ตรอกสุยเปี้ยนเป็นย่านการค้าแบบสบายๆ ตามนาม มิหรูหรา เป็นแหล่งสัญจรของผู้คนชนชั้นสามัญ มองไม่รู้ฐานะเห็นไม่รู้จักกัน มีแค่เพิงร้านค้าตั้งเรียงรายขนาบข้างทั้งสองฝั่ง
กุ้ยฉิงเดินผ่านตรอกนี้ไปอย่างมิใส่ใจแวะร้านใด บุรุษผู้หนึ่งซึ่งกลมกลืนกับฝูงชนในย่านแห่งนี้เมื่อเห็นผู้นัดหมายอยู่ไกลๆ ก็ค่อยๆ ลุกขึ้นยืนอย่างไม่รีบร้อน
ทั้งสองเดินทิ้งระยะห่างระหว่างกัน เพียงครู่ก็หายไปในฝูงชนคล้ายไร้ตัวตนไม่เคยมีใครเห็นมาก่อน
กุ้ยฉิงยังคงเดินต่อไปเงียบๆ ด้วยสีหน้าราบเรียบเหมือนมาเดินชมตลาดเฉยๆ เฉกคนอื่นๆ บุรุษผู้นั้นก็เช่นกัน เขาเดินนิ่งๆ เสมือนทำเป็นกิจวัตรประจำวันหาได้แตกต่างจากคนทั่วไป
ทั้งสองเดินเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาเฉกคนต่างถิ่นแปลกหน้า กระทั่งเข้ามายังตรอกที่มีบรรยากาศตรงกันข้ามกับตรอกสุยเปี้ยน ทั้งเงียบสงัดและวังเวง ร้างผู้คน
กุ้ยฉิงพลันหยุดเดินที่มุมกำแพง บุรุษผู้นั้นก็เร้นไปทาง ทว่ากลับมาหยุดยืนตรงหน้ากุ้ยฉิงได้พอดิบพอดีอย่างน่าเหลือเชื่อ
บุรุษเอ่ยเสียงต่ำ “เอาเงินมาหรือไม่?”
กุ้ยฉิงล้วงสาบเสื้อหยิบตั๋วเงินปึกหนึ่งออกมา “ข้าจะมั่นใจได้อย่างไรว่าแผนการของเจ้าจะสำเร็จไม่สาวมาถึงตัวข้า”
บุรุษผู้นั้นเหยียดยิ้มเย็น “จอมยุทธ์เช่นข้า เงินมางานเสร็จ ไม่มีคำว่าพลาด ไม่เคยสืบสาวถึงผู้ว่าจ้างเลยสักครา”
กุ้ยฉิงยังคงไม่วางใจ “เจ้ามีแผนการเช่นไร บอกให้ข้ามั่นใจได้หรือไม่?”
บุรุษพ่นลมหายใจอย่างหงุดหงิดก่อนบอกอย่างตัดรำคาญ “ข้าจะทำให้เขาพลัดตกหน้าผาเกิดจากเหตุมิคาดคิด พอใจรึยัง”
แม้คนพูดจะใช้วาจาห้วนห้าวไร้มารยาทบอกอย่างขอไปทีแต่แค่นี้ก็เพียงพอแล้วให้กุ้ยฉิงยิ้มกว้าง นางชอบแผนการนี้มาก ทำให้ตายคล้ายเกิดอุบัติเหตุ ทว่าอึดใจกุ้ยฉิงพลันนิ่วหน้า เท่าที่ทราบ โจวอวี่พอรู้วรยุทธ์อยู่บ้าง ปัญหาคาใจถูกกล่าวออกไปอย่างกังวลเสมือนไม่มั่นใจในฝีมือ
“คนผู้นั้นมีทักษะเชิงยุทธ์ไม่ด้อย ท่านคนเดียวอาจไม่ง่าย”
ผู้รับงานต่ำช้าหรี่ตา “ข้ามีสมุนเดนตายมากมาย” เขาสะบัดมืออย่างไม่สบอารมณ์ทำท่าเดินจากไปอย่างเย่อหยิ่ง “ไม่วางใจมิเชื่อมือ เจ้าก็ไปจ้างคนอื่น”
กุ้ยฉิงรีบถลาพาร่างไปข้างหน้าอย่างลืมอายุ “ช้าก่อน ข้าเชื่อในฝีมือท่านยิ่ง” ว่าพลางมอบตั๋วเงินปึกใหญ่ให้ทั้งหมด
นี่คือเงินเก็บทั้งชีวิตของนาง
บุรุษรับไว้ ยัดใส่ในอกเสื้อ “เจ้ารอฟังข่าวดีพร้อมตั๋วเงินอีกห้าส่วนที่เหลือเป็นพอ” ไม่รอให้ตอบรับ คนพลันหายวับ
กุ้ยฉิงเองก็ต้องรีบกลับ ด้วยกลัวเหลือเกินว่านายหญิงจะสงสัย เรื่องที่นางทำจะแปดเปื้อนอีกฝ่ายมิได้ หากกำจัดคนสำเร็จ นางพร้อมชดใช้หนี้เลือดด้วยชีวิตของตัวเองอย่างเงียบเชียบที่สุด
ยามค่ำคืนมาเยือนแล้ว ทว่าท้องนภากลับสว่างสดใส อาจเพราะเป็นคืนเดือนเพ็ญพระจันทร์เต็มดวงก็เป็นได้
จ้าวเล่อเสียชอบชมบุปผาท่ามกลางแสงจันทราเป็นที่สุด นางจึงกระโดดลงมาจากต้นไม้ที่ใช้นอนพักเพื่อวิ่งไปเก็บดอกไม้จากตำแหน่งที่เห็นจากมุมสูง
เมื่อได้ดอกไม้หอมกรุ่นหอบใหญ่ก็กระโดดขึ้นไปนอนบนต้นไม้อีกครา ทอดสายตาชื่นชมดวงจันทร์พร้อมแนบดอกไม้กับใบหน้าจนพวงแก้มสนิทสนมแทบกลายเป็นเนื้อเดียวกับกลีบบุปผา
ยามนี้สาวน้อยมีความสุขมากทีเดียว
สิ่งนี้ช่วยบรรเทาความคิดคะนึงถึงบุรุษใจร้ายได้มากโข
ฮึ! ก่อนหน้านี้นางไม่รู้จะทำฉันใดกับใจที่ตรึงรักไว้ที่เขาจนยากถอดถอน ทว่ายามนี้ขอแค่มีดอกไม้หอมหวนกับภูเขียวน้ำใส นางก็พอใจแล้ว ไม่ต้องมีบุรุษก็ได้...
จังหวะนั้น พลันได้ยินเสียงหนึ่งคล้ายลอยมากับสายลม จ้าวเล่อเสียจึงเลิกซุกหน้าดอมดมดอกไม้นั่งนิ่งเอียงหูฟัง
นางตั้งใจฟังอยู่ครู่หนึ่งจึงได้ยินชัดเจน นั่นคือเสียงต่อสู้ ไม่ผิดแน่ ใครหนออุตส่าห์ดั้นด้นมาสู้กันอย่างดุเดือดเลือดพล่านที่ป่ารกชัฏริมผา
หากจำไม่ผิดบริเวณนั้นเต็มไปด้วยสัตว์ป่าดุร้ายทั้งบนบกและในน้ำเลยนะ
ด้วยความอยากรู้อยากเห็นของอิสตรี จ้าวเล่อเสียรีบทะยานกายลงจากต้นไม้พุ่งตัวไปดูให้เห็นเหตุการณ์อย่างชิดใกล้ เผื่อเจอผู้เยี่ยมยุทธ์นัดประลองฝีมือกัน นับเป็นบุญตายิ่ง
ทว่าเมื่อมาถึง กลับเห็นเป็นการกระทำอันอุกอาจโหดเหี้ยม บุรุษหนึ่งคนถูกรุมล้อมด้วยบุรุษหลายคน แม้ยามนี้มืดค่ำดึกสงัด ทว่าเพราะจันทร์เต็มดวงจึงเห็นถนัดยิ่งนัก กอปรกับกลิ่นคาวเลือดที่คละคลุ้ง นางคล้ายได้กลิ่นคาวฉุนจัดจากบุรุษคนที่ถูกรุมล้อมนั้น
จ้าวเล่อเสียเพ่งตามองจนแน่ใจ ย่อมเป็นการล่าสังหารอย่างไร้เมตตาหาใช่เป็นอื่นไม่!
ขณะหรี่ตาฝ่าความมืดสลัวเพื่อหาช่องโหว่เข้าช่วยเหลือ สาวน้อยพลันเบิกตาโต เมื่อเห็นบุรุษชุดฟ้าผู้ถูกรุมล้อมชัดเจน
โจวอวี่...
เหตุใดถึงเป็นเขา?
ทันใดนั้น ฝ่าเท้าน้อยๆ ที่กำลังสะกิดกิ่งไม้เพื่อพุ่งทะยานเข้าโรมรันพลันชะงักงัน
บุรุษผู้นั้นคือคนเดียวกันกับที่ทำร้ายจิตใจนาง แล้วเช่นนี้เขาสมควรได้รับการช่วยเหลือจากนางหรือไร?
เสียงต่อสู้ดังเคล้งคล้างต่อเนื่องไม่หยุด สิบรุกหนึ่งรับ สถานการณ์ยากต้านทานมากขึ้นเรื่อยๆ
ทั้งภาพและเสียงล้วนกระทำการเสียดแทงเข้ามากะเทาะถึงจิตใจของสาวน้อยคล้ายค้อนเหล็กทุบผนังถ้ำหินผาจนปริแตกแทบย่อยยับ จ้าวเล่อเสียสูดลมหายใจเข้าอกลึกยาว
ถึงอย่างไรนางก็มิใช่คนไร้เหตุผล
เมื่อคนหนึ่งรักแต่อีกคนไม่รักตอบแล้วเขาผิดหรือไร
แม้นางจะนิสัยไม่ดี หลงรักบุรุษจนทำตัวหน้าหนาสรรหาทุกวิธีการเข้าหาจนได้หมั้นหมายโดยที่เขาไม่เต็มใจ แต่อย่างน้อย มโนธรรมในใจนางย่อมไม่ด้อย
ช่วยเขาก่อนค่อยตัดใจไม่รักอีกครั้งก็ได้...