บทนำ

1317 คำ
"เลิกพูดเรื่องนี้กับโตสักทีเถอะม๊า!" ชายหนุ่มในวัยยี่สิบปียืนถกเถียงกับม๊าอยู่ที่กลางบ้านใหญ่ ซึ่งปกติแล้วเขาจะกลับมาที่บ้านสัปดาห์ละครั้ง เพื่อมากินข้าวกับป๊ากับม๊าของเขาตามที่เคยตกลงกันไว้ก่อนที่เขาจะออกไปอยู่ที่คอนโดใกล้ๆ กับมหาวิทยาลัย และทุกครั้งที่กลับมาเขากับป๊าม๊าก็มักจะทะเลาะกันแบบนี้เป็นประจำตั้งแต่ปีที่แล้ว ตั้งแต่ตอนที่เขาอายุเพียงสิบเก้าปี "โต ฟังม๊า ก็แค่หมั้นกันไปก่อน ยังไม่ต้องแต่งก็ได้ เรียนจบแล้วค่อย…" "โตไม่หมั้น แล้วก็ไม่แต่งด้วย" "ม๊า โตเพิ่งจะอายุยี่สิบเองนะ ม๊าจะหาเมียให้โตไม่ได้" "เหอะ ถ้าม๊ากับป๊าไม่หาเมียดีๆ ให้โตสักคน ป่านนี้ไม่รู้ว่าลูกชายของม๊าจะติดโรคก่อน หรือจะโดนผู้หญิงจับก่อน" "แล้วอีกอย่างนะ นี่เป็นเรื่องที่ป๊าของลูกคุยกับทางนั้นไว้แล้ว" "งั้นม๊าก็ให้ป๊าแต่งเองสิ โตไม่หมั้นไม่อะไรทั้งนั้น อย่ามายุ่งกับโต" "ไม่รู้ละ น้องเพิ่งเข้ามหา'ลัยเดียวกับโต ยังไงก็ดูแลน้องด้วย น้องชื่อ…" "โตไม่ดูใครทั้งนั้น" สิงโต กิจวรกุล เป็นลูกชายคนเดียวของบ้านกิจวรกุล ที่มีธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในเครือของกิจวรกุลมากมายมหาศาล ไม่ว่าจะเป็นคอนโด หรือที่ดิน หรืออพาร์ทเมนท์ให้เช่า และเขาก็มีคู่หมั้นตั้งแต่ตัวเองอายุได้เพียงแค่สิบเก้าปีเท่านั้น เขาปฏิเสธมันมาตลอด ทุกครั้งที่ป๊าหรือม๊าพูดเรื่องนี้ขึ้นมา เขามักจะหัวเสีย และทะเลาะกับที่บ้านจนเตลิดออกมาเสมอ ปกติแล้วก่อนหน้านี้ชีวิตของเขาก็เป็นสุขดี เขาเป็นที่รักของที่บ้าน ทั้งป๊า และม๊า รักเขามาก จนกระทั่งเมื่อหนึ่งปีก่อน เพื่อนสนิทของป๊าเสียชีวิตลงด้วยโรคมะเร็ง ก่อนจะเสียเพื่อนสนิทของป๊าได้ทวงคำสัญญาอะไรบางอย่างกับป๊าของเขา หึ! ขนาดยังไม่เคยเจอหน้ากัน ก็เกลียดเข้าไส้ขนาดนี้ คนอะไรเอาลูกมาเร่ขาย! หน้าไม่อาย! "ตาโต จะไปไหน กลับมาฟังม๊าก่อน ถ้าป๊ารู้ว่าโตดื้อขนาดนี้ป๊าต้องลงโทษโตแน่" เขาไม่ฟังเสียงห้ามของม๊า หึ! บ้านนั้นจะสำคัญขนาดที่ว่าป๊าจะกล้าลงโทษเขาได้ลงคอเลยเหรอ เขาก็อยากรู้เหมือนกันว่าระหว่างคำสัญญาเก่าเต่าล้านปีนั้น มันจะสำคัญกว่าลูกชายที่สืบทอดธุรกิจหรือเปล่า สิงโตรีบเดินมาขึ้นรถสปอร์ตคันหรูของเขาและขับรถออกมาด้วยความรวดเร็ว เร็วชนิดที่ว่าเสียงของเครื่องยนต์ของรถสปอร์ตหรูดังลั่นจนม๊าแทบจะหัวใจวายตาย มือเรียววางทาบที่หน้าอกมองตามรถของลูกชายสุดที่รักไปจนสุดสายตา "เฮ้อ… ยังไม่ได้ทันรู้จักน้องเลย น้องเป็นเด็กน่ารักมากนะลูก" กรรัมภา เองก็เหนื่อยใจเต็มทนแล้ว ที่พูดเรื่องนี้ขึ้นมาทีไรลูกชายของเธอก็พยศทันที เธอหวังในใจว่าหนูพิมพ์มาดาจะสามารถช่วยปราบพยศลูกชายของเธอได้ เพราะถึงแม้ว่าสิงโตจะเป็นที่รักของคนที่บ้านมากแค่ไหน แต่ด้วยความเป็นลูกผู้ชายเพียงคนเดียวของบ้าน เขาจึงเอาแต่ใจมากถึงมากที่สุด ใครพูดอะไรก็ไม่ฟัง หากจะหาคนผิด ก็คงต้องเป็นเธอเอง ไม่สิ ต้องบอกว่าทั้งเธอ และสามีของเธอเองที่รักลูกมากเกินไป สปอยล์ลูกมากเกินไปจนลูกชายของเธอเสียผู้เสียเสียคน สิงโตเป็นคนที่มีอารมณ์ร้าย อารมณ์ของเขารุนแรง เขาชอบคิดว่าความคิดของตัวเองเป็นใหญ่เหนือคนอื่นอยู่เสมอ ไอ้คำว่าพ่อแม่รังแกฉัน เธอเพิ่งรู้เดี๋ยวนี้เองว่าสิ่งที่เธอกับสามีทำ มันทำร้ายลูกของเธออย่างไร ในยามที่สิงโตอารมณ์ปกติ เขามีความน่ารัก เขาจะขี้อ้อนมากทีเดียว แต่เวลาที่ไม่พอใจอะไรขึ้นมาแม้แต่นิดเดียว ก็แทบจะควบคุมตัวเองเอาไว้ไม่อยู่ เธอคิดว่าลูกชายของเธอน่าจะเป็นไซโคพาธเธอเคยพยายามจะพาลูกไปรักษา แต่เขาไม่ยอม เขาไม่ไป ไม่ว่าจะอย่างไรยังไงก็ไม่ไป สาเหตุคงหนีไม่พ้นที่เขาถูกละเลย แม้เขาจะเป็นที่รักของที่บ้าน แต่เพราะที่บ้านมีอาณาจักรธุรกิจที่ใหญ่โต เลยทำให้ทั้งป๊า และม๊า ละเลยเขาไปบ้าง อีกทั้งเมื่อก่อนตอนที่เขายังเป็นเด็ก เธอกับสามีมักจะทะเลาะกันบ่อยครั้ง แต่เดี๋ยวนี้ก็เบาลงมากแล้ว เอี๊ยดดดดดด! รถสปอร์ตหรูคันสีดำด้านจอดในที่จอดประจำของเขาที่คลับแห่งหนึ่งที่เขามักจะมากับเพื่อนๆ บ่อยๆ แต่ครั้งนี้เขามาที่นี่เพียงคนเดียวเขาไม่อยากพูดคุยกับใครทั้งนั้น และทุกครั้งที่ทะเลาะกับที่บ้านมา สิงโตก็มักจะมาระบายอารมณ์ที่นี่เพียงคนเดียว เขาไม่อยากให้เพื่อนได้รับรู้ปัญหาของเขา ไม่ใช่ว่าเขาแคร์เพื่อน แต่เพราะว่าเขาคิดว่ามันไม่จำเป็นที่จะต้องป่าวประกาศบอกใคร "สวัสดีครับคุณสิงโต" สิงโตเพียงแค่พยักหน้ารับรู้ สองมือของเขาล้วงกระเป๋าเดินก้าวขาเรียวยาวราวกับนายแบบเข้าไปในคลับแห่งนั้น คลับนี้เป็นของรุ่นพี่ที่สนิทกัน เขาเข้ามาจนเปรียบเสมือนกับว่าเป็นคลับของตัวเอง อีกทั้งรุ่นพี่คนนั้นก็ไปเรียนต่อต่างประเทศแล้ว เลยยกที่นี่ให้สิงโตเป็นคนดูแลให้ชั่วคราว เขาดูแลมันได้เป็นอย่างดี และไม่ได้สนใจเรื่องส่วนแบ่งเพียงเล็กน้อยนั้นด้วยซ้ำ ซึ่งเพียงเล็กน้อยที่ว่าก็คือกำไร 40% ของคลับ ที่เขารับมาเพียงเพราะพี่คนนั้นบอกเขาว่า ถือว่าเป็นค่าช่วยเขาดูในตอนที่เขาไม่อยู่ดูแลเองแล้วกัน "วันนี้เป็นไง" นั่งลงที่บาร์ด้านหน้าถามลาเต้ผู้จัดการคลับ แล้วยกมือให้ปุริมบาร์เทนเดอร์หนุ่มจัดออนเดอะร็อกมาให้เขา มือหนาควงแก้วใสใบสวยหมุนเก้าอี้มองออกไปที่ด้านหน้า เห็นทั้งสาวๆ ที่กำลังโยกย้ายส่ายสะโพกไปมา บ้างก็เต้นอย่างไม่ลืมหูลืมตา บ้างก็กอดจูบกับคนรัก บ้างก็หันมาเล่นหูเล่นตากับเขา แต่ดันมีคนหนึ่งที่นั่งร้องไห้เงียบๆ อยู่คนเดียวช่างสะดุดตาเขาเหลือเกิน "วันนี้ลูกค้าเยอะเหมือนเดิมเลยครับ" ลาเต้ตอบกลับมาพร้อมกับกวาดสายตามองไปรอบๆ เพื่อดูความเรียบร้อย "ตั้งแต่คุณสิงโตเข้ามาช่วยดูแล ทุกอย่างเป็นระบบมากขึ้นมากๆ ทุกเรื่องผมรายงานคุณธีร์เรียบร้อยตามที่คุณสิงโตสั่งไว้ทุกครั้งเลยครับ" "อืม ดี คนนั้นใครเพิ่งมาครั้งแรกเหรอไม่เคยเห็นหน้าเลย" ด้วยสีผมที่ค่อนข้างสะดุดตา หญิงสาวคนนั้นเธอผมสั้นประบ่า ผมของเธอสีชมพูพาสเทลดูค่อนข้างตัวเล็ก แต่เล็กแค่ไหนเขาไม่ทราบได้เพราะเธอยังไม่ได้ยืน แต่ดูก็รู้เลยว่าตัวเล็กกว่าเขามาก เธอผิวขาว หน้าตาเธอน่ารักจิ้มลิ้ม ออกจะเซ็กซี่หน่อยๆ แม้ตอนนี้เธอจะกำลังร้องไห้อยู่แต่มันไม่ได้ทำให้ใบหน้าของเธอมีที่ติได้เลย ผู้หญิงอะไรขนาดร้องไห้ยังดูดีขนาดนี้… เธอใส่ชุดเดรสสีแดงเพลิง ที่เนินอกด้านขวามีลายสักเล็กๆ น่ารัก จิ๊! "อยากได้วะ"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม