ตอนที่7 ลบภาพจำ
มายด์หยุดไปถึงสองวันกว่าจะกล้ามาเรียนเพราะร่องรอยที่ประทับบนร่างกายได้เริ่มจางลงมาก แต่ถึงอย่างนั้นบางจุดเธอก็ยังต้องใช้รองพื้นปิดทับมันช่วยอยู่ดี
“ไอ้จ่อย!”
“กรี๊ด!!!”
“เฮ้ย!” บิวหน้าเหลอเขาไม่คิดว่าเธอจะตกใจมากขนาดนี้...มากขนาดที่ว่ากรี๊ดเสียงดังสุดแล้วน้ำตาไหลออกมา
“มายด์ ขอโทษไม่คิดว่าจะตกใจขนาดนี้”
“ไอ้บิวเพื่อนมึงเป็นผู้หญิงไอ้ห่า” รุ่นพี่ที่นั่งไม่ไกลก็ตกใจกับเสียงกรีดร้องของมายด์ด้วยเหมือนกัน
“ปกติผมก็แกล้งมันแบบนี้ แต่วันนี้แปลก” มายด์พยายามปรับลมหายใจให้กลับเป็นปกติ แต่ก็เหมือนว่าเธอยังระแวงไม่หาย
“เห้ย เป็นอะไร”
“ปะ..เปล่า” แม้จะหลุดพิรุธไปตั้งหลายข้อ แต่เพราะเพื่อนสนิทของเธอเป็นผู้ชายเลยไม่ได้ถูกซักไซร้อะไรมากนัก
“เอ๋อแบบนี้จะเรียนไหวเหรอ”
“ไหวสิ” เธอฝืนยิ้ม ก่อนจะบีบมือแน่นเมื่อโจกำลังเดินตรงมาหา
“สวัสดีครับพี่โจ”
“อืม”
“สวัสดีค่ะพี่โจ”
“ไงเรา หายไข้แล้วใช่ไหม”
“หาย..หายแล้วค่ะพี่โจ” เธอตอบเสียงติด ๆ ขัด ๆ อย่างควบคุมตัวเองไม่ได้จนทำให้รุ่นพี่หนุ่มขมวดคิ้ว
“ไปนอนพักที่ห้องพยาบาลไหม ยังดูไม่ไหวเลยนะ”
“ตัวมันจ่อยก็อย่างนี้แหละพี่โจ จริง ๆ มันถึกจะตาย”
“เพราะคืนนั้นแน่เลย” หญิงสาวชาไปทั้งตัวแค่เพียงรุ่นพี่เอ่ยออกมาแบบนั้น ถึงไม่ได้ส่องกระจกแต่ก็รู้ว่าหน้าตัวเองต้องเหลอหลามากแน่นอน
“คืนนั้นทำไมอะพี่โจ”
“ก็วันเกิดแพรไง มายด์กินตั้งหลายแก้ว”
“อ๋อ แอบไปกินเหล้านี่เอง”
“ไม่ได้แอบนะ นายไปไม่ได้เอง”
พรึ่บ หัวใจเต้นตึก เมื่อโจก้มหน้าลงมาจนเห็นใบหน้าคมคาย และริมฝีปากหนาสีชมพูเข้มของเขาใกล้ ๆ ก่อนจะแตะหลังมือลงบนหน้าผากของเธอ
“ตัวไม่ร้อนนะ”
“ค่ะ”
“ไม่ไหวโทรหาพี่ เดี๋ยวพาไปส่ง”
“ไหวค่ะ”
“ไอ้โจ!อยู่นี่เอง” โจถอนหายใจเมื่อได้ยินเสียงเพื่อนตามหลอกหลอนเหมือนเจ้ากรรมนายเวร ทั้งที่เขามาไกลถึงหน้าตึกคณะบริหารฯไม่กี่นาทีนี่เอง
“อะไรวะ”
“มาซ้อมพรีเซนต์ได้แล้วครับคุณโจ ขาดมึงคนเดียวเนี่ย”
“เออ กูลืม”
“พี่ไปแล้วนะมายด์” หญิงสาวยังมีรอยยิ้มประดับมุมปากก่อนจะจางหายไปอย่างรวดเร็วเมื่อบิวโน้มหน้าต่ำลงมาเล็กน้อย
“ชอบพี่โจเหรอวะ”
“ไม่มีเรียนหรือไงถึงมาเสนอหน้าอยู่ได้” ขณะที่ถามเธอก็ไล้สายตามองบิวที่สวมเสื้อช็อปของคณะวิศวะฯไปด้วย
“มี”
“แล้วไม่ไปล่ะ ยังไม่ถึงเวลาเหรอ”
“ถึงแล้ว ไปละนะ” บิวแกล้งบีบปลายจมูกจิ้มลิ้มของเธอแรง ๆ จนกลายเป็นสีแดงแล้วถึงยอมเดินไปที่คณะ ก่อนจะหันมามองรอบหนึ่งแล้วหันกลับไปเพราะเจอเธอโบกมือไล่
.....
มายด์ทำตัวเองให้ยุ่งเพื่อไม่ให้สมองมีที่ว่างจดจำฝันร้ายนั้น แต่มันไม่ง่ายเลยเธอก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่ง ถึงจะคบแต่เพื่อนผู้ชายก็ใช่ว่าจะแข็งแกร่งขนาดนั้น เสี้ยวหนึ่งที่เผลอนึกถึง... น้ำตาก็จะไหล
“มายด์!” คุ้นว่าเป็นเสียงเพื่อน หญิงสาวก็หันหา กระทั่งเจอว่าบิวนั่งอยู่หน้าห้องเรียนที่เธอกำลังเดินออกมา
“นายมานั่งรอฉันเหรอ”
“แกบอกวันนี้เรียนคาบเดียว จะไปไหนต่อ”
“จะไปนมปั่นหน้าม.ก่อน ยังไม่รู้จะไปไหน” เธอตอบไปตามที่คิด เพราะปกติไม่ได้ไปไหนถ้าไม่มีใครมาชวน
“ไม่รีบกลับห้องใช่ป่ะ”
“อืม ทำไมเหรอ”
“จะชวนไปดูฉันเล่นบอล”
“…”
“ลองชวนเฉย ๆ ไม่ไปก็แล้วแต่”
“อืม ไปตอนไหน”
“สรุปจะให้ไปไหมเนี่ย ถามแล้วเงียบ” มายด์ถามย้ำก่อนจะเดินนำออกมาเพราะเหลือเธอเป็นคนสุดท้ายแล้ว บิวจึงรีบเดินตามเธอมาติด ๆ
“ไปรอที่ร้านนมปั่นก็ได้เดี๋ยวขับรถไปรับ”
“ไปเลยก็ได้นะ นมปั่นไว้กินวันหลัง”
“ไม่สิ แกกินนมปั่นก่อนแล้วเราค่อยไปกัน” หญิงสาวพยักหน้าแล้วเดินไปที่คาเฟ่หน้ามหาวิทยาลัย ส่วนบิวรีบแยกไปเอารถที่จอดอยู่ค่อนข้างไกลจากตรงนี้
“นมสดปั่นใส่ไข่มุกแก้วนึงค่ะ”
“นั่งรอก่อนนะคะ ปั่นอีกสามแก้วถึงคิวนะ”
“ค่ะ”
มายด์หาที่นั่งมุมข้างหน้าเพราะกลัวเพื่อนจะมาหาไม่เห็น เธอหยิบมือถือออกมาเล่นฆ่าเวลาก็เจอกับข้อความขอโทษ และเป็นห่วงจากพี่ชายมากกว่าสิบข้อความ รู้ว่าเขาไม่ได้ผิดคนเดียวแต่เธอก็ยังไม่พร้อมคุยอยู่ดี
กรุ๊ง กริ๊ง
“สวัสดีค่ะรับอะไรดีคะ” หญิงสาวไม่ได้เงยหน้าขึ้นเพราะเสียงประตูร้านมันก็ดังของมันเป็นเรื่องปกติเมื่อมีลูกค้าเข้า
“กาแฟดำ”
ตึก ตึก ตึก ตึก เสียงทุ้มต่ำนั้นทำเอาหัวใจของเธอกระตุกเต้นไม่เป็นจังหวะ มือนิ่มบีบสมาร์ทโฟนแน่น ใจไม่กล้าพอที่จะเงยหน้าขึ้นมองให้เห็นกับตาว่าใช่ผู้ชายสารเลวคนนั้นหรือเปล่า
“ได้ค่ะนั่งรอก่อนนะคะเหลือออเดอร์ก่อนหน้าสามแก้ว”
ครืดด เก้าอี้ตรงหน้าเธอถูกขยับออกแล้วตามด้วยร่างสูงใหญ่ของใครคนหนึ่ง กลิ่นน้ำหอมไม่คุ้นเคยฟุ้งแตะจมูกเธออย่างจัง หญิงสาวเริ่มหายใจไม่ทั่วท้องภาวนาให้เธอแค่คิดมากไปเอง
“มายด์ ยังไม่ได้เหรอ”
“บิว...”
“ไม่เป็นไร นั่งรอก่อนก็ได้ไม่รีบ” เธอที่กำลังจะเอ่ยชวนบิวไปจากที่นี่พูดไม่ออกเพราะโดนเขาตัดหน้าพูดเสียก่อน
“นมสดปั่นใส่ไข่มุกได้แล้วค่ะ”
“เดี๋ยวฉันไปเอาให้” บิวที่ยังไม่ทันได้นั่งชิงเดินไปเอาน้ำปั่นที่หน้าเคาน์เตอร์ให้ มายด์ที่นั่งอยู่รู้สึกได้ว่ากำลังถูกสายตาคู่หนึ่งจ้องมองอย่างจงใจ
“จะนั่งกินที่นี่เปล่า”
“ไม่!”
“อ่า งั้นก็ถือไปกิน” บิวพูดอย่างงุนงงเมื่ออยู่ ๆ หญิงสาวก็ใช้โทนเสียงที่ดังเกินปกติ
ครืดดด
“อะหื้ม” เสียงกระแอมของคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามดึงสายตาของเธอให้ช้อนมอง แล้วก็เกือบจะต้องล้มทั้งยืนเมื่อเห็นผู้ชายร่างสูงใหญ่รอยสักล้นออกมานอกแขนเสื้อยืดสีดำที่เขาสวม ดวงตาคมเข้มน่ากลัว แต่มุมปากหยักหนานั้นเธอกลับมองว่ามันกำลังบิดยิ้มเย้ย เห็นเพียงเท่านั้นดวงตากลมโตของเธอก็แดงระเรื่อแล้ว
“มายด์ ไปสิ”
“อืม”
เดย์ตั้งใจหันมองตามคนทั้งสองที่เดินเคียงกันออกไปอย่างไม่ละสายตา กระทั่งหญิงสาวรับหมวกกันน็อกใบใหญ่มาสวมยังไม่วายจะมองมาที่เขาเล็กน้อยแต่เมื่อเจอว่าเขามองอยู่เธอก็รีบหันหนีแล้วปีนขึ้นซ้อนท้ายรถบิ๊กไบค์ก่อนจะพากันไปจากที่นี่
“หึ” ชายหนุ่มยิ้มร้ายเหมือนเรื่องสนุก....มันได้เริ่มขึ้นแล้ว