เช้าวันต่อมา ฟ่านอวี้เหยาขนข้าวสาร และอาหารที่ปู้หว่านถิงเตรียมไว้ในเรือนที่มาอาศัยเพื่อแจกจ่าย ซึ่งกล่าวได้ว่า เลี้ยงกองทัพทหารได้นับครึ่งหมื่นชีวิตได้หลายเดือนทีเดียว นอกจากนั้น ยังให้จัดโรงทานทำข้าวต้มง่ายๆ ไว้ข้างสำนักการแพทย์ ส่วนตัวนางไปพบเจ้าเมืองไคชิง สอบถามความต้องการที่เขาอยากใช้ชาวบ้านเช่นนางช่วยเหลือ ฟ่านอวี้เหยาไม่ได้เปิดเผยฐานะของตน บอกเขาแต่ว่าเป็นฮูหยินของบุรุษผู้หนึ่ง ที่ยามนี้สามีเดินทางไปเจรจาการซื้อขายม้า และสมุนไพรเพื่อจะมาใช้ผลิตยาสามัญประจำบ้าน ยามนี้ฟ่านอวี้เหยาจึงถูกผู้อื่นเรียกว่าเถ้าแก้เนี้ย พวงด้วยชื่อ “เถ้าแก่เนี้ย ช่างมีเมตายิ่งนัก และตอนนี้ มีหญิงวัยกลางคนผู้หนึ่ง ที่หมอของสำนักแพทย์ให้ความช่วยเหลือไม่ได้ ก็หวังว่าท่าน จะพอเป็นธุระสักเล็กน้อย” “ท่านเจ้าเมืองหมายความเช่นไร” ยามนั้นเจิงเทายิ้มกว้าง และกล่าวอย่างไม่อ้อมค้อม “ขออภัยที่ข้าเสียมารยาท ทั้