แค่คุณ : EP4

1356 คำ
CHAPTER 2 หลังจากวันนั้นที่อิงค์ยื่นข้อเสนอมาว่าให้ผมแยกไปอยู่ที่อื่น ผมไม่ได้รับข้อเสนอนั้น ในใจคิดอยากจะรับข้อเสนออยู่หรอกนะ แต่คิดว่าถ้าทำแบบนั้นจริง ๆ เราต้องทะเลาะกันหนักกว่าเดิมแน่ ๆ ผมคิดว่าอิงค์คงโกรธจนให้ไปอยู่ที่อื่น เป็นเวลากว่า 2 สัปดาห์ที่เราเงียบ ๆ ต่อกัน ถามว่ารู้สึกอย่างไรที่เป็นกันแบบนี้ ตอบได้แบบไม่ต้องคิดคือรู้สึกดีมาก ๆ ดีกว่าที่คุยกันแล้วต้องมาทะเลาะกันนั่นแหละ ออกจากลิฟต์มาอิงค์ก็เดินไปที่รถของตัวเอง ผมก็ไปที่รถของตัวเอง มันก็ประหลาดดีเหมือนกันนะครับ เป็นแฟนกัน อยู่ห้องเดียวกัน แต่เราไม่ได้ไปไหนด้วยกัน แม้กระทั่งไปเรียนก็ยังไม่ได้ไปด้วยกัน ผมให้รถของอิงค์ขับนำหน้าออกไปแล้วค่อยขับตาม เธอก็ขับช้าตามสไตล์เธอนั่นแหละ แต่ผมมันคันเท้าไง ทนไม่ไหวทุกวันอะ ต้องขับแซงอิงค์ทุกวันเลยจริง ๆ LINE ถึงม. หรือยัง : PUEN ทักไปถามเพราะเห็นหายเงียบ หวังว่าอิงค์คงจะไม่ได้เหยียบแค่ 20-40 หรอกนะ ถึงได้ช้าขนาดนี้ ทุกทีอิงค์จะเข้ามาถึงช้ากว่าผมประมาณ 20-30 นาที แต่วันนี้เกือบ 45 นาทีแล้วเธอยังไม่ส่งไลน์มาบอกเลย INK : ถึงแล้วค่า เดินไปกินข้าวมา เห็นร้านไอติมมาเปิดใหม่ มัวแต่ไปยืนดู ก็เลยส่งหาพี่ปืนช้าเลย INK : ขอโทษนะคะ ทีหลังถึงแล้วช่วยรีบบอกหน่อยนะ เสียเวลาพี่มานั่งรอไลน์จากอิงค์ : PUEN INK : อิงค์ไม่ได้ใช้ให้พี่ปืนรอนะคะ ^^ ผมกดอ่านแต่ไม่ตอบ เล่นย้อนผมมาแบบนี้จะให้ตอบอะไรล่ะครับ จากตอนแรกจะดุอิงค์นี่ถึงกับดุไม่ลง ไม่ใช่อะไรนะ กลัวจะถูกด่ากลับมาเสียเอง “ส่งข้อความแบบมึง กูเป็นอิงค์กูด่ามึงหนักกว่านี้อีก” ฟองเดินเข้ามากอดคอผม ที่มันมากอดคอนี่คือมันมาเผือก! ผมนั่งมันยืน มันก็เลยเห็นข้อความในหน้าจอทั้งหมด “ฮ่า ๆ นี่อิงค์ด่าไอ้ปืนเหรอ” นุ่นเดินตามเข้ามา มันได้ยินเข้าก็เลยถาม คราวนี้อีกสามสาว ก็พากันให้ความสนใจ “เออ อิงค์บอกไอ้ปืนสาระแน” ฟองตอบกลับ “มึงนั่นแหละสาระแน มาดูโทรศัพท์กูแล้วยังว่ากูอีก” ผมจับข้อมือไอ้ฟองมากัด มันจะได้ไปให้พ้น ๆ จากผมสักที “อิงค์ด่าจริงดิ ไม่น่าเชื่อเลยอะ” “ด่าห่าไร อิงค์น่ะเหรอจะพูดอย่างที่ไอ้ฟองมันพูด” ผมหันไปพูดกับมีน พวกนี้น่าจะรู้ว่าอิงค์พูดจาดีขนาดไหน “มันก็ความหมายเดียวกันปะไอ้ปืน” ฟองเดินไปนั่งข้างไอ้ภีมแล้วถลึงตาใส่ผม ก่อนจะหันไปพูดกับมีน “ไอ้ปืนเขาเสือกว่าอิงค์ที่ไม่ได้ไลน์มาบอก มันบอกว่าเสียเวลามันต้องมารอไลน์ อิงค์ตอบกลับมาว่าไม่ได้ใช้ให้รอ” “เออ อิงค์ก็หมายความว่ามึงสาระแนรอเองไงไอ้ปืน” ปลาหันมาพูดกับผม “พวกมึงอย่ามารุมเพื่อนกู” ไอ้กราฟขยับมานิ่งชิดกับตัวผม “ใช่ ไอ้ปืนมันดุอิงค์เพราะเป็นห่วง อิงค์จะมาว่าไอ้ปืนแบบนี้ได้ไง” ต่อด้วยไอ้มาร์ช “ปกติถึงมอแล้วต้องบอกทุกวัน พอมาวันนี้ไม่ได้บอกจะไม่ให้ห่วงได้ไงวะ” ตามด้วยไอ้ภีม ไอ้ภีมมันแกล้งพูดใส่หน้าฟอง แล้วคนอย่างฟองอะ มีเหรอที่จะยอม มันฟาดฝ่ามือเข้าที่หน้าผากของไอ้ภีมทันที “สัสฟอง ชาตินี้มึงไม่มีผัวแน่ คนอย่างมึงไม่มีใครเอาทำเมียแน่ ๆ” ไอ้ภีมมันจับหน้าผากตัวเองแล้วต่อว่าฟอง “มึงมีความคิดเห็นยังไงบ้างไอ้ไฟ” กลอยหันไปถามไอ้ไฟ ไอ้นี่ไม่ได้สนใจสิ่งรอบตัวเลย มันสนใจแต่โทรศัพท์ของตัวเอง “ไอติมสวยเนอะ กี่ปี ๆ ก็สวยเหมือนเดิม” มันพูดแล้วหันหน้าจอโทรศัพท์ให้พวกผมดู มันกำลังนั่งส่องเฟซไอติม คนในใจของมัน “เฮ้อออ” พวกเราถอนหายใจออกมาพร้อมกัน ไอ้ไฟก็เลยทำหน้างง “อะไรวะ มึงไม่ได้ถามกูเรื่องรูปไอติมเหรอ” ไอ้ไฟถามกลอย คนถูกถามถึงกับหน้าเหวอไปเลย “มึงไม่ได้รู้เรื่องที่พวกกูด่าไอ้ปืนเลยเหรอ” กลอยถามกลับไป ไอ้ไฟก็ส่ายหน้าเล็กน้อย “กูไม่ได้สนใจอะ ทำไมวะมีไรกันเหรอ” ไอ้ไฟพูดต่อ พวกเราเลยพยักหน้าส่ง ๆ จบไปเถอะ เว้นไอ้ไฟไว้สักคนก็แล้วกัน “ข้อความที่มึงส่งไปให้อิงค์มันไม่ได้แสดงออกว่ามึงเป็นห่วงอิงค์เลย มันดูว่ามึงกำลังต่อว่าอิงค์ แถมดูว่ามึงไม่ได้เต็มใจที่จะถาม” ฟองพูดนิ่ง ๆ คราวนี้มันดูจริงจัง “กูขี้เกียจถาม แต่ก็ห่วงอะ” ผมยอมรับไปตามตรง ก็เป็นห่วง ถ้าอิงค์ส่งมาบอกแล้วก็หายห่วง แต่นี่เล่นไม่ส่งมา ผมก็ขี้เกียจที่จะต้องทักไป “เลิกเถอะไอ้ปืน มึงไม่ได้รักน้องเขาหรอก แค่ทักไลน์ไปมึงยังขี้เกียจแบบนี้” นุ่นมองหน้าผมแล้วเอ่ยออกมา “จริง พวกกูยังรู้สึกว่ามึงไม่ได้รักอิงค์ แล้วคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแฟนมันจะไม่รู้สึกหรือไง” ปลาเองก็ดูจริงจัง พวกสาว ๆ นี่เวลามันจริงจังมันก็ดูน่ากลัวอย่างไรชอบกล “เออ เห็นด้วย” “มึงก็คิดแบบพวกกูเหรอไอ้ไฟ” ปลาหันหน้าไปถามไอ้ไฟ “ฮะ!” ไอ้ไฟละสายตาขึ้นมาจากหน้าจอโทรศัพท์ มันมองหน้าปลาด้วยความงง “ที่มึงบอกห็นด้วยเมื่อกี้คือ?” “งานโชว์รถที่จะถึงนี่พี่ลมจะให้ดริฟต์โชว์ด้วย กูก็เห็นด้วยกับพี่ลม” ไอ้ไฟตอบกลับมา ปลาเบ้หน้าแล้วเกาท้ายทอยตัวเองแรง ๆ ไอ้มาร์ชและไอ้กราฟก็หัวเราะร่วน “ไหนพี่ลม” กลอยมองซ้ายมองขวา มองหาพี่ลม “นี่ไง กำลังแชตในไลน์กลุ่มวินโซน” “คุยในแชตแล้วมึงออกเสียงเพื่อ?” มีนเอ่ยออกมา “ก็เผลอตัวอะ มึงไม่เคยเผลอเหรอ” “มึงเผลอได้ตรงจังหวะมาก” ฟองกลอกตาไปมา “มึงนั่งเงียบ ๆ ไปเลย ไม่ต้องพูดเชี่ยไรละ” นุ่นพูดกับไอ้ไฟ “กูไม่นั่งอะ ได้เวลาขึ้นเรียนละ” ไอ้ไฟพูดจบก็ลุกขึ้นยืนแล้วเดินลิ่วเข้าตึกไป “มันคิดจะรอใครบ้างเปล่าวะ” ไอ้มาร์ชมองตามแผ่นหลังของไอ้ไฟ มันบ่นเบา ๆ แล้วรีบลุกตามไป “รอกูด้วย” ไอ้กราฟก็รีบวิ่งตามไป “เอาไงล่ะมึง” ไอ้ภีมหันมาถามผม “ไปดิ จะนั่งให้พวกนี้ด่าต่อทำไม” ผมตอบกลับไอ้ภีมแล้วรีบพากันขึ้นห้องเรียน ขืนนั่งอยู่ต่อได้ถูกไอ้พวกสาว ๆ รุมด่าแน่ ๆ ในระหว่างที่เรียนผมแทบจะไม่ได้สนใจสิ่งที่อาจารย์สอน แอบกดโทรศัพท์ดูตลอดว่าอิงค์มีส่งข้อความมาบ้างหรือเปล่า แต่ก็ไม่มีเลย ผมนึกว่าเธอจะส่งมาต่อว่าที่ผมอ่านแล้วไม่ตอบ ปกติเธอจะชอบบ่นเรื่องนี้ ไม่สิ เธอบ่นผมทุกเรื่องอะ หรืออิงค์ไม่ได้รักผมแล้ว? ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ๆ ผมก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจอะไร ถ้าเธอไม่รักแล้วเราจะได้เลิกกันไปให้มันจบ ๆ ไม่ต้องคาราคาซัง ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันแบบห่างเหินอย่างนี้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม