขาหลังไร่ศีขรินที่ถือเป็นความลับนี้ให้กับคนงานสาวเพื่อให้เธอออกไปเริ่มต้นชีวิตใหม่กับคนรักของเธอ เขาไม่ได้ใจดีแต่เหตุการณ์มันพาไปทั้งนั้นเหมือนกับรายก่อนๆที่เขาช่วยมาด้วยที่นี้มักมีพ่อที่หิวเงินขายลูกสาวให้กับพวกหื่นกามที่ร่ำรวยเงินทอง
"ขอบคุณนายมากนะจ๊ะ ขอบคุณจ๊ะ"
หญิงสาวพอตั้งสติได้ก็รีบก้มลงกราบแทบเท้าของเจ้านาย เธอกราบนับสิบครั้งหรืออาจจะมากกว่านั้นเพื่อเป็นการขอบคุณที่เจ้านายคนนี้ช่วยให้เธอหลุดพ้นจากการต้องอยู่กับคนไม่ได้รักแล้วไปเริ่มต้นชีวิตใหม่
"ไปให้พ้น"
ภูผาเดินไปหยิบขวดเหล้าที่ถูกเก็บเอาไว้อย่างดีในตู้ไม้ออกมาดื่มสานต่อสิ่งที่ทำเอาไว้ก่อนหน้านี้หลังจากต้องพักการดื่มไปเคลียร์เรื่องไร้สาระมา พร้อมกับไล่ตะเพิดหญิงสาวที่กำลังท้องไปด้วยเพราะเขาไม่อยากให้ใครมาเห็นเธอเข้า ในฐานะเจ้าของไร่แห่งนี้เขาอยากให้ทุกคนเข้าใจว่าเธอตายไปแล้ว
"เราไปหาพ่อกันนะลูก"
หวานหญิงสาวที่ต้องทนทุกข์อยู่กับคนที่ไม่ได้รักมานานรีบเก็บเงินตรงหน้าที่มันมีจำนวนมากมายจนในชีวิตนี้ของเธอก็คงหามันไม่ได้ขึ้นมาแล้วรีบออกจากบ้านที่เธอเคยคิดตามคนคืนว่ามันคือสุสานฝังศพไป
"ใครมาพวกมึงกัดมันได้เลย"
สายตาคมของภูผามองตามคนงานหญิงไปจนแน่ใจว่าเธอนั้นไปไกลแล้วก็ลุกเดินไปปล่อยสุนัขสายพันธ์ุต่างประเทศที่ตัวใหญ่กว่าสุนัขพันธุ์ไทยทั่วๆไปทั้งสองตัวที่อยู่ในห้องที่เขาสร้างไว้เพื่อมันทั้งสองออกมา และออกคำสั่งให้พวกมันเฝ้าบ้านส่วนเขากลับมานั่งลงดื่มเหล้าต่ออย่างสบายใจโดยไม่สนใจสิ่งรอบตัวอีกเหมือนอย่างที่เขาชอบมาตั้งแต่ใช้ชีวิตอยู่เพียงลำพังคนเดียวในตอนที่อยู่ต่างประเทศ