บทนำ scramble

829 คำ
“ทูลฝ่าบาท!! จักรพรรดิแห่ง “โรสเรดดีมอนเดอร์” เสด็จม-” “ตึง!” ประตูท้องพระโรงบานใหญ่โอ่อ่าถูกเปิดกระแทกเข้ามาอย่างรุนแรง เหล่าทหารและผู้ติดตามจากจักรวรรดิโรสเรดดีมอนเดอร์ก็พากันตรงเข้ามาเป็นขบวน โดยหัวหอกสำคัญคือชายผู้สูงสง่าผมสีดำเข้ม นัยน์ตาสีน้ำเงินหม่นใบหน้าเรียวโฉมช่างรูปงามดั่งคำกล่าวขานของผู้เคยพบเห็น ไหนจะการแต่งกายด้วยชุดเครื่องแบบที่สวมใส่ช่างน่าเกรงขาม ฝีเท้าเดินตรงเข้ามาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิเฮเลสสเตเฟอร์และองค์จักรพรรดินีผู้เลอโฉม สีหน้าของชายซึ่งเป็นผู้ปกครองจักรวรรดิก็ยิ่งมีปฏิกิริยาที่ไม่พอใจมากยิ่งขึ้น ณ ตอนนั้น “นี่มันเรื่องอะไรกัน อ...” จักรพรรดิควอนซีเรียสไม่อาจเข้าใจได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ กระทั่งได้มองจ้องไปยังชายหนุ่มตรงหน้าผู้ยืนโดดเด่นสูงสง่าท่ามกลางงานเลี้ยง ควอนซีเรียสก็นึกขึ้นได้ทันทีว่าบุคคลตรงหน้าคืออดีตอัศวินหนุ่มผู้เคยทำหน้าที่อัศวินผู้พิทักษ์ราชินีและหายตัวไปโดยไม่ทราบสาเหตุ “ที่แท้เจ้าเองก็คือ...สเปซ? ทำไมถึงมากับทหารของโรสเรดดีมอนเดอร์?!” “ทูลฝ่าบาท กระหม่อมมิได้อยากจะปกปิดสถานะของกระหม่อมมาตั้งแต่แรก แต่เพียงเพราะการกระทำของพระองค์ที่ทำให้กระหม่อมจำเป็นต้องทำถึงเช่นนี้” อัศวินหนุ่มร่างสูงเอ่ยอย่างใจเย็น เขากล่าวด้วยความนอบน้อม แม้ว่านัยน์ตาที่ต้องมนตร์จะเอาแต่หมายชำเลืองมองไปยังองค์จักรพรรดินีหนุ่มรูปงามผู้มีเรือนผมสีดำสนิทและนัยน์ตาสองสี ช่างเป็นที่น่าหลงใหลแก่ผู้ได้จ้องมองไม่ว่าชายใดก็มักหลงเสน่ห์องค์จักรพรรดินีเมื่อได้พบสบตาผู้นั่งอยู่บนบัลลังก์ข้างกายกษัตริย์แห่งจักรวรรดินี้ “อย่าเอาสายตาลวนลามนั่นมองมาราชินีของเรา!” “อุ๊บ...ฮ่าฮ่า” “มีเรื่องอะไรให้น่าขันด้วยหรือเมอลิเซน?” เมื่อเสียงหัวเราะของเมอลิเซนผู้เป็นราชินีดังขึ้น มันก็ยิ่งสร้างความไม่พอใจให้แก่องค์จักรพรรดิเป็นอย่างมาก “ก็ต้องน่าขันสิ เราไม่คิดว่าท่านจะทำตัวเหมือนเด็กได้ถึงเพียงนี้ท่านจักรพรรดิ ฟังคำกล่าวของท่านอัศวินสเปซก่อนเถอะ” น้ำเสียงอ่อนหวานเอ่ยตอบ ขณะที่สายตานั้นสบจ้องไปยังเจ้าของเรือนผมสีดำเข้มด้วยความรู้สึกทั้งท่วมท้นและประหลาดใจเมื่อจู่ ๆ สเปนเซอร์ก็ปรากฏอยู่ตรงหน้าด้วยรูปโฉมของสเปซที่ไม่ได้เห็นมันมานานอย่างผ่าเผย ทั้งชุดแต่งกายเฉกเช่นกษัตริย์โดยแย่งซีนและสายตาของทุก ๆ คนไปจนหมด เจ้าของนัยน์ตาสีน้ำเงินหม่นอันแสนคุ้นเคยได้หรี่ยิ้มเมื่อเห็นถึงใบหน้าผู้ตอบรับตนเองอย่างอ่อนโยน ดังนั้นจึงได้เริ่มกล่าวขึ้น “ถ้าเช่นนั้นก็คงไม่ต้องทำตัวให้เหมือนลูกเห็บลูกหาบเป็นชั้นผู้น้อยผู้ต่ำต้อยแล้วล่ะนะ” ทันทีเมื่อลั่นวาจา ปลายนิ้วเรียวยาวจึงบรรจงสางเรือนผมสีดำสนิทจนมันได้คลายออกและแปลเปลี่ยนเป็นสีเงินสว่างอย่างที่มันควรจะเป็น ทั้งนัยน์ตาสีน้ำเงินหม่นก็กลับกลายเป็นสีฟ้าน้ำทะเลอันน่าหลงใหล เมื่อนั้นผู้คนภายในงานก็ต่างแสดงความตกตะลึงไม่ต่างจากจักรพรรดิควอนที่นั่งอยู่บนบัลลังก์พร้อมทั้งภรรยาน้อยคนอื่น ๆ ผู้ไม่คาดคิดต่อสถานการณ์ตรงหน้า ทั้งเบิกตากว้างจนแทบหลุดออกมาจากเบ้า “นามของเราคือ “สเปนเซอร์” จักรพรรดิแห่งจักรวรรดิโรสเรดดีมอนเดอร์ เรามาที่นี่เพื่อทวงบางสิ่งบางอย่างที่ควรจะเป็นของเรา” “หมายความว่ายังไง?!” เสียงตะโกนปลุกระดมให้พลทหารภายในท้องพระโรงถึงกับลุกฮือและตั้งรับ จักรพรรดิสเปนเซอร์ฉีกยิ้มด้วยท่าทางพึงพอใจ เขาไม่อาจเกรงกลัวต่อเสียงคำขู่แม้ว่าตนเองนั้นจะเข้ามาเยือนในถ้ำสิงโตก็ตามแต่ ปลายนิ้วทรงเสน่ห์ชักดาบปลายแหลมขึ้นมาจ่อไปยังทิศทางขององค์จักรพรรดิแห่งเฮเลสสเตเฟอร์ราวกับกำลังประกาศสงคราม “ไหน ๆ แล้วท่านก็ไม่คิดใส่ใจจะแลสิ่งล้ำค่าที่อยู่ข้างกายของท่าน เพราะกำลังหลงโง่งมอยู่กับภรรยาน้อยอีกห้าคนที่อยู่ตรงหน้าพระองค์แล้วนี่องค์จักรพรรดิควอนซีเรียส เช่นนั้นก็จง..ยกองค์จักรพรรดินีเมอลิเซนให้เราเถอะ” “สเปนเซอร์!! อ..เมอลิเซน จะทำอะไร?” ท่ามกลางชนวนที่อีกไม่นานกำลังถูกจุดขึ้น ฝีเท้าเรียวเล็กก็ได้ก้าวลงจากบัลลังก์มาหยุดยืนอยู่ข้างกายของกษัตริย์แห่งโรสเรดดีมอนเดอร์ด้วยรอยยิ้ม เมื่อนั้นก็เข้ากอดคล้องแขนแกร่งต่อหน้ากษัตริย์ผู้เป็นสามีของตนพลางเอ่ยอย่างมีความสุข “ควอนซีเรียส ท่านน่ะช่างเป็นสามีที่โง่เง่าเสียจริง...”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม