วันต่อมา….
ภาดาและกีต้าร์เดินทางไปที่ท่าเรือโดยให้โรงแรมเป็นคนขับรถไปส่ง จากนั้นก็จะนั่งเรือไปต่อที่เกาะจะได้ไม่ต้องไปหาที่จอดรถด้วย ทั้งสองคนถ่ายรูปกันอยู่ท่าเรือในระหว่างที่รอข้ามไปที่เกาะ
“ตัวเองถ่ายตรงนี้ด้วย”
“ตัวเองก็เดินไปเลยเดี๋ยวเค้าตามถ่ายเองแหละ เอาแบบธรรมชาติไง”
“งั้นเหรอ… ก็ได้ๆ”
หญิงสาวเอ่ยออกมาเสียงหวานก่อนจะเดินแบบสบายๆโดยที่มีชายหนุ่มถือกล้องตามถ่ายทุกอิริยาบถทั้งวิดีโอและภาพนิ่ง เธอจะได้ตัดคลิปแล้วเอาไปลงในโซเชียลแต่ไม่ให้เครดิตคนถ่ายหรอกเพราะว่ายังไม่ถึงเวลา
“สวยมาก เดินมาตรงนี้ หันมาๆนั่นแหละสวยมากค่ะ”
หญิงสาววิ่งมาดูรูปถ่ายของตัวเองก่อนจะยิ้มออกมาแก้มปริ เพิ่งรู้ว่าเขาถ่ายรูปสวยมากสงสัยต้องใช้บริการบ่อยๆซะแล้ว และไม่นานเรือก็มาเทียบท่าสองคนขึ้นไปบนเรือโดยมีพนักงานช่วยยกของอีกแรง กีต้าร์เหมาลำไว้จึงไม่มีใครขึ้นไปด้วย
“ตัวเองไม่เมาเรือใช่มั้ย”
“ไม่ค่ะสบายมาก ตัวเองมายืนกับเค้าสิตรงนี้สวยนะ”
กีต้าร์เดินไปกอดเอวหญิงสาวมองบรรยากาศตรงหน้าอย่างมีความสุข ทั้งสองคนถ่ายรูปเล่นไปพลางๆในระหว่างรอเรือเดินทางไปถึงที่เกาะ และเหมือนว่าที่นั่นจะไร้สัญญาณโทรศัพท์ ต้องเชื่อมต่อไวไฟของโรงแรมเท่านั้นจึงทำให้คุณพ่อของภาดาติดต่อลูกสาวไม่ได้เลย
“เป็นอะไรคะพี่ฟาร์เดินวนไปมาอยู่ได้”
“โทรหาลูกไม่ติดนะสิ วันหยุดยาวด้วยจะถามว่าลูกจะกลับมั้ยจะได้ไปรับ แต่ว่าโทรหาไม่ติดเลย”
เขามองหน้าจอโทรศัพท์อย่างกังวล ถ้าลูกรับโทรศัพท์เขาก็จะได้หายห่วงแต่ถ้าเป็นแบบนี้เขานอนไม่หลับแน่นอน
“ใจเย็นสิคะ โทรไปโรงแรมเลยถามพนักงานต้อนรับก็ได้ พวกเค้าคงให้คำตอบได้”
“จริงด้วย… งั้นรอแป๊บหนึ่งนะ”
เขากดโทรศัพท์โทรไปหาพนักงานที่โรมแรมและไม่นานก็มีคนรับสาย
“สวัสดีค่ะโรงแรม PB ค่ะ”
(ผมภวินนะ เห็นคุณหนูรึเปล่าภาดานะ ผมติดต่อไม่ได้เลย)
“อ่อคุณภาดาเหรอคะ คนขับรถไปส่งที่ท่าเรือตั้งแต่เมื่อเช้าแล้วค่ะเห็นว่าไปเที่ยวเกาะ”
(งั้นเหรอ… แล้วก็ไม่โทรบอกผมด้วยนะ เป็นห่วงนึกว่าเป็นอะไรรึเปล่า)
เขาถอนหายใจอย่างโล่งอก แสดงว่าที่ติดต่อไม่ได้คงเพราะไม่มีสัญญาณมากกว่า แต่ว่าถ้าขึ้นเกาะก็คงติดต่อมาเองแหละ
“คุณหนูคงลืมแหละค่ะ ดูตื่นเต้นที่จะได้ไปเที่ยวเกาะมากเมื่อวานเอาชุดดำน้ำมาอวดด้วยค่ะ”
(แล้วไปกับใครคุณรู้มั้ย)
“ไปกับคุณกีต้าร์ค่ะ สองคนดูสนิทกันมากเลยนะคะน่ารักเชียว”
พนักงานพูดไปโดยไม่คิดอะไรแต่ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่คิดแบบนั้น เท่าที่รู้มาสองคนนั้นไม่ได้สนิทกันถึงขั้นไปไหนมาไหนด้วยกัน ถึงแม้ว่าจะรู้จักกันมาตั้งแต่เด็กแต่สองคนไม่ค่อยลงรอยกันเท่าไหร่และมันเป็นแบบนั้นมาตลอดเขาจึงวางใจว่าทั้งสองคนจะไม่มีทางคิดต่อกันเป็นอื่น
(งั้นเหรอ… ขอบคุณมากนะยังไงระหว่างสองคนอยู่ที่นั่นก็ฝากดูแลด้วย)
“ได้ค่ะท่าน สวัสดีค่ะ”
เขากดวางสายก่อนจะยืนกอดอกขมวดคิ้วเป็นปมคิดไปถึงเรื่องที่เพิ่งรู้มา หรือว่าทั้งสองคนเพิ่งจะญาติดีกันเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันก็เลยชวนกันไปเที่ยว
“ขมวดคิ้วอีกแล้วคนนี้ เป็นอะไรอีกคะ”
“ภาดาไปเที่ยวเกาะกับกีต้าร์ พี่ว่ามันยังไงๆอยู่นะหนูว่าไง”
ภวินเอ่ยถามภรรยาอย่างของความเห็น หนูเล็กส่ายหน้าไม่รู้ไม่ชี้และเธอคิดว่ามันก็ไม่มีอะไรเสียหายถ้าเกิดทั้งสองคนจะญาติดีเป็นเพื่อนต่อกันหรือว่าเกิดจะชอบกันขึ้นมา ทางนั้นเค้าก็ฐานะร่ำรวยกีต้าร์ก็เป็นเด็กน่ารักนิสัยก็ดีทำอาหารก็เก่ง เพอร์เฟคทุกอย่างขนาดนี้เหมาะสมกับลูกสาวเธอออก
“ไม่ว่าไงค่ะ ลูกโตแล้วอายุไม่ใช่น้อยๆอีกไม่กี่เดือนก็จะจบ ถ้ามันจะมีอะไรเราไม่มีสิทธิ์ไปห้ามความคิดของลูกได้หรอกนะคะ ทำใจค่ะ”
“ไม่มีทาง พี่ไม่มีทางญาติดีกับไอ้หมอนั่นหรอก โดยเฉพาะต้องเกี่ยวดองเป็นทองแผ่นเดียวกันพี่ไม่มีทางยอมแน่นอน”
“เรื่องมันก็ผ่านมาหลายปีแล้วจนลูกโตขนาดนี้ พี่ยังไม่ลืมอีกเหรอ”
หนูเล็กถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยใจ คนเรานี่ยิ่งอายุเยอะยิ่งงี่เง่าสงสัยจะเป็นเรื่องจริง นี่มันก็ผ่านมา20กว่าปีแล้วไม่รู้จะอคติต่อกันไปถึงไหน รายนั้นเค้ามีครอบครัวที่อบอุ่นและต้นรักก็หลงเมียมากขนาดนั้น เขาควรจะเลิกคิดแบบนั้นสักที
“ใครจะลืมได้ล่ะ มันบอกว่ารู้จักกับหนูมาก่อนพี่จนถึงตอนนี้ก็ยังพูด รู้จักก่อนแล้วไงพี่เป็นสามีที่ถูกต้องตามกฎหมายและหนูก็รักพี่มาก ใช่มั้ยคะ”
“ก็ใช่ไงคะแล้วจะไปอคติกับเค้าอีกทำไมกัน”
หนูเล็กสวมกอดสามีอย่างเอาอกเอาใจ เธอแค่อยากให้เขาแยกแยะบ้างอย่างน้อยก็ให้รุ่นลูกเค้าได้รักกัน อีกอย่างเธอจะได้ชดเชยในสิ่งที่เธอได้ทำลงไปในอดีต ไปให้ความหวังเขาแต่สุดท้ายก็ไม่เลือก อย่างน้อยถ้าภาดารักกับกีต้าร์ขึ้นมาจริงๆเธอยินดีมาก
“ไม่รู้แหละทุกวันนี้มันยังปากดีอยู่เลย หนูก็อีกคนไปเกรงใจมันอ่ะ”
“ก็เพื่อนสนิทนี่คะ”
สองสามีภรรยาเถียงกันต่อแต่ไม่ได้รุนแรงอะไร มันก็เป็นแค่อารมณ์น้อยใจภรรยาที่ให้ความสำคัญกับคนอื่นพอๆกับสามี ซึ่งเขาก็อยากชนะมันบ้างแต่ภรรยาไม่ยอมให้เขาเหนือกว่า บอกว่าทุกคนสำคัญในสถานะที่ต่างกันเขาจึงอคติกับหมอนั่นมาจนถึงตอนนี้
“ตัวเองเค้าปวดขาอ่ะ”
ภาดาออดอ้อนสามีเมื่อขึ้นท่าเรืออีกฝั่งของเกาะ ชายหนุ่มอุ้มเธอขึ้นมาก่อนจะพาเดิสเข้าไปในโรงแรมและมีพนักงานช่วยกันถือกระเป๋ามาให้ หญิงสาวซบใบหน้าลงกับอกกว้างลูบไล้หน้าอกชายหนุ่มอย่างแกล้งหยอก
“อย่าซนเดี๋ยวถึงห้องแล้วจะโดนดี”
“อยากโดนดีจัง”
ภาดายิ้มมุมปากออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนจะจุ๊บแก้มชายหนุ่ม เขาเค้นหัวเราะออกมาเล็กน้อยก่อนจะอุ้มเธอไปวางไว้ตรงโซฟาจากนั้นก็ไปเช็คอินเข้าโรงแรมและเอารหัสไวไฟมาให้หญิงสาว เธอจะได้ติดต่อกับครอบครัวได้
“รหัสไวไฟค่ะ โทรหาคุณพ่อคุณแม่ด้วยเดี๋ยวท่านจะเป็นห่วง”
“ขอบคุณค่ะที่รัก”
หญิงสาวหอมแก้มชายหนุ่มก่อนจะต่อรหัสไวไฟแล้วโทรศัพท์ไปหาคุณพ่อเพราะตั้งแต่เช้ายังไม่ได้โทรหาเลย และตลอดการเดินทางไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ให้ติดต่อได้จึงกลัวว่าท่านจะเป็นห่วง
กีต้าร์ยื่นมือไปลูบผมหญิงสาวอย่างเอ็นดูก่อนจะเดินไปคุยกับพนักงานและปล่อยให้เธอคุยกับครอบครัวไปก่อน….