ช่วงเย็นของวันเสาร์พวกเรามาที่สนามแข่งรถทางตรง การแข่งขันครั้งนี้มีผู้คนมาเข้าชมกันมากมาย เนื่องจากเป็นการแข่งขันระหว่างทีมวินโซนทีมพวกผมเอง และทีมซัคเซส ทั้งสองทีมนี้ไม่เคยแพ้เลยสักครั้ง ผู้จัดต้องการกำไรเยอะ ๆ ถึงได้เอาทั้งสองทีมมาแข่งกันแบบนี้ ผู้จัดก็ไม่ใช่ใครที่ไหน…พ่อผมเอง
ผมเดินเล่นไปฝั่งซัคเซสบ้าง ไปหาอะไรกินบ้าง ซึ่งของกินที่ผมหาก็ไม่พ้นลูกชิ้นทอด ง่าย ๆ แถมอร่อย ไม่ต้องยุ่งยากดีด้วย พวกสาว ๆ มันก็พากันกินยำ ร้านข้าง ๆ ลูกชิ้นทอดนี่แหละ
“มึงซื้อเผื่อกูด้วยดิ” กลอยเอ่ยออกมา ผมพยักหน้าส่ง ๆ แล้วเลือกเพิ่ม เอาให้พอกินกันทั้งแก๊ง
ผมส่งจานที่มีลูกชิ้นอยู่เต็มให้คนขาย หันมองไปรอบ ๆ สะดุดสายตาที่ผู้หญิงสองคนที่กำลังเดินเข้ามา ทั้งสองไม่ได้มาด้วยกัน เพียงแต่เดินมาพร้อมกันเฉย ๆ คนหนึ่งคืออดีตเคยควง คนหนึ่งคือแฟนที่แม่ยัดเยียดให้
“มองขนาดนี้ก็กลับไปควงกันเลยจะได้จบ ๆ” ฟองกอดคอผมแล้วเอ่ยออกมา ผมปัดมือมันออก มันก็ยังจะยกขึ้นมากอดใหม่อีกครั้ง
“กี้ก็ดูโอเคอยู่นะ มึงไม่สนเหรอ” ฟองพูดต่อ
“ที่จริงก็ไม่สน แต่ถ้าเพื่อประโยชน์บางอย่างก็ไม่แน่…” ผมตอบกลับแล้วหันไปรับถุงลูกชิ้นจากคนขาย เดินหนีฟองมาทางห้องของทีม ทิ้งให้ฟองจ่ายเงินค่าลูกชิ้นเสียเลย
ยิ่งสองคนนี้เดินมาคู่กัน ผมยิ่งเลือกได้ไม่ยาก คนหนึ่งตรงสเป็กทุกอย่าง อีกคนไม่ตรงสเป็กสักอย่าง แค่นี้ก็ไม่ต้องคิดอะไรเยอะแล้ว
“มาทำไรที่นี่” ผมเดินไปหากี้แล้วเอ่ยออกมา แต่คนที่ชะงักกลับเป็นยัยจืดนั่น เธอหยุดเดินแล้วหันมามองหน้าผม แต่เมื่อเธอเห็นว่าผมถามคนอื่นเธอก็หันไปมองตามแล้วเหยียดยิ้มร้าย
“กี้ก็มาหาภีมไง” ขณะที่กี้ตอบ เด็กนั่นก็ทำปากเลียนแบบคำพูดของกี้ น่าเขกกะโหลกจริง ๆ
“คิดถึงภีมเหรอ” ผมถามกี้ แต่ยัยจืดกลับทำโก่งคอจะอ้วก เพื่อนที่มากับเธอก็ช่วยกันลูบหลัง
“ใช่…วันนั้นที่โรงอาหาร เรายังไม่ได้คุยอะไรกันเลย” กี้เห็นว่าผมไม่ได้มองหน้าเธอ เธอจึงมองตามสายตาของผม ยัยจืดก้าวถอยหลังไปสามก้าว เพื่อให้พ้นระยะสายตา ทำให้เห็นห้องของทีมวินโซน
“จะให้กี้เข้าไปคุยที่นั่นเหรอ กี้เข้าได้ใช่ปะ” กลายเป็นกี้เข้าใจผิดเลย…
“เข้าไปได้นะกี้ กิ๊กไอ้ภีมเข้าได้อยู่แล้ว” กลอยเดินเข้ามาพอดีจึงเอ่ยออกมา
“ไอ้ภีมมึงจ่ายค่าลูกชิ้นมาด้วย แหมมม ทำเป็นป๋า เลือกมาซะเยอะแยะแล้วทิ้งให้กูจ่าย” ฟองบ่นยาวเหยียด
“กูไม่จ่าย”
“ถ้ามึงไม่จ่าย กูจะเอาน้ำยำในถ้วยไปเทใส่รถมึง”
“เออ กูยอม” ผมรีบหยิบเงินในกระเป๋าสตางค์ให้ฟอง คนอย่างมันพูดจริงทำจริง อาจดูเหมือนขู่เล่น ๆ แต่มันทำจริงทุกครั้ง
“ฮ่า ๆ กลุ่มนี้ยังเฮฮาเหมือนเดิมเลยนะ” กี้พูดไปยิ้มไป
“เหมือนเดิมทุกอย่างแหละกี้” ฟองยิ้ม แล้วหันมาพูดกับผม “กูไปก่อนนะ จะแดกยำก็ตามมา”
“เออ”
“ตกลงเราจะไปคุยกันปะ” กี้ถามผม พวกเพื่อนของเธอก็รอฟังคำตอบอยู่
LINE
-หวานกว่านี้ไม่มีแล้วจ้า-
หวานกว่านี้ไม่มีแล้วจ้า : ไปคุยสิ
ฮึฮึ ท้าเหรอ…ได้!!!
“ไปดิ แต่ไม่ต้องเข้าไปคุยในนั้นหรอก” ผมคว้าแขนกี้แล้วพาเธอเดินไปที่รถของผม แต่ยังไม่ทันเปิดประตูรถให้กี้ขึ้นไปนั่ง พ่อก็โทรเข้ามา
Rrrr
-พ่อ-
“แกไปแผลงฤทธิ์อะไรใส่แม่ แม่ถึงโทรมาบอกให้พ่อจ่ายเงินเดือนแกแค่ครึ่งเดียวเนี่ย” เสียงพ่อที่เข้ามาในหู ทำให้ผมต้องหันขวับไปมองคนทางด้านหลังที่กำลังยืนหัวเราะอยู่ ไม่รู้ว่าเธอคุยกับเพื่อนแล้วหัวเราะ หรือกำลังหัวเราะเยาะผมกันแน่
หรือว่ายัยเด็กนั่นฟ้องแม่?
ยัยจืด!!!
“ก็ให้ผมตามที่แม่บอกเลยพ่อ” จะตัดเงินก็ตัดไปเลย แต่ผมจะไม่ยอมอ่อนข้อให้ยัยนั่นหรอก
ผมกดวางสายแล้วเปิดประตูรถให้กี้ขึ้นไปนั่ง แล้วผมถึงได้ไปนั่งที่ฝั่งคนขับ ยัยจืดมองแล้วหยุดหัวเราะ สีหน้าของเธอเจื่อนลงอย่างเห็นได้ชัด
“ภีมยังโสดใช่ปะ” คำถามแรกของกี้ก็ทำให้ผมพูดอะไรไม่ออก ผมไม่ใช่พวกชอบโกหก แต่ถ้าพูดความจริงก็อาจจะอดควงกี้เพื่อสลัด ‘แฟน’ ทิ้ง
“กี้จะบอกว่าตัวเองโสดหรือไง” ผมเลยถามแทนที่จะตอบ
“กี้ก็ไม่เคยคบใครจริงจังนะ เรียกว่าโสดตลอดเวลาเลยแหละ”
กี้มองหน้าผมแล้วคลี่ยิ้มออกมาบาง ๆ เธอกำลังจะพูดอะไรบางอย่างออกมา แต่ยังไม่ทันได้พูด ก็มีเสียงเคาะกระจกฝั่งผม หันไปมองก็พบว่าเป็นไอ้กราฟที่เป็นคนเคาะกระจก สีหน้าของมันดูแตกตื่นอย่างไรชอบกล
“อะไรวะ” ผมลดกระจกลงแล้วถามคนด้านนอก มันชี้มือชี้ไม้บุ้ยใบ้ไปทางหลังรถ ผมเลยมองที่กระจกมองหลัง หญิงวัยกลางคนยืนกอดอก สีหน้าเรียบเฉยไม่แสดงถึงความดุดันแต่ก็ไม่ใช่สีหน้าที่ให้ความรู้สึกอ่อนโยน
“แม่มึงนั่งอยู่ตรงนี้ มึงไม่เห็นเลยเหรอ” ไอ้กราฟถามแล้วชี้ไปที่ม้านั่งเหล็กตัวยาวที่ตั้งอยู่ตามแนวรั้ว
ผมส่ายหน้าให้เป็นคำตอบ ผมไม่เห็นแม่เลย ไม่ได้มองเลยแหละ และไม่คิดว่าจะได้เจอแม่ที่นี่ด้วย แม่ไม่ชอบงานแบบนี้ ไม่เหมือนพ่อที่ชอบถึงขั้นเป็นผู้จัด
“ไว้คุยกันใหม่นะกี้” ต้องพูดคำนี้กับกี้อีกครั้ง พูดทีไรก็หายเงียบกันไปทุกที ต้องมาเจอกันโดยบังเอิญถึงจะได้คุยกัน
“อือ” กี้เปิดประตูลงจากรถ น้ำเสียงและสีหน้าบ่งบอกถึงความไม่พอใจ
ผมเดินไปหาแม่แล้วส่งยิ้มแห้ง ๆ ไปให้ แต่แม่ก็ยังคงเฉยแล้วเดินผ่านหน้าผมไป ท่าทางจะงอนจริง ๆ แฮะ ไม่อย่างนั้นท่านคงดุคงด่าผมแล้ว
“แม่อย่าเงียบงี้ดิ ด่าผมหน่อยก็ได้” ผมรีบวิ่งตามไปแล้วคว้าแขนแม่ไว้
“ไม่ด่าหรอก เพราะแม่ลงโทษแกด้วยการตัดเงินเดือนไปแล้ว แกเป็นคนตกลงแบบนั้นเองนะ” แม่กำลังจะเดินออกไป แต่ท่านก็หันกลับมาพูดต่อ “ถ้าแกทำอะไรผิดอีก แม่ก็จะตัดอีก ท่องเอาไว้นะภีมว่าแกมีแฟนแล้ว”
ผมกลืนน้ำลายเหนียว ๆ ลงคอ ได้แต่มองตามหลังแม่ที่กำลังเดินขึ้นไปหาพ่อ ตอนที่บอกให้พ่อตัดเงินได้เลยก็เพราะผมคิดว่าเป็นฝีมือยัยจืด ไม่คิดว่าแม่จะมาเห็นด้วยตาตัวเองแบบนี้นี่หว่า
“สมน้ำหน้า” หันมาหาต้นเสียง ยัยเด็กหน้าจืดยืนอยู่ด้านหลัง รอยยิ้มอย่างผู้ชนะผุดขึ้นบนใบหน้าเธอ
“ไหนบอกว่าทำรายงาน มาโผล่ที่นี่ได้ไง” ผมเลิกคิ้วขึ้นถาม เห็นบอกว่าสัปดาห์นี้ไม่ว่าง นัดเสาร์หน้าแทน แล้วทำไมถึงมาโผล่ที่นี่
“ฉันก็ทำแค่ตอนกลางวันสิ เย็น ๆ แบบนี้ออกมาดูทีมของแฟนนนนนนนดีกว่า” เธอหัวเราะร่าแล้วเดินหนีออกไป
ไม่ได้อยากเป็นแฟนด้วยสักหน่อย!