“ซู้ดดด....”
เสียงสูดซดช่างเร้าอารมณ์ พราวฟ้าเอื้อมมือลงไปขยุ้มเอาเส้นผมดกดำที่ชื้นไปด้วยเหงื่อ เธอพยายามดึงหัวเขาขึ้นมา มันทรมานนะ กระเปาะเล็กๆ ที่อุดมด้วยเส้นประสาท ถูกปากเขาดูดดึงและขบเม้ม มันซ่านสยิวจนต้องเด้งเอวรับ ชิ้นส่วนแห่งความสาวยังติดอยู่กับปากของเขา เขาเอามือมารองไว้ใต้บั้นท้ายเธอ บ้างขย้ำขยำ ปากและลิ้นก็ยังบำรุงบำเรอให้กัน ความกระสันก็พลันแตกซ่านกระเซ็น
“อาคะ...อ๊า!!”
ของเหลวสีขาวจนเกือบขุ่น ทะลักออกมาจากร่องรูอันคับแคบ เหนือนทีมองมันอย่างตะลึงลาน ไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหน เสร็จได้สะใจขนาดนี้ ราวกับว่าเป็นน้ำของผู้ชาย สีขาวของมันช่างตัดกับสีชมพูระเรื่อ ร่องสาวชุ่มฉ่ำ กลีบสีชมพูกระตุกเบาๆ เขาเอานิ้วแหย่แยงเข้าไป มันแน่นมาก มันตอดนิ้วเขาอยู่ตุบๆ ถ้าเปลี่ยนจากนิ้วเป็นอย่างอื่น คงจะวิเศษไปเลย
ติ๊ดๆ ติ๊ดๆๆๆ
เสียงกดรหัสประตูดังขึ้นมา สองตาของอาหลานพลันเบิกโต เหนือนทีผละจากร่างงามอย่างแสนเสียดาย เขาดึงผ้าห่มมาคลุมร่างให้ แล้วรีบเผ่นออกนอกประตู
พราวฟ้าแลหากางเกง เธอรีบสวมมันใต้ผ้านวม ใจเต้นถี่ระรัว นรกจะกินหัวก็คงห้ามไม่ได้แล้ว เธอกับอาเหนือ ทำเรื่องที่ไม่สมควรจริงๆ
ที่โถงกลางของคอนโดฯ
เหนือนทีนั่งลงโซฟา เขาเปิดสมาร์ตทีวีได้ทันตอนที่ขวัญข้าวก้าวเข้ามาพร้อมใครบางคน
“สวัสดีค่ะพี่”
รินรตี ดาราสาวดาวรุ่ง ยกมือไหว้เจ้าบ้าน
เหนือนทีพยักหน้ารับ ส่วนขวัญข้าวเลิกคิ้วสูง
“น่าแปลกนะที่เห็นพี่นั่งอยู่ตรงนี้ ยังไม่ถึงเวลามื้อเย็นไม่ใช่เหรอ”
“เธอก็แปลกเหมือนกัน ไหนว่าจะกลับดึกไง แถมยัง...พารินมาด้วย”
“ขอโทษทีพี่ พรุ่งนี้ต้องออกกองแต่เช้า จะไปนอนโรงแรมก็เปลือง เลยมาที่นี่ดีกว่า ไม่ว่ากันนะ” เอ่ยออกไปอย่างรู้ตัวว่าทำไม่ถูก เหนือนทีรักความสงบ และช่วงนี้เธอก็พาคนอื่นเข้ามาบ้านอยู่เรื่อย
“ช่างเถอะ มาก็ดีแล้ว หลานเธอไม่สบาย นอนซมอยู่ในห้องโน่น”
“เอ้า? จริงเหรอ”
“อือ...ฉันขึ้นไปอาบน้ำก่อน ตามสบายนะริน” บอกแขกของขวัญข้าวแล้วก้าวขึ้นบันไดไป
“หลานเหรอ” ดาราสาวหุ่นสูงเพรียว ตาคม ผมดำขลับ และมีผิวสีน้ำผึ้งนวลตา ถามผู้จัดการส่วนตัวของตนอย่างใคร่รู้
“อือ...หลานสาวน่ะ มาอยู่ด้วยสักพัก รินไปพักในห้องเถอะ เดี๋ยวขวัญไปดูยัยพราวก่อน”
“โอเค”
พอดาราสาวรับคำ ขวัญข้าวก็แวบไปดูหลาน กลิ่นอุ่นๆ ในห้อง สื่อให้รู้ว่าหลานคงเจ็บไข้จริงๆ
“พราว? เป็นอะไรมากไหม” อาสาวรีบเข้าไปดูอย่างห่วงใย พราวฟ้าเนื้อตัวชุ่มไปด้วยเหงื่อ สีหน้าก็ไม่ค่อยดีนัก
“ค่ะ ดีขึ้นแล้วค่ะอา”
“กินยาหรือยัง”
“กินแล้วค่ะ อาเหนือเอาให้”
“พี่เหนือเนี่ยนะ?”
พราวฟ้าพยักหน้า ไม่กล้าสบตาคนเป็นอา ความรู้สึกผิดจู่โจมหัวใจท่วมท้น ก็ดูเอาเถอะ ในตอนที่อาขวัญห่วงใยใส่ใจเธอ แต่ร่องหลืบแห่งความสาวของเธอ ยังชุ่มแฉะหลังจากเสร็จสมเพราะการกระทำของสามีอา
“แล้วหิวหรือเปล่า”
“ไม่ค่ะ พราวง่วง”
“งั้นนอนนะ ถ้าดึกๆ หิวก็โทรบอกอา เดี๋ยวอุ่นอะไรให้กิน”
“ค่ะ” รับคำอาสาวดิบดี ก่อนจะปิดเปลือกตาลง มันล้าอกล้าใจ เธอจะทำยังไงดี จะบอกอาขวัญเรื่องเมื่อกี้ดีไหม
ไม่สิ บอกไม่ได้ บอกไปพวกอาคงได้ทะเลาะกัน ทางที่ดีที่สุดคือเก็บมันไว้เป็นความลับ แล้วรีบหาเงินแล้วย้ายออกไปจากที่นี่ เอาละ นี่คือเป้าหมายแรกของเธอ
กลางดึกคืนเดียวกัน
อากาศอันอบอ้าวและเนื้อตัวที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อ ทำให้พราวฟ้าต้องลุกขึ้นจากเตียง อาการเจ็บไข้ทุเลาลงมากแล้ว แต่ยังไม่สบายตัวนัก เธอแลหาน้ำสักแก้วแต่ไม่มี เลยต้องลุกมาหาน้ำกินที่ตู้เย็นข้างนอก อดใจไม่ไหวก็เผลอมองขึ้นไปชั้นบน
ไม่มีแสงไฟตรงช่องทางเดิน อาเหนือคงนอนแล้ว หรือไม่ก็...อยู่ในห้องที่ไฟยังเปิดอยู่ แสงสว่างและเงาคนวับแวมลอดออกมาตรงช่องว่างใต้ประตู ทำให้เธอรู้ว่าอาขวัญยังไม่นอน
เธอเดินไปหา กะว่าจะเคาะประตูแล้วพูดคุยด้วยสักคำ แต่เสียงที่ดังอยู่ข้างใน ทำให้เธอต้องยืนตัวแข็งอยู่หน้าประตู
“อ๊ะ! ตรงนั้นแหละที่รัก โอ...เก่งจัง ทำอีกทีสิ โอ้ว...ซี้ดดด...”
พราวฟ้ารีบเลย รีบย่องกลับห้องตัวเอง หัวใจยังเต้นตึกตัก หลับตาลงก็เห็นเป็นภาพเหนือนทีกำลังบำรุงบำเรอเมียของเขาด้วยมือร้อนๆ และปากคมๆ ลิ้นสากระคายคงปาดไล้ไปทั่วทุกส่วนของขวัญข้าว คงตวัดลิ้นปาดเอา...ปาดเอา ทุกหยาดหยดของเมีย
“ไม่ๆๆ อย่าคิดสิพราว อย่า...” บอกตัวเองแต่สมองมันไม่ฟัง ร่างทรุดลงตรงหลังประตู เสียงครางของอาสาวยังแว่วมา ไม่ได้อยากฟังจริงๆ นะ แต่หูเจ้ากรรมดันขยับไปหาบานประตู แนบหูทาบลงไป มันได้ยินเสียงแต่ไม่ชัดเท่าทีแรก
“ลงต่ำอีกนิด เสียวจัง...อ๊ะ...ที่รักขา...”
คราวนี้ไม่ใช่แค่หัวใจของพราวฟ้าที่เต้นอยู่ตึกๆ ส่วนล่างของเธอก็เต้นตุบๆ ไม่แพ้กัน เธอรู้สึกเหมือนลิ้นของอาเหนือยังทาบวางอยู่ตรงนั้น ลิ้นร้อนๆ ที่เพียรกระดกขึ้นลงเพื่อลิ้มรสความสาวของเธอ
“ทำเอง ขวัญทำเอง ขอเลียหน่อยนะ จะดูดแรงๆ เลย”
เสียงขวัญข้าวยังแว่วมา พราวฟ้ากัดปากกัดฟัน เงี่ยหูฟังเสียงของอาสาว
“อื้อ...ที่รักอย่าแกล้งสิ อ๊ะ! อื้อออ...”