หน้าตานี่ซีดเซียวเชียว ตื่นแล้วออกมารับรถเลยหรือเปล่า ไม่คิดจะเติมแป้งเติมปากบ้างหรือไง เสื้อยืดย้วย ๆ และกางเกงขาสั้นนั่นอีก ผมเคยเห็นพวกเพื่อนผู้หญิงของผมไว้ใส่นอน หรือไม่ก็ใส่ซุกหัวอยู่แต่คอนโด ไม่เห็นมีใครใส่ออกมาข้างนอกแบบนี้เลย
“ขนาดว่าไม่สนใจเด็กนะ” พี่เอ็กซ์เอ่ยขึ้นมา ผมไหวไหล่เล็กน้อยแล้วหันไปมองน้องคนนั้นต่อ
“ก็แปลกใจอะ ไม่คิดว่าผู้หญิงจะแต่งตัวแบบนี้ออกมาข้างนอก และอีกอย่าง…น้องเขามองผมแปลก ๆ”
“น้องเขาเห็นมึงมองเขาอะดิ เขาอาจจะไม่พอใจที่มึงมองเขาแบบนั้น” ไอ้มาร์ชเอ่ยออกมา
“ยัยนั่นมองกูก่อน” ผมเถียง ผมไม่ได้มองเขาก่อนเลย น้องคนนั้นมองผมก่อนต่างหาก
“สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ วันนี้แดกอะไรกันดีคะ” เสียงแป๋น ๆ ของฟอง เพื่อนผู้หญิงของผมดังขึ้นมาเรียกความสนใจจากพวกผม บทสนทนาเรื่องลูกค้าคนนั้นก็เลยจบลง พวกมันแห่กันมายกแก๊ง ไม่รู้อะไรเข้าสิงถึงตื่นแต่เช้าและหอบตัวเองมาที่นี่ได้
“ข้าวไข่เจียว” ผมตอบกลับไป พวกสาว ๆ เบ้ปากทำท่าทางสะอิดสะเอียนกับเมนูโปรดของผม
ไข่เจียวไม่ดีตรงไหน ผมกินเกือบทุกมื้อ อร่อยจะตาย
“พักได้พักนะเมนูนี้อะ กินอย่างอื่นบ้าง” มีนพูดจบก็หย่อนสะโพกนั่งลงที่ม้านั่งมุมใน เธอเอาสมาร์ตโฟนออกมาแล้วถ่ายรูปถ่ายคลิปเล่นตามปกติ
“พวกมึงก็คิดกันเอง ไม่ต้องมาถามกู” ผมหยิบถั่วขึ้นมาปาใส่มีน
มันรีบปัดออกจากเสื้อผ้าของตัวเองทันที เห็นมีนและพวกสาว ๆ แต่งตัวมาที่นี่ ต่างกับน้องคนนั้นโดยสิ้นเชิง
ผมหันไปมองที่เดิม แต่น้องคนนั้นก็หายไปเสียแล้ว เหลือแต่คุณลุง
คุณป้าคู่หนึ่งที่กำลังจะขับรถออกไป ชะเง้อมองไปในห้องกระจกก็ไม่มีเด็กคนนั้น
“น้องเขากลับไปแล้วครับ รถนี่ไม่ใช่ของน้องเขาหรอกครับ น้องแค่มาจ่ายเงิน แต่ก็แปลกนะครับ ทำไมไม่ขึ้นรถไปด้วยกัน น้องนั่งแท็กซี่ออกไปคนเดียว หน้าตาของลุงป้าก็ดูไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่ เป็นการรับรถที่ดูแปลกมาก”
พี่ป้อมเอ่ยออกมา เขาเดินมาหาพี่ลมเพื่อที่จะเปิดงานในไอแพดให้ดู ผมยังไม่ทันได้ค้าน เขาก็คุยงานกันเสียแล้ว
ผมไม่ได้อยากรู้เรื่องเด็กคนนั้นสักหน่อย…
“น้องคนไหน อะไรยังไงเหรอ” ปลาทำตาลุกวาว คำถามช่างใส่ใจชีวิตผมเหลือเกิน
“ลูกค้ามาซื้อรถ น่าจะอายุน้อยกว่าพวกเราสองสามปี ไอ้ภีมมันชอบ” ไอ้มาร์ชพูดด้วยน้ำเสียงที่ค่อนไปทางกวนส้นตีน รอยยิ้มของมันกำลังตอกย้ำว่ามันกำลังกวนผมอยู่จริง ๆ
“ไหนมึงบอกไม่ชอบเด็ก” กลอยขมวดคิ้วแสดงอาการสงสัย
“เวลาเปลี่ยน ความชอบก็เปลี่ยนไป” ไอ้ปืนตอบกลอย
“จริงเหรอ” นุ่นถามผม
“จริง!!!” ไอ้ปืน ไอ้มาร์ช และไอ้กราฟตอบพร้อมกัน ส่วนไอ้ไฟนั่งหัวเราะ พวกพี่ ๆ ก็เอาแต่ยิ้ม
“ตีนนี่!” ผมยกขาวางพาดตักพวกมันสามตัว เท้าของผมไปจบลงที่ตักพี่ภูมิพอดี พวกมันเลยลุกให้ขาของผมร่วงลงจากตักของพวกมัน
“กูไม่ได้ชอบ พวกเชี่ยนี่มันพูดเองอะไรเองหมดเลย” ผมปรายตามองพวกมันที่กำลังหัวเราะร่วน
“กูว่ามึงต้องมีเมียที่อายุน้อยกว่าแน่นอน” ไอ้มาร์ชกระตุกยิ้ม รอยยิ้มของมันดูชั่วร้ายอย่างบอกไม่ถูก
“ใช่ มึงต้องหลงเด็กแน่” ไอ้ปืนพูด
“กูไม่ใช่มึงนะ” ผมย้อนไอ้ปืนกลับไป มันมีแฟนเป็นรุ่นน้อง น่ารักมาก ๆ และอ่อนหวานมาก ๆ น้องเขาก็ดีแหละแต่ผมแค่ไม่ชอบสไตล์นั้น
“ฮึฮึ คอยดูเถอะ มึงหลงเด็กแน่ไอ้ภีม” ไอ้กราฟพูดขึ้นมา พวกมันไปเอาความมั่นใจมาจากไหนว่าผมจะชอบเด็ก สเป็กของผมคืออายุเท่ากันหรือมากกว่า หน้าตาสวย ๆ ดูดุ และต้องเซ็กซี่! ทำนองว่า ดุเด็ดเผ็ดมัน อะไรแบบนั้น
ในตอนนี้ผมหวาดระแวงพวกเพื่อนมาก ไม่รู้มันคิดอะไรพิเรนทร์อยู่หรือเปล่า ถึงได้ทำหน้าแปลก ๆ รอยยิ้มค่อนไปทางชั่ว! ผมเลิกสนใจพวกมัน หันไปให้ความสนใจกับซูเปอร์คาร์สีส้มที่พี่ลมเพิ่งรับซื้อมาเพื่อขาย สีสวยสะกดสายตา ถ้าได้เหยียบคันเร่งพุ่งไปตามทางคงจะดีไม่น้อย
เต็นท์พี่ลมและพี่ดินเป็นเต็นท์รถยนต์นำเข้า แต่ก็มีรถทั่วไปที่มีในไทยขายด้วย พี่ดินบอกว่าอยากครอบคลุม มีทุกอย่างที่ลูกค้าอยากได้ ยัยเด็กนั่นก็ซื้อรถเก๋งธรรมดาไป…
มื้อเที่ยงพวกสาว ๆ มันทำส้มตำกินกัน ที่จริงถ้าพวกมันทำเองแล้วครัวแทบพังขนาดนี้ ซื้อเป็นถุงมากินก็ได้ สภาพครัวที่บ้านไอ้ไฟ ผมเห็นแล้วท้อ พวกมันทำไว้เละ แต่พอกินเสร็จมันก็เผ่นกลับ ทิ้งไว้ให้พวกผมทำความสะอาด
“กูว่าพวกเราจัดเวรทำความสะอาดครัวกันดีกว่าว่ะ” ไอ้กราฟเอ่ยออกมา ผมเห็นด้วยมาก ๆ เพราะผมขี้เกียจที่จะต้องคอยมาทำความสะอาดแบบนี้
“เริ่มที่ใครก่อน” ไอ้ไฟถาม
“มึง!!!” พวกผมทั้งสี่คนประสานเสียง เห็นพ้องต้องกันว่าให้เจ้าของบ้านเป็นคนแรกที่ต้องทำความสะอาด
ไอ้ไฟส่ายหน้าเล็กน้อยราวกับระอาพวกผม บ้านก็บ้านมัน พวกผมดันให้มันทำความสะอาดก่อนอีก แต่ช่างเถอะ ขอเอาตัวเองรอดก่อนแล้วกัน
“แต่วันนี้ต้องช่วยกันก่อน” ไอ้ไฟพูดเสียงเรียบ พวกผมกลืนน้ำลาย
อึกใหญ่ลงคอ นึกว่าจะปลีกตัวหนีความเละเทะนี้ได้แล้ว แต่ไอ้ไฟพูดมาแบบนั้น ใครจะกล้าหนีมัน ก็ต้องก้มหน้าก้มตาทำกันไป ไว้พรุ่งนี้ค่อยเริ่มที่ไอ้ไฟ
Rrrr
-แม่-
เห็นครัวว่าท้อแล้ว เห็นเบอร์คนที่โทรเข้ามานั้นท้อกว่า ผมยังไม่รับสายและช่วยเพื่อนทำความสะอาดก่อน แต่เหมือนแม่รู้เลยแฮะ พอผมทำความสะอาดเสร็จเรียบร้อยแล้ว แม่ก็โทรเข้ามาอีกครั้ง ผมก็เลยต้องรับสาย
“ว่าไงแม่” ผมกรอกเสียงเข้าไปในสาย
[แม่ส่งไลน์หาแกตั้งนานแล้ว ทำไมแกไม่เปิดดู] น้ำเสียงของแม่บ่งบอกว่ากำลังไม่พอใจ
“ผมยุ่งอยู่ ว่าแต่แม่ส่งอะไรมา”
[รูปแฟนแกไง เสาร์หน้าแกต้องพาน้องเขาไปกินข้าว จะได้ทำความรู้จักกัน]
“ไม่ไปได้ปะ ผมขี้เกียจอะ”
[ไม่ได้! ถ้าแกไม่ไป แม่จะสั่งพ่อไม่ให้เขาจ่ายเงินเดือนให้แกไปผลาญเล่น] แม่พูดจบก็กดตัดสายไปเลย
ถึงพ่อแม่ผมจะแยกกันอยู่ไปนานแล้ว แต่แม่ก็ยังมีอำนาจในบ้านเหนือพ่ออยู่ดี พ่อผมยังรักแม่อยู่นั่นแหละ ท่านถึงได้ยอมให้แม่ เวลาที่แม่มาที่บ้าน พ่อจะทิ้งทุกอย่างแล้วมาอยู่ที่บ้านด้วย ต่อให้อยู่แล้วถูกแม่ด่าก็ตาม…
ผมถอนหายใจออกมาหนัก ๆ แยกตัวมาอยู่ในห้องนอน ไม่ได้ไปนั่งเล่นกับพวกเพื่อน กดไลน์ที่แม่ส่งเข้ามาแล้วกดออกไปเลย ไม่ได้ดูรูปดูอะไรทั้งนั้น คนที่ผมไปจีบเขาเอง ผมยังไม่คบเลย แค่คุย ๆ แล้วก็เลิกไป แล้วนี่เป็นคนที่แม่หาให้ อย่างไรผมก็ไม่ถูกใจหรอก
นอนคิดหาวิธีเบี้ยวนัด แต่ก็คิดไม่ออก ต่อให้ผมไม่สบายไปนอนโรงพยาบาล ผมก็มั่นใจว่าแม่จะต้องพาผู้หญิงคนนั้นไปหาผมถึงโรงพยาบาลแน่นอน