ตอนที่4

2037 คำ
@เพนต์เฮาส์ หลังจากที่มาถึงเพนต์เฮาส์ที่เฝ้ารอ ตอนนี้นิวเยียร์ก็ได้ยืนทำตาปริบๆ อยู่กลางห้องโถงที่เธอเคยคุ้นเคย ฟังไม่ผิด เคยคุ้ยเคยจริงๆ เพราะตอนนี้ทุกอย่างนั้นเปลี่ยนไปหมดแล้ว จากที่เดินสำรวจจนทั่วไม่มีอะไรที่เหมือนเดิมเลยสักนิด ทุกอย่างภายในถูกตกแต่งใหม่ทั้งหมด แม้แต่ห้องที่เคยเป็นห้องนอนของเธอที่อยู่ชั้นสองก็ไม่มีแล้ว “ตกแต่งใหม่ทั้งหมดเลยเหรอคะ” คนตัวเล็กถามด้วยความซื่อเพราะไม่รู้จะพูดอะไร “ก็เห็นแล้วไม่ใช่?” คำตอบของเจ้าของบ้านทำเอาคนถามถึงกับย่นจมูกทำปากยื่นใส่ น้ำเสียงที่ว่าเย็นชายังฟังดูไม่ใจร้ายเท่าคำตอบที่เหมือนคนจำใจตอบเลยสักนิด “แล้วห้องของน้องนิวละคะ ห้องของน้องนิวอยู่ไหน หรือว่าจะให้นอนห้องเดียวกับนิกซ์คะ” “ฝันอยู่เหรอ” “ก็บนชั้นสองมีห้องนอนเดียว” ห้องเดียวที่ว่าก็คือห้องนอนเขา ตอนเดินสำรวจเธอไม่ได้เข้าไปดูเพราะประตูถูกล็อกรหัสไว้อย่างแน่นหนา แต่ถึงจะไม่ได้เข้าไปดูก็พอเดาได้ไม่ยากหรอก “เดินสำรวจแล้วไม่ใช่?” “ก็สำรวจแล้วแต่ไม่เจอไงคะเลยต้องถามดู” นิกซ์ถอนหายใจด้วยท่าทีเบื่อหน่ายเมื่อได้ยินคำตอบของเด็กน่ารำคาญที่ยืนทำปากยื่นอยู่กลางห้องโถง ไม่รู้ว่าสำรวจแบบไหนเธอถึงหาห้องนอนอีกห้องไม่เจอ นิ้วเรียวยาวชี้ไปที่ประตูห้องห้องหนึ่งเพื่อบอกให้เด็กน่ารำคาญรู้ว่านั่นห้องเธอ นิวเยียร์หันกลับหลังเมื่อคนตัวสูงชี้ไปที่ด้านหลังของเธอโดยไม่ได้พูดอะไร คิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัย เพราะห้องที่เขาชี้นั้นเธอเปิดเข้าไปดูแล้วแต่มันไม่ใช่ห้องนอน มันคือห้องดูหนังขนาดย่อมห้องหนึ่ง นี่เขาจะให้เธอนอนที่ห้องดูหนังงั้นเหรอ? ใจร้ายเกินไปแล้ว “นั่นมันห้องดูหนังนี่คะ จะให้น้องนิวนอนห้องนั้นเหรอ” “กลับไปนอนที่บ้าน จะให้คนไปส่ง” “ไม่ไปนะ! น้องนิวนอนห้องนั้นก็ได้” รีบปฏิเสธแทบไม่ทัน ก่อนที่คนตัวสูงจะได้หยิบสมาร์ตโฟนขึ้นมาโทรตามคนให้ไปส่งเธอที่คฤหาสน์ที่เพิ่งออกมา เธอรู้ว่าเขาทำจริงไม่ใช่แค่ขู่แน่นอน “แล้วนิกซ์จะไปไหนคะ” “…” ไร้คำตอบจากเจ้าของบ้านที่ลุกขึ้นเดินตรงไปยังบันไดด้วยท่าทีนิ่งเฉย ไม่แม้แต่จะมองกลับหลังหรือสนใจว่าอีกคนจะทำอะไรต่อจากนั้น เพราะตอนนี้หมดหน้าที่ของเขาแล้ว “ชิ! เย็นชาชะมัดเลย” นิวเยียร์ได้แต่บ่นตามหลังคนที่ทำตัวเย็นชาเสมอต้นเสมอปลายไม่เคยเปลี่ยน ไม่ว่าจะกี่ปีๆ ก็ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยจริงๆ มองตามร่างสูงโปร่งของว่าที่คู่หมั้นที่เดินขึ้นไปยังห้องนอนของตัวเองจนลับสายตา ก่อนจะหันกลับมามองกระเป๋าของตัวเองแล้วได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างเซ็งๆ “เฮ้อ! ไม่น่าเอามาเยอะเลย ถ้าเชื่อคุณแม่คงสบายกว่านี้” คนตัวเล็กพยายามจะเข็นกระเป๋าของตัวเองทั้งสี่ใบไปพร้อมกันแต่ก็ทุลักทุเลเกินไป สุดท้ายเธอก็ต้องเข็นไปทีละสองใบอยู่ดี ไม่น่าทำให้ตัวเองเหนื่อยเปล่าในตอนแรกเลย กระเป๋าทั้งสี่ใบถูกเข็นมาไว้ที่หน้าประตูห้องที่เป็นห้องดูหนังเรียบร้อย มือเล็กยกขึ้นจับลูกบิดประตูแล้วเปิดเข้าไปด้านในพร้อมกับใจที่ห่อเหี่ยว ที่ลูกคุณหนูแบบเธอต้องมานอนในห้องดูหนังเล็กๆ นี่นานเป็นเดือนๆ ถ้าพ่อกับแม่เธอรู้เรื่องนี้เข้ามีหวังไม่ยอมอนุญาตให้เธอมาหาว่าที่คู่หมั้นทุกปิดเทอมอีกแน่นอน เพราะฉะนั้นแม้จะต้องลำบากเธอก็ต้องทนให้ได้ “โอ๊ะ! นั่นมัน…” คนตัวเล็กเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ เพราะเพียงแค่เข้ามาด้านในห้องแล้วเปิดไฟจนสว่างจ้า ก็ทำให้เธอมองเห็นสิ่งที่อยู่ด้านในชัดเจนมากกว่าตอนที่เปิดประตูมาสำรวจผ่านๆ และสิ่งที่ทำให้เธอประหลาดใจก็คือประตูห้องอีกบานที่ซ่อนอยู่ภายในห้องดูหนังนี้ ไม่รอช้าเธอรีบเดินตรงไปยังประตูห้องดังกล่าวทันที เพียงแค่เปิดประตูบานนั้นเข้าไปเธอก็ถึงเบิกตากว้างอีกรอบ เมื่อพบว่าสิ่งที่ซ่อนอยู่หลังประตูบานนี้ก็คือห้องนอน แถมยังเป็นห้องนอนที่กว้างขวางมากด้วย เผลอๆ ห้องนอนนี้ใหญ่กว่าห้องเดิมของเธอเมื่อปีที่แล้วด้วยซ้ำ นึกว่าจะได้นอนบนโซฟาที่ห้องดูหนังซะแล้ว จากที่ก่อนหน้านี้อยู่ในอารมณ์ตัดพ้อก็ดูท่าอารมณ์ของเธอจะเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ แค่รู้ว่ามีห้องนอนสำหรับเธอ เธอก็เพิ่มคะแนนลงไปในกล่องหัวใจให้กับว่าที่คู่หมั้นจอมเย็นชาของเธออีกหนึ่งคะแนน ไม่รู้ว่าตอนนี้คะแนนมีเท่าไหร่ เพราะเธอไม่เคยนับมีแต่หย่อนเพิ่มลงไปเรื่อยๆ แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่ากล่องหัวใจนี้จะเต็มเมื่อไหร่เหมือนกัน สำหรับค่ำคืนแรกในพื้นที่ที่คุ้นเคยทำให้นิวเยียร์หลับสนิทไปตั้งแต่ที่เก็บของเสร็จ แต่กว่าจะเก็บของเข้าที่เสร็จก็เล่นเอาเหนื่อยไม่น้อย ทำให้การตื่นนอนในเช้าวันแรกที่เพนต์เฮาส์แห่งนี้ดูจะไม่สดใสเท่าที่ควร คนตัวเล็กเดินขยี้ตาพร้อมทั้งปิดปากหาวออกจากห้องนอนของตัวเองโดยที่ยังอยู่ในชุดนอน ผมเผ้ายังดูยุ่งเหยิงไม่ได้มีการจัดระเบียบอะไร หน้าตายังคงง่วงซึมไร้ความสดชื่น พอตื่นนอนก็รู้สึกคอแห้งจึงต้องเดินออกมาหาน้ำดื่มแก้คอแห้งทั้งแบบนั้น เพราะเมื่อคืนเหนื่อยกับการจัดของจนลืมออกมาหยิบน้ำเปล่าเข้าไปไว้ในห้องนอนด้วย ทำให้เช้านี้เธอเลยต้องออกมานอกห้องในสภาพไม่น่าดูแบบนี้ ด้วยความเคยชินทำให้เธอเดินไปทางห้องครัวในผังเดิมที่เป็นภาพจำ แต่ก็ต้องชะงักเมื่อตรงหน้าของเธอไม่มีห้องครัวอยู่แล้ว “ห้องครัว…ทางนี้สิ” เสียงเล็กพึมพำกับตัวเองเบาๆ หมุนตัวเดินไปอีกทางที่เป็นห้องครัวในผังปัจจุบันของเพนต์เฮาส์แห่งนี้ เดินเข้าใกล้ห้องครัวจมูกก็เริ่มได้กลิ่นของกาแฟที่โชยมา สองเท้าที่กำลังก้าวเดินหยุดชะงักไปอีกครั้ง ดวงตากลมโตเบิกกว้างรีบก้มมองสภาพของตัวเองด้วยความรวดเร็ว ยกมือขึ้นสางผมที่ยุ่งเหยิงไม่เป็นทรงเพื่อจัดระเบียบให้ตัวเอง เพราะกลิ่นกาแฟที่โชยมานั้นบ่งบอกได้ว่าเจ้าของบ้านคงตื่นนอนแล้วเช่นกัน ก็ภายในเพนต์เฮาส์นี้มีแค่เธอกับว่าที่คู่หมั้นอยู่กันแค่สองคน ถ้าไม่ใช่เขาที่เป็นคนชงกาแฟแล้วจะเป็นใครได้ “ทนคอแห้งไปก่อนนะนิวนิว” คนตัวเล็กพูดกับตัวเองเสียงเบา เมื่อดูสภาพตัวเองแล้วคงไม่ไหว เธอจะปล่อยให้เขาเห็นสภาพหลังตื่นนอนของตัวเองแบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด นิวเยียร์รีบหมุนตัวเดินกลับไปที่ห้องตัวเอง จนแทบจะวิ่งไปเลยด้วยซ้ำ เธอต้องรีบไปอาบน้ำแต่งตัวให้ตัวเองดูดีก่อนจะต้องเจอหน้ากับว่าที่คู่หมั้นสุดหล่อจอมเย็นชา แรกเจอในเช้าวันใหม่ควรจะต้องทำให้เขาประทับใจไม่รู้ลืมถึงจะถูกต้อง เสียงเหมือนมีคนกำลังวิ่งอยู่ภายในบ้านทำให้นิกซ์ที่ยืนรอกาแฟอยู่ในห้องครัวรีบเดินออกมาดู คิ้วหนาขมวดเข้าหากันทันทีที่เห็นหลังไวๆ ของแขกที่เขาไม่ได้รับเชิญกำลังวิ่งไปทางห้องพักของตัวเอง เด็กนั่นวิ่งทำไม? แล้ววิ่งมาจากไหน? ได้แต่คิดสงสัยอยู่ในหัวแต่ก็ไม่ได้คิดจะเอ่ยถามออกไป เขาไม่จำเป็นต้องให้ความสนใจกับเด็กน่ารำคาญคนนั้น แค่เย็นชาเหมือนเดิมที่เคยเป็น ใจร้ายเหมือนเดิมที่เคยทำ แล้วมาดูกันว่าระหว่างเขากับเธอใครมันจะแน่กว่ากัน นิวเยียร์กลับออกมาจากห้องนอนของตัวเองพร้อมกับความสวยสะบัดแบบจัดเต็มทั้งเมคอัพและชุดที่สวมใส่ คนตัวเล็กเด็นฮำเพลงออกมาด้วยความอารมณ์ดี แม้จะคอแห้งมากก็ตาม และจุดหมายแรกของเธอในตอนนี้คือห้องครัว เธอต้องการน้ำดื่มแก้อาการกระหาย ส่วนเป้าหมายของเธอนั้นไม่รู้ว่าตอนนี้อยู่ที่ไหนแล้วเหมือนกัน แต่เขายังอยู่ภายในเพนต์เฮาส์แน่นอน เพราะวันนี้เป็นวันหยุดพักผ่อนของเขา หลังจากที่ได้ดื่มน้ำแก้อาการคอแห้งไปก็รู้สึกสดชื่นขึ้นมากกว่าเดิม ก่อนจะกวาดสายตามองหาอาหารเช้าที่ถูกเตรียมไว้… “เอ๋? ไม่มีอาหารเช้าหรอกเหรอ” คิ้วเรียวสวยขมวดแน่นเมื่อภายในห้องครัวไม่มีอาหารเช้าจัดเตรียมไว้รอเหมือนทุกครั้งที่เธอมาที่นี่ ว่างเปล่า ภายในครัวมีเพียงความว่างเปล่าอย่างกับไม่มีคนอยู่ “นิกซ์! พี่นิกซ์คะ” คนตัวเล็กรีบส่งเสียงเรียกหาเจ้าของบ้านทันทีเมื่อทุกอย่างที่เคยมีตอนนี้ไม่มีแล้ว เธอเดินออกจากห้องครัวพร้อมกับส่งเสียงเรียกหาเจ้าของบ้านไปด้วย ก่อนจะเห็นคนที่เธอกำลังเรียกหานั้นนั่งจิบกาแฟอ่านหนังสืออย่างสบายใจอยู่ที่มุมพักผ่อนด้านนอก ไม่รอช้าเธอรีบเดินตรงไปยังเป้าหมายของตัวเองทันที “นิกซ์” นิกซ์ชะงักมือที่กำลังจะยกแก้วกาแฟขึ้นจิบเมื่อได้ยินน้ำเสียงไม่พอใจเรียกชื่อเขาห้วนๆ ดังมาจากทางด้านหลัง แต่ก็ไม่คิดจะหันกลับไปมองเพราะอีกเดี๋ยวเจ้าตัวคงเดินมาเอง “ทำไมไม่มีอาหารเช้าละคะ” ไม่ผิดจากที่เขาคิดไว้ เมื่อตอนนี้เด็กน่ารำคาญมายืนทำหน้าตางุนงงอยู่ตรงหน้าของเขา พร้อมกับคำถามที่ทำให้เขาต้องวางแก้วกาแฟในมือลงบนโต๊ะ “เพราะที่นี่ไม่มีแม่บ้าน” “แต่ปกติก็มีอาหารเช้าตลอดนี่คะ” ถึงที่นี่จะไม่มีแม่บ้าน แต่ทุกเช้าจะมีคนมาจัดเตรียมอาหารเช้าง่ายๆ ไว้รอทุกวัน แต่ครั้งนี้ดันไม่มีเหมือนทุกๆ ปีที่ผ่านมา “นั่นมันเมื่อก่อน” นิกซ์ตอบกลับเสียงเรียบด้วยท่าทีนิ่งๆ แล้วยกแก้วกาแฟขึ้นจิบต่อ “โตแล้วทุกอย่างต้องทำด้วยตัวเอง” “หมายความว่ายังไงคะ?” นิวเยียร์ขมวดคิ้วถามกลับด้วยความไม่เข้าใจเท่าไหร่นัก “มาคนเดียวได้ก็แสดงว่าโตแล้ว ถ้าเธอหิวก็ต้องทำกินเอง” “แต่น้องนิวทำอาหารไม่เป็นนะ” “ก็ไม่เกี่ยวกับฉันนี่” “คนใจร้าย!” “ทนไม่ได้ก็กลับไป” “ไม่มีทางหรอกนะ น้องนิวจะอยู่ให้นิกซ์รำคาญตายเลยคอยดู จะให้คุณพ่อทำเรื่องย้ายที่เรียนให้ด้วย ยังไงก็ไม่ไปไหนแน่นอน!” คนตัวเล็กตอบกลับด้วยสีหน้าท่าทางมุ่งมั่นอย่างไม่คิดจะยอมแพ้ ก่อนจะเดินกระทืบเท้าอย่างเด็กถูกขัดใจกลับเข้าไปด้านใน แค่ทำอาหารเช้ากินเองมันก็ไม่ได้ยากเกินไปสำหรับเธอนักหรอก ถึงทำไม่เป็นแต่ก็มั่นใจว่าทำได้แน่ แค่เปิดยูทูปดูแล้วทำตามเอาก็ได้ มันไม่ได้ยากเลยสักนิด แค่นี้คนอย่างนิวเยียร์ทำได้สบายอยู่แล้วล่ะ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม