ตอนที่ 7 : เห็นบางอย่าง
หญิงสาวร่างบางเดินเข้ามาในบริษัทด้วยรอยยิ้มสดใส บ่งบอกถึงการพักผ่อนอย่างเต็มที่หลังจากได้หยุดพิเศษหนึ่งวันเต็มๆ การแต่งตัวและสไตล์การแต่งหน้าของฉันต่างจากเที่ยวผับอย่างสิ้นเชิง จากเดรสรัดรูปเกาะอกสีดำในคืนนั้น กลายเป็นเสื้อเชิ้ตสีขาวพอดีตัวคู่กับกระโปรงทรงเอสีชมพูหวานแหววความยาวเหนือเข่าเล็กน้อย ใบหน้าหวานถูกแต่งแต้มอย่างบางเบา
"อรุณสวัสดิ์ค่ะพี่ฝน มาเช้าจังเลยนะคะ"
"พอได้ชาร์จแบตเต็มที่มันก็เลยตื่นตัวเป็นพิเศษ ว่าแต่เช้านี้แก้มรู้หรือยังว่าบอสเรียกประชุมแผนกเรานะ"
"แก้มยังไม่ได้เช็คโทรศัพท์เลยค่ะ คุณดนัยเลขาบอสแจ้งเหรอคะ"
"ใช่ๆ แก้มก็เตรียมแผนการตลาดตามที่เราคุยกันไว้เข้าประชุมด้วยนะเผื่อบอสถาม ส่วนงานอื่นพี่ก็กระจายหน้าที่ไปหมดแล้วล่ะ"
"ได้ค่ะๆ ว่าแต่เฟิร์นไปไหนเหรอคะ เห็นกระเป๋าวางอยู่แต่ตัวหายไป" ฉันถามด้วยความสงสัยเพราะเพื่อนสาวคนสนิทที่นั่งใกล้กันไม่อยู่ ทุกทีรายนั้นเวลามาถึงก็จะมีของกินติดไม้ติดมือมาตลอดและนั่งกินที่โต๊ะไม่ไปไหนจนถึงเวลาเข้างาน แต่นี่มีเพียงกระเป๋าและของกินเต็มโต๊ะที่ยังไม่มีแม้แต่รอยแกะออกจากถุง
"มีข่าวซุบซิบว่าทีมผลิตคนหนึ่งเห็นว่าทำงานดีด้วยนะแต่อยู่ๆก็มีประกาศรายชื่อลาออกติดที่ป้ายประชาสัมพันธ์ ชื่อเล่นชื่อนพ พี่ก็ยังไม่เห็นประกาศนั้นหรอกแต่ยัยตัวดีนั่นแหละหูตาไว และนี่ก็คงไปหาแหล่งข่าวเพิ่มเติม ข้าวเช้ายังไม่สนใจคิดดูเอาเองละกัน" ฝนพูดพลางส่ายหัวให้กับรุ่นน้องคนสนิท
"คุณนพเหรอคะ แก้มพูดคุยกับเขาอยู่นะตอนที่ทำคอลเลคชั่นใหม่ก็ดูปกติ และดูมีวุฒิภาวะไม่คิดว่าจะด่วนตัดสินใจลาออก หรือเพราะที่อื่นยื่นข้อเสนอให้ดีกว่าก็ไม่รู้ แต่ออกกะทันหันไม่แจ้งล่วงหน้ามันแปลกๆนะคะ" ฉันได้แต่สงสัยเพราะการลาออกของพนักงานที่ดูอาวุโสกว่าน่าจะมีความพร้อมกว่านี้ ไม่ใช่ปุบปับกลายเป็นเด็กรุ่นใหม่ที่ทำงานไม่ไหวก็ชิ่งหนี แต่สุดท้ายความสงสัยก็หยุดลงเมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคยดังมาแต่ไกล
"เฟิร์นมาแล้ว...มาพร้อมกับข่าวสดใหม่" สาวตุ้ยนุ้ยเดินยิ้มน้อยยิ้มใหญ่มาหาเพื่อนและพี่สาวคนสนิท
"ขอเนื้อๆเลยค่ะ เช้านี้มีประชุมแก้มขอไม่เอาน้ำ" ฉันต้องรีบเบรคเพื่อนสาวก่อนเพราะเจ้าหล่อนชอบเกริ่นนำราวกับเรียงความ
"ดักคอกันแต่เช้า เอาเนื้อเลยนะ คุณนพลาออกกะทันหัน ไม่มีใครรู้ว่าลาออกทำไมขนาดคนสนิทที่ทำงานคู่กันก็พึ่งรู้ตอนมาถึงบริษัท โทรศัพท์ก็ปิดเครื่องติดต่อไม่ได้ อีกอย่างที่ทุกคนสงสัยคือไม่มีใครเห็นจดหมายลาออกของคุณนพเลย จบ เนื้อๆข้นๆเลย"
"ไม่เห็นต้องสงสัยเรื่องจดหมายหรอก การที่บอสสั่งให้ประกาศเขาคงคุยกันส่วนตัวกับบอสแล้วล่ะ ถ้าอยากหาจดหมายเดี๋ยวที่ประชุมเช้านี้พี่จะให้บอสบอกเฟิร์นด้วยตัวเองเลยละกัน"
"ฆ่ากันชัดๆ จะว่าไปพี่ฝนก็พูดถูก ถ้าบอสไม่มั่นใจคงไม่สั่งให้ติดประกาศหรอกเนอะ คุณนพคงไม่อยากบอกใครอาจเพราะได้ข้อเสนอที่ดีกว่า"
ฉันได้แต่ฟังสิ่งที่เฟิร์นกับพี่ฝนพูดไม่ได้โต้แย้งอะไร ก็คงจริงอย่างที่พี่ฝนพูดเขาคงได้คุยกับเจ้านายเป็นที่เรียบร้อยแล้วที่จะตัดสินใจแบบนี้ มันเป็นวงจรของมนุษย์เงินเดือนอย่างพวกฉัน ถ้าได้ที่ทำงานที่เงินเดือนสูงกว่าก็แค่ลาออกจากที่เก่า
การพูดคุยจบลงเพราะแต่ละคนต้องเตรียมรายงานการประชุมในเช้าวันนี้ ทำให้เรื่องลาออกของพนักงานไม่ถูกตั้งประเด็นอะไรมากนัก
หนึ่งชั่วโมงต่อมา....
"ไปๆ ใกล้ถึงเวลาประชุมแล้วไปเตรียมตัวก่อนที่ท่านประธานคนหล่อจะเข้าประชุม" เสียงพนักงานในแผนกส่งสัญญาณให้ทุกคนที่จะเข้าประชุมเช้านี้ตื่นตัวและรีบไปที่ห้องประชุม
"เอ่อ...ตายจริง พี่ต้องไปเอาแฟ้มเอกสารที่โต๊ะคุณดนัยด้วย ตายๆ ลืมซะสนิทจะทันไหมเนี่ย กว่าจะขึ้นไปชั้นของบอสและลงมาห้องประชุมอีก พี่ต้องเตรียมตัวประชุมมากกว่าคนอื่นซะด้วย" ฝนชะงักฝีเท้าเมื่อนึกขึ้นได้ แต่ต้องหน้าเสียไปเล็กน้อยเพราะเธอต้องเป็นคนพรีเซ็นงานให้เจ้านายหนุ่มฟังคนแรก แต่ตัวเองยังไม่ได้เตรียมความพร้อมเท่าที่ควร
"เดี๋ยวแก้มไปเอาให้ค่ะ พี่ฝนต้องเตรียมตัวรายงานบอสในฐานะหัวหน้าแผนกไปเตรียมตัวเถอะค่ะ แฟ้มเอกสารอะไรคะ หรือมีสีบ่งบอกไหมคะ" ฉันอาสาช่วยพี่ฝนด้วยความเต็มใจ
"แฟ้มสีขาววางอยู่บนโต๊ะคุณดนัยหน้าห้องบอสนะ เป็นแฟ้มสรุปยอดขายของปีที่แล้วเปรียบเทียบกับปีนี้ ฝากแก้มไปหยิบให้พี่หน่อยนะ"
"ได้ค่ะ เดี๋ยวแก้มตามไปนะคะ" ฉันแยกไปอีกทางเพื่อขึ้นลิฟต์ไปยังโต๊ะของเลขาที่อยู่หน้าห้องผู้บริหาร บนชั้นนั้นไม่มีพนักงานคนอื่นนอกจากเลขาคนสนิท ส่วนใหญ่คนที่ขึ้นไปหาเจ้านายหนุ่มก็จะถูกเรียกให้เข้าพบ หรือตำแหน่งหัวหน้าของแต่ละแผนกที่จะเอาเอกสารให้เจ้านายหนุ่มเซ็น ส่วนฉันที่ทำงานที่นี่มาหนึ่งปีเคยขึ้นมาแค่ครั้งเดียวในตอนที่เข้ามาทำงานวันแรกเหมือนเป็นการต้อนรับการรับเข้าทำงาน ตั้งแต่วันนั้นทำให้ฉันมองเจ้านายหนุ่มอย่างคุณพายุเป็นผู้ชายอบอุ่นเลยทันที รอยยิ้มบางๆบ่งบอกถึงความเป็นมิตร ถ้าเป็นคำพูดของหญิงสาวทั่วไปก็ไม่ต่างจากคำว่าตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็น
ติ๊ง...
ประตูลิฟต์เปิดออกเมื่อมาถึงชั้นผู้บริหาร ดวงตากลมโตมองซ้ายมองขวาอย่างหวาดผวา เป็นเพราะชั้นนี้ไม่มีคนอยู่เลย ทำให้ทั้งชั้นเงียบสงัดจนได้ยินเสียงรองเท้ากระทบกับพื้น ใบหน้าหวานสะบัดไปมาเพื่อละลายความคิดในสมองและรีบเดินไปยังโต๊ะเลขาหน้าห้องท่านประธาน
"ไหนละแฟ้มสีขาวที่วางอยู่บนโต๊ะ ไม่เห็นมีสักแฟ้มเลย" ฉันได้แต่พึมพำกับตัวเองเพราะมองบนโต๊ะทำงานของเลขาหนุ่มไม่มีแม้แต่แฟ้มวางอยู่ ด้านหลังโต๊ะทำงานก็มีแต่แฟ้มสีดำไร้ซึ่งเงาของสิ่งที่ฉันจะมาเอา ร่างบางก้มๆเงยๆหาแฟ้มที่ต้องการแต่ก็ยังไม่เห็น
"พี่ฝนบอกอยู่บนโต๊ะไม่ใช่เหรอไง โทรศัพท์ก็ไม่ได้เอามา ประชุมก็คงไม่มีใครเอาโทรศัพท์เข้าไป เอาไงดี...ถ้าลงไปตามพี่ฝนก็ไม่ต่างจากให้พี่ฝนขึ้นมาเอาเองตั้งแต่แรก ป่านนี้คงเตรียมตัวเปิดประชุมอยู่แล้วแน่เลย"
หญิงสาวร่างเล็กหาจนทั่วแต่ก็ยังไม่มีวี่แววของที่ต้องการ แต่แล้วดวงตากลมโตก็หยุดชะงักที่ห้องทำงานของเจ้านายหนุ่ม
"หรือว่าอยู่ที่โต๊ะทำงานของบอส..." ฉันชั่งใจอยู่ไม่กี่วินาทีเพราะใกล้เวลาจะเข้าประชุมแล้ว ใบหน้าหวานหันซ้ายหันขวาราวกับโจรขโมยของ เพราะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในห้องทำงานของเจ้านายหนุ่ม
“แค่แป๊บเดียวคงไม่มีอะไรหรอกมั้ง”
แกร่ก...
มือบางเปิดประตูห้องทำงานของเจ้านายหนุ่มออกอย่างหวาดระแวง เพียงแค่เข้ามาในห้องก็ได้กลิ่นหอมของน้ำหอมปรับอากาศที่เป็นเอกลักษณ์ เหมือนกับครั้งแรกที่ฉันเข้ามาในห้องนี้ การจัดตกแต่งอาจเปลี่ยนไปบ้างแต่ก็ยังคุมโทนสีขาวสลับกับสีดำตามสไตล์ผู้ชายสุขุมแต่ยังมีความอ่อนโยนด้วยสีขาว
"นั่นไงแฟ้มสีขาว ไหนบอกอยู่บนโต๊ะคุณดนัยที่แท้ก็อยู่ในห้องทำงานบอส" ขาเรียวยาวเดินไปที่โต๊ะทำงานของเจ้านายหนุ่มอย่างมั่นใจเมื่อเห็นสิ่งที่ต้องการ ใบหน้าหวานคลายความกังวลลงเล็กน้อย และรีบหยิบของที่ต้องการทันที
พรึบ.. ตุบ..
ด้วยความรีบหยิบของที่ต้องการจนเกี่ยวซองเอกสารสีน้ำตาลที่วางอยู่ใกล้ๆกันหล่นพื้นโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่แล้วมือบางสั่นเทาทันทีในตอนที่จะเอื้อมไปเก็บซองเอกสาร ดวงตากลมโตเบิกตาโพลงอย่างตกใจ มือบางปิดปากตัวเองแน่นเมื่อได้เห็นรูปที่อยู่ในซองนั้นเลื่อนออกมาโดยที่ฉันไม่ได้ตั้งใจจะเปิดดู
"ผมประกาศอย่างชัดเจนแล้วว่าถ้าไม่ได้รับอนุญาตห้ามเข้าห้องทำงานของผมโดยพลการนะครับคุณแก้มใส" น้ำเสียงเข้มพูดขึ้นเมื่อเปิดประตูห้องมาก็เห็นหลังของพนักงานสาวที่กำลังก้มเก็บของ พายุจับอัตลักษณ์ท่าทางของพนักงานในบริษัทได้ทุกคนต่อให้พนักงานคนนั้นจะหันหลังอยู่ก็ตาม
"ขะ ขอโทษค่ะบอส พอดีดิฉันได้รับมอบหมายให้มาเอาแฟ้ม ตะ แต่หาบนโต๊ะคุณดนัยไม่เจอเลยเสียมารยาทเข้ามาในห้องทำงานของบอสค่ะ" ฉันรีบเก็บรูปเข้าไปซองสีน้ำตาลและวางบนโต๊ะอย่างเดิม ก่อนจะหันมาตอบกับเจ้านายหนุ่มด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก ฉันไม่ได้ยินแม้แต่เสียงเปิดประตูเข้ามาของเจ้านายหนุ่ม ทำเอาหัวใจดวงน้อยตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม
สายตาคมกริบมองปฏิกิริยาของคนตรงหน้า พลางปรายตามองซองเอกสารสีน้ำตาล ใบหน้าหวานก้มลงไม่กล้าแม้แต่จะสบตา เนื้อตัวสั่นจนเขาสังเกตเห็น
"งั้นดิฉันขอตัวนะคะ ต้องเตรียมตัวเข้าประชุม" ใบหน้าหวานเงยหน้าสบตาเจ้านายหนุ่มเพียงนิดและรีบลนลานเพื่อจะออกจากห้องทำงาน
"เดี๋ยว"