“เออๆๆ เห็นแก่ที่มึงเลี้ยงวันนี้นะอีช่า กูยกให้ก็ได้วะ ไว้หาแดกที่อื่น จ่ายงามซะอย่าง ไม่มีอดว่ะ”
เดลต้ายิ้มร่าอย่างคนไม่คิดอะไร ทว่าพิชชานั้นคิด
“พอเลยพวกมึง เลิกเมาส์แล้วก็แดกๆ ไป และรู้ไว้ซะด้วยนะ ว่าเขามีสาวในเซฟเป็นตับ พอๆ กับเงินในแบงค์เลยนะเว้ย สาวนอกด้วยเว๊ย ไทยๆ อย่างพวกแก นางไม่แลหรอก”
แล้วตัดความหวังเพื่อนทันที
“อ๊าว แบบนี้มึงก็อดแดกไปด้วยน่ะสิวะช่า น่าสงสารว่ะ”
เจสซี่แสร้งทำเป็นมองเพื่อนด้วยความเห็นใจ แต่หน้านั้นเหมือนจะหัวเราะเยาะยังไงยังงั้น
“ไม่ต้องมาสงสารกูหรอก บอกแล้วไงว่ากูไม่สน เปลี่ยนเรื่องๆ เดี๋ยวกูแดกไม่อร่อย”
จากนั้นเพื่อนๆ ก็ต่างพากันเอาเรื่องอื่นมาคุย และด้วยเสียงที่ดังกว่าเมื่อครู่ เพราะไม่ได้คุยเรื่องของใครในร้านนี้แล้ว เวลาผ่านไปเป็นชั่วโมง ก็ไม่มีทีท่าว่าจะหมดเรื่องคุย ยิ่งเจ้านายกับแขกออกจากร้านไปแล้ว เรื่องเดิมๆ ก็วกกลับมาในวงสนทนาอีก จนพิชชาเริ่มเบื่อ เลยชวนสลายม็อบด้วยการลุกก่อน แล้วตรงไปเคาน์เตอร์เพื่อจ่ายเงิน
“คุณลูกค้าที่นั่งโต๊ะนั้นจ่ายให้แล้วค่ะ”
“อะไรนะคะ?”
พิชชามองไปตามมือที่ชี้ไปยังโต๊ะที่เจ้านายเคยนั่งก่อนหน้านี้ ด้วยท่าทีเป็นกังวล เพราะราคาเกือบสามพัน
“ว้ายๆๆ ท่านเพอร์อีช่าแมนว่ะ”
เดลต้าที่เพิ่งรู้ฉายาของเจ้านายเพื่อนตอนเมาส์มอยกันเมื่อกี้แซวเบาๆ ขณะมองเพื่อนที่ยืนงงอยู่
“แล้วกูจะทำยังไงล่ะมึง?”
ออกจากร้านไปแล้ว พิชชาก็ยิ่งทำหน้ากังวลหนักกว่าเดิม
“จะทำยังไง พรุ่งนี้ไปทำงาน มึงก็ไปกราบแทบตักของท่านเพอร์มึงสิวะ”
ลัลลาวรรณรีบแนะ ขณะเดินไปแล้วก็เหล่ของในร้านต่างๆ ไปด้วย
“ใช่ๆ กูแนะนำให้มึงกราบเข้าไปใกล้ๆ น้องเคของท่านเลยนะเว้ย รับรองมึงมีสิทธิ์ได้แดกแน่ๆ”
เดลต้าหัวเราะร่า ทำเอาผองเพื่อนหัวเราะไปด้วย
“อีบ้า พูดอะไรก็ไม่รู้ กูไม่ได้หื่นเหมือนมึงนี่” พิชชาแหวใส่ทันที
“ว่าแต่ทำไมท่านเพอร์จ่ายให้ล่ะวะ วันนี้ทำท่ายังกับจะแดกหัวกูอยู่แท้ๆ เรื่องเค้ก”
“ท่านของมึงคงอยากจะปลอบใจล่ะมั้ง ที่แดกหัวมึงไปหลายคำ อย่าไปคิดมากเลยวะ นั่นมันเศษเงินของเขาหรอก ว่าแต่พวกเราไปไหนต่ออีกมั้ยล่ะ ไหนๆ ก็เจอกันแล้วนี่หว่า”
เขมิกาตั้งประเด็นใหม่ และนั่นทำเอาผองเพื่อนลืมเรื่องท่านเพอร์ไปทันที แล้วมีเรื่องสถานที่ที่จะไปต่อมาแทน
ระหว่างเลี้ยวรถเข้าไปจอดใต้อาคาร นาถรดีก็บอกคนข้างๆ ที่มีกระเป๋าของสารพัดวางอยู่บนตักไปด้วย เมื่อเห็นว่าเจ้านายจะเข้าช้าครึ่งชั่วโมง บวกกับไม่มีงานค้างใดๆ เลยอยากจะเดินยืดเส้นยืดสายบ้าง เพราะเข้าออฟฟิศแล้วก็ได้แต่นั่งอยู่หน้าจอมากกว่าได้ลุกเดินไปไหน
“เดี๋ยวพี่จะแวะร้านขนมก่อนนะ ช่าขึ้นไปเลยก็ได้ แต่ช่วยเอาเชอร์รี่ไปให้พี่ยุพาที่ฝ่ายบัญชีก่อนนะ จำได้หรือเปล่า คนที่พี่เคยพาไปแนะนำตัว”
“ได้ค่ะ เสร็จแล้วช่าทำมื้อเช้ารอเลยมั้ยคะ?”
“จ้ะ”
“เดี๋ยวช่าหิ้วกระเป๋าขึ้นไปให้ด้วยก็ได้ค่ะ พี่นาถจะได้ถือแค่กระเป๋าตังค์ เผื่อซื้อของอีกจะได้ไม่ต้องหิ้วเยอะไงคะ หรือถ้าซื้อเยอะโทรให้ช่าลงมาช่วยก็ได้นะคะพี่”
“ขอบคุณจ้า แต่ไม่เป็นไร พี่แค่ท้องนะจ๊ะ ไม่ได้เป็นง่อยจนช่าจะต้องคอยทำนั่นทำนี่ให้ไปซะทุกเรื่อง ไปๆ ขึ้นข้างบนได้แล้ว”
ลูกพี่ประชดนิดๆ แต่ด้วยท่าทีเป็นปลื้ม เมื่อลูกน้องมีน้ำใจเสมอมา ตั้งแต่ยังไม่ได้ทำงานด้วยกันแล้ว
“ค้า”
คนถูกประชดยิ้มร่า แล้วถอนสายบัวแบบล้อเรียนพี่ใหญ่ ก่อนจะรีบหิ้วของสารพัดเดินเข้าตึก มี รปภ. รอเปิดประตูให้ แถมยังตามไปกดลิฟต์ให้ด้วยท่าทีนอบน้อมอีกต่างหาก เพราะต่างรู้กันแล้วว่า นี่คือผู้ช่วยเลขาของท่านประธาน และด้วยความที่ของเต็มไม้เต็มมือ เลยขึ้นไปออฟฟิศชั้นบนสุดก่อน ถึงเอาถุงเชอร์รี่เดินลงบันไดไปแผนกบัญชี เป็นการออกกำลังกายไปด้วย
“ฝากขอบคุณคุณนาถด้วยนะจ๊ะน้องช่า”
“ค่ะ ช่าขอตัวก่อนนะคะ ต้องรีบขึ้นไปทำมื้อเช้าให้ท่านประธานกับให้พี่ๆ ค่ะ”
อันที่จริงนั้นอยากเข้าห้องน้ำมากกว่า แต่ก็ไม่กล้าบอก และการที่จะเดินขึ้นบันไดไปใช้ห้องด้านบนนั้นก็คะเนว่าไม่ไหวแน่นอน เลยเข้าชั้นนี้ไปก่อน
“เมื่อวานมีสายส่งข่าวมาบอกฉัน ว่าท่านประธานเล่นงานมันชุดใหญ่ จนร้องไห้ขี้มูกโป่งไปเลยนะพวกแก”
นั่งได้ไม่เท่าไหร่ ก็มีคนเข้ามาและมีเสียงคุยกันดังเข้าหู นอกจากตัวเองแล้วก็อยากจะรู้เหลือเกินว่าใครถูกท่านประธานเล่นงานอีก
“สมน้ำหน้า กับอีแค่เขียนชื่อลูกค้าให้ร้านเค้กยังผิดเลย แล้วเสือกได้มาเป็นผู้ช่วยเลขา ไปทำอีท่าไหนถึงได้ตำแหน่งนี้มาล่ะแก อย่าบอกนะว่า...เอ่อ...”
“โอ๊ย! จืดชืดเป็นไก่ต้มอย่างนั้นน่ะเหรอท่านประธานจะมอง แกไม่ต้องคิดเลยนะว่ามันเป็นเด็กเส้นท่านประธาน เพราะฉันรู้มาแล้ว ว่ามันเป็นเส้นพี่นาถต่างหากล่ะ”
“ต๊าย! นึกยังไงถึงได้เอามันมาวะแก ทั้งโง่ ทั้งซื่อบื้อขนาดนั้น ได้ข่าวว่าเงินเดือนเยอะด้วยนี่แก”
“เห็นว่างั้นล่ะ ไม่รู้ได้เท่าไหร่หรอกนะ แต่ว่าเยอะเหมือนกัน ที่สำคัญคือทำงานไม่ได้มีอะไรมาก วันๆ ก็คอยเสิร์ฟข้าวเสิร์ฟน้ำท่านประธานแค่นั้น แต่ก็เก้ๆ กังๆ เทียบยัยแนนไม่ได้แม้แต่นิดเดียวเลยล่ะแก”
“ยัยแนนรู้ว่าเอามันมาทำงานแทนนะ กรี้ดแทบร้านจะแตกเลยล่ะ”
“แหมแก! ไม่กรี้ดก็ไม่รู้จะทำยังไง ยัยแนนทั้งสวย ทั้งทำงานเก่ง ทั้งรอบรู้ แล้วดูมันสิ หน้าตาบ้านๆ อย่างนั้น ฉันนี่คิดจนหัวจะระเบิดแล้ว ว่าเอามันมาทำงานได้ยังไง อุ๊ย! ยิ่งคิดยิ่งปวดสมอง รีบๆ ไปกินข้าวดีกว่าแก ฉันได้ผัดไทยมานะ”
“เคๆ ฉันได้ข้าวเหนียวหมูปิ้ง...”