เวลาเที่ยงคืนครึ่ง
“จริงเหรอ”
“ใช่ มันน่ะเจ้าชู้เอาไม่เลือกหน้า ไม่เหมือนฉันที่อยากเจอรักแท้แต่ไม่เคยเจอเลยสักครั้ง มีแต่คนเข้ามาหลอก” พูดพลางทำหน้าเศร้าสลดทำเอาไมเนอร์กลอกตามองบนใส่เพื่อนตัวเองไม่ได้ ตั้งแต่นั่งแทบนับคำได้ว่าไมเนอร์พูดไปกี่ครั้ง มีแต่ครูซที่สรรหาเรื่องมาคุยไม่หยุดเหมือนว่าพรุ่งนี้จะไม่ได้พูดอีกแล้ว
“ตอแหล” เขาอดหมั่นไส้ครูซไม่ได้จริง ๆ พูดแต่ละอย่างออกมาเอาแต่ดีเข้าตัวเองโยนเรื่องชั่ว ๆ ให้คนอื่น กล้าพูดออกมาได้ยังไงว่าตัวเองต้องการรักแท้ แล้วอาทิตย์ก่อนใครที่มันแอบไปมีอะไรกับเด็กนักศึกษาในป่าวะ อย่าคิดว่าเขาไม่รู้ อย่าให้ต้องเผาคืนนะไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดกันเลยทีเดียว
“คุณยังไม่มีแฟนเหรอคะ” ใยไหมแทบไม่อยากเชื่อว่าทั้งสองคนยังโสด เธอถามอายุครูซไปหลายครั้งแล้วแต่ก็ยังไม่ได้คำตอบที่เธอต้องการ
“ใช่ ฉันโสด โสดสนิทด้วย”
“คุณก็ดูเจ้าชู้เหมือนกันนะ” สายตาและคำพูดครูซมันแสดงออกชัดเจนว่าเขาน่ะคือเสือผู้หญิงดี ๆ นี่เอง
“เธอไม่รู้จักฉันเธอจะรู้ได้ไงว่าฉันเจ้าชู้” คนโดนว่าเถียงกลับ
“นั่นสินะ” ใยไหมไหวไหล่อย่างไม่ใส่ใจมากนัก เธอก็แค่พูดมันออกไปลอย ๆ เท่านั้น
“พูดแล้วทำหน้าแบบนี้หมายความว่าไง ไม่เชื่อฉันเหรอ? ในแก๊งฉันเนี่ยดีสุด ถ้าดีกว่านี้ก็คงเจ้าอาวาสในวัดแล้วล่ะ”
“ก็ยังไม่บอกว่าไม่เชื่อ แค่ไม่พูด”
“สายตาเธอมันฟ้องว่าเธอไม่เชื่อฉัน หน้าฉันมันดูเป็นคนขี้โกหกขนาดนั้นเหรอ”
“ทะเลาะกันไปก่อนนะคะ ฝันขอไปเข้าห้องน้ำก่อน” ฝันดีที่ทนฟังอยู่นานเริ่มรู้สึกอั้นไม่ไหวจึงขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อน
“ให้ฉันไปเป็นเพื่อนไหมแก”
“ไม่ต้องหรอกอยู่คุยกับพี่เขาเถอะ” ที่เธอเรียกพวกเขาแบบนี้ก็เพราะว่าเธอยังไม่รู้จักอายุของทั้งสองน่ะสิ เลยไม่รู้ว่าจะต้องแทนยังไง ฝันดีหยิบกระเป๋าขึ้นมาสะพายแล้วเดินออกจากโต๊ะไปทันที พอนั่งนาน ๆ เจออากาศเย็นหน่อยเธอก็รู้สึกปวดฉี่ขึ้นมาเลยต้องขอตัวไปเข้าห้องน้ำ แต่ในขณะที่กำลังเดินไป อยู่ ๆ เธอก็รู้สึกเหมือนมีใครตามหลังมา เท้าเล็กชะลอลงอย่างช้า ๆ ก่อนที่มันจะหยุดนิ่ง ร่างบางค่อย ๆ หันไปมอง ทันทีที่หันไปกลับไม่พบใคร ทำให้เธอถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปในทันที เวลานี้คนเริ่มเยอะทำให้ต้องเบียดเสียดกันระหว่างเดิน ดีที่บริเวณห้องน้ำคนโล่ง
ซ่า~ ซ่า~
หลังจากที่ทำธุระเสร็จเธอก็ออกมายืนล้างมือพลางส่องกระจกดูหน้าตัวเอง
“แกก็สวยเหมือนกันนี่ยัยฝัน” เรียวปากเล็กเอ่ยชมตัวเองพลางหันซ้ายหันขวามองเงาตัวเองที่สะท้อนอยู่ในกระจก ระหว่างที่เธอกำลังหมุนตัวไปมาก็มีเสียงหนึ่งแทรกขึ้นทำเอาใบหน้าสวยหันขวับไปมองด้วยความตกใจ
“หลงตัวเองเหมือนกันนะ”
ขวับ!
“คุณ!”
“ไม่มีใครชมเลยมาชมตัวเองว่างั้น” ไมเนอร์ยืนกอดอกทำหน้านิ่งพิงขอบประตูพลางมองมาที่หญิงสาว
“คนเรามั่นใจในตัวเองก็ไม่ผิดนี่คะ” เธอเถียงกลับไปทันควัน
“ก็ไม่ได้ว่าอะไร”
“คุณไม่ควรมาอยู่ตรงนี้” เพราะสถานที่ที่เธอและเขาอยู่ตอนนี้มันคือห้องน้ำ อีกอย่างเขาก็เป็นผู้ชายไม่ควรมาอยู่ตรงนี้เลยด้วยซ้ำ
“แล้วยังไง”
“นี่มันห้องน้ำหญิง” ผู้หญิงบางคนอาจจะชอบตรงที่เขาหล่อ ต่อให้เข้ามาข้างในคนก็ไม่ว่า แต่กลับเธอนั้นมันไม่ใช่.. มันดูโรคจิตเกินไป
“แล้ว?”
“แล้วจะมายืนดูผู้หญิงเข้าออกห้องน้ำแบบนี้เหรอ” จริงที่ว่าตอนนี้ในห้องน้ำมีแค่เธอคนเดียว รวมเขาไปด้วยอีกคน แต่อย่าลืมว่ามันคือห้องน้ำในสถานบันเทิง ซึ่งแน่นอนว่าคนเดินเข้าออกเป็นว่าเล่น เขาจะมายืนล้วงกระเป๋าทำตัวไม่สนคนแบบนี้ไม่ได้
“สนใจมาทำงานที่นี่ไหม” เขาทำทีเป็นไม่สนใจแล้วพูดจุดประสงค์ที่ทำให้ตัวเขามายืนอยู่ตรงนี้
“ไม่ค่ะ” ฝันดีตอบปฏิเสธไปอย่างไม่คิดให้ยาก อย่างที่เคยบอกไปว่าเธอชอบนะที่เงินดี แต่มันยังเสี่ยงเกินไปสำหรับผู้หญิงอย่างเธอ อีกอย่างงานที่บริษัทก็ดีอยู่แล้วไม่จำเป็นต้องออก
“ไม่คิดหน่อยเหรอ”
“ไม่ค่ะ ว่าแต่ใครให้คุณมาถามเหรอคะ” เธอถามอย่างคนไม่รู้ว่าแท้จริงเขานั่นแหละคือเจ้าของที่นี่
“นายให้ฉันมาถาม”
“อ๋อ..คุณคงเป็นลูกน้องสินะ”
“ประมาณนั้น”
“ไม่ล่ะ ฉันไม่ค่อยชอบ”
“แล้ววันนั้นมาทำทำไมถ้าบอกไม่ชอบ”
“ไม่ชอบไม่ได้แปลว่าจะทำไม่ได้” เพราะเป็นเดซี่เธอจึงยอมทำ รุ่นพี่สาวคนสวยที่คอยช่วยยื่นงานให้เธอตลอดตั้งแต่ยังไม่มีบ้าน ตอนนั้นเดซี่คอยหางานมาให้เธอ ซึ่งเธอก็ไม่คิดที่จะปฏิเสธ ขอแค่ให้ได้เงินเธอก็พร้อมที่จะทำมันอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย เธอรักเดซี่เหมือนพี่สาวคนหนึ่ง เช่นเดียวกับที่เดซี่รักเธอเหมือนน้องสาวแท้ ๆ
“ฉันชอบนะผู้หญิงกล้าต่อปากต่อคำกับฉัน”
“?”
“มันดูน่าค้นหาดี” ว่าพลางกระตุกยิ้มร้าย
“จะจีบฉันเหรอคะ?” เอียงคอถามอย่างใสซื่อ
“เธอมีอะไรให้ฉันต้องจีบ”
“ต้องมีแหละ ไม่งั้นคุณคงไม่ตามฉันมาถึงห้องน้ำ”
“สำคัญตัวเองเหมือนกันนะ”
“คุณดูพูดเยอะกว่าเดิม” ก่อนหน้านั้นเขายังทำทีเป็นเย็นชาไม่อยากคุยด้วยใส่เธออยู่เลย พอมาตอนนี้ไหงกลายเป็นพูดไม่หยุดได้ล่ะ
“ฉันไม่ได้เป็นใบ้”
“อ้าวเหรอ” เธอเหนื่อยจะต่อปากต่อคำเลยหันไปคว้าเอากระเป๋าเพื่อจะออกจากห้องน้ำกลับไปหาเพื่อนที่รออยู่โต๊ะ ทว่าอีกคนกลับไม่ยอมหลีกทางให้
“....” ไมเนอร์ยืนกอดอกไม่ยอมหลบให้เธอไป
“ขอทางหน่อยค่ะ”
“...” เงียบ
“นี่คุณ”
“หึ” ใบหน้าหล่อกระตุกยิ้มก่อนจะยอมเปิดทางให้หญิงสาวเดินออกไป ดวงตาคมกริบมองตามร่างเล็กนั้นไปสีหน้ายากจะคาดเดา ในหัวเขากำลังคิดอะไรอยู่ตอนนี้ไม่มีใครรู้ได้เลย เขาเลือกที่จะไม่กลับไปยังโต๊ะ แต่เลี่ยงไปทางหลังร้านแทน
“คุณไมเนอร์”
“ถอดเสื้อผ้าออก”
“ทำไมช้าจังเลยล่ะ หวานรอคุณตั้งนาน”
“อย่าพูดมาก รีบถอดเสื้อผ้าออกซะ” หญิงสาวทำตามคำสั่งร่างสูงตรงหน้าอย่างว่าง่าย และนี่คือสาเหตุที่ไมเนอร์ไม่กลับไปหาเพื่อนตัวเองที่รออยู่กับสองสาว เมื่อเจอเหยื่อที่ถูกใจจะให้ปล่อยไปมันก็ใช่เรื่อง จากนั้นคงไม่ต้องบอกว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ทั้งสองพุ่งใส่กันพร้อมกับเสียงครวญครางของหญิงสาวที่ดังไปถึงด้านนอก ทำเอาลูกน้องที่ยืนเฝ้าบริเวณนั้นอยู่มองหน้ากันเลิ่กลั่ก