Leo & Look peach – 1
เมื่อฉันต้องกลายมาเป็นน้องสาวของหนุ่มฮอต
Part ลูกพีช
ให้ตายเถอะวันนี้ฉันอุตส่าห์ดีใจที่อาจารย์ยกคลาส รู้สึกเบื่อเลยว่าจะกลับมานอน แต่กลับต้องมาเจอพี่ชายตัวเอง กำลังกินสาวอยู่กลางห้องอย่างไม่อายฟ้าไม่อายดิน
ฉันชื่อลูกพีช อายุ 20 ปี เป็นนักศึกษาปีสองคณะบริหาร และเป็นน้องสาวของพี่ลีโอที่เรียนคณะวิศวกรรมศาสตร์ปีสี่ จะว่าน้องแท้ ๆ เลยซะทีเดียวก็ไม่ใช่ เพราะเราทั้งสองไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด เพียงแค่พ่อแม่ของเราแต่งงานกัน จนทำให้เราทั้งสองต้องมาใช้ชีวิตร่วมกันเหมือนที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ความจริงแล้วฉันก็ไม่ได้อยากจะเป็นแค่น้องสาวของพี่ลีโอหรอก แต่ทำอย่างไรได้ เมื่อพ่อแม่ของเราทั้งคู่แต่งงานกันทำให้ฉันต้องคอยหักห้ามใจ ไม่ให้คิดเกินเลยไปมากกว่านี้
“อ๊า!! แรงอีกค่ะ แรงอีกค่ะ”
เสียงกระเส่าของหญิงสาว เหมือนคนกำลังจะตายดังออกมาจากห้องพี่ลีโอ นั้นทำให้ฉันถึงกับทนฟังไม่ได้ ต้องรีบยกมือขึ้นปิดหู จะมีครั้งไหนบ้างที่ฉันกลับมาจะไม่เจอเสื้อผ้ากองอยู่กลางห้อง หรือว่าจะไม่ได้ยินเสียงๆ ร้องบ้า ๆ นั่นจากห้องพี่ลีโอ บอกเลยว่านับครั้งได้
“นี่ฉันจะต้องมาฟังมารับรู้ว่าพี่มีอะไรกับใคร อีกนานแค่ไหน” ฉันพูดกับตัวเองด้วยประโยคนี้อยู่บ่อยครั้ง พร้อมกับพยายามทำใจและไม่คิดจินตนาการว่าคนนั้นเป็นตัวฉันเอง
#ย้อนไปตอนปีหนึ่ง
“แม่พาลูกพีชมาด้วยทำไมคะ ลูกพีชไม่อยากมาเลย” ฉันบอกกับแม่ เมื่อรู้ว่าแม่ของฉันได้นัดเจอกับแฟนของแม่ หรือพูดง่ายๆ ก็คือว่าที่พ่อใหม่ของฉันในอนาคต เพราะดูเหมือนว่าแม่จะรักคนนี้มากและอีกไม่นานทั้งสองก็จะแต่งงานกัน
“ก็พาเรามาทำความรู้จักกับครอบครัวฝั่งนั้นไง จะได้คุ้นเคย เพราะอีกไม่นานเราก็ต้องไปอยู่กับพี่เขา”
“แต่ลูกพีชอยู่ที่บ้านคนเดียวได้นะคะ”
“ได้ไงล่ะ ลูกเป็นผู้หญิง ที่ถ้าไม่ติดว่าเรายังเรียนไม่จบ แม่พาไปอยู่เยอรมันด้วยแล้ว”
“นั่นไง สองพ่อลูกมาถึงแล้ว” แม่ฉันที่เห็นว่าคนที่ตัวเองนัดนั่งรออยู่ที่โต๊ะ ก็ยกมือขึ้นโบกทักทายทันที
“มาถึงนานแล้วหรือคะคุณ ต้องขอโทษด้วยนะคะที่ทำให้รอ” แม่ฉันรีบบอกขอโทษยกใหญ่ ฉันก็ไม่เข้าใจว่าจะขอโทษทำไม เพราะเราสองคนแม่ลูกก็ไม่ได้มาสาย แต่ฝั่งนั้นเป็นฝ่ายมาก่อนเวลาเอง
“นี่ลูกสาวของฉันค่ะ ชื่อลูกพีช”
“สะ สวัสดีค่ะ” ฉันยืนอึ้งกับคนตรงหน้า ไม่ใช่ลุงจอห์นนะ เพราะเคยกับเขาตอนมาหาแม่อยู่บ่อย ๆ แต่ที่กำลังอึ้ง เพราะชายหนุ่มที่นั่งข้าง ๆ ลุงจอห์น คือพี่ลีโอ ผู้ชายที่ฉันแอบกรี๊ดอยู่ พี่เขาอยู่คณะวิศวกรรมศาสตร์ปีสาม ฮอตและดังมาก มีใครบ้างไม่รู้จัก สาว ๆ ในมหาวิทยาลัยกรี๊ดกันตรึม รวมถึงฉันด้วยที่แอบกรี๊ดพี่เขาด้วยเหมือนกัน ไม่คิดมาก่อนเลยว่า อยู่ ๆ ตัวเองจะได้กลายมาเป็นน้องสาวของพี่เขาเฉยเลย
“สวัสดีครับ ได้ยินแต่ชื่อ ได้เจอตัวจริงสักที” คุณลุงจอห์นรับไหว้ฉันพร้อมกับยิ้มให้อย่างดูเป็นมิตรและดูอบอุ่น และนั่นทำให้ฉันเข้าใจว่าแม่ทำไมถึงคิดที่จะฝากชีวิตไว้กับลุงคนนี้
“นี่ลูกชายลุงเองชื่อลีโอ น่าจะแก่กว่าเราสองปีได้ เรียนอยู่มหาวิทยาลัยเดียวกันใช่ไหม”
“ใช่ค่ะคุณ ลูกพีชอยู่ปีหนึ่ง” แม่ฉันเป็นฝ่ายตอบแทน
“ส่วนเจ้าลีโออยู่ปีสาม” ลุงจอห์นพูดขึ้นบ้าง “ทักทายน้องสิลีโอ” ลุงจอห์นหันไปสะกิดพี่ลีโอที่นั่งหันหน้าไปทางนอกหน้าต่างของร้าน ก่อนที่เขาจะหันมามองฉันด้วยสายตาเรียบนิ่ง
“สวัสดี” เสียงเรียบเอ่ยทักทายฉัน เขามองฉันปราดเดียวก่อนจะยกยิ้มให้เล็กน้อยตามมารยาท
“สวัสดีค่ะ ลูกพีชค่ะ” ทันทีที่เห็นหน้าคนที่จะมาเป็นพี่ชาย หัวใจของฉันถึงกับเต้นเร็วราวกับไปวิ่งสี่คูณร้อยอย่างไรอย่างนั้น พี่ลีโอคนที่ฉันเคยแอบมองอยู่ไกล ๆ ตอนนี้เห็นเขาใกล้ ๆ แบบชัดเจนเอามาก ๆ ใบหน้าลูกครึ่งผิวขาวจมูกโด่งแบบรับกับหน้าสมกับเป็นลูกครึ่งขนานแท้ ฉันแทบจะหยุดมองไม่ได้
“นั่งลงสิลูก”
“คะ ค่ะ..” ฉันได้สติเมื่อแม่ของฉันสะกิดแขนของฉันเบาๆ ให้ฉันนั่งลงอย่างเขินๆ ผู้ใหญ่ทั้งสองต่างก็พูดคุยกันตามประสาคนรัก ส่วนฉันก็แทบจะไม่กล้าหายใจแรง เพราะตอนนี้หัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะกับชายหนุ่มรุ่นพี่ตรงหน้า ที่เอาแต่นั่งจ้องหน้าฉันตาไม่กะพริบ ทำให้ฉันต้องเผลอสบตามองเขาอยู่บ่อยครั้งเช่นกัน
“เราสองคนจะทานอะไรเพิ่มไหม” คุณลุงจอห์น หันมาถามฉันและพี่ลีโอที่นั่งอยู่
“ผมไม่ครับ แล้วลูกพีชล่ะอยากกินอะไรไหม” น้ำเสียงที่ดูอบอุ่น และสุขุมมันทำให้ฉันแทบไม่อยากเงยหน้าจากเมนูอาหารไปมองคนถาม
“เออ.. ลูกพีชเอา.. ไม่เอาดีกว่าค่ะ” ฉันได้แต่ทำหน้าเขินๆ ที่เหมือนว่าจะสั่งแต่ก็ไม่สั่ง
“งั้นเอาตามนี้ครับ” ลุงจอห์นหันไปสั่งกับพนักงาน ก่อนที่เธอคนนั้นจะเดินออกไป
“ที่เราทั้งสองพาลูกทั้งสองมาเจอกันในวันนี้ พ่อคิดว่าเราทั้งสองก็คงพอจะรู้กันอยู่แล้วว่า พ่อและแม่ของลูกๆ กำลังคบกัน”
“ค่ะ”
“ครับ”
“พวกเราทั้งสองก็เลยคิดที่จะบอกกับลูกทั้งสองอย่างเป็นทางการอีกที เพราะถึงอย่างไรในอนาคตเรา เราสองครอบครัวก็กำลังจะกลายเป็นครอบครัวเดียวกัน” ลุงจอห์นพูดไปพร้อมกับยิ้มให้กับแม่ของฉัน และนั่นทำให้ฉันถึงกับรู้ความหมายว่าคำต่อไปลุงจอห์นจะพูดอะไร
“เราสองคน ตกลงที่จะแต่งงานกัน และจะย้ายไปอยู่ที่ เยอรมัน”
“ส่วนเราลูกพีช หนูก็น่าจะไปอยู่กับแม่เรียน ดรอปเรียนสักปีดีไหม”
“ไม่ดีกว่าค่ะแม่ หนูยังเก่งไม่ภาษาเท่าไหร่” ที่บอกไปอย่างนั้นเพราะฉันไม่อยากเป็นกว้างขวางคอคู่ข้าวใหม่ปลามันอย่างคุณแม่ แม้แม่จะเคยพยายามขอให้ฉันไปด้วย แต่ฉันก็เลือกที่จะปฏิเสธอยู่ดี
“งั้นถ้าระหว่างนี้ หนูเกิดเปลี่ยนใจอยากไปหาแม่ที่เยอรมันบอกแม่ทันทีนะ”
“ค่ะแม่ เอาไว้หนูตัดสินใจอีกที”
“แต่บ้านเราอยู่ชานเมืองแล้วก็ไกลมหาวิทยาลัยมากเลยนะ ลูกพีชหนูจะอยู่คนเดียวได้เหรอ” แม่ทำสีหน้าลำบากใจ แต่บอกเลยว่าฉันสบายมาก อยู่คนเดียวดีออกสบายดี ทว่าความดีใจของฉันมีแค่แป๊บเดียวเพราะอยู่ ๆ ลุงจอห์นก็พูดขึ้น
“งั้นระหว่างนี้ ผมคิดว่าให้หนูลูกพีชไปอยู่กับตาลีโอที่คอนโด ดีไหมที่นั่นห้องใหญ่ มีสองห้องนอน และที่สำคัญใกล้มหาวิทยาลัยพวกเราสองคนด้วย” ลุงจอห์นออกความคิดเห็น และนั่นทำให้ฉันถึงกับหันไปมองชายที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามทันที
หมายความว่าไง...ได้เหรอ ฉันเป็นผู้หญิงนะ อีกอย่าง นั่นก็พี่ลีโอเชียวนะ
“ถ้าลูกพีชไม่รังเกียจหรือคิดมากอะไรอยู่กับพี่ก็ได้” เสียงพี่ลีโอพูดออกมา และแน่นอนว่าถ้าฉันปฏิเสธไปว่าไม่อยู่ หมายความว่าตัวเองต้องฝ่ายรังเกียจเขาแบบนี้เหรอ
ฉันเงียบเพราะบอกไม่ถูก ไม่รู้ว่าตัวเองจะพูดแบบไหนออกไหนดี เพราะไม่คิดว่าจะต้องไปใช้ชีวิตร่วมกับเขาสองต่อสอง แต่ดูเหมือนพี่ลีโอจะรู้อยู่แล้วหรือเปล่าฉันต้องไปอยู่ด้วย พี่แกเล่นนั่งจ้องมองหน้าฉันนิ่ง ๆ ไม่มีปฏิกิริยาไม่พอใจ หรืออะไรเลย เขาดูชิวเอามาก ๆ
“แต่พีชว่า...”
“ก็ดีค่ะคุณ ยัยลูกพีชเป็นสาวเป็นแซ่ ฉันไม่อยากให้เธออยู่บ้านคนเดียว อีกอย่างที่บ้านก็อยู่ชานเมืองด้วย” แม่เออออทันที เห็นดีเห็นงามไปหมด ปล่อยให้ฉันอ้าปากพะงาบ ๆ ไม่ถงไม่ถามฉันสักคำว่าฉันเต็มใจไหม
ไม่ใช่ว่าฉันรังเกียจอะไรที่ต้องไปอยู่ด้วยกับพี่ลีโอหรอกนะ ถ้านั่นจะหมายถึงการเดินทางไปมหาวิทยาลัยสะดวกขึ้นมันก็ดี แต่พี่ลีโอสุดฮอต ทั้งหล่อ สูง ขาว หุ่นดีแบบนี้ ฉันจะไปอดใจไหวไม่ให้เพิ่มความชอบเขายังไงไหว แล้วตอนนี้เพิ่งปีหนึ่ง ฉันต้องอยู่ร่วมกับพี่ถึงปีสี่ กว่าฉันจะจบ ฉันจะทนเก็บความรู้สึกได้นานแค่ไหนก่อน และถึงฉันจะชอบในความหล่อขาวของคนตรงอย่างไร ต่อจากนี้ไปก็คงต้องหักห้ามใจ เพราะเขาต้องมาเป็นพี่ชายของฉันอยู่ดี
“งะงั้นก็ได้ค่ะ” ฉันตอบไม่เต็มเสียง แต่ดูเหมือนจะเห็นพี่ลีโออมยิ้มนิด ๆ ก่อนจะปรับสีหน้าเป็นนิ่งเฉยแบบเดิม
หรือ...ฉันตาฝาก
“พ่อฝากเรา ดูแลน้องด้วยล่ะ ลีโอ”
“ครับพ่อ” พี่ลีโอ ตอบเสียงอย่างว่าง่าย เราสองคนเผลอสบตากัน จนฉันต้องเป็นฝ่ายก้มหน้าเพราะทำตัวไม่ถูก