เจ้าชอบนางหรือ?

2265 คำ
ยามเซินของวันนี้ที่ตลาดนัดไท่หยางทุกคนในบ้านไท่ได้มารวมตัวกันที่นี่เสาธงสูงราวสามจั้งที่ถูกสั่งทำมาใหม่มีธงสีขาวผืนใหญ่ขลิบริมด้วยผ้าสีน้ำเงินกลางผืนธงมีอักษรตัวใหญ่เขียนว่า ‘***ไท่หยาง’ กำลังจะถูกติดตั้งลงด้านหน้าที่ทำการของตลาดนัด หว่าหวายืนมองเหล่านายช่างที่กำลังติดตั้งธงด้วยความสุข [ยามเซิน-15.00-16.59น.] “ใกล้จะสมบูรณ์แล้วสินะตลาดนัดของข้า” นางพึมพำเบาๆกับตัวเอง “อาหวา! ตอนนี้ก็ปลายยามเซินแล้วเราควรจะเริ่มจุดไฟได้เลยไหม” ไท่หยุนเอ่ยเตือนเมื่อเห็นหลานสาวทั้งหลี่ตาและริมฝีปากบางก็ยกขึ้นข้างหนึ่งคล้ายๆ จะพอใจหรืออาจจะเย้ยหยันบางสิ่งบางอย่างอยู่ก็มิรู้ได้ ท่าทางประหลาดเช่นนี้เขาก็เริ่มจะชินบ้างแล้ว “คิดอันใดอยู่ถึงได้ทำหน้าตาประหลาดอยู่เรื่อย” เสียงของท่านอาทำเอาหว่าหวาถึงกับสะดุ้ง คนกำลังคิดอะไรเพลินๆ ท่านอาเนี่ยชอบขัดความสุขอยู่เรื่อย การทดสอบจุดไฟในกระถางคบเพลิงยักษ์พวกเราทดสอบอยู่ที่จวนแล้วบ่อยครั้งเพื่อที่จะคำนวณระยะเวลาการทำงานของเชื้อเพลิงว่าจะสว่างหรือไม่และอยู่ได้นานเพียงใดต่อการจุดหนึ่งครั้ง จากการทดสอบมาแล้วความสว่างที่เหมาะสมของคบเพลิงอยู่ได้ถึงสามชั่วยาม เราจึงใช้เวลาที่ไฟเริ่มจะมอดดับเป็นการเตือนพ่อค้าแม่ค้าว่าตลาดนัดจะเริ่มปิดแล้วและก่อนที่หว่าหวาจะตอบรับท่านอาให้จุดคบเพลิง..สายตาของนางก็เหลือบไปเห็นกลุ่มคนราวสิบห้าคนเห็นจะได้กำลังพากันชะเง้อมองมายังกลุ่มคนของนางอย่างใคร่รู้ ดูๆ แล้วพวกเขาคงเป็นแค่ชาวบ้านธรรมดาไม่น่าจะมีพิษมีภัยทั้งยังมีเกวียนที่จอดไว้ข้างทางอยู่ถึงสามคัน หว่าหวาจึงชวนท่านอาออกไปถามไถ่ดู... “ท่านลุงต้องการให้ช่วยอะไรหรือไม่ขอรับ” เป็นท่านอาที่เอ่ยถามออกไปก่อน “เปล่าๆ ไม่ได้มีอะไรให้ช่วยหรอกพ่อหนุ่ม เพียงแต่ที่นี่มันคืออะไรกันหรือถึงได้มีเสาประหลาดๆ นั่น” ท่านลุงผู้คล้ายจะเป็นหัวหน้ากลุ่มเอ่ยถามออกมา “ที่นี่คือตลาดเจ้าค่ะท่านลุง เรียกว่าตลาดนัดไท่หยางกำลังจะเปิดทำการเร็วๆ นี้” หว่าหวาอธิบาย “ตลาดหรือ พวกข้าและชาวบ้านก็ผ่านทางเส้นนี้แทบทุกวันไม่เห็นจะมีคนมาขายของเลย แม่หนูแน่ใจนะว่ามันคือตลาดไม่เห็นจะมีโต๊ะหรือร้านค้าเลย” ท่านลุงอีกคนถามออกมาด้วยความสงสัย... “ตลาดแห่งนี้จะเปิดในอีกสองวันเจ้าค่ะวันนี้พวกเราแค่มาทดสอบบางอย่าง ท่านลุง ท่านอาและท่านน้าทุกคนมาชมด้วยกันสิเจ้าคะ” หว่าเชิญชวนกลุ่มชาวบ้านอย่างมีไมตรี “โอ้..ได้สิ ข้าก็อยากจะรู้ว่าตลาดของพวกเจ้ามันเป็นแบบไหนกัน” กว่าจะสนทนากับกลุ่มชาวบ้านเสร็จก็เป็นช่วงต้นยามโหย่ว พอดีท่านอาจึงส่งสัญญาณให้เริ่มจุดไฟได้ เสาคบเพลิงทั้งห้าได้ถูกจุดพร้อมกันทันที พอจุดไฟได้ไม่นานท้องฟ้าที่เริ่มจะไม่มีแสงของพระอาทิตย์แล้วก็สว่างไสวขึ้นทันตาแม้จะไม่ได้จุดคบเพลิงอันเล็กก็ตามที ด้วยความกว้างและความลึกอยู่พอสมควรของกระถางเพลิงจึงรับรองความปลอดภัยจากแรงลมได้แน่นอน... ชาวบ้านที่ยืนรอดูอยู่ต่างก็พากันตื่นตาตื่นใจแต่ก็ยังมีความสงสัย ท่านลุงคนเดิมจึงเอ่ยถามขึ้นมา... “ตลาดของพวกเจ้าจำเป็นต้องจุดกระถางไฟด้วยหรือ หากเป็นตลาดตอนกลางวันก็สว่างอยู่แล้วจะมีกระถางไฟไปทำไมกัน” ท่านลุงผู้นี้คือท่านลุง‘จำไม’แน่ๆ หว่าหวาคิด เดี๋ยวนางจะตอบให้ก็ได้ [จำไม มาจากเจ้าหนูจำไมขี้สงสัย] “ตลาดของเราไม่ได้เปิดตอนเช้าแต่จะเปิดตั้งแต่ยามเว่ยไปจนถึงยามซวี พอพระอาทิตย์ตกกระถางคบเพลิงก็จะถูกจุดเพื่อให้ความสว่าง ท่านลุงยังสงสัยอะไรอีกหรือไม่เจ้าคะ” หว่าหวาเอ่ยถามท่านลุง‘จำไม’นี่หว่าหวาตั้งชื่อให้เองเลยนะท่านลุงเป็นคนน่ารักมากดวงตาสวรรค์บอกมาเช่นนั้น... “มันจะมีคนมาซื้อหรือแล้วพ่อค้าแม่ค้าล่ะจะมีคนเอาของมาขายหรือแม่หนู” ตัวเขาก็คือผู้ใหญ่บ้านนามเซี่ยหยูแห่งหมู่บ้านหลิว ที่ตั้งของหมู่บ้านก็อยู่ห่างจากเมืองเถียนอยู่พอสมควร ว่างๆ ก็จะมีลูกบ้านจ้างวานให้พาเข้าเมืองแทบทุกวันเพื่อจับจ่ายซื้อของและค้าขาย เห็นที่ดินตรงนี้ก็ว่างมาตั้งหลายปีแต่สองสามวันมานี้กลับมีเสาแปลกๆ โผล่ขึ้นมาก็เกิดความสงสัยเช่นนี้แล “มีคนซื้อและมีคนขายแน่นอนเจ้าค่ะท่านลุงมองเห็นธงสีแดงที่ปักอยู่บนลานโล่งนั้นหรือไม่เจ้าคะ ธงที่ถูกปักอยู่นั้นได้มีคนจับจองพื้นที่ขายของไว้แล้ว โต๊ะหรือกระโจมวางขายสินค้าผู้ขายจะเป็นคนนำมาเอง ส่วนเรื่องคนซื้อเราได้ป่าวประกาศไปพอสมควรท่านลุงอย่าได้กังวลว่าจะไม่มีคนซื้อ ถนนเส้นนี้ตัดผ่านไปหลายหมู่บ้าน ชาวบ้านที่ขึ้นเขาหาของป่ามาขายก็ไม่ต้องรอให้ถึงเช้าเพื่อจะเอาของไปขายในเมืองให้ตรงมาที่ตลาดไท่หยางของเราได้เลยของถึงจะสดใหม่และดูน่าซื้อยังไงล่ะเจ้าคะ” และหว่าหวาก็ไม่รอให้ท่านลุงถามต่อแต่นางจะเป็นคนถามเอง... “ท่านลุงสนใจตลาดไท่หยางของเราหรือไม่เจ้าคะ วันเปิดตลาดวันแรกข้ายังมีของฝากเล็กๆ น้อยให้กับทุกคนด้วยนะเจ้าคะ”. ‘ท่านลุงจำไมข้าอ่อยท่านแล้วนะยอมจำนนต่อข้าเสียดีๆ’หว่าหวากำลังร่ายมนต์หรือกำลังใช้ความปรารถนาของตัวเองหรือเปล่านะ “น่าสนใจแล้วตลาดของเจ้าเปิดทุกวันหรือไม่เล่า” “ช่วงแรกเริ่มข้าจะเปิดหนึ่งวันและหยุดสองวันหากมีการเรียกร้องจากพ่อค้าหรือคนซื้อให้เพิ่มวันเปิด พวกข้าก็จะดูอีกทีว่ามันสมควรเปิดเพิ่มหรือไม่” ได้ยินคำตอบแล้วท่านลุงหยูซึ่งตอนนี้หว่าหวาได้รู้จักชื่อแล้วก็ได้เอ่ยถามกับชาวบ้านที่มาด้วยกัน เกินครึ่งของชาวบ้านได้ขอจับจองพื้นที่ขายของแต่ทุกคนในที่นี้ก็จะมาวันเปิดตลาดนัดแน่นอน และยังจะช่วยกระจายข่าวสารให้กับเพื่อนบ้านคนอื่นๆ ได้รับรู้อีกด้วย แล้วท่านลุงกับชาวบ้านก็กล่าวลาก่อนไปทุกคนยังมองไปยังเสาคบเพลิงอย่างประทับใจที่ตอนนี้ยังคงสว่างไสวแม้จะมืดค่ำแล้วก็ตาม... การทดสอบเชื้อเพลิงของวันนี้ก็จบสิ้นจลง ทุกอย่างเป็นไปอย่างที่วางแผนเอาไว้ไม่ว่าจะเป็นความสว่างหรือระยะเวลาการมอดดับของเชื้อเพลิงก็ตามที ตั้งแต่เริ่มติดตั้งเสาคบเพลิงท่านพ่อได้แบ่งคนมาประจำที่ตลาดจำนวนสิบคนตามจำนวนห้องพักที่ได้สร้างไว้ ตอนกลางวันให้เหลือไว้แค่สองคนก็พอส่วนคนที่เหลือก็ได้ไปช่วยงานอย่างอื่นที่จวน ท่านย่าและพ่อบ้านหวังมู่เพิ่งจะได้มาที่ตลาดนัดเป็นครั้งแรกต่างพากันประหลาดใจที่รู้ว่าความคิดทั้งหมดเป็นของหว่าหวาโดยท่านย่านั้นสงสัยเหลือเกินว่าหลานสาวของตนไปร่ำเรียนสิ่งใดมาจากคนโลกโน้นตั้งเยอะแยะมากมายอย่างนี้ ช่างน่าอัศจรรย์ใจนัก ส่วนพ่อบ้านหวังนั้นได้ให้ความสำคัญและยำเกรงกับคุณหนูหว่าหวาเทียบเท่ากับนายท่านทั้งสองแล้ว ช่างเป็นสตรีตัวน้อยที่มีความคิดประหลาดไม่เหมือนใคร ไม่เหมือนเหล่าสตรีในห้องหอเลยแต่ก็ไม่ได้ดูขัดกับการเป็นอิสตรีแม้แต่น้อย ดูสดใสมองแล้วสบายตาสบายใจไม่มีจริตมารยาเลยสักนิด คุณหนูหว่าหวาได้ใจของพ่อบ้านหวังไปครองอีกคนแล้วรวมไปถึงท่านลุงจำไมอีกคน... พอกลับถึงจวนท่านพ่อได้เรียกหว่าหวาและท่านอาให้ไปที่ห้องทำงาน นั่นก็คือห้องหนังสือของท่านพ่อนั่นเอง ท่านพ่อได้หารือเกี่ยวกับการซื้อม้าเพิ่มเพราะหนุ่มๆ เหล่านั้นจำเป็นต้องใช้ม้าอย่างยิ่ง มันสะดวกกับการเดินทางและอีกอย่างหนุ่มๆ เหล่านี้ขี่ม้าเก่งกันทุกคน..หว่าหวาและท่านอาก็ไม่ขัดแล้วแต่ท่านพ่อจะเห็นสมควรและหว่าหวาได้ขอรถม้าคันใหญ่เพิ่มอีกสองคันท่านพ่อก็รับปากกับนางทันที เสร็จจากเรื่องม้าแล้วแล้วทุกคนต่างแยกย้ายกันไปพักผ่อนพรุ่งนี้นางยังมีเรื่องสำคัญที่จะต้องไปเจรจาอีก... เช้าวันใหม่หว่าหวาเตรียมตัวแต่เช้าเพื่อจะไปเจรจาเรื่องที่ดินกับท่านเจ้าเมืองสารถีของหว่าหวาวันนี้ไม่ใช่ท่านอาแต่เป็นพี่ชาน ตกลงพี่ชานได้มาเป็นผู้ช่วยมือขวาของหว่าหวาแล้วนะ... เมื่อนางเดินออกมาก็เจอพี่ชานรออยู่แล้ว “พี่ชานเราไปกันเถอะ จอดให้หว่าหวาเอากับข้าวไปให้พี่ๆ ที่ตลาดด้วยนะ” “ขอรับคุณหนู” นี่ก็เป็นคนพูดน้อยอีกคนและท่าทางจะเข้ากันกับพี่ใหญ่ได้ดี เมื่อมาส่งกับข้าวหว่าหวากลับเจอพี่ใหญ่ยืนอยูู่หน้าตลาดเสียอย่างนั้น “พี่ใหญ่มาทำอะไรหรือเจ้าคะ อย่าบอกอาหวานะว่าพี่ใหญ่นอนอยู่ที่นี่” “อืม..พี่แค่อยากดูบรรยากาศตอนกลางคืนของที่นี่เท่านั้นเอง” “แล้วเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะบรรยากาศดีหรือไม่เผื่ออาหวาจะมานอนด้วยเจ้าค่ะ” อากาศยามเย็นตอนค่ำคืนของที่นี่ดีมากๆ เลยทำให้นางคิดถึงตอนไปตั้งแคมป์กับครอบครัวเดิม “บรรยากาศยามค่ำคืนไม่เลวเลย แต่ไม่เหมาะกับสตรีเช่นเจ้าจะมานอนค้างอ้างแรมหรอกนะ อีกอย่างตอนหัวค่ำและยามเช้ามีผู้คนสัญจรไปมาเยอะเชียวแหละยิ่งช่วงเช้าๆ ก็ยิ่งเยอะ หลายคนก็เข้ามาถามเกี่ยวกับตลาดของเราพี่ว่าตลาดนัดไท่หยางต้องไปได้ดีแน่ๆ” พี่ใหญ่ไท่หลางของนางตั้งแต่ได้มาเป็นประชาสัมพันธ์ของตลาดไท่หยางเนี่ยบอกได้เลยว่าพูดเยอะขึ้นจริงๆ อย่างกับไม่ใช่คนเดิมแน่ะ “แล้วพี่ใหญ่ไม่กลับจวนหรือเจ้าคะ หรือจะเข้าเมืองกับอาหวาดี” “เช่นนั้นพี่เข้าเมืองกับเจ้าดีกว่าพี่ยังไม่เคยเห็นหน้าเจ้าเมืองเลยสักครั้ง เห็นเจ้าว่าเขายังเป็นเด็กน้อยอยู่เลยไม่ใช่หรือ” “โธ่..พี่ใหญ่เรื่องเก่าอย่าเอามาเล่าใหม่เลยเจ้าค่ะ อาหวาไม่บังอาจแล้ว” นั่นมันนานแล้วเหอะตอนนี้นางไม่กล้าแล้วจริงๆ ไม่อยากตายรอบสองหรอกนะ อยู่ที่นี่ก็ดีแล้วนางไม่อยากถูกย้ายดวงจิตไปยังโลกอื่นอีก ‘อะไรกันไท่หว่าหวามีกลัวใครด้วยหรือนี่’ ไท่หลางอดฉงนในใจไม่ได้ เขายังเคยได้ยินว่านางเกือบจะมีเรื่องกับท่านเจ้าเมืองอยู่เลย หรือจะยอมแพ้แล้วนะ ที่จวนเจ้าเมือง... “นี่ก็ผ่านมาหลายวันแล้วนะ นางยังไม่ได้มาติดต่อเรื่องที่ดินกับข้าเลย” เจ้าเมืองเถียนฟงอวี้เอ่ยกับผู้ที่เป็นทั้งสหายและยังมีสถานะเป็นญาติของเขาด้วยเช่นกัน “อะไรกันแค่สามสี่วันเองประเดี๋ยวนางก็มา ข้าจะบอกอะไรให้นะนางทำขนมอร่อยมาก” “ขนมอะไร เจ้าไปกินที่ไหนและรู้ได้อย่างไรว่านางเป็นคนทำ” คำบอกเล่าของสหายทำเอาเจ้าเมืองหนุ่มเสียกิริยา ‘อาเฟยได้ไปกินขนมที่นางทำตอนไหน เหตุใดเขาถึงไม่รู้เรื่องหรือว่าพวกเขาจะรู้จักกัน’ “เจ้าห้ามคิดไปไกลเชียวนะ สามวันก่อนข้าแวะไปหาท่านปู่ใหญ่ท่านปู่เลยเอาขนมที่นางทำออกมาให้ข้าชิม ไหนจะชาสมุนไพรที่นางให้ท่านปู่มาอีก ได้ดื่มแล้วหายเพลียเป็นปลิดทิ้งเลยนะจะบอกให้” ‘ไยท่านปู่ไม่แบ่งให้ข้าบ้างข้าหลานชายของท่านนะ ท่านปู่!’ ฟงอวี้ได้แต่รำพึงอย่างน้อยใจเพราะรู้สึกถึงความไม่เป็นธรรม “หากเจ้าอยากกินก็ไปที่ตลาดนัดไท่หยางสิ อีกสองวันก็จะเปิดแล้วนางฝากบอกมาแบบนี้” ‘วันนี้ข้าเถียนเฟยรู้สึกมีความสุขยิ่งนักข้ารู้จุดอ่อนของท่านแล้ว ท่านเจ้าเมือง’ “ท่านเจ้าเมือง คุณหนูไท่หว่าหวามาแล้วขอรับ” ‘หืมม..นางมาแล้ว’ “ให้นางเข้ามา” ฟงอวี้รีบบอกกับทหารยามที่เฝ้าอยู่หน้าประตูจวนออกไปทันที “เหมือนเจ้าจะรอการมาของนางนะ เจ้าชอบนางหรือ?”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม