“ผู้หญิงคนนั้นมาหาแม่ถึงบ้านเลยเหรอครับ?”
“หนูแพรวาได้ข่าวว่าแม่ไม่สบายก็เลยเอากระเช้ามาเยี่ยม”
“เหอะ!” ลูคัสแค่นหัวเราะในลำคออย่างเย้ยหยัน อย่างผู้หญิงคนนั้นเหรอแค่เอากระเช้ามาเยี่ยมเฉยๆ คงไม่ได้เล่นละครบีบน้ำตาเรียกคะแนนสงสารจากแม่ของเขาหรอกนะ
“ดูเหมือนลูกจะไม่ค่อยชอบหนูแพรวาเท่าไรเลยนะ”
“ครับ ไม่ชอบ ถ้าจะให้พูดตรงๆ ก็เกลียด”
“หนูแพรวาออกจะสวย น่ารัก เก่ง แถมยังนิสัยดีขนาดนั้น แม่ไม่เห็นมีอะไรให้ต้องเกลียดเลยนะ”
“ภายนอกที่แม่เห็น อาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่แม่คิดก็ได้”
“แล้วลุครู้จักหนูแพรวาดีแค่ไหน ถึงไปตัดสินเขาแบบนั้น”
กึกก
คำถามของคนเป็นแม่ทำให้ลูคัสชะงักลงไปอัตโนมัติ
“ถ้ายังไม่รู้จักหนูแพรวาดีพอ แม่ว่าลุคเองก็ไม่ควรไปตัดสินเขาแบบนั้นนะ”
“แล้วสรุปเรื่องถอนหมั้น ลุคยังอยากถอนหมั้นกับหนูแพรวาอยู่ไหม”
คำถามของเฌอปรางค์ทำให้ลูคัสนิ่งเงียบเพื่อครุ่นคิด คืนนั้นแพรวามาหาตนเพราะเรื่องนี้ ซึ่งเขายื่นข้อเสนอบางอย่างให้แล้วเธอก็รับมันไปโดยไม่ปฏิเสธ
รอยยิ้มบนมุมปากหยักผุดขึ้นเมื่อนึกถึงคำตอบของแพรวา
‘ถ้าไม่อยากให้ฉันถอนหมั้น ก็ต้องเป็นของเล่นที่เชื่อฟังเจ้าของ…เข้าใจหรือเปล่า’
‘ถามว่าเข้าใจไหม’
‘อ๊ะ! อึก! ขะ…เข้าใจแล้ว...’
“ลูกยิ้มอะไร”
“แค่นึกถึงอะไรที่มันสนุกๆ ก็เลยเผลอยิ้มน่ะครับ”
“แล้วเรื่องหมั้นสรุปจะเอายังไงลุคยังไม่ตอบแม่เลยนะ ถ้าอยากถอนหมั้น แม่กับพ่อจะไปคุยกับครอบครัวหนูแพรวาให้” เธอไม่อยากบังคับจิตใจลูกชายโดยเฉพาะเรื่องแต่งงาน ตั้งแต่เล็กจนโตไม่เคยบังคับให้ลูกทำตามความต้องการของพ่อแม่ ปล่อยให้มีอิสระในการตัดสินใจด้วยตัวเอง
ถ้าลูคัสต้องการถอนหมั้น เธอและสามีก็พร้อมไปคุยกับครอบครัวแพรวา หากฝั่งนั้นเรียกค่าเสียหายที่ลูกชายล่วงเกินลูกสาวเขาเข้าก็ยินดีจ่ายให้
“เอาไว้แบบนี้แหละครับ”
“แปลว่าจะไม่ถอนหมั้น?”
“ครับ”
คำตอบของลูคัสสร้างความประหลาดใจให้คนเป็นแม่ไม่ใช่น้อย เฌอปรางค์ทำหน้ามึนงง ก่อนหน้านี้ลูกชายทำเหมือนอยากถอนหมั้น มาตอนนี้กลับบอกว่าจะไม่ถอนหมั้นแล้ว
เดาใจลูกชายคนนี้ไม่ถูกเลยจริงๆ
ลูคัสเดาใจยากพอๆ กับคนเป็นพ่อ สองพ่อลูกถอดแบบมาจากกันเป๊ะๆ
•••
ร่างสูงหนึ่งร้อยแปดสิบห้าอัพเดินเข้ามาภายในบริษัทขนาดใหญ่ พนักงานที่นี่เมื่อเห็น ‘ลูคัส’ ประธานบริษัทคนใหม่ที่เพิ่งขึ้นรับตำแหน่งแทนลีคัสต่างยกมือไหว้ทักทาย นอกจากมีใบหน้าหล่อเหลาราวกับฟ้าประทานมาแล้ว ยังเก่งรอบด้านอีกด้วย เลยทำให้เขากลายเป็นผู้ชายในฝันของผู้หญิงหลายๆ คน
หลังจากเรียนจบ ลูคัสขึ้นรับตำแหน่งแทนคนเป็นพ่อทันที แม้ไม่ได้อยากทำ ทว่าก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงหน้าที่นี้ไปได้ ส่วนเฌอเบลล์พอเรียนจบ คงได้ไปดูแลอ**บริษัทของครอบครัว
“คุณลูคัสคะ มีคนฝากของมาให้ค่ะ” เลขาสาวหน้าห้องเอ่ยกับเจ้านายหนุ่ม
“ใคร” เสียงเข้มถามกลับ
“คุณแพรวาค่ะ”
“…” เขามองของที่เลขายื่นมาให้นิ่งๆ สายตามองเห็นการ์ดที่แนบอยู่จึงหยิบมาอ่าน
‘แทนคำขอบคุณที่ไม่ถอนหมั้น…แพรวา’
“หึ…” เขาส่งเสียงเบาๆ ในลำคอเมื่ออ่านข้อความบนการ์ดจบ ก่อนจะหยิบของที่แพรวาส่งมาให้โยนทิ้งถังขยะอย่างไม่ไยดีแล้วเดินเข้าไปในห้องทำงาน
เลขาสาวหน้าห้องอึ้งกับการกระทำของเจ้านายหนุ่ม มองสิ่งของนั้นด้วยความรู้สึกเสียดาย หากคนให้รู้ว่าคนรับเอาทิ้งถังขยะ
คงเสียใจมากน่าดู…
เขาทิ้งตัวนั่งลงเก้าอี้ทำงาน ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ออกมาต่อสายหาแพรวา
(สวัสดีค่ะ…)
“ดูท่าทางเธอคงอยากแต่งงานกับฉันจนตัวสั่น”
(…)
“ถึงขั้นส่งของมาขอบคุณที่ฉันไม่ถอนหมั้นด้วย ยอมใจเธอเลยจริงๆ”
(นายหมายถึงอะไร ฉันไม่เข้าใจ)
“เลิกตีหน้าซื่อได้แล้ว ต่อให้ไม่ถอนหมั้น ฉันก็ไม่มีวันแต่งงานกับผู้หญิงอย่างเธอ”
(…)
“ผู้หญิงอย่างเธอ…มันไร้ค่าเกินไปสำหรับฉัน”
(ลูคัส!)
เขากระตุกยิ้มมุมปากเมื่อได้ยินน้ำเสียงไม่พอใจของแพรวา
“ที่ฉันยังไม่ถอนหมั้นกับเธอตอนนี้ ก็น่าจะรู้นะว่าเพราะอะไร” เขาตัดสายจากแพรวาหลังจากพูดจบประโยค
ที่ยังเก็บเธอเอาไว้ไม่ใช่เพราะพิศวาสหรือชอบพอผู้หญิงคนนั้น แต่เพราะยังอยากเก็บเธอเอาไว้เล่นสนุกอยู่ต่างหาก…