บทนำ + อ่อยมาอ่อยกลับไม่โกง Past 1 (นารี...ของนายลุงเถือน)
เมื่อ 20 ปีก่อน
อุแว้ อุแว้ อุแว้
เสียงร้องของเด็กทารกแรกเกิด ดังขึ้นในช่วงเวลากลางดึก ซึ่งเสียงนั้นดังอยู่ในละแวกบ้านของชญณิพัฑฒ์ เป็นหมู่บ้านจัดสรรที่มีราคาแพง แต่ทว่าเสียงดังกล่าวดังมาจากใกล้ ๆ แถวถังขยะ ซึ่งมีแมลงวันตอมอาหารเปียกที่เริ่มส่งกลิ่นเหม็นเน่าออกมา
และเป็นช่วงเวลาที่ชญณิพัฑฒ์กำลังจะเปิดประตูรั้วเข้าไปยังบริเวณบ้าน ซึ่งเป็นประตูอัตโนมัติ พลันหูของเขาก็ได้ยินเสียงเล็ก ๆ เบา ๆ จากทางหน้าต่างกระจกรถที่เขาเปิดลงมา ในขณะที่เขากำลังดูดสิ่งรมควันพร้อมกับพ่นควันขาว ๆ ออกมาจากทางจมูกและปาก แต่ด้วยความสงสัยของชญณิพัฑฒ์ในวัยหนุ่ม ซึ่งในตอนนั้นเขามีอายุยี่สิบสามปีเศษ
ชายหนุ่มตัดสินใจเปิดประตูรถพร้อมกับก้าวขาไปตามเสียงอย่างระแวดระวัง เขาค่อย ๆ เดินต่อไปเรื่อย ๆ จนไปหยุดอยู่ตรงข้าง ๆ ถึงขยะใบสีเขียว ซึ่งอยู่ห่างไม่ไกลจากรั้วบ้านของเขา
พลันสายตาเขาไปเห็นกล่องสีน้ำตาลหนึ่งใบ แต่ทว่าเขาเอียงใบหน้าและแหนบหูฟังว่า เสียงที่ตนได้ยินมาจากกล่องใบนี้หรือไม่ แต่เขากลับได้ยินเสียงตะกุกตะกักอยู่ในกล่องใบนี้แทน ชายหนุ่มไม่รอช้า เปิดกล่องใบนี้ออกอย่างช้า ๆ เผยให้เห็นเจ้าของเสียงร้องตัวน้อย ๆ ที่มีน้ำตานองหน้า ผิวขาวอบแดง หน้าตาจิ้มลิ้ม น่าเกลียดน่าชัง
จากนั้นชายหนุ่มก็เก็บเด็กน้อยมาเลี้ยง แต่ทว่าในเมื่อหาบิดาและมารดาของเด็กน้อยคนนี้ไม่ได้ เขาเลยยกให้ป้าแก้วซึ่งเป็นแม่บ้านของเขา รับมาเลี้ยงและดูแลแทน ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายตัวเขาเองจะเป็นคนออกให้เด็กคนนี้ทั้งหมด แค่ให้ป้าแก้วรับเป็นแม่บุญธรรมของเด็กทารกน้อยคนนี้เท่านั้น
ชญณิพัฑฒ์ใช้เวลานานพอสมควรในการดำเนินเรื่องของเด็กคนนี้ จนทางนั้นยินยอมให้เด็กน้อยคนนี้อยู่ในความดูและของป้าแก้วและเขา
จากนั้นเป็นต้นมา ชายหนุ่มก็เลี้ยงเด็กคนนั้นมาจนโต ซึ่งมีชื่อว่า หนูดี ทั้งเขาและครอบครัวคอยประคบประหงมดูแลอย่างดี ไม่มีขาดตกบกพร่อง บิดาและมารดาของเขาก็ดีใจอยู่ไม่ใช่น้อย ที่จะมีเด็กเล็ก ๆ คอยวิ่งเล่นในบ้านหลังใหญ่โตขนาดนี้
แถมบิดาและมารดาของชญณิพัฑฒ์ก็ไม่ได้คัดค้านที่ลูกชายคนตนทำตามอำเภอใจ ดีซะอีกพวกท่านทั้งคู่อยากได้ลูกสาวมานาน แต่ไม่มีโอกาสได้มี จนพวกท่านถอดใจและทำหมันไปโดยปริยาย
และอีกอย่าง พวกท่านทั้งสองก็มีชญณิพัฑฒ์ตอนที่อายุเข้าสี่สิบต้น ๆ ทำให้ร่างกายอ่อนแอลง เลยทำให้การมีลูกในครั้งที่สองและครั้งที่สามก็ไม่เป็นผล ไม่ว่าจะวิธีใดก็ตาม แต่ในตอนที่มีชญณิพัฑฒ์พวกท่านทั้งสองตั้งใจด้วยวิธีธรรมชาติของมนุษย์ แต่ถ้าครั้งนี้พวกเขาทั้งคู่ไม่มีลูก เขาจะยกทรัพย์สมบัติทั้งหมดบริจาคให้กับมูลนิธิที่พวกท่านดูแลเป็นเวลานานมาหลายสิบปี สุดท้ายผลบุญของพวกเขาทั้งสองทำให้มีชญณิพัฑฒ์ในวันนี้
“หนูดี วันนี้อย่าลืมขึ้นไปนวดฉันด้วยนะ” น้ำเสียงของคนเป็นเจ้านายที่เพิ่งกลับมาจากที่ทำงาน เอ่ยปากบอกหญิงสาวที่กำลังเก็บถ้วยชาม ที่เขาเพิ่งทานเสร็จ
“ได้ค่ะ คุณชญณิพัฑฒ์” หญิงสาววัยยี่สิบปีเต็มเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เธอมีท่าทีดีอกดีใจ เมื่อจะได้เข้าไปนวดชายหนุ่มที่ตนนั้นแอบชอบมานานตามประสาวัยรุ่น ห
ญิงสาวอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวและกางเกงขาสั้นสีชมพู เป็นชุดที่เธอใส่เพื่อจะเตรียมตัวจะเข้านอน แต่ทว่าในสายตาของชายวัยสี่สิบต้น ๆ อย่างเขาไม่ได้มองมันแค่เพียงชุดนอน แต่มันกลับตรงกันข้าม ซึ่งทำให้ตัวเธอดูเซ็กซี่มากขึ้น เมื่ออยู่ในชุดนี้
เลือดในกายของเขามันสูบฉีด จนเขาเก็บอาการไว้ไม่อยู่ เลยต้องรีบขึ้นไปบนห้องอย่างไว ถึงแม้เขาจะเห็นหญิงสาวมาตั้งแต่อ้อนแต่ออก เขาทั้งรักทั้งเอ็นดูเหมือนน้องเหมือนลูก แต่ทว่าพอหนูดีเริ่มโต ความเป็นผู้หญิงของเธอเริ่มเด่นชัดมากขึ้น หน้าอกที่ใหญ่เกินตัว สะโพกงอลแลดูสวยงามเมื่ออยู่ใต้เสื้อผ้าที่เธอสวมใส่
ความคิดของชญณิพัฑฒ์เริ่มเปลี่ยนไป เขาเริ่มมองหนูดีในอีกแง่มุมของผู้ชายที่เริ่มสนใจในผู้หญิงที่เขาอยากได้มานอนด้วย ถึงแม้ว่าเขาจะเคยมีอะไรกับผู้หญิงมาหลายคนก็ตาม แต่ถึงอย่างไรเรื่องพวกนี้มันก็คือเรื่องธรรมดาของผู้ชายที่เขาทำกัน และตัวเขาเองก็โสดมานาน
แต่ทว่าก่อนหน้านี้ เขาก็เคยมีแฟนสาว พามาที่บ้านอยู่บ่อยครั้ง แต่สุดท้ายก็ได้เลิกรากันไป เพราะด้วยในวัยที่เขายังรักสนุก ยังไม่อยากมีภาระและผูกพันกับใคร แค่เขามีหนูดีแค่คนเดียว เขาก็ดูแลไม่หวั่นไม่ไหว ไหนจะค่าเล่าเรียน ไหนจะค่าเลี้ยงดูรายเดือนที่เธออยู่ในฐานะแม่บ้าน ตั้งแต่เธอเริ่มช่วยเหลือป้าแก้วได้ เขาก็ให้หนูดีมาช่วยงานป้าแก้วตั้งแต่นั้นมา จนมีเงินเดือนเป็นของตัวเอง
แต่สำหรับชญณิพัฑฒ์ หนูดีไม่ใช่ผู้หญิงที่อยากได้มาเป็นแค่คู่นอน แต่เขาอยากได้เธอมาเป็นคู่ชีวิต ที่มีแต่เขาและเธอเท่านั้น