“ตกลงจะให้ไปส่งที่ไหน” ผมเปิดไฟเลี้ยวแล้วจอดเข้าที่ข้างทาง
คุยกับเด็กคนนี้คงต้องคุยเป็นเรื่องเป็นราวจริงจังแบบนี้แหละ ไม่อย่างนั้นคุย
ไม่รู้เรื่องแน่ ๆ
“ไปคอนโดพี่ภีมก็ได้ค่ะ ไปดูรังรักของเรา” เรียวแขนของเธอยกขึ้นมาคล้องคอผมไว้ เธอพยายามจะรั้งให้ผมเข้าไปใกล้ ๆ แต่มันเรื่องอะไรที่ผมจะต้องยอม ผมพยายามจับเบาะให้แน่น หน้าตาเหยเกบ่งบอกว่าไม่อยากเข้าใกล้
มืออีกข้างสะบัดไปมาเบา ๆ เป็นเชิงว่าช่วยออกไปไกล ๆ ที
“ฉันไม่ได้อยู่ที่นั่น”
“นายไม่ได้อยู่คอนโดเหรอ”
“อือ” ผมแกะมือเธอออกจากคอผม เธอปล่อยออกอย่างง่ายดาย แล้วมองหน้าผมนิ่ง ๆ
“แล้วนายอยู่ที่ไหน” เธอถาม แสดงว่าแม่ผมไม่ได้บอกยัยนี่ ก็นึกว่าจะบอกละเอียดเหมือนที่บอกเรื่องของน้ำผึ้งให้ผมรับรู้เสียอีก
“บ้านเพื่อน”
“แล้วบ้านเพื่อนอยู่ที่ไหน”
ผมไม่ตอบคำถามของเธอ แววตาของเธอดูร้ายจนไม่กล้าตอบ กลัวว่าถ้าตอบไปแล้วเธอจะบุกไปถึงที่ ถ้าเป็นอย่างนั้นพวกเพื่อนผมต้องรู้เรื่องระหว่างผมและยัยน้ำเน่านี่แน่นอน
“ตกลงจะให้ไปส่งที่ไหน” ผมถามอีกครั้ง คนข้าง ๆ ก็ยังลอยหน้าลอยตา
กวนประสาทผมอยู่นั่น อยากขอร้องให้เธอตอบผมสักที จะได้รีบแยกย้ายกัน
“น้ำผึ้ง!” ผมเอ่ยออกมาเสียงเข้ม ดุเจ้าของชื่อที่ไม่ยอมตอบเสียที
เธอเบะปากคว่ำราวกับไม่พอใจที่ผมดุ แล้วค่อยตอบกลับมา “บ้านฉัน รู้จักใช่ปะ”
“รู้” ผมตอบสั้น ๆ แม่ผมบอกหมดแล้วว่าบ้านเธออยู่ที่ไหน ผมขับรถไปส่งเธอยังจุดหมายตามที่เธอต้องการ ก่อนจะลงจากรถเธอหันมาขอบคุณแล้วเดินเข้าบ้านไปเลย
ผมขับรถกลับมาที่บ้านไอ้ไฟ พวกเพื่อนไม่ได้สงสัยอะไร เพราะก่อนที่จะออกไปผมบอกพวกมันว่าไปบ้านแม่ นั่งเล่นกับเพื่อนสักพักถึงได้เข้ามาในห้องนอนของตัวเอง ไม่ถึงห้านาทีแม่ก็โทรมาถามเรื่องวันนี้ ผมก็พูดไปตามตรงว่าไม่ชอบ!
“ทำไมน้ำผึ้งถึงต้องมาเป็นแฟนกับผม อายุแค่สิบแปดเองนะ บ้านก็ใหญ่โต ไม่น่าใช่ว่าร้อนเงินอะ” ผมรีบถามก่อนที่แม่จะวางสาย
[น้ำผึ้งเป็นลูกสาวของเพื่อนสนิทแม่เอง]
“แม่เลยอยากดองกับเพื่อนตัวเองงี้เหรอ”
[ก็ประมาณนั้น ถ้าผายังอยู่แม่คงรอให้แกเรียนจบแล้วค่อยไปขอน้ำผึ้งมา แต่นี่แม่ของน้ำผึ้งเสียชีวิตมาหกเดือนแล้ว แม่เลยอยากดูแลน้ำผึ้งแทน]
“แล้วพ่อเขาล่ะแม่”
[เสียไปก่อนหน้าที่ผาจะเสียชีวิตประมาณสี่เดือน ก็คือเสียไปประมาณสิบเดือนแล้ว]
“ฮะ!” ผมเอ่ยออกมาด้วยความตกใจ น้ำผึ้งไม่มีทั้งพ่อและแม่เลยเหรอ พ่อแม่เสียชีวิตในระยะเวลาใกล้ ๆ กัน ยัยเด็กนั่นรับไหวด้วยเหรอ
ผมเริ่มเข้าใจนิด ๆ ว่าทำไมแม่ถึงอยากดูแลน้ำผึ้ง แต่ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำไมแม่ผมถึงอยากดูแลเธอในฐานะสะใภ้ ไม่เห็นจำเป็นสักนิด
“น้ำผึ้งไม่มีญาติเลยเหรอ” ผมถามต่อ
[มีสิ ก็อยู่กับลุงป้าที่บ้านนั้นแหละ]
“ผมยังมองไม่ออกว่าทำไมแม่ต้องให้เขามาเป็นแฟนกับผม”
[มันไม่ได้มีเหตุผลอะไรมากนัก แม่แค่รักน้ำผึ้งเหมือนลูก เพราะตั้งแต่ที่แม่เลิกกับพ่อแก แม่ก็ไปอยู่บ้านผาซะส่วนใหญ่ เลยรักและเอ็นดูน้ำผึ้งมาก ๆ น้องน่ารักสุภาพจิตใจดี แม่เชื่อว่าสักวันแกก็ต้องหลงรักน้อง]
สุภาพ? แม่แน่ใจนะว่ายัยนั่นสุภาพ แม่ลองคิดอีกทีว่าสุภาพจริงไหม
คนสุภาพของแม่เคยด่าลูกแม่ว่า ‘ไอ้สัส’ มาแล้วนะ
“ไม่มีทาง” ผมไม่มีทางที่จะหลงรักเด็กคนนั้น
[แล้วแม่จะคอยดู…] แม่พูดจบก็ตัดสายไปเลย ไม่ให้ผมได้ค้านเลยสักนิด
ผมเข้าไปอาบน้ำชำระล้างร่างกายแล้วออกมานั่งที่ปลายเตียงโดยที่ยังไม่สวมเสื้อผ้า มีเพียงผ้าขนหนูผืนเดียวที่ปิดบังท่อนล่างของร่างกาย มือข้างหนึ่งเช็ดเส้นผมที่เต็มไปด้วยหยดน้ำ และมืออีกข้างกดสมาร์ตโฟนเล่น เห็นแจ้งเตือนที่แอปเฟซบุ๊กว่ามีคนส่งคำขอเป็นเพื่อน เห็นรูปก็รู้แล้วว่าเป็นใคร ไหนจะชื่อที่ย้ำตัวบุคคลอีก ‘หวานกว่านี้ ไม่มีแล้วจ้า’ ชื่อเดียวกับไลน์เป๊ะ เพียงแต่เว้นวรรคให้เป็นชื่อนามสกุล
เรื่องอะไรที่ผมจะกดรับให้เธอเข้ามาอยู่ในพื้นที่ส่วนตัว ให้เธออยู่
ในส่วนของผู้ติดตามไปก็แล้วกัน อย่างไรผมก็เปิดสาธารณะให้เธอได้ดูตามสบายอยู่แล้ว เพียงแต่เมนต์อะไรไม่ได้แค่นั้นเอง
LINE
-หวานกว่านี้ไม่มีแล้วจ้า-
หวานกว่านี้ไม่มีแล้วจ้า : แอดเฟซไปแล้ว รับแอดหน่อยสิแฟน
ไม่รับโว้ย : PEEM
แล้วอย่าเรียกแฟนอีกนะ ขนลุก : PEEM
หวานกว่านี้ไม่มีแล้วจ้า : รับแอดหน่อยสิบี๋
ขนลุกยิ่งกว่าคำว่าแฟนอีก : PEEM
หวานกว่านี้ไม่มีแล้วจ้า : จริงสิ นายไม่ชอบให้พูดเพราะ ๆ นี่เนอะ
หยุด! : PEEM
อย่าคิดที่จะส่งอะไรพิเรนทร์อีกนะ : PEEM
ผมรู้ทันว่าเธอจะกูมึงใส่ผม หยาบคายเหมือนครั้งแรกที่เราแชตคุยกัน หากเธอพ่นคำหยาบมาอีก ผมต้องตกใจอีกแน่
หวานกว่านี้ไม่มีแล้วจ้า : โคตรเรื่องมาก
หวานกว่านี้ไม่มีแล้วจ้า : จะให้เรียกว่าอะไร
พี่ภีมก็พอ : PEEM
หวานกว่านี้ไม่มีแล้วจ้า : ไม่เอาอะ มันดูไร้สถานะ
อย่าเยอะ แฟนไอ้ปืนก็เรียกแค่พี่ปืนนี่แหละ : PEEM
หวานกว่านี้ไม่มีแล้วจ้า : ก็ได้ แต่พี่ก็ต้องแทนตัวเองว่าพี่ด้วยเหมือนกัน
ไม่ : PEEM
ผมตอบกลับไปแล้วกดล็อกหน้าจอ ไม่สนใจว่าเธอจะตอบอะไรกลับมา แต่เสียงแจ้งเตือนก็ไม่มีดังขึ้นมาเลย จนผมอดสงสัยไม่ได้ว่าเธอไม่ตอบอะไร
เลยเหรอ ผมแต่งตัวเสร็จเลยกดเข้าไปดูอีกครั้ง เธอไม่ได้ตอบอะไรเลยจริง ๆ
ผมเลยเข้าไปส่องเฟซบุ๊กของเธอแทน เธอเองก็เปิดสาธารณะไว้ ถึงแม้ผมจะไม่รับเป็นเพื่อน แต่ก็สามารถส่องความเคลื่อนไหวได้หมด
โพสต์ล่าสุดของเธอคือเปลี่ยนรูปโพรไฟล์เป็นรูปวันนี้ที่ร้านนั้น ตอนที่เธอเดินออกไปหน้าร้าน เธอไปถ่ายรูปเล่นนี่เอง จะว่าไปเธอก็ดูน่ารักไม่น้อยเลยนะ
ผมเพ่งมองแค็ปชันที่เธอตั้งไว้กับรูปโพรไฟล์ ‘น้ำผึ้งแฟนไอ้ภีม’
กวนตีน!
ยัยเด็กแสบ!
กล้าดีอย่างไรถึงได้เรียกผมว่าไอ้ ผมแค็ปหน้าจอแล้วส่งไปให้แม่ดูว่าคนที่แม่หามาเรียกผมว่าไอ้! แบบนี้น่ะเหรอที่แม่บอกว่าสุภาพ ให้แม่ได้รู้จักตัวตนที่แท้จริงของยัยนั่น แต่แม่ผมดันส่งมาแค่สติกเกอร์หัวเราะ ไม่คิดจะดุว่าที่สะใภ้ของตัวเองบ้างเลยหรือไง…
นอกจากแม่จะไม่เห็นใจที่ผมโดนยัยนั่นปากดีใส่ แม่ยังนัดให้ผมต้องไปเจอกับเธออีกครั้ง ซึ่งแน่นอนว่าผมไม่ไป! ผมจะประท้วง!
LINE
-หวานกว่านี้ไม่มีแล้วจ้า-
เสียงไลน์ดังขึ้นมาพร้อม ๆ กับไฟหน้าจอสว่างวาบ หยิบมาดูเห็นชื่อเจ้าของแจ้งเตือนแล้วกระตุกยิ้มออกมา เนื่องจากคิดอะไรดี ๆ ออก
ถึงทีกูบ้างแล้วโว้ยยย ฮึฮึ
หวานกว่านี้ไม่มีแล้วจ้า : นอนยังไอ้ภีม
หวานกว่านี้ไม่มีแล้วจ้า : สติกเกอร์หัวเราะ
มือข้างขวาถือโทรศัพท์ มือข้างซ้ายกุมขมับเมื่อได้เห็นข้อความก่อนหน้า
สติกเกอร์
ยังจ้ะว่าที่เมีย : PEEM
หวานกว่านี้ไม่มีแล้วจ้า : นายกวนตีนเหรอ
หวานกว่านี้ไม่มีแล้วจ้า : ฉันรู้ทันนายหรอกน่า
เออ : PEEM
เรามาคุยกันดี ๆ : PEEM
VDO CALL
ยัยแสบถึงกับวิดิโอคอลมาหา ผมไม่ลังเลที่จะกดรับ
[ว้าววว นมขาวจัง เลื่อนโทรศัพท์ลงต่ำหน่อยดิ] เสียงคนในสายดังขึ้นเมื่อหน้าจอมียัยเด็กหน้าจืด ไม่ว่าจะตอนออกไปเรียน ไปเที่ยว หรือตอนจะนอน หน้าตาเธอก็แบบเดิมเป๊ะ! ไม่มีสีสันอย่างไร ก็ไม่มีสีสันอย่างนั้น ไม่มีอะไรที่แตกต่าง
“ลามก!” ผมรีบดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมถึงคอ คนในหน้าจอทำหน้างอง้ำราวกับเสียใจที่ไม่ได้เห็นหัวนมของผม
[นายจะคุยอะไรก็ว่ามาเลย]
“ฉันมีคนที่ฉันชอบอยู่แล้ว” ผมโกหกไปคำโต ในความเป็นจริงยังไม่มีสักคนที่ผมรู้สึกชอบแบบแฟน
[แล้ว?] เธอทำหน้าไม่สะทกสะท้านกับคำพูดของผม ให้มันได้อย่างนี้สิวะ
“ก็คือฉันไม่ได้ชอบเธอไง เข้าใจยากตรงไหน” จะต้องให้พูดย้ำอีกกี่ครั้งว่าผมไม่ชอบ!
[นายไม่ชอบฉันก็เรื่องของนายสิ]
“ยัยน้ำเน่า!”
[ส่วนฉันชอบนาย มันก็คือเรื่องของฉัน] เธอพูดเสียงเรียบแล้วกดตัดสายไปเลย ไม่รอให้ผมต่อรองว่าเราจะคบกันแค่ในนาม ไม่ต้องมาเจอ ไม่ต้องคุย
ไม่ต้องไปไหนต่อไหนด้วยกัน จนกว่าจะครบกำหนดแล้วแยกย้ายกันไป
ว่าแต่…ที่ยัยแสบพูดมาเมื่อกี้หมายความว่าไง?