บทที่ 8

1283 คำ
จวนตระกูลหนิง "โง่งมที่สุด ไหนเจ้าว่าหลี่รั่วหานรักเจ้านักหนา เหตุใดเขาจึงยอมตบปากรับคำแต่งงานกับสตรีนางนั้นง่ายดายเช่นนี้เล่า!!!" หนิงเสวี่ยในยามนี้กำลังนั่งก้มหน้าหงุดมิเอ่ยวาจาใดออกมา ทำได้เพียงทนฟังผู้เป็นมารดาก่นด่านางโดยไร้หนทางโต้แย้ง มารดาของนางมีนามว่า เว่ยจิ่นซาง เป็นบุตรสาวของตระกูลบัณฑิต ตั้งแต่นางจำความได้ ท่านแม่มักจะพูดกรอกหูนางอยู่เสมอว่านางจะต้องเป็นสตรีที่งดงามเพรียบพร้อม กิริยามรรยาทต้องเป็นเลิศ และจะต้องแต่งเข้าจวนโหวตระกูลหลี่เป็นฮูหยินใหญ่ให้ได้ เดิมทีนางเองก็มิเข้าใจเท่าใดนัก นางพยายามเอ่ยปากถามผู้เป็นมารดาอยู่หลายครา แต่ก็ไร้ซึ่งคำตอบ มีเพียงคำก่นด่าและถากถางเพียงเท่านั้น ข้าให้เจ้าทำสิ่งใดก็จงทำ มิต้องมาถามข้าให้มากความ เจ้าจงจำเอาไว้ ว่าจะต้องมัดใจหลี่รั่วหานให้ได้ ทำให้เขาหลงใหลเจ้า มอบทุกอย่างให้กับเจ้า ข้าอยากจะเห็นมารดาของเขา อกแตก ตาย ฮ่าๆๆๆ!!!!! หนิงเสวี่ยได้ยินท่านแม่พูดประโยคนี้จนนางท่องจำได้ขึ้นใจ นางเองมิรู้ว่าท่านแม่และองค์หญิงหงลี่มีความแค้นใดต่อกันมาก่อน คราแรกนางมิได้ชมชอบหลี่รั่วหานเท่าใดนัก แต่เมื่อได้ใกล้ชิดกับเขา นางก็เผลอหลงรักเขาจนหมดหัวใจ "เสวี่ยเอ๋อร์!! เจ้าจงจำเอาไว้ ต่อให้ต้องแต่งเข้าไปเป็นภรรยารอง เจ้าก็ต้องแต่งเจ้าจวนโหวให้ได้!!!" "ท่านแม่ ท่านกับองค์หญิงหงลี่เคยมีปัญหาขัดแย้งเรื่องใดกันมาก่อนหรืแเจ้าคะ ท่านแม่จึงโกธรเคืองพระนางถึงเพียงนี้" "หึ!!ไว้เจ้าแต่งเข้าจวนโหวเสียก่อน แล้วข้าจะเล่าให้ฟัง เห้อ!!ลูกรักของแม่ เจ้าอย่าทำให้แม่ผิดหวังเล่า ยามนี้ตระกูลหนิงของเรากำลังขาดแคลนเงินทอง ท่านพ่อของเจ้าก็ติดการพนัน หากเจ้ามิสามารถแต่งเข้าจวนโหวได้ ตระกูลหนิงของพวกเราคงจบสิ้นเป็นแน่" "ลูกทราบแล้วเจ้าค่ะ" "อืม เจ้ากลับไปพักผ่อนเถิด" "เจ้าค่ะ ท่านแม่" หนิงเสวี่ยกลับมาถึงเรือนของตน ก่อนจะเปิดอ่านจดหมายที่หลี่รั่วหานส่งมาให้นาง นางยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะตอบจดหมายเขาเหมือนเช่นทุกคราที่ผ่านมา ขอเพียงได้อยู่ข้างกายเขา นางยอมทุกอย่าง รอให้นางได้แต่งเข้าจวนตระกูลโหวเมื่อใด นางจะหาทางกำจัดจ้าวไป๋ลู่ให้พ้นทางเสีย!! ด้านจ้าวไป๋ลู่นั้น ยามนี้นางกำลังนั่งมองชุดแต่งงานที่เพิ่งตัดเย็บเสร็จด้วยแววตาที่เหม่อลอย เดิมทีนางควรจะต้องดีใจด้วยซ้ำ แต่เพราะการแต่งงานครานี้มิใช่การยินยอมพร้อมใจทั้งสองฝ่าย จะให้นางยิ้มร่าเริงได้เช่นใดกัน แต่ช่างเถิด เพียงต่างคนต่างอยู่ เขาอยู่ส่วนเขา นางอยู่ส่วนนาง เพียงเท่านี้ก็คงจะไม่เกิดความหมางใจต่อกัน ไว้เวลาผ่านไปสักพัก นางค่อยหาทางหย่าขาดจากเขาก็ยังไม่สาย เป็นหม้ายแล้วอย่างไรเล่า นางไม่สน!!! เวลาล่วงเลยมาจนถึงต้นวสันต์ฤดู สายลมในยาทนี้อบอุ่นขึ้นไม่น้อย หมู่มวลดอกไม้นานาพรรณพากันเบ่งบานสะพรั่งรับสายลม เหล่าราษฏรต่างเริ่มการเพาะปลูกกันอย่างขยันขันแข็ง เฉกเช่นเดียวกับในยามนี้ ที่จวนตระกูลจ้าวกำลังวุ่นวายกับการแต่งกายให้จ้าวไป๋ลู่ วันนี้เป็นฤกษ์งามยามดีที่นางจะต้องเข้าจวนโหวตระกูลหลี่ จ้าวไป๋ลู่มองดูตนเองที่ยามนี้สวมชุดเจ้าสาวสีแดงงดงาม ใบหน้าสวยหวานในยามนี้ถูกประทินโฉมจนงดงาม ฮูหยินหลิวอิ๋งมองดูบุตรสาวของตนด้วยความห่วงใย ก่อนจะเอ่ยขึ้นมา "อยู่ที่อื่นจะปฏิบัติตนเฉกเช่นอยู่จวนของตนมิได้อีกแล่ว เจ้าจงเคารพพ่อแม่สามีและเชื่อฟังสามีให้มาก เข้าใจหรือไม่" "เจ้าค่ะท่านแม่" ฮูหยินหลิวอิ๋งพยักหน้า เล็กน้อย ก่อนจะหันไปเอ่ยถามหมิงอวี้สาวใช้น้อยที่กำลังจะติดตามไปรับใช้จ้าวไป๋ลู่ "หมิงอวี้ นี่ก็เลยฤกษ์ยามมานานแล้ว เหตุใดซื่อจื่อจึงไม่มาเสียที" "ข้าน้อยจะรีบไปดูเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ" จ้าวไป๋ลู่ที่ได้ยินเช่นนั้นก็ถอนหายใจออกมาคราหนึ่ง นางเดาไม่ผิดจริงๆ เขาจงใจหักหน้านางชัดๆ มีที่ไหนกันขบวนเจ้าบ่าวมาถึงล่าช้าเพียงนี้ เขาตั้งใจให้นางอับอายสินะ "ฮูหยินเจ้าคะ ซื่อจื่อมาถึงแล้วเจ้าค่ะ!!" เมื่อได้ยินเช่นนั้นฮูหยินหลิวอิ๋งจึงหันมาบอกให้จ้าวไป๋ลู่เตรียมตัว จ้าวไป๋ลู่ลุกขึ้นยืนอย่างเกียจคร้าน นางแอบหยิบเม็ดเกาลัดที่ซ่อนเอาไว้ใต้แขนเสื้อเข้าปากไปหลายเม็ด ก่อนจะรีบเคี้ยวและกลืนลงท้อง แล้วจึงนำพัดสีแดงมาปิดบังใบหน้างามของตนเอาไว้ ก่อนจะเดินตามผู้เป็นมารดาออกจากเรือน พัดนี่ก็มีประโยชน์ไม่น้อย ยามข้าเคี้ยวเกาลัด จอมมารหลี่จะได้ไม่เห็น ฮ่าๆๆๆ หลี่รั่วหานเดินเข้ามาในจวนตระกูลจ้าวด้วยใบหน้าที่เย็นชา เขาสวมชุดเจ้าบ่าวสีแดงขับให้ความหล่อเหลาสง่างามของเขายิ่งเพิ่มมากขึ้น "ซื่อจื่อ ตระกูลจ้าวคงต้องฝากไป๋ไป๋ให้ท่านช่วยดูแลแล้ว" จ้าวเยียนบิดาของจ้าวไป๋ลู่เอ่ยกับหลี่รั่วหานด้วยความนอบน้อม หลี่รั่วหานส่งเสียงเหอะในลำคอ ก่อนจะเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา "ข้าไม่มีเวลามาสนทนากับคนระดับล่าง ไปได้แล้ว ข้ายังมีงานต้องทำ" ว่าแล้วเขาก็เดินนำหน้าไปโดยที่ไม่รอจ้าวไป๋ลู่เลยแม้แต่น้อย จ้าวไป๋ลู่เบ้ปากคราหนึ่ง ก่อนจะเดินตามเขาไปจนถึงหน้าประตูจวน "จะยืนโง่อีกนานหรือไม่ เข้าไปนั่งสิ หรือจะให้ข้าโยนเจ้าเข้าไป" จ้าวไป๋ลู่พยายามอดกลั้นเป็นอย่างมากที่จะไม่ด่าเขากลับ นางเดินเข้าไปนั่งในเกี้ยวอย่างว่าง่าย ไม่นานนักขบวนเจ้าสาวก็ออกเดินทางจากจวนตระกูลจ้าวมุ่งหน้าไปที่จวนโหวตระกูลหลี่ จ้าวไป๋ลู่แหวกม่านหน้าต่างออก ก่อนจะชะโงกหน้ามองกลับไป แล้วจึงพบกับบิดามารดาและพี่ชายที่ยืนโบกมือให้นางอยู่ที่ด้านหน้าประตูจวนตระกูลจ้าว สายลมพัดพากลีบดอกหมู่ตานให้ลอยมาตามสายลม จ้าวไป๋ลู่ยื่นมือออกไปรองรับกลีบดอกหมู่ตานสีแดงที่โปรยปรายลงมาอย่างช้าๆ กลิ่นหอมของมันสร้างพึงพอใจให้นางไม่น้อย ไม่นานนักขบวนเจ้าสาวก็มาถึงจวนโหวตระกูลหลี่ เพราะคนแบกเกี้ยวแบกได้ไม่ดีจนมันโคลงเคลง จ้าวไป๋ลู่จึงรู้สึกคลื่นไส้ไม่น้อย นางนำเม็ดเกาลัดเข้าปากเพื่อจะเคี้ยว แต่กลับเห็นหลี่รั่วหานยื่นหน้าเข้ามาหานางในเกี้ยวเสียก่อน เพราะความตกใจปะปนกับอาการผะอืดผะอม นางจึงอาเจียนเม็ดเกาลัดใส่ใบหน้าของหลี่รั่วหานทันที หลี่รั่วหาน "......."
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม