เป็นซวนเจ๋อเอ่ยขึ้นมา ส่วนซวนจิ้งนั้นยังทำงานในมือไปพลางหูก็รอฟังคำถามจากเผยหว่านอีไปพลาง เพราะสตรีนางนี้ในสายตาของเขานางชาญฉลาดใช่น้อย เสียดายแต่ว่าเขาแต่งงานมีภรรยาและมีบุตรวัยกำลังน่ารักน่าชังจึงไม่คิดอันใดกับนางมากไปกว่าน้องสาวร่วมหมู่บ้านผู้หนึ่งเท่านั้น “คือข้าสงสัยว่าบางบ้านมีผืนนาข้าวอาจมากถึงเป็นร้อยหมู่ทำกันเองเพียงในครอบครัวเพราะจะไปจ้างผู้ใดก็ล้วนติดงานของตนเองเช่นนี้กว่าจะถอนหญ้าจนหมดข้าวไม่ตายไปก่อนก็อาจถึงกับออกรวงก่อนเลยหรือเจ้าคะ?” ฟังคำถามแสนเรียบง่ายแต่มันคือความจริงทุกสิ่ง ท่านลุงซานเจ๋อก็หัวเราะจนเห็นฟันหลอที่หักหายไปตามวัยเสียหลายซี่ เพราะคิดตามเหตุการณ์ดังกล่าวมันก็มีอยู่ทุกฤดูเพาะปลูกนั่นแหละ “ย่อมเป็นเช่นนั้นแหละหว่านอี แต่จะทำอย่างไรได้ปล่อยให้ข้าวออกรวงผสมกับต้นหญ้าถึงจะได้ผลผลิตน้อยแต่มันก็ยังได้ดีกว่าปล่อยที่ดินให้รกร้างว่างเปล่ามิใช่หรือ” ท่านผู้เฒ่าที่อยู