เฌอนั่งจดรายละเอียดงานต่างๆที่บอสคุยกับคุณไอซ์อย่างอึดอัดเพราะแววตาที่จ้องมองกันอย่างน่ากลัว ไหนบอสจะเป็นพวกมือปลาหมึกไม่ยอมให้เธอขยับออกห่างตัว เขาหันมามองกันหลายครั้งมากเหมือนดูว่าเธอจะเข้าใจในปัญหาของงานรึเปล่าแต่เท่าที่ฟังดูนะมันแทบไม่มีอะไรเลยสักนิดเดียว ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนหมด
คุณไอซ์มองบอสด้วยสายตาหวานเชื่อมแต่พอมองเธอนี่สิเหมือนพร้อมจะฆ่ากันให้ตายตรงนี้งั้นแหละ เราคุยงานกันเกือบชั่วโมงจนได้ข้อสรุปว่าบอสจะไปดูงานเองเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์โดยที่มีเธอ เลขาบอสและคุณไอซ์ที่จะไปด้วยกัน
“ยังไงอาทิตย์หน้าเจอกันนะคะ” ไอซ์ยิ้มกว้างเอื้อมมือหมายจะกุมมือเขาเหมือนทุกครั้ง แต่ว่าครั้งนี้เขากลับขยับหนีแล้วไปสนใจยัยหน้าแบ๋วนี่แทน
“ครับ แล้วเจอกัน”
“นี่เธอฉันขอคุยเป็นการส่วนตัวหน่อยสิ ขอยืมตัวเมียคุณแป๊บหนึ่งนะสิงห์” พอเขาพยักหน้ายัยหน้าแบ๋วก็ลุกขึ้นเดินตามออกมาทันที เธอแค่ต้องการจะรู้ว่าไปรักกันตอนไหนทำไมเธอถึงไม่รู้เรื่องอะไรเลย
“นี่เธอคิดยังไงมาคบกับสิงห์ห่ะ?” บางทีนะถ้ายัยนี่เห็นถึงความเหมาะสมของเธอกับเขาคงจะถอยไปเองแหละ แล้วถึงไม่ถอยเธอก็จะไม่ยอมให้รักกันดีๆหรอก
“คือว่าบอสนิสัยดีมากค่ะ” เธอถูกบังคับต่างหากละ
“เธอต้องประสาทกลับแน่ยัยบ้า! เขาใจร้อนมากมีเรื่องกับทุกคนไปทั่วแถมเป็นข่าวฉาวนับไม่ถ้วน ทั้งปากหมาด่าคนไม่เว้นแม้แต่หัวหงอก ที่สำคัญนะเรื่องผู้หญิงก็ยืนหนึ่งเปลี่ยนบ่อยยิ่งกว่ากางเกงในซะอีก คนแบบนี้เหรอนิสัยดีของเธอ!?”
คุณไอซ์เดินออกไปหลังจากที่ร่ายข้อดีของบอสมาให้ซะจัดเต็มจนรู้สึกเหมือนว่าอยากจะเลิกแกล้งเป็นแฟนเขาแล้ว เธอเดินออกมายืนหน้าห้องทำงานบอสอย่างมึนงงก่อนจะตัดสินใจก้าวขาเดินไปอีกทิศทางหนึ่งนั่นคือห้องทำงานของพี่พายุแทนเพื่อตั้งสติก่อนแล้วหาทางออกเรื่องน่าอึดอัดแบบนี้
“จะไปไหน?” ถ้าไม่ออกมาตามเธอคงไม่คิดจะเดินกลับเข้าไปหาเขาเลยใช่ไหม
“ก็คุยธุระเสร็จแล้วจะอยู่ต่อทำไมคะ?” ในเมื่อธุระเสร็จแล้วเธอมีงานต้องเรียนรู้แต่ตอนนี้อยากไปหาพี่ชายก่อนแค่นั้นเอง
“เข้าห้องได้แล้วพี่จะสอนงานแบบตัวต่อตัว” จะไม่ให้ใครได้เข้าใกล้ทั้งนั้นแหละแล้วถ้าไม่จำเป็นเฌอจะไม่ห่างตัวเขาเลย รู้ไหมว่าตำแหน่งผู้ช่วยของเธอกว่าเขาจะขอมาได้มันต้องลงทุนไปมากขนาดไหน
“ไหนว่าเรียนรู้งานกับเลขาก่อนไง?”
“ตอนนี้พี่จะเป็นคนสอนเองทุกอย่างเข้ามาได้แล้ว” เขาไม่ได้แค่เรียก แต่เดินไปจับมือเฌอให้เดินตามเข้ามาในห้องทำงานก่อนจะกวาดสายตามองพนักงานที่แอบมองกันทั่วอย่างพอใจ อีกไม่นานข่าวเรื่องเขากับเธอจะถูกกระจายไปจากปากพวกชอบนินทาเจ้านายจนเข้าหูผู้ใหญ่แล้วเขาจะแสดงตัวรับผิดชอบเอง
เฌอเดินตามเข้ามาให้ห้องทำงานเงียบๆนั่งลงมองคนที่นั่งจ้องเธอแทบไม่กะพริบตา เขาให้อ่านแฟ้มงานต่างๆของบริษัทย้อนหลังไปห้าปีซึ่งเป็นเวลาในช่วงที่บอสสิงห์เข้ามาทำงานพอดี ทุกอย่างที่เขาทำ ทุกการประชุม นัดสำคัญ ลูกค้าใหม่ ลูกค้าเก่า หรือปัญหาใหญ่ๆที่บริษัทผ่านมาได้
“ไอซ์คุยอะไรเกี่ยวกับพี่บ้างรึเปล่า?” เธอดูเงียบมากผิดปรกติจนน่าสงสัยว่าไอซ์จะพูดจาแย่ๆ
“ก็ถามแค่ว่าคิดยังไงถึงคบกับบอสค่ะ คุณไอซ์เธอดูรู้จักบอสมากเลยนะคะ” แค่การสาธยายนิสัยมาก็ไม่ต้องเดาแล้วว่าสนิทกันมากแค่ไหน
“แล้วตอบว่าอะไร?”
“บอสนิสัยดีมากค่ะ”
“ไอซ์คงจะหัวเราะจนฟันแทบร่วงเลยมั้งที่ได้ยิน!” ถ้าตอบว่าถูกบังคับเขายังจะรู้สึกดีกว่าบอกว่าเขานิสัยดีเพราะไม่ใช่แค่ไอซ์ที่รู้เรื่องนิสัยส่วนตัวจัดว่าเหี้ยมาก หลายคนก็เคยเผชิญหน้ากับความเลวทรามของเขามาแล้วทั้งนั้น ทุกวันนี้เลยมีแต่ศัตรูล้อมหน้าล้อมหลังอย่างอบอุ่นเต็มไปหมด
มือที่จับปากกาวางก่อนจะลุกขึ้นเดินตรงไปนั่งใกล้คนที่บอกว่าเขานิสัยดี เฌอก็เคยเจอความเลวของเขามาแล้วในช่วงก่อนจะไปเรียนต่อถึงครั้งนั้นมันจะเป็นเพียงเรื่องเข้าใจผิดบวกกับอารมณ์หึงหวงจนเกินไปก็ตามเถอะ
“พี่ไม่ใช่คนนิสัยดีแต่พี่รู้ว่าควรจะดีกับใครบ้าง” เธอเองก็เป็นหนึ่งในคนที่เขาไม่เคยคิดร้ายเลยแม้แต่นิดเดียว เธอเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาอยากจะเป็นคนดีขึ้นด้วยซ้ำ
“พี่ไม่อยากเป็นบอสของเฌอเลยนะ พี่รู้ว่าเฌอแทบไม่รู้จักพี่เลย แต่ที่พี่เคยพูดออกไปมันคือเรื่องจริงทั้งนั้น” เขาไม่ใช่คนที่จะบอกรักใครง่ายๆหรอกนะ ขนาดแอบรักเธอมาตั้งสองปียังปากหนักไม่พูดอะไรออกไปเลย
เขาทำทุกอย่างผิดพลาดหมดจนกระทั่งเฌอไปเรียนต่อตั้งห้าปี ความคิดถึงเริ่มทรมานเขาเพิ่มขึ้นวันละนิดกว่าจะคิดได้ว่าไม่ควรปากหนักก็ไม่รู้แล้วว่าเธอไปอยู่ส่วนไหนของโลกใบนี้ เขาจะไม่ยอมปล่อยให้เวลามันเสียไปโดยเปล่าประโยชน์อีกแล้ว
“ถึงยังไงก็เป็นบอสสิงห์ก็เป็นอื่นไม่ได้หรอก” เธอจำเป็นต้องดับฝันเขาไปก่อนเลยเพราะคนอย่างบอสสิงห์ไม่มีทางทำให้เธอมีความสุขได้หรอก
“โอกาสสักนิดก็ไม่มีเลยเหรอ?” นี่เขายังไม่ได้เริ่มอะไรเลยนะจะตัดโอกาสกันแบบไม่สนใจความรู้สึกเลยเหรอวะ
เขาไม่ชอบให้ใครมาปฏิเสธสิ่งที่ยื่นให้ด้วยสิ แล้วยิ่งสิ่งนั้นมันสำคัญมากอย่างความรักยิ่งปฏิเสธไม่ได้เลย
“คือว่า…” เธอหันไปสบตาเขากำลังจะพูดออกไปแต่เสียงเคาะประตูดังขึ้นขัดจังหวะก่อน
ก๊อกๆๆ
“สวัสดีครับคุณเฌอ บอสครับผมมีเรื่องด่วนจะคุยด้วย” กวินท์มองหน้าบอสก่อนจะเดินออกไปเพราะเรื่องที่จะคุยกันไม่สามารถให้ใครได้ยินได้
“อ่านรอไปก่อนเดี๋ยวพี่มานะเฌอ” มันเรื่องอะไรวะกวินท์มันถึงทำหน้าตึงเดินออกไปรอแบบนี้
“ค่ะ ตามสบายเลย” บอสสิงห์ยิ้มให้ก่อนจะรีบตามออกไปสงสัยจะงานด่วนมากจริงๆ
กวินท์เดินนำไปนั่งรอในห้องประชุมคิดหนักกับเรื่องที่พึ่งจะรู้มาเพราะความบังเอิญ เรื่องนี้สำคัญกับบอสมากแล้วยังเกี่ยวกับคุณเฌออีกด้วย เขาไม่รู้ว่าคุณเฌอจะรู้มากน้อยแค่ไหนว่าอันตรายอยู่ใกล้แค่ปลายจมูกเท่านั้น
“มีอะไรวะกวินท์” สิงห์กดล็อกประตูขณะที่ถามออกไปแล้วเดินไปนั่งบนโต๊ะตัวยาววางเท้าลงที่เก้าอี้พร้อมกับหยิบบุหรี่มาสูบพ่นควันสีเทาออกมาก่อนจะส่งอีกม้วนให้กวินท์อย่างรู้ใจ
สีหน้าเครียดแบบนี้เรื่องใหญ่ชัวร์
“คนของเรามันได้ข่าวเกี่ยวกับคุณเฌอมาครับว่ามีคำสั่งให้เก็บทันทีที่มีโอกาส แล้วคนสั่งมันเป็นพ่อของไอ้ซีเนมที่บอสพึ่งไปกระทืบจนนอนเป็นผักรักษาตัวไม่หายอยู่โรงพยาบาลครับ”
“เฌอเกี่ยวอะไรด้วย?”
“น่าจะเรื่องผลประโยชน์ครับบอส ผมรู้มาว่าปู่ของไอ้ซีเนมนอนป่วยกำลังจะตายแล้ว”
“เรื่องมรดกเหรอวะ?”
“ครับบอส ถ้าผมจับไม่ผิดตระกูลนี้รวยเป็นพันล้านได้เลย แต่ผมไม่รู้ว่าคุณเฌอเกี่ยวข้องกับตระกูลนี้ยังไงในเมื่อไอ้ซีเนมมันก็เป็นหลานชายคนเดียวและพ่อมันก็เป็นลูกคนเดียว”
“เดี๋ยวกูจัดการถามเฌอเอง ครั้งที่แล้วกูกระทืบลูกจนเกือบตาย ครั้งนี้กระทืบพ่อมันมั้งจะเป็นไรไปวะ!”
เฌอนั่งอ่านรายละเอียดงานอย่างตั้งใจแต่กลับไม่รู้สึกมีสมาธิเลยเพราะเรื่องของบอสสิงห์นั้นวนเวียนอยู่ในหัวไม่หยุด แล้วดูท่าว่าจะแย่กว่านี้แน่ถ้ายังแยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวออกจากกันไม่ได้ เธอเดินออกมาจากห้องตั้งใจว่าจะชงกาแฟแต่กลับเจอพี่พายุยืนอยู่หน้าห้องทำงานพร้อมกับกาแฟเย็นสองแก้ว
“พี่กำลังจะเข้าไปหาพอดีเลย แล้วไอ้เวรนั่นละไม่อยู่เหรอ?”
“คุณกวินท์มาหาค่ะสงสัยจะมีธุระด่วน”
“ดื่มกาแฟไหมพี่ซื้อมาฝาก”
“กำลังอยากพอดีเลยค่ะ เข้ามานั่งในห้องทำงานบอสก่อนไหมคะหรือไปคุยที่ห้องทำงานพี่พายุดี” ถ้าคุยกันที่ตรงนี้พนักงานก็คงจะแอบฟังกันไม่หยุดแน่
“มันให้เฌออยู่แค่ในห้องทำงานเหรอ?” กูว่าแล้วไงไอ้คนขี้หวงอย่างมันไม่มีทางปล่อยเฌอห่างตัวแน่
“ค่ะ ก็อ่านแฟ้มงานย้อนหลังอยู่” พี่พายุกอดอกแล้วกรอกตามองบนเหมือนว่าหนักใจปนเหนื่อยหน่าย
“เฌอไม่ได้คิดอะไรกับสิงห์ใช่ไหม? อย่าไปหลงคารมมันนะ รู้ใช่ไหมว่ามันนิสัยยังไง?” ทั้งเลวทั้งชั่วแถมยังเจ้าชู้มั่วผู้หญิงทำตัวสำส่อนจนน่ากลัวว่าจะติดโรคตายเข้าสักวัน เลขาหน้าห้องคนเก่าเนี่ยก็เคยนอนกับมันมาแล้วด้วยซ้ำ แต่พอมันรู้ว่าเฌอจะมาก็จัดการย้ายออกไปแล้วรับคนอื่นเข้ามาแทน
ใครๆก็รู้ว่าไอ้สิงห์มันไม่ควรจะรักใครเลย
“เอ่อ…คือว่าบอสอยู่ข้างหลังพี่พายุค่ะ” บอสสิงห์มายืนกอดอกยิ้มให้กันเธอก็ดีใจ แต่แววตาดุนี่สิทำเอาอกสั่นขวัญหายไปหมดแล้วนะ เธอกลัวว่าจะมีเรื่องส่วนพี่พายุอ้าปากเหวอก่อนจะหันหลังกลับไปมอง
“มายุ่งอะไรกับคนของกูไม่ทราบไอ้พายุ?” เป็นพี่ชายที่ห่วงน้องสาวมากก็เข้าใจอยู่นะ แต่ถ้ามันจะขัดขว้างความรักของเขาละก็คงได้ฟื้นโรงพยาบาลเข้าสักวันแน่นอน
“แต่นี่น้องสาวกู” คนของมันบ้าอะไรวะ มันน่ะชอบพูดให้คนอื่นคิดไปไกลทั้งที่ความจริงยังไม่ได้เป็นอะไรกันเลยด้วยซ้ำ
“มึงคิดจะใส่ร้ายกูให้เฌอฟังใช่ไหมห่ะไอ้พายุ?” เนื่องจากความดีที่มีมันน้อยมากจนแทบหาไม่เจอ แล้วถ้าเฌออยู่นานกว่านี้เรื่องเหี้ยๆที่เขาทำคงจะเข้าหูรายวันแน่ แต่ว่าคนเดียวที่เฌอน่าจะฟังคงเป็นพี่ชายอย่างไอ้พายุซึ่งมันเกลียดเขามาก
“มายืนทะเลาะกันหน้าห้องทำงานคะ คุณกวินท์พาบอสเข้าไปห้องก่อนเดี๋ยวเฌอตามไปค่ะ” พนักงานมองกันหมดแล้วทำไมไม่รู้จักอายบ้างแต่ละคนตำแหน่งงานสูงๆทั้งนั้นนะ
“บอสครับผมว่า…” ฉิบหายละบอสมองแรงใส่!
“เฌอไปกับพี่เดี๋ยวนี้ไม่ต้องคิดจะเดินไปส่งมันเด็ดขาดนะ!” เขาเดินทายืนขว้างเฌอไม่ให้ไปกับไอ้พายุแต่เท่านั้นมันยังไม่พอเพราะมือที่ว่างก็คว้าข้อมือเล็กมาจับไว้แน่น
“ผู้หญิงมีตั้งเยอะแยะทำไมต้องเป็นน้องสาวกูด้วยวะ!?” อย่างน้อยก็ไอซ์ไงคนที่รับรู้ข้อเสียของมันหมดทุกแล้วสามารถรับได้ทุกอย่างได้ด้วยความเต็มใจ
ไอซ์สามารถเดินเคียงคู่กับมันได้อย่างเหมาะสมแล้วไม่กลัวอันตรายรอบตัวอีกด้วยต่างกับเฌอที่เขากับพ่อลงทุนส่งไปไกลมากเพื่อให้ใช้ชีวิตอย่างปลอดภัย เขาจะไม่ยอมให้ไอ้สิงห์มาทำให้เฌอต้องมีปัญหาเพิ่มเพราะเท่านี้มันก็มากเกินไปแล้ว
“เพราะผู้หญิงคนเดียวที่กูต้องการคือน้องสาวมึงไงไอ้พายุ! มึงยังแค้นเรื่องนั้นอยู่ใช่ไหมถึงจะขัดขว้างกูแบบนี้” เหตุการณ์ในครั้งนั้นมันก็ผ่านมานานแล้ว ถึงเขาจะไม่เคยขอโทษแต่เชื่อเถอะว่ารู้สึกผิดมากจริงๆ
“กูไม่เคยให้อภัยมึงสักครั้งจำใส่หัวเอาไว้ด้วย!” ไม่ว่าจะผ่านไปนานขนาดไหนคำว่าให้อภัยก็ไม่เคยมีในใจเลย ทุกวันนี้ที่ทำงานอยู่บริษัทเดียวกันได้เพราะแทบไม่เจอหน้ากันเลยไง หรือถ้าเจอกันจริงก็คงเป็นในห้องประชุมไอ้สิงห์ก็จะเป็นเหมือนอากาศธาตุในสายตาเขาอยู่ดี
เขาไม่ยอมให้มันได้น้องสาวไปหรอก…มันไม่คู่ควร!