ตอนที่ 1. เมื่อมาเฟียเบื่อการเป็นโสดแล้ว..

1493 คำ
“ดอกเบี้ยยังไงละโว้ย!!...แกใช้มาแค่เศษเงิน ต่อให้ใช้ทั้งชาติ ก็ไม่มีทางหมด ดอกเบี้ยก็เพิ่มสิวะ” มันกระตุกยิ้มเหยียดๆ ทอดสายตามองเอียน พร้อมกับประเมิณในใจ ไอ้หนุ่มละอ่อนคิดจะใช้เงินแทนลูกหนี้ของตนเอง ต่อให้แต่งตัวดี แต่ไม่มีเงินในกระเป๋าก็เท่านั้นแหละ เขาหวังจะรวบอานิลามาเป็นเด็กในสังกัด นังคนนี้คงสร้างรายได้ให้เขาไม่น้อย แต่อานิลาดื้อและหัวแข็ง เด็กสาวนั่นโหมทำงานหนัก มาเป็นปีๆ รอดปากเหยี่ยวปากกาแบบหวุดหวิดหลายครั้ง แต่อีกไม่นานหรอก อานิลาต้องพลาด...เมื่อคนไม่ใช่เครื่องจักร...โหมทำงานหนักแบบนี้ อีกไม่นานก็คงป่วย เมื่อนั้นเขาก็จะได้ทั้งเงินและความสาวสดจากอานิลา!! แต่ดันเสือกมีตัวยุ่งมาขวาง เพราะฉะนั้นต้องแน่ใจว่า ชายผู้นี้จะไม่มีทางแทรกเข้ามาได้ มันจะได้ไม่สอดมือเข้ามายุ่งด้วย “ช่างมันเถอะอานิลา...ผมจ่ายได้ รับเซ็คไหมครับ...รออีกสักหน่อย ผมจะให้คนของผมเอาเงินสดมาให้” “ไม่เอาโว้ยเช็ค เดี๋ยวเด้ง...รับแต่เงินสดเท่านั้นแหละ” มันตอบเสียงสะบัด เริ่มไม่แน่ใจแล้วว่า เอียนมีสตางค์จริงหรือเปล่า “แน่ใจนะว่าเอาแค่เงินสด... ที่ธนาคารมีตำรวจ การปล่อยกู้ดอกเบี้ยโหดมันผิดกฎหมายนะ แน่ใจนะว่าไม่มีคดีติดตัว” เอียนเปรยเสียงเรียบ แววตาหลุกหลิกแบบนี้แน่ใจได้เลย ชายตรงหน้ามีคดีติดตัวยาวเป็นหางว่าว คนแบบนี้ไม่มีทางเผชิยหน้ากับตำรวจแน่ๆ มันเริ่มคิดหนัก เอาไงดี ระหว่างกระดาษที่มีราคา กับเงินสดที่น่าจะเสี่ยงมากกว่า เขามีทางเลือกแค่ทางเดียว แต่หากพลาดคงหมดโอกาสเสวยสุขอยู่นอกกรงไปอีกนาน “อะไรก็เอามาเถอะ หากเช็คเด้ง กูจะตามอีนี่เป็นเงาเลยคอยดู” “เธอเป็นหนี้ผู้ชายคนนี้เท่าไรอานิลา?” เอียนหันมาถามย้ำ เขาจ่ายตามจำนวนที่มันบอกได้ แต่ไม่อยากให้มันลำพองใจไปนัก หากคิดจะเอาเปรียบกันซึ่งหน้า ต้องออกแรงมากกว่านี้ “ฉันไม่รู้หรอกค่ะ หนี้ก้อนนี้พ่อเป็นคนสร้างไว้” อานิลาตอบเสียงอ่อย เธอไม่รู้จำนวนหนี้ และไม่มีความรู้ ต้องทำงานใช้แรงชดใช้ไปวันๆ เธอเองก็มืดแปดด้าน พึ่งพาใครไม่ได้เลย เอียนถอนใจ แววตาเขาสลดลง เขาสุขสบายมาตั้งแต่เกิด อยากได้อะไรคนรอบตัวก็รีบหามาให้ ไม่เคยต้องดิ้นรนสักครั้ง แถมยังมีอำนาจชีนิ้วสั่งได้เกือบทุกคน “ผมจะจ่ายแทนอานิลาเอง แต่หากเป็นไปได้ อย่าทำแบบนี้กับคนอื่นอีก การเอาเปรียบกันน่ะ มันไม่ดี หางานสุจริตทำสิ ชีวิตจะได้ไม่ต้องหวาดระแวง ถ้าไม่มีที่ไป ไปหาผมได้ที่โคลนะ” เจ้าหนี้อานิลายืนตัวแข็งทื่อ เปลือกตาที่หลุบลงถ่างขยาย มองเอียนเหมือนไม่อยากเชื่อตา “คะ โคลเหรอ?” “ใช่ ที่นั่นน่าจะมีงานดีๆ ให้ทำ เอานามบัตรนี่ไปนะ บอกเขา พวกเขาจะช่วยคุณเอง?” เอียนพูดเสียงเรียบ ส่งเช็คกับนามบัตรของตัวเองให้ชายตรงหน้า “คือ...คุณแน่ใจนะ ว่าไม่ได้ส่งผมไปตาย” ชายผู้นั้นถามกลับเสียงสั่น ท่าทีคุกคามก็ลดลงด้วย เหงื่อตกเต็มหน้าผาก เขารีบยกมือปาดเหงื่อ คนอิตาลีมีใครไม่รู้จักบ้างล่ะ โคล เบเนคอฟ หรือ มาอานิลา...3ตระกูลใหญ่แห่งอิตาลี!! สามสิงห์ที่ควบคุมการค้าหลากหลายชนิด มหาอำนาจทางการเงิน และเป็นกึ่งมาเฟียกลายๆ แต่...ผู้มีอำนาจขนาดนั้น มารู้จักเด็กสาวยากไร้อย่างอานิลาได้ยังไง “ทำไมคิดแบบนั้น?” “ก็คนระดับคุณ จะมารู้จักกับอานิลาได้ไง” นั่นสิอานิลาเองยังงงๆ เธอกับเอียนวนเวียนมาเจอกันได้ยังไง มันคงเป็นโชคชะตาแหละ “อานิลาทำงานที่ร้านอาหารใครือโคลไง...ไม่แปลกหรอกหากผมจะรู้จักกับเธอ...เธอมีปัญหาผมก็อยากช่วย...ตกลงว่าไง จะไปทำงานที่โคลไหม น่าจะมีสักงานแหละที่เหมาะกับคุณ” แววตาแข็งกร้าว มีเงามัจจุราชซ่อนอยู่ด้านใน ชายผู้นั้นกลืนน้ำลายลงคอฝืดๆ จากนี้ไปเขาคงไม่กล้ามาย่านนี่ไปอีกนาน หากวันดวงตกเจอะเจอกันขึ้นมา เขาอาจไม่มีทางได้มองพระอาทิตย์ขึ้นในวันพรุ่งนี้ โคล น่ะมีแต่คนน่ากลัวทั้งนั้น “เอามาสิ จบๆ ก็ดีเหมือนกัน ขี้เกียจตามทวงแล้ว” เอียนอมยิ้ม ชายผู้นี้ตัดสินใจถูก คนชั่วที่มันฝังลึกในสันดาน ไม่มีทางกลับตัวเป็นคนดีได้ คนพวกนี้ควรกำจัดทิ้ง เพราะจะได้ไม่ไปสร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่นอีก ตอนที่ 2. สาวน้อยกลอยใจ เอียนยื่นเช็คให้ พร้อมทั้งสำทับเสียงหนักๆ “อย่าให้รู้ว่าคุณตามรังควานอานิลาอีกนะ...ผมจะไม่ทนดูคนในปกครองเป็นอันตราย และหากจะกวาดล้างกันจริงๆ คุณกับพวกของคุณทานผมไม่ไหวหรอก” ชายผู้นั้นยิ้มแหยๆ รีบยัดเช็คใส่กระเป๋าแล้วก็รีบเผ่นแนบ...สู้กับคนมีอำนาจมีแต่ทางแพ้ ในเมื่อเขามีทั้งอำนาจ!! และเงินในมือ... “เธอยังมีเจ้าหนี้อีกไหม นอกจากรายนี้” “ไม่มีแล้วค่ะ หมอนี่เป็นเจ้าหนี้ของพ่อ รายใหญ่ที่สุด นอกนั้นเดี๋ยวอานิลาค่อยๆ ทยอยคืนก็ได้ค่ะ” อานิลาตอบเสียงอ่อย เธอเดินขึ้นบันไดบ้าน ท่าทางลังเลนั่น ทำให้เอียนอดหัวเราะไม่ได้ “ไม่ต้องอายหรอก มันไม่ใช่เรื่องที่น่าอายสักหน่อย” เอียนปลอบใจ “ฉันไม่ได้อายค่ะ ฉันคิดว่า ฉันเอาเปรียบคุณอยู่ เงินก้อนนั้น ฉันคงต้องทำงานทั้งชาติกว่าจะชดใช้คุณหมด” “ก้ไม่ใช่ปัยหาสักหน่อย ขอให้อยู่ด้วยกันนานๆ หากเกรงใจผมก็ช่วยทำบางอย่างให้ผมหน่อยสิ” เอียนพูดเสียงแผ่วๆ แต่ระยะใกล้อานิลาได้ยินชัดเต็มสองหู “คะ คุณอยากให้ฉันทำอะไรให้คุณเหรอคะ?” อานิลาย้อนถาม “ว่างๆ ช่วยไปทำอาหารให้ผมกินหน่อยแค่นั้นแหละ” อานิลาขมวดคิ้ว คฤหาสน์หลังนั้นเต็มไปด้วยบริวารของเขา หน้าที่ที่เขาพูดถึง น่าจะมีคนทำให้อยู่แล้ว แต่ทำไมเขาถึงเรียกร้องแบบนั้นหับเธอ “ผมอยากลองสัมผัสการกินของคนระดับเธอดูน่ะ” เอียนรีบบอกก่อนที่อานิลาจะเข้าใจผิด “อ้อ...ฉันไม่ค่อยได้กินดีนักหรอกค่ะ มีอะไรก็กินๆ ไป ฉันแค่กินกันตายเอง คุณเถอะ จะกินแบบที่ฉันกินได้เหรอคะ” “งั้น เอาแบบนี้ไหม เธอลองมาสัมผัสสิ่งที่ผมคุ้นเคยทุกวัน หรือไม่ก็ลองสลับกันดู” เอียนแนะนำ อานิลาย่นปลายจมูก เธอไม่ค่อยเข้าใจนัก ชายผู้นี้ว่างหรือไงนะ ไหนคนรอบๆ ตัวเธอมักจะพูดถึงเขา เอียนเป็นคนที่แทบไม่มีเวลาส่วนตัวเลย ทุกนาทีของเขามีค่ากว่าทองคำ “ท่าคุณต้องการแบบนั้นก็ได้ค่ะ” อานิลาคิดคำตอบไม่ออก เธอเลยตอบแบบขอไปที เธอกับเขาคงผูกติดกันอีกนาน หนี้ที่เขาชดใช้แทน มันมีมูลค่ามหาศาสนี่นา เอียนนิ่งมองสภาพห้องโทรมๆ เก่าแต่สะอาด ตัวอาคารสีซีด สีที่ผนังกะเทาะร่อนเป็นหย่อมๆ เขาแอบเบ้ปาก ปล่อยให้อานิลาอยู่ที่นี่นานกว่านี้ไม่ได้แล้ว เขาควรพาเธออกไปจากสถานที่เสื่อมโทรมนี่สักที “คุณรออยู่ข้างนอกเถอะค่ะ ห้องมันแคบ ฝุ่นก็เยอะด้วย ฉันใช้ซุกหัวนอนอย่างเดียว” เธอเปิดประตูและรีบห้ามเอียนไว้ แต่เอียนไม่ฟัง เขาเดินตามไปติดๆ ปิดงับประตูห้องลงหน้าตาเฉยๆ อานิลาสะดุ้ง ห้องแคบทำให้ใกล้ชิดกันเกินเหตุ แค่ขยับตัวก็เกือบจะสัมผัสกันแล้ว เธอจึงพยายามบีบตัวให้เล็กลงอีก รีบเก็บข้าวของของตัวเองใส่ลงในกระเป๋าผ้า พยายามโฟกัสแต่งานที่ตัวเองทำ พยายามไม่สนใจผู้ชายคนเดียวในห้อง ที่ยืนอยู่เยื้องๆ... เอียนมองเลยที่นอนยับยุ่งตาปรอย ลมหายใจเขาแรงขึ้นๆ เมื่อเห็นอานิลาก้มๆ เงยๆ บั้นท้ายส่ายยั่วไปมา เขาขยับเข้าไปใกล้อีกนิด มองหาโอกาส และจังหวะเหมาะๆ ก็มาถึง อานิลาเก็บของเสร็จเรียบร้อยก็หมุนตัวกลับมา “โครม!!”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม