EP 19

1118 คำ
“เท่าที่ประเมินอาการวันนี้ น่าจะไม่ได้ค่ะ แต่หมออยากตรวจให้แน่ใจอีกที ว่าจะผ่าตัดแก้ไขอะไรได้หรือเปล่าค่ะ” “แล้วไม่มีทางทำให้กลับมาเดินได้เลยเหรอคะ?” คนเป็นแม่ถึงกับหน้าสลด ด้วยสงสารลูกชายอย่างมาก ส่วนคนยืนเงียบอยู่ได้ยินเข้าก็ตกใจไม่น้อย ด้วยไม่คิดว่าตัวเองจะเป็นต้นเหตุทำให้เจ้าตูบถึงกับพิการได้ “ต้องรอดูอีกทีค่ะ แต่ไม่ต้องตกใจนะคะ ถ้าเดินไม่ได้จริงๆ ตอนนี้มีวีลแชร์ดีๆ ไว้ช่วยได้ค่ะ เดี๋ยวถ้าน้องหายแล้ว ก็ค่อยฝึกให้ใช้ค่ะ” “แล้วจะแพงมั้ยคะ?” เพราะห่วงไม่น้อยเรื่องค่ารักษาน่าจะเป็นแสน ส่วนเงินสองหมื่นนิดๆ ที่คู่กรณียื่นให้แบบเสียไม่ได้วันนั้นก็หมดเกลี้ยงแล้ว เรื่องจะออกปากขออีกคงไม่กล้า ในเมื่อเขากลายมาเป็นเจ้านายแล้ว ขืนไปยุ่งมากๆ คงได้ถูกไล่ออกกันพอดี “มีหลายราคาค่ะคุณแม่ เดี๋ยวพรุ่งนี้หมอจะหาข้อมูลให้ก็แล้วกันนะคะ มีตั้งแต่หลักพันไปหาหลักหมื่นเลยค่ะ สั่งจากต่างประเทศก็มีนะคะ เรามีคอนเน็กชั่นหลายที่ หรือถ้าคุณพ่อกับคุณแม่จะลองหาเองก็ได้ค่ะ แต่ถ้าจะให้เราหาให้ก็ได้ เราไม่ได้คิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอะไร อำนวยความสะดวกให้เท่านั้นค่ะ เพราะเข้าใจว่าคุณพ่อคุณแม่ทุกบ้านงานยุ่งๆ กันทั้งนั้นค่ะ” “เอ่อ! ...” อันที่จริงก็อยากจะหาเอง เผื่อจะเลือกแบบให้ตรงกับตังค์ในกระเป๋าหน่อย แต่ก็มีความเกรงใจหมออยู่บ้าง “ให้คุณหมอเลือกเลยดีกว่าครับ ขอแบบดีที่สุดครับ แต่ก่อนจะไปถึงจุดนั้น ฝากตรวจให้แน่ใจก่อนครับ ว่าไม่มีทางรักษาอื่นแล้วจริงๆ ผมไม่เกี่ยงเรื่องค่าใช้จ่ายครับ” เจ้าของมือใหญ่ที่เลิกเกาะแขนเรียว ตั้งแต่อุ้มเจ้าตูบไปแล้วนั้นรีบเอ่ยทันที ต่อให้ไม่ค่อยถูกกับพวกเจ้าตูบยังไง แต่ก็อยากให้มันกลับมาหายเป็นปกติ หรือถ้าไม่หายก็ขอให้ได้รับการรักษาอย่างดีที่สุด “ได้ค่ะ เดี๋ยวหมอจะดูให้นะคะ เห็นมั้ยถุงเงิน ว่าคุณพ่อรักหนูแค่ไหน จะซื้อรถดีๆ ให้ด้วย” หมอสาวหันไปหาเจ้าถุงเงิน ที่อ้อนอยู่กับอกแม่ด้วยสายตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความเมตตาอย่างเห็นได้ชัด “เดี๋ยวให้น้องเข้าไปนอนพักต่อนะคะคุณแม่ เพราะอีกหน่อยจะได้เวลาให้ยาแล้วค่ะ ไม่ต้องห่วงนะคะ เราจะดูแลให้อย่างดีค่ะ” “ขอบคุณค่ะคุณหมอ” “ด้วยความยินดีค่ะ หมอขอตัวก่อนนะคะ เพื่อนรออยู่ในรถ บอกว่าจะแวะมาเอาของแป๊บเดียว พอเห็นคุณแม่มาก็เลยเดินมาดูค่ะ” “ขอบคุณอีกครั้งค่ะคุณหมอ ฝากน้องด้วยนะคะ” “ไม่ต้องห่วงค่ะ สบายใจได้ ขอตัวก่อนนะคะคุณพ่อคุณแม่” พอหมอออกไปแล้ว คนเป็นแม่รีบส่งเจ้าถุงเงินเข้ากรงแต่โดยดี แม้จะห่วงไม่น้อย ส่วนมันก็ไม่อยากห่างแม่ เลยตะกุยตาม แต่สุดท้ายก็ต้องเข้าไปนอนแหมะต่อ เพราะหมดเรี่ยวแรง พิชชาเองก็รีบเดินออกไปทันที ก่อนจะน้ำตาไหลเพราะสงสาร คนตัวใหญ่ก็รีบเผ่นตามแบบไม่ต้องมีใครชวน “คุณไม่ต้องห่วงเรื่องค่าใช้จ่ายนะ ผมจ่ายเองทั้งหมด” เมื่อเห็นว่าคนข้างๆ ดูจะกังวลในเรื่องนี้ ดนตร์เลยรีบส่งเสียงเบาไปหา และนั่นทำให้พิชชาหันไปมองด้วยอาการครุ่นคิด ว่าจะจ่ายเองหรือให้เขารับไปดูแลเรื่องนี้ “จะดีเหรอคะ?” “ดี เพราะผมทำให้หมาคุณเจ็บนี่” “แต่ช่าทำรถคุณ...เอ่อ...” เพราะคิดถึงรอยบนรถเขาแล้วก็กลัวขึ้นมาไม่น้อย ด้วยเดาได้ว่าคงจะต้องจ่ายค่าซ่อมไปหลายบาทแน่นอน “ทำรถผมเป็นรอยน่ะเหรอ?” ดนตร์ต่อให้ เมื่อเดินออกประตูโรงพยาบาลแล้ว พร้อมกับหันไปหาคนข้างๆ ด้วยใบหน้าบึ้งนิดๆ เมื่อคิดถึงรอยบนรถอันเป็นที่รักและหวงยิ่ง “ค่ะ” ส่วนคนทำเป็นรอยนั้นก็หันไปยิ้มหน้าแห้งๆ ให้ ด้วยจำได้ดีว่าวันนั้นเล่นเขาไปซะเยอะเลย ดีแค่ไหนแล้วที่เขารับเข้าทำงาน “ก็ยังดีที่คุณจำได้” คนรักรถค่อนขอดเข้าให้ เพราะตัวเองนั้นเสียทั้งขึ้นทั้งร่อง แถมยังต้องรับคนทำรถเป็นรอยมาทำงานด้วยอีกต่างหาก และจนป่านนี้เขาก็ยังไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ว่ารับมาเพราะเหตุผลอะไรกันแน่ ทำงานเก่งนั้นเขายังไม่เห็นแวว ทำอาหารเก่งรึก็เปล่า “ขอโทษค่ะ ช่าตกใจแล้วก็เป็นห่วงเจ้าถุงเงินนี่คะ คุณดนตร์เองก็ใจร้ายใจดำ ชนแล้วก็ไม่สนใจสักนิดเดียว เอาแต่ไปห่วงรถโน่น...” กำลังจะบ่นต่อ แต่ก็คิดขึ้นได้ว่าตัวเองปากไวใจเร็วอีกแล้ว เลยยิ้มหน้าแหยๆ ไปหาเขาอีก “กล้าดียังไงมาว่าเจ้านาย เดี๋ยวไล่ออกเลยดีมั้ย?” “ไม่ดีค่ะ เพราะช่ายังไม่มีเงินสำรองเลย ขืนตกงานตอนนี้ มีหวังได้กินแกลบกันพอดีสิคะ” “งั้นก็หัดเอาใจเจ้านายไว้ให้เยอะๆ สิ” “โหย! ขนาดนี้ยังไม่เรียกว่าเอาใจอีกเหรอคะ? คุณดนตร์จะกินอะไร อยากได้อะไร ช่าก็หาให้ทุกวัน ทั้งๆ ที่ทำแล้วก็ไม่กินซะงั้น ไม่สงสารคนตั้งใจทำเล๊ย” อีกแล้วที่เผลอทำปากไว้ใจเร็วใส่ เลยได้แต่ยกมือบางขึ้นปิดปากไว้ แล้วมองหน้าเขาด้วยความเกรง “ปากดีแบบนี้ มันน่าไล่ออกจริงๆ เลย ไป๊! กลับบ้าน ดึกแล้ว ผมก็จะกลับ” “ค่ะ สวัสดีค่ะ” เมื่อได้โอกาสเลยรีบยกมือไหว้อย่างรวดเร็ว แล้วรีบเผ่นจากจุดนั้นทันที ทิ้งให้คนถูกหาว่าใจร้ายใจดำมองตามพร้อมกับส่ายหน้าด้วยความเอือมระอานิดๆ เพราะผู้ช่วยเลขาคนนี้ ผิดฟอร์มจากที่เคยรับมาคนละเรื่อง “ไปไหนต่อครับ?” พอเข้าไปนั่งในรถแล้ว คนคอยเปิดประตูให้ก็ส่งเสียงนุ่มมาหา ท่าทีนั้นก็พินอบพิเทา ผิดกับคนเมื่อครู่คนละเรื่อง ที่ดูจะไม่ค่อยได้เกรงเขาเหมือนพนักงานคนอื่นสักเท่าไหร่ แค่เขาเดินผ่านก็ต่างรีบก้มหัวให้ไปตามๆ กัน “คงจะเคืองแกมั้ง ที่ดันขับรถชนหมาเขาจ นจะพิการแหล่ไม่พิการแหล่”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม