CHAPTER 3 “งานคู่”

2998 คำ
ติ๊ด...ติ๊ด...ติ๊ด...ติ๊ด เสียงกดรหัสประตูหน้าห้อง เรียกสายตาเจ้าของห้องอย่าง ‘ไทจิ’ ให้ละสายตาจากหน้าจอโทรศัพท์ขึ้นไปมองเล็กน้อย ก่อนจะกลับมาให้ความสนใจกับคอมเม้นท์ของแฟน ๆ ที่ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังจากที่เค้าให้สัมภาษณ์เรื่องกระแสคู่จิ้นไป “เมื่อไหร่มึงจะรู้ว่ามึงควรส่งข้อความหรือโทรมาบอกกูก่อนว่าจะเข้ามา สรุปนี่ห้องมึง?” ไทจิเอ่ยถาม “แหม...สัญญาณที่บอกว่ากูมาก็เสียงกดรหัสห้องมึงไงคะ” ชีต้า ผู้จัดการส่วนตัวร่างชายใจหญิง ที่ควบตำแหน่งเพื่อนสนิทของไทจิมาตั้งแต่มัธยมตอบ “กูต้องแอบมาแบบนี้แหละ เผื่อวันนึงมึงพาสาวมามั่วที่ห้อง กูจะได้จับได้แบบคาหนังคาเขาแล้วเตรียมตัวรับมือกับข่าวที่จะตามมาทัน” ชีต้าเอ่ยพร้อมปรายตามองไทจิ “มึงเคยเจอ?” ชีต้าส่ายหน้าตอบ “มึงก็รู้ว่ากูไม่เคยมีเรื่องผู้หญิง ห้องนี้นอกจากพ่อ มึง แล้วก็ไอ้ริว ก็ไม่เคยมีใครได้เหยียบ มึงยังคิดว่ากูจะพาสาวมาอีก” ไทจิวางโทรศัพท์ลง แล้วเงยหน้ามองเพื่อน “เออ กูรู้ค่ะ ก็แค่พูดไปงั้นแหละ มึงไม่เคยมีข่าวกับดาราสาวคนไหน ยกเว้น น้องญี่ปุ่น คู่จิ้นของมึงเท่านั้นแหละ นี่ถ้าไม่มีคู่จิ้นเป็นญี่ปุ่นนะ กูว่ามีซีรีย์วายติดต่อมึงเข้ามาแน่ เชื่อกูสิ” ไทจิหัวเราะขำ “แล้วสรุปมึงมาทำไม เพิ่งกลับไปไม่ถึงชั่วโมง เดินเข้าเดินออกห้องกูเป็นว่าเล่นเชียว” ไทจิถามชีต้ากลับ “มีงานใหม่ติดต่อเข้ามา กูต้องมาถามก่อน ว่ามึงจะรับมั้ย” ไทจิขมวดคิ้วมองหน้าเพื่อน เพราะปกติชีต้ารู้ดีอยู่แล้วว่างานแบบไหนที่เค้าจะไม่รับ “งานแรก สมาคมศิษย์เก่าของโรงเรียนเรา จัดงานการกุศลระดมทุนปรับปรุงอาคารเรียนและสนามกีฬา เค้าอยากให้มึง ซึ่งเป็นหนึ่งในศิษย์เก่าที่มีชื่อเสียงมาก ไปร่วมงานและโชว์ซัก 3 เพลง เพื่อเรียกเงินบริจาค” ไทจิเลิกคิ้วกลับไปให้ชีต้าแทนคำถาม “งานนี้มึงไม่ต้องถามก็ได้มั้ย งานแบบนี้กูรับอยู่แล้ว ไอ้ริวกับไอ้นนไปด้วยมั้ย” ชีต้าพยักหน้ายิ้มตอบ “ไอ้ริวมันไปโชว์ตัวเฉย ๆ ส่วนไอ้นนได้รับเชิญในฐานะนักธุรกิจที่กำลังมีชื่อเสียง” ไทจิหัวเราะ “ชื่อเสียงความคลั่งรักเมียของมันน่าจะมากกว่าชื่อเสียงในฐานะนักธุรกิจ คนอะไรจัดงานแข่งรถเอาใจเมีย ตอนไอ้ริวมาเล่าให้ฟังนี่กูอึ้งไปเลยนะ” ไทจิและชีต้าพากันหัวเราะขำ “ไม่คิดว่าจะเป็นคนแบบนี้ สรุปงานนี้รับ จัดคืนวันศุกร์นี้นะ กูเช็คตารางแล้ว ไม่ติดอะไร” ไทจิยิ้มตอบ “เช็คตารางแล้ว วันหลังไม่ต้องถามกูก็ได้เพื่อน” ชีต้าลอยหน้ายิ้มเหมือนไม่เดือดร้อนกับสิ่งที่ไทจิพูด “ส่วนอีกงาน เค้าอยากให้มึงเป็นพรีเซนเตอร์ชุดยูนิฟอร์มของโรงพยาบาล” ชีต้าหยุดพูด เมื่อเห็นไทจิขมวดคิ้วแล้วยกมือขึ้นห้ามไว้ “งานนี้ไม่ได้เลย มึงก็รู้ว่าถ้ากูรับงานนี้ พ่อกูอาจจะเอามีดผ่าตัดมากรีดหน้ากูแทนคนไข้” ไทจิแย้ง “ไม่ใช่เว้ย มันไม่ใช่พรีเซนเตอร์ชุดยูนิฟอร์มของโรงพยาบาลไหน ลูกค้าเป็นบริษัทผลิตชุดยูนิฟอร์ม เค้าเปิดไลน์สินค้าใหม่ เลยอยากให้มึงไปเป็นพรีเซนเตอร์ให้ อีกอย่าง คนทั่วประเทศเค้าก็รู้มั้ย ว่ามึงเป็นลูกเจ้าของโรงพยาบาล จะมีโรงพยาบาลไหนกล้าจ้างมึงไปเป็นพรีเซนเตอร์วะ คิดสิคิด” ชีต้าอธิบาย “อ่าว...ก็มึงไม่บอกกูให้จบ” / “ก็มึงให้กูหยุดพูดไงคะ ไอ้ไทจิ” ไทจิยกมือยอมแพ้เพื่อน “เชิญต่อเลยครับ มีรายละเอียดอะไรอีกว่ามา” ไทจิผายมือให้ชีต้าพูดต่อ “รายละเอียดงานไม่มีอะไรมาก มีร่วมงานเปิดตัว 1 วัน แต่ส่วนมากจะเน้นหนักไปทางงานถ่ายแบบมากกว่า อาจจะต้องถ่ายหลายชุดหน่อย เพราะเค้าเปิดตัวไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ ชุดกาวน์ ชุดสครับ ชุดพยาบาล เรียกง่าย ๆ ว่า ครบทุกส่วนงานของบุคลากรทางการแพทย์” ชีต้าอธิบายรายละเอียดงานให้ไทจิฟัง “เดี๋ยวนะ ชุดพยาบาล? แสดงว่าต้องถ่ายคู่?” ชีต้ายิ้มพร้อมพยักหน้าตอบ “ถ่ายคู่กับญี่ปุ่น” ไทจิส่ายหน้าปฏิเสธกลับไปทันที “มึง...งานนี้เหมาะกับมึงมาก และลูกค้ารีเควสมึงมาโดยตรง ดาราจบแพทย์และเป็นลูกชายคนเดียวของเจ้าของโรงพยาบาล ไม่มีใครเหมาะไปมากกว่ามึงแล้ว” ชีต้าพยายามกล่อมไทจิ “กูบอกมึงแล้วตั้งแต่เริ่มหันมารับงานอิสระ ว่ากูไม่อยากรับงานคู่กับปุ่นอีก” ไทจิยืนยันหนักแน่น “กูรู้...แต่ลูกค้าเค้ารีเควสมาเองไง มึงต้องเข้าใจว่า มึงกับปุ่นยังมีกระแส และมันคือสิ่งที่ลูกค้าต้องการ แค่ถ่ายงานเองมึง อาจจะมีสัมภาษณ์คู่วันเปิดตัวนิดหน่อย แต่กูจะกำชับนักข่าวเอง ว่าไม่ให้สัมภาษณ์เรื่องกระแสคู่จิ้นอีก โอเคมั้ย” ไทจิส่ายหน้ากลับไปอีกครั้ง “ไทจิ...กูรู้ว่ามึงไม่แคร์เงิน แต่กูแคร์ค่ะเพื่อน ถ้ามึงไม่รับงานกูก็ไม่ได้เปอร์เซ็นต์ และงานนี้เงินดี!!” ชีต้าเอ่ย “เดี๋ยวกูจ่ายให้เอง แต่กูไม่รับ” ไทจิตอบ “มึงกลัวอะไรวะ ปุ่นก็ดูไม่ได้วุ่นวายอะไรกับมึงมากขนาดที่มึงจะรำคาญแล้วปฏิเสธงานคู่ป่ะ” ชีต้าถาม “กูไม่ได้กลัว สำหรับคนอื่นปุ่นอาจจะไม่ได้น่ารำคาญ แต่สำหรับกู...กูรำคาญ” ไทจิย้ำ “มึงก็รู้ว่ากูไม่ค่อยชอบคุยชอบเม้ากับคนที่ไม่สนิท แต่ปุ่นแม่งเจอหน้ากูทีไร ชวนกูคุย ชวนกูเม้าจนน่ารำคาญ แล้วยิ่งพี่รี่ผู้จัดการปุ่นนะ นั่นตัวดีเลย จัดแจงเก่ง วุ่นวายเก่ง” ชีต้าพยักหน้าตามอย่างเข้าใจ “เรื่องพี่รี่นี่กูไม่เถียงเลย นางชอบจิก คิดว่าเด็กตัวเองเป็นนางเอกดัง จิกคนอื่นเค้าไปทั่ว ตัวปุ่นเองนี่ไม่เท่าไหร่นะ ผู้จัดการนี่ตัวแม่เลย” ชีต้าเห็นด้วยกับเพื่อน “มึงก็รู้ แล้วยังจะให้กูรับงานนี้อีก ยิ่งงานถ่ายแบบนะ วุ่นวายแน่ ๆ เชื่อกูสิ มึงคิดว่าจะรับมือพี่รี่ไหวมั้ยล่ะ คิดว่าจะทำให้ปุ่นกับพี่รี่ไม่เข้ามาวุ่นวายกับกูได้มั้ย” ชีต้ายิ้มแหยมองหน้าเพื่อน “กูไม่มั่นใจ แต่รับปากว่าจะพยายามได้มั้ยวะ” ไทจิปรายตามองเพื่อนกลับ ติ๊ด...ติ๊ด...ติ๊ด...ติ๊ด เสียงกดรหัสประตูหน้าห้องของไทจิดังขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับเสียงของเพื่อนสนิทอีกคนที่แทบจะดังมาก่อนที่ประตูจะเปิดด้วยซ้ำ “ไฮ...สหาย อยู่กันพร้อมหน้าเชียว วันนี้กูได้วิสกี้ชั้นดีมา เลยยกมาให้เพื่อนลิ้มลอง” ริวหยุดยืนอยู่ที่โซฟา พลางมองหน้าไทจิที่นั่งคิ้วขมวดหน้าตึงอยู่ ส่วนชีต้าได้แต่ทำหน้าหงอยมองริวตาปริบ “ทะเลาะอะไรกัน ทำไมเสือชีต้ามันกลายเป็นแมวหงอยแบบนี้” ริวทิ้งตัวลงนั่งข้างไทจิ “มันจะให้กูรับงานคู่ปุ่น” ริวหันไปมองหน้าชีต้า ก่อนจะปล่อยให้ชีต้าเล่ารายละเอียดงานให้ริวฟังอีกครั้ง “มึงก็รับไปดิ งานนี้เหมาะกับลูกชายเจ้าของโรงพยาบาลแบบมึงดีออก อีกอย่างวันถ่ายแบบถ้าคิดว่าไอ้ชีต้าจะเอาไม่อยู่ เดี๋ยวกูไปช่วยเอง” ริวเสนอตัว “มึงจะไปหาปุ่น กูรู้” ชีต้าเอ่ยแทรก “นั่นนางเอกดังเชียวนะเพื่อนริว และมึงก็นายแบบดัง ไปหยอดเล่นมาก ๆ ระวังเป็นข่าว ถ้าเป็นข่าวแล้วแม่มึงเรียกไปด่ากูไม่ช่วยนะรอบนี้ กูหนีคนแรกเลย” “แหม...กูก็แค่หยอดเล่น ๆ อย่างน้อยก็ดึงความสนใจปุ่นให้มาอยู่ที่กู ปุ่นจะได้ไม่ต้องสนใจไอ้ไทจิ” ริวแย้ง “กูไม่เห็นปุ่นจะสนใจมึงเลยเถอะ” ชีต้าเถียงกลับ “เอางี้ไทจิ มึงยังไม่ต้องตอบตกลง แต่ก็ยังไม่ต้องปฏิเสธ ลองไปคุยรายละเอียดกับทางบริษัทก่อน แบบนี้โอเคมั้ย” “ก็ดี กูจะไปขอเปลี่ยนคู่” ชีต้าอ้าปากค้าง “ก็ถ้าเค้าอยากได้กูเป็นพรีเซนเตอร์ ก็ต้องยอมเปลี่ยนเป็นผู้หญิงคนอื่น เลือกเอา” “ดาราดัง หล่อเลือกได้จริง ๆ เพื่อนกู” ริวตบไหล่เพื่อนขำ ๆ “มึง...อย่าเล่นตัวได้ป่ะ” ชีต้าหันมาจ้องหน้าไทจิ “กูรู้ว่ามึงรวย บ้านมีเงิน ไม่ต้องทำงานในวงการ มึงก็ไปรับช่วงต่อโรงพยาบาลจากพ่อมึงได้ ถ้าเลือกงานแบบไม่แคร์เงินแบบนี้ มึงก็ไปบริหารโรงพยาบาลเถอะ ไม่ต้องทำแล้ว นักร้อง ดารา นายแบบเนี่ย กูจะได้ไปหาคนอื่นมาดูแล กูต้องหาเงินนะ ไม่ได้บ้านรวยแบบมึง” ไทจิและริวหันมองหน้ากันเลิ่กลั่กเมื่อเห็นชีต้าเริ่มวีน “แล้วไม่ต้องบอกว่าจะเอาเงินมาให้กู ถ้าไม่ใช่เงินที่มาจากส่วนแบ่งงาน กูก็ไม่รับ ถึงกูจะเป็นเพื่อนมึงมานาน กูก็มีศักดิ์ศรีมากพอที่จะไม่ขอเงินเพื่อนกิน มึงจะเอายังไง มึงว่ามาเลย” ชีต้าถามอีกครั้ง “กูว่ามึงไปคุยรายละเอียดก่อนดีมั้ย ถ้าไม่อยากวุ่นวายกับปุ่นมึงก็ยื่นข้อเสนอแยกห้องแต่งหน้าแต่งตัวอะไรก็ว่าไป จะรับไม่รับก็ไปคุยก่อน เดี๋ยวแม่มึงวีนหนักกว่านี้ ตัวใครตัวมันนะเว้ย” ริวกระซิบเตือนไทจิ “เออ ๆ กูไปคุยก่อนก็ได้ แต่กูยังไม่รับปากนะ กูขอดูรายละเอียดงานทั้งหมดก่อน” ไทจิหันไปตอบชีต้า “ก็แค่นั้น ส่วนเรื่องปุ่น กูจะช่วยดูให้” ชีต้าตอบ “ไทจิ...กูรู้ว่ามึงไม่อยากวุ่นวาย ถึงปฏิเสธรับงานคู่กับปุ่น แต่กูอยากให้มึงนึกถึงคนอื่นด้วย ง่าย ๆ เลย อย่างปุ่นเนี่ย ถ้ามึงปฏิเสธงาน ปุ่นก็ไม่ได้งานด้วย ถูกมั้ย” “เออ งั้นในฐานะผู้จัดการ มึงไปทำให้กระแสคู่จิ้นของกูกับปุ่นหายไปสิ แค่นั้นก็ไม่มีงานคู่แล้ว” ไทจิตอบ “โอ้โห มันไม่ได้ทำง่าย ๆ เหมือนที่มึงพูดมั้ยล่ะ” ชีต้าสวนกลับทันที “เรื่องนี้ง่ายมาก” ไทจิและชีต้าหันไปมองหน้าริว “ถ้ามึงเปิดตัวแฟน กระแสคู่จิ้นจะถูกกลบด้วยคู่จริงทันที” “เรื่องแรก มันจะไปหาแฟนที่ไหน ทุกวันนี้กูนึกว่ามันเกลียดผู้หญิง และสองถ้ามันมีแฟนจริง เตรียมรับมือกับกระแสโจมตีผู้หญิงของมันได้เลย พวกแฟนคลับคู่จิ้นมันได้พากันถล่มผู้หญิงคนนั้นแน่” ชีต้าตอบ “ถ้ากูมีแฟนจริง ๆ ใครแอนตี้แล้วด่าแฟนกูมา กูจะไล่ฟ้องแม่งให้หมดทุกคอมเม้นท์ บอกไว้ก่อนเลย” ไทจิเอ่ย “ถ้ารักกู ก็ต้องรักคนที่กูรักเหมือนกัน กูจะรักใคร เลือกใคร ชอบใคร มันก็ชีวิตกูมั้ย” “ชีวิตสาธารณะ ที่เป็นคนของประชาชนแบบมึงอ่ะหรอ” ริวหัวเราะถาม “กูเป็นดารา ไม่ใช่นักการเมือง” ไทจิทำหน้าเอือมใส่ริว “มึง...กูจริงจัง กูชอบผู้หญิง แค่กูยังไม่เจอ...แค่นั้น” “จ้าพ่อ สรุปกูนัดคุยกับทางบริษัทเลยนะ” ไทจิพยักหน้าตอบ “น่าจะเป็นอาทิตย์หน้า เพราะอาทิตย์นี้คิวเต็มแล้ว แล้วคืนวันศุกร์มึงจะไปพร้อมพวกกูมั้ยไอ้ริว” “ไปดิ เดี๋ยวกูมาแต่งหล่อที่นี่แหละ” ริวยักคิ้วตอบชีต้า “ได้ข่าวว่านี่ห้องส่วนตัวกู กลายเป็นห้องพวกมึงไปแล้วมั้ง” ไทจิบ่น “ไม่ขนาดนั้นหรอก ก็มันไปสังสรรค์ข้างนอกไม่ได้ มันก็ต้องเป็นที่นี่ป่ะ” ชีต้าพยักหน้าเห็นด้วยกับริว “พูดถึงวันศุกร์นี้ กูตั้งตารอเลยนะ ในที่สุดก็จะได้เจอกันพร้อมหน้าพร้อมตาซักที” “ก็นะ พอเข้ามหาลัยมันก็แยกย้ายกันไง ไอ้นนมันไปเรียนบริหารอีกที่ มันเลยห่างกัน ถ้ามึงไม่เรียนนิเทศน์เหมือนกู มึงก็คงหายไปเหมือนกันแหละ” ชีต้ายิ้มตอบ “ก็กูติดเพื่อน มึงสองคนได้มหาลัยนี้ กูเลยตามเสียงส่วนมากไง อีกอย่างไอ้นนมันเลือกที่นั่นเพราะมหาลัยนั้นคณะบริหารมันเด่นกว่าที่มหาลัยเราหนิ” ริวตอบ “แต่กูสงสัยอยู่อย่าง ทำไมมึงไม่เรียนบริหาร จะเรียนหมอทำไม ถ้าจบมาแล้วจะไม่เป็นหมอ” ริวหันมาถามไทจิ “บริหารมันต่อโทได้ ที่กูเรียนหมอ อย่างน้อยกูก็เข้าใจความเป็นหมอ เข้าใจพื้นฐานและความยากลำบากก่อนจะมาเป็นหมอ กูคิดว่ามันจะทำให้กูบริหารได้ตรงจุด การบริหารโรงพยาบาลกูว่ามันไม่เหมือนบริหารธุรกิจอื่นนะ ถึงมันจะเพื่อกำไรแต่มันก็ต้องคิดในมุมของบุคลากรและคนไข้ด้วยเหมือนกัน” ไทจิตอบ “หล่อและเท่จริง ๆ เพื่อนกู” ริวและชีต้ายกนิ้วให้เพื่อน “คิดถึงไอ้นนเหมือนกันเนอะ หลังจากแยกกันตอนเรียนจบ ม.6 ก็เจอกันนับครั้งได้เลย” ไทจิและชีต้าพยักหน้าเห็นด้วยกับริว “โตขึ้นมันก็ต้องมีทางเดินเป็นของตัวเองแหละ มันก็ลูกคนเดียว ยิ่งตอนนี้แต่งงานแล้วน่าจะยิ่งวุ่น ๆ กูอยากไปงานแต่งมันมากเลย แต่ดันติดคิวถ่ายละคร” ไทจิบ่น “ไม่ต้องห่วง กูไปเป็นตัวแทนมา บอกได้เลยว่าบันเทิง เจ้าสาวคือเดินยิ้มตามต้อย ๆ ส่วนไอ้นนก็คือ พูดไม่หยุด คุยเก่ง แซวเก่ง เฮฮาเหมือนเมื่อก่อนไม่เปลี่ยน” ริวหัวเราะเล่าให้เพื่อน ๆ ฟังอีกครั้ง “เนี่ย เดี๋ยววันศุกร์ก็ได้เจอแล้ว มันจะพาเจ้าสาวไปด้วยป่ะ” ริวส่ายหน้าตอบชีต้า “มันบอกกูว่า เมียมันไม่รู้จักใคร กลัวมาแล้วหงอย เลยไม่มาด้วย มันจะได้มาสนุกกับเพื่อน ๆ แบบไม่ต้องกังวลกับเมีย” ริวตอบ “เออดีเนอะ เป็นผู้หญิงที่เข้าใจง่ายดี” ทุกคนเห็นด้วยกับชีต้า “มึงต้องหาแฟนให้ได้แบบไอ้นนนะ แฟนที่เข้าใจในงานของมึง ไม่ใช่ผู้หญิงที่ตามหึงทุกฉากเลิฟซีน” ไทจิหัวเราะ “ถ้ากูมีแฟน กูก็ใช้มุมกล้องได้ป่ะ ไม่เล่นจริง เกรงใจแฟน” ไทจิยักคิ้วตอบ “กูเห็นอนาคตมันเลยจริง ๆ” / “อนาคตที่รุ่งเรืองและกลัวเมียหรอ” ชีต้าส่ายหน้าตอบริวที่แย้งขึ้นมา “อนาคตที่ดับแสงในวงการ” ไทจิหัวเราะขำ “เดี๋ยวนี้มีดาราคนไหนใช้มุมกล้องเข้าฉากเลิฟซีนวะ บางคู่แทบจะกินกันเข้าไปแล้วก็มี มึงจะมาใช้มุมกล้องเพราะเกรงใจแฟน ผู้จัดคนไหนเค้าจะยอม” ชีต้าถามต่อ “ไม่ยอมก็ไม่เล่น ง่ายดี อีกอย่าง...กูก็แค่พูดดักไว้ บางทีแฟนกูอาจจะเป็นผู้หญิงที่เข้าใจและยอมรับเรื่องนี้ได้ก็ได้ป่ะ แต่ถ้ารับไม่ได้จริง กูก็ยอม ถ้าไม่มีใครจ้าง ก็ไปบริหารโรงพยาบาลเต็มตัว ก็แค่นั้น ส่วนมึงถ้าไม่อยากดูแลเด็กคนอื่น ก็ไปทำงานกับกู” ไทจิตอบ “ค่ะ!! ตามใจมึงเลยค่ะเพื่อน กูกลับแล้วดีกว่า จะไปกินพาราซักแผง” ชีต้าลุกหยิบกระเป๋าและไอแพดส่วนตัวเตรียมตัวกลับห้องตัวเอง “เดี๋ยวดิ กูมาชวนเมาไง วิสกี้ชั้นดีเชียวนะเว้ย” ริวรั้งแขนเพื่อนไว้ “เออ กูลืมได้ไงวะ” ชีต้ากลับลงนั่งที่อีกครั้ง “แต่พวกมึงยังไม่ได้กินอะไรกันเลยนะ กระดกเพียว ๆ เดี๋ยวก็เมาตาย พรุ่งนี้ทำงานไม่ได้เดือดร้อนกูอีก มึงเตรียมเครื่องดื่มกันเลย กูไปจัดการสั่งอาหารให้” ชีต้าพูดจบก็ลุกไปโทรศัพท์สั่งอาหารร้านประจำให้เพื่อน ๆ “ไอ้ชีต้านี่ ผู้จัดการมึงหรือว่าแม่มึงวะ” ริวหัวเราะ “อีกนิดมันจะเป็นแม่กูและ แต่ถ้าไม่มีมันกูก็ไม่เป็นกูเหมือนทุกวันนี้นะ” ไทจิยิ้มตอบ เพราะชีต้าคอยช่วยดูแลไทจิเรื่องงานในวงการมาตั้งแต่ช่วงเข้าวงการใหม่ ๆ เรียกว่าตั้งแต่สมัยที่ยังเรียนอยู่มัธยมปลายด้วยซ้ำ “ใครจะคิดว่านักร้องนำวงโรงเรียนจะเข้าตาค่ายใหญ่ กลายเป็นศิลปินเดี่ยวจนเป็นดาราดังแบบทุกวันนี้ ถ้าวันนั้นไม่มีคลิปที่ชีต้ามันถ่ายลงโซเชียล มึงคงไม่ดังตั้งแต่เด็กแบบนั้นป่ะ” ริวยิ้มตอบ “อืม กูถึงบอกว่าถ้าไม่มีมัน ก็ไม่มีกูเหมือนทุกวันนี้หรอก” ไทจิยิ้มมองชีต้าที่ยืนคุยโทรศัพท์อยู่ที่เคาน์เตอร์บาร์ในครัวอีกด้านของห้องไม่ต่างจากริว
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม