ประเทศดูไบ
ผมชื่อดีแลนครับ เป็นลูกครึ่งอังกฤษและไทย พ่อผมเป็นคนอังกฤษแม่ผมเป็นคนไทย แต่ผมมาเกิดและโตที่ดูไบ ผมเลยพูดได้ทั้งภาษาอังกฤษ ภาษาอาหรับและภาษาไทย และที่นี่ผมก็เป็นเจ้าของบริษัท DDTT
DDTT เป็นบริษัทผลิตน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในประเทศดูไบ ซึ่งมีผมเป็นเจ้าของเพียงคนเดียว เพราะพ่อกับแม่ผมเสียไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว และพวกท่านก็ทิ้งทุกอย่างเอาไว้ให้ผมเพียงคนเดียว โดยมีคุณอาน้องชายแท้ๆของพ่อคอยช่วยดูแลเรื่องงานตั้งแต่ที่พ่อผมเสียไป
“ดีแลน...อาได้ข่าวว่าหลานจะเดินทางไปประเทศไทย..?”
“ใช่ครับ..ผมตั้งใจว่าจะไปดูบริษัทผลิตน้ำมันที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ที่อยู่ที่ภูเก็ตนะครับ..”
“แล้วหลานจะไปเมื่อไหร่..?”
“อีก 3 วันครับ..”
“แล้วจะไปกี่วัน..?”
“ผมตั้งใจว่าถ้าดูงานเสร็จคงจะอยู่เที่ยวต่อ น่าจะสัก 2 อาทิตย์นะครับผมถึงจะกลับ”
“ไปเที่ยวพักผ่อนบ้างก็ดี..ทางนี้ไม่ต้องเป็นห่วงเดี๋ยวอาช่วยดูแลให้..”
“ผมไม่เคยห่วงอะไรอยู่แล้วครับ เพราะผมไว้ใจคุณอาทุกอย่าง ผมไปเที่ยวครั้งนี้คงทิ้งตัวเลยยังไงก็ฝากคุณอาด้วยนะครับ..”
“สบายมาก..เที่ยวให้สนุกนะ..”
“ขอบคุณครับ..”
...
3 วันผ่านไป
สนามบินสุวรรณภูมิ
“นายครับ..เราต้องไปพักที่โรงแรมในกรุงเทพฯก่อนนะครับ แล้วพรุ่งนี้เราค่อยนั่งเครื่องไปภูเก็ตกันต่อ ถ้านายนั่งเครื่องต่อไปอีกตอนนี้ผมว่านายไม่ไหวแน่ๆ..”
“นี่แกเห็นฉันอ่อนแอขนาดนั้นเลยหรอ..?”
“เปล่าครับนาย..ผมแค่เป็นห่วงกลัวว่านายจะอ่อนเพลียเกินไปนะครับ..”
ผมมองหน้าไอ้ราจิฟอย่างเข้าใจมัน มันคงเป็นห่วงผมเพราะผมนั่งเครื่องจากดูไบมาก็ 7 ชั่วโมงแล้ว จริงๆผมจะนั่งเครื่องบินส่วนตัวไปลงที่ภูเก็ตเลยก็ได้แต่ผมแค่อยากใช้ชีวิตปกติ เหมือนนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวทั่วไป จึงลองนั่งเครื่องบินแบบคนอื่นๆบ้าง
“ฉันจะบินต่อเลย แกไปซื้อตั๋วเครื่องบินมาเดี๋ยวฉันรอตรงนี้..”
“ครับนาย...”
ผมนั่งรอไอ้ราจิฟอยู่ตรงที่นั่งคนเดียว หันไปเห็นพ่อแม่ลูก 3 คนที่ยืนอยู่ไม่ห่างมากนักกำลังสั่งลากัน
“โทรกลับมาหาพ่อบ้างนะ ไม่ใช่ว่าไปแล้วก็ลืมพ่อตลอด..”
“ไม่ลืมหรอกจ๊ะ ลูกจะลืมได้ไงพ่อสุดที่รักทั้งคน..”
“แล้วอย่าลืมที่พูดกับพ่อไว้นะ..”
“อะไรจ๊ะ..?”
“ก็เรื่องที่บอกจะไม่มีแฟนไง..ห้ามมีนะแกบอกกับพ่อแล้วนะ..”
“โอ๊ย..แกนี่นะให้ลูกมันมีผัวสักทีเถอะ จะให้มันอยู่ขึ้นคานหรือไง นี่มันจะ 30 แล้วนะ..”
“ไม่ได้ ก็ลูกสาวของฉันทั้งคนถ้ามันจะมีผัวฉันต้องเป็นคนเลือกให้มันเท่านั้น แต่ว่าตอนนี้อยู่เป็นโสดไปก่อนนะลูก อย่าเพิ่งไปรีบมีเชื่อพ่อ..”
“จ๊ะ..”
“เจ้าปะคู๊น..ขอให้แกมีผัวเป็นฝรั่งสักคนทีเถ๊อะ พ่อแกจะได้อกแตกตายไปเลย..”
แม่ยกมือขึ้นหัวแล้วพูดขอให้ฉันมีผัวเป็นฝรั่ง
“ไม่ได้นะโว๊ย..ห้ามเด็ดขาด..”
“มีผัวฝรั่งดีจะตาย หาแบบหล่อๆไปเลยนะ เอารวยๆด้วย..เดี๋ยวดูซิเผื่อเจอคนแถวนี้..อ๊ะ นั่นไงนั่นอยู่นั่น..”
แม่มองหาฝรั่งที่อยู่แถวๆนั้นแล้วก็หันไปเห็นฝรั่งที่ใส่แว่นตาดำคนหนึ่งนั่งอยู่คนเดียว แล้วแถมยังเดินเข้าไปใกล้ๆเขาอีก ฉันกับพ่อต้องรีบไปดึงออกมาให้ห่าง
“แม่..จะไปชี้เขาทำไม เดี๋ยวเขาก็ว่าเอาหรอก”
“หล่อนะแกลองหันไปดูเขาซิ หล่อทะลุแว่นตาเลยนะ...”
แม่ดึงหน้าให้ฉันกันไปมองหน้าเขาชัดๆ แต่พ่อก็รีบมาดึงหน้าฉันกลับไม่ให้ฉันมอง
“ไม่ได้นะ..ไอ้ฝรั่งแบบนี้พ่อไม่ชอบ แกนี่จะบ้าหรือไงยุให้ลูกมีผัวอยู่ได้..ไม่ได้นะห้ามมีผัวเป็นฝรั่งเด็ดขาดพ่อไม่ยอม พ่อเกลียดพวกฝรั่ง..”
“เบาๆซิพ่อ เดี๋ยวเขาก็ได้ยินหรอก..”
“มันได้ยินมันก็ฟังไม่รู้เรื่องหรอก แกต้องฟังที่พ่อพูดนะห้ามมีผัวเป็นฝรั่งเด็ดขาด...”
“รู้แล้วๆ..ไม่มีทั้งไทยทั้งฝรั่งนั่นแหละ..”
“ดีมากลูกพ่อ..”
สนามบินภูเก็ต
ผมนั่งอยู่บนเครื่องคิดถึงแต่เรื่องของครอบครัวนั้น พวกเขาคิดว่าผมฟังภาษาไทยไม่รู้เรื่อง ซึ่งจริงๆแล้วผมฟังออกทุกคำ มันยังมีอยู่อีกหรอที่ห้ามลูกตัวเองมีแฟนแถมยังห้ามไม่ให้มีแฟนเป็นฝรั่งอีก
“นายครับ..ถึงโรงแรมแล้วครับ”
“อืม..”
ผมเดินเข้ามาในห้องนอนตัวเองก็คิดถึงแต่ใบหน้าของผู้หญิงคนนั้น
“ก็น่าสนใจดี..นี่ฉันจะหาตัวเธอได้ที่ไหนนะ..?”
....