บทที่5.จะเอาไง คุณทหาร!

1612 คำ
“คุณพิชคะ!” รานีเลขานุการคู่ใจของพิชชาวีร์ เธอกระซิบเรียกเมื่อไม่แน่ใจว่าเจ้านายอยู่กับใคร หายไปไม่กี่นาทีก็มีหนุ่มรูปหล่อมาเกี้ยวพาราสีเจ้านายคนสวยเสียแล้ว “รานี พิชกำลังจะกลับพอดี เราไปกันเถอะ!” พิชชาวีร์ผุดลุกขึ้นโดยเร็ว เธอรีบคว้ากระเป๋าสะพายบนโต๊ะแต่ก็ไม่ทันจาคอบอยู่ดี ชายหนุ่มส่งยิ้มหว่านเสน่ห์ให้รานีเลขานุการสาว เขากุมมือที่จับกระเป๋าแน่นๆ แยกเขี้ยวใส่หญิงสาวก่อนจะเปิดปากพูดช้าๆ “คุณพิชจะกลับกับผม เชิญคุณเลขาฯ กลับก่อนได้เลยครับ” รานีละล้าละลังไม่รู้ว่าควรทำตามคำสั่งของใคร เมื่อทั้งสองคนน่าจะรู้จักกันมาก่อน แค่เธอยังไม่เคยเห็นชายหนุ่มแค่นั้น “เอะ! ไม่นะ พิชจะกลับกับคนของพิช!” “คุณจะกลับกับผมพิชชาวีร์ ธุระของเราสองคนยังไม่จบ” “มันจบตั้งแต่เริ่มต้นแล้วค่ะคุณจาคอบ เราสองคนไม่มีอะไรต้องคุยกัน” “แน่ใจรึ! คุณแน่ใจหรือว่าไม่มีอะไรจะพูดกับผม พิช!” “เอ่อ...ตกลงกันให้ได้ก่อนดีไหมคะ รานีจะไปเคลียร์ค่าเครื่องดื่มให้ ค่อยๆ คุยกันค่ะอย่าเสียงดัง เดี๋ยวคนอื่นๆ เข้าจะตกใจ คุณพิชกับคุณ...จาคอบคุยกันดีๆ นะคะ ปรับความเข้าใจกันดีกว่า เดี๋ยวรานีจะออกไปรอหน้าร้าน” “รานี รอพิชด้วย!” “หึๆ ...” “หัวเราะอะไร ดูสิรานีเข้าใจผิดไปกันใหญ่ พิชกับคุณไม่ได้สนิทกันจนต้องมาปรับความเข้าใจกันหรอกนะ” “คุณนี่เด็กกว่าที่ผมคิดนะครับที่รัก” “ใคร! ใครที่รักคุณ อย่ามาพูดพล่อยๆ นะ” “เราสนิทแบบแนบแน่น เนื้อต่อเนื้อแนบชิดกัน อะๆ หรือคุณจะเถียง” “หยุดพูดเดี๋ยวนี้นะ ไม่อย่างนั้นพิชจะฆ่าคุณ คอยดู” เธอแยกเขี้ยวขู่ใส่จาคอบ พลางสะบัดค้อนขวับๆ เมื่อไม่สามารถทำอะไรอย่างที่ใจต้องการได้สักอย่าง... จะเอาไง คุณทหาร! พิชชาวีร์นั่งตัวเกร็ง เธอไม่สามารถเอาชนะจาคอบได้เหมือนเคย เขาข่มขู่เธอโดยเอาแพนตี้ตัวน้อยมาเป็นข้อต่อรองจนเธอต้องจำใจยอมทำตาม จนกระทั่งมานั่งอยู่ในรถยนต์สปอร์ตคันหรูของตัวเองโดยมีหนุ่มหล่อเป็นสารถีจำเป็น “จะเอาไงก็ว่ามาคุณตำรวจ!” เสียงเย็นๆ เอ่ยขึ้นท่ามกลางความเงียบภายในรถยนต์ที่กำลังขับเคลื่อน “ผมเป็นCIA คนสวย ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างที่คุณเข้าใจพิช!” “มันก็เหมือนกันนั่นแหละ ไม่เห็นจะแตกต่างตรงไหน” “แตกต่างสิพิช! อาชีพผมเป็นความลับ หากแพร่งพรายไปอาจจะเป็นอันตรายถึงชีวิต ผมอยู่กับความเสี่ยงตลอดเวลา” “แล้วคุณมาบอกพิช! ทำไม?” “คุณจะได้รู้ไงว่าผมจริงใจ” ชายหนุ่มตอบเสียงหวานฉ่ำ” “แหวะ! จริงใจ ถ้าจริงใจคุณไม่น่าจะทำกับพิชแบบที่ผ่านมานี่คะ” เธอกล่าวแย้งเสียงขุ่น สะบัดหน้าหนีคอแทบเคล็ด “ถามจริงพิช หากคุณเป็นผู้ชายแล้วมีผู้หญิงสวยๆ มาแก้ผ้าแก้ผ่อนให้ดูบนเตียงของคุณ คุณจะทำไง ยืนดูเฉยๆ รึ!” “พิช! ไม่ได้ทำแบบนั้น คุณอย่ามาใส่ความจาคอบ พิชๆ ...” เธอแก้ตัวกระอึกกระอัก จำไม่ได้ว่าทำแบบนั้นไปจริงหรือเปล่า... “ผมยอมรับว่าผมไม่ใช่สุภาพบุรุษเท่าไหร่! เพราะฉะนั้นผมจึงไม่รอช้าที่จะคว้าโอกาสอันดีนั้นไว้กับตัวเอง” “ชิ! ฉวยโอกาสสิ พิชเมา!” “โอกาสมันหอม...หวาน มันน่าลูบน่าคลำนี่ครับ” ชายหนุ่มเอ่ยช้าๆ ชัดๆ กลั้วเสียงหัวเราะในลำคอ “บ้า ทะลึ่ง!” พิชชาวีร์ตวาดเสียงแผ่วๆ เธออายจนหน้าหวานซ่านสีเลือด เมื่อเขาเอ่ยถึงความสัมพันธ์แนบชิดกันแบบไม่สะดุ้งสะเทือน “เอะ! จาคอบคุณรู้ได้ยังไงว่าที่ทำงานพิชอยู่ที่ไหน?” เธอถามเสียงคาดคั้น เพราะไม่ได้บอกสักคำว่าเธอจะไปที่ไหน ทำไมเขาถึงรู้ว่าเธอทำงานอยู่ที่ไหน เพราะสายตามองเห็นเส้นทางคุ้นๆ ตา “ผมรู้รายละเอียดของคุณทุกเรื่องพิชชาวีร์ ตรีทิพย์ คุณลืมไปแล้วรึว่าผมมีอาชีพอะไร แค่หาข่าว “เมีย” มันไม่น่าจะเกินความสามารถผมนี่ครับ” “ขอโทษ! พิชลืมไปว่าคุณเป็นสายลับผู้ยิ่งใหญ่” พิชชาวีร์กระแทกเสียงตอบ เธอหมุนตัวมองออกไปนอกหน้าต่าง ไม่อยากหันมามองผู้ชายข้างๆ ตัวที่เข้ามาจู่โจมแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวและดูเหมือนเขาจะมีอิทธิพลกับเธอพอสมควร จาคอบอมยิ้มแก้มตุ่ย คนข้างๆ ตัวงอนได้น่ารักน่าใคร่ หากแม้นอยู่กันสองคนตามลำพัง รับรองได้ตอนนี้เธอคงโดนเข้าลงโทษด้วยจุมพิตหวานซึ้ง ชายหนุ่มค่อยๆ ผ่อนลมหายใจให้ช้าลง แค่นึกถึงกลีบปากนุ่มนิ่มร่างกายของเขาก็พร้อมพลั่ก มันเหยียดขยายพร้อมที่จะออกปฏิบัติการโรมรัน เฮ้อ! ทำเป็นอดอยากปากแห้งไปได้ แค่ได้กลิ่นกายหอมๆ ก็ตื่นเตลิด ชายหนุ่มก่นด่าตัวเองอยู่ในใจ เขาหนีบขาแข็งแรงชิดๆ กัน บังคับให้สัดส่วนความเป็นชายผ่อนคลายความตึงตัว ก่อนที่พิชชาวีร์จะมองเห็น เพราะเธออาจจะมองว่าเขาเป็นคนหื่นกามไม่เลือกเวลา พิชชาวีร์ซ่อนแก้มแดงๆ จากสายตาของอีกฝ่าย เธอมองเห็นความตึงตัวช่วงกลางลำตัวของจาคอบเข้าพอดี ร่างกายร้อนวูบวาบ ช่องท้องบีบเข้าหากันแนบแน่น กลีบเนื้อฉ่ำน้ำค้างหวานเพราะความรู้สึกภายในบีบรัดขับน้ำค้างออกมาหล่อลื่นสัดส่วนยวนตา เธอขยับตัวช้าๆ ผ่อนลมหายใจออกมาแผ่วๆ ปล่อยความรู้สึกรุ่มร้อนออกมาตามลมหายใจ ไม่อยากให้คนข้างตัวรู้ว่าเธอมองเห็นความผิดปรกติตรงนั้น “พิช! คุณจะว่าอะไรไหมถ้าผมจะแวะห้องพักผมสักชั่วครู่” จาคอบเอ่ยเสียงสั่นพร่า เขาไม่อาจหยุดความปรารถนาที่มีกับเธอได้อีกต่อไป ความรู้สึกพลุ่งพล่านตีกันจนปั่นป่วน จึงถามและหวังว่าเธอจะให้ความร่วมมือ “ไม่ อย่านะคะ” พิชช่าวีร์ปฏิเสธเสียงสั่น เธอรู้ความนัยในถ้อยคำนั้นดี หากเผลอตัวตามชายหนุ่มไปที่ห้องพักแห่งนั้นอีกครั้งเธอคงไม่แคล้วถูกย่ำยีเหมือนเดิม “ได้โปรด! นะครับ” จาคอบวอนขอเสียงแหบปร่า ฝ่ามือชุ่มเหงื่อเกร็งจับพวงมาลัยรถยนต์แน่น “ไม่!” ริมฝีปากอิ่มเต็มเม้มแน่น เธอตอบกลับเสียงสั่นพร่าไม่แพ้กัน “ขอโทษ!” ชายหนุ่มเอ่ยเสียงแหบพร่า พิชชาวีร์มึนงง เธอรู้ว่าสร้างความผิดหวังให้กับเขา แต่เรื่องนี้มันน่าอายเกินกว่าจะรับได้ เพราะเป็นมนุษย์ปุถุชนทั่วไปไม่ใช่สัตว์เดรัจฉานที่จะได้สมสู่กันเมื่อเกิดความต้องการโดยไม่มีความผูกพันทางใจ เรื่องมันเริ่มต้นเพราะเธอทำตัวไม่สมกับเป็นกุลสตรี ออกเที่ยวเตร่ยามค่ำคืนจนทำให้ถูกย่ำยีจากอีกฝ่าย เพราะฉะนั้นเธอจะไม่ให้อำนาจฝ่ายต่ำเข้าควบคุมความต้องการ ถึงลึกๆ ในใจเธอยอมรับว่าความหวามไหวซ่านทรวงที่จาคอบมอบให้เธอก็ยังคงโหยหาและต้องการมันมาตลอด... รถยนต์จอดนิ่งๆ หลังวิ่งมาอีกพักใหญ่โดยที่พิชชาวีร์พริ้มเปลือกตาหลุบลง เธอไม่อยากให้ความฟุ้งซ่านทำให้ตัวเองเผลอใจอ่อน ประตูด้านข้างเปิดออกด้วยฝีมือจาคอบ เธอถูกช้อนอุ้มขึ้นสู่วงแขนแบบไม่ทันได้ตั้งตัว อารามตกใจจึงโอบเรียวแขนที่แผงลำคอหนา พร้อมกับเปิดเปลือกตาขึ้นมองรอบๆ ตัวด้วยความตกใจ “จาคอบ! คุณพาพิชมาที่นี่ทำไม!” เธอเข้าใจวัตถุประสงค์จากคำขอโทษของชายหนุ่มแล้ว เมื่อลืมตาขึ้นมามองเห็นบรรยากาศคุ้นตาแต่ไม่ใช่ตึก Grand garden สถานที่ทำงานของตัวเองแต่มันเป็นบ้านพักของเขา ที่ครั้งหนึ่งเธอเคยมา “หึ!” ชายหนุ่มหัวเราะหึๆ ในคอ เขาเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น จนเกือบเหมือนกระโจนเข้าลิฟต์เลยทีเดียว หลังประตูลิฟต์ปิดลง จาคอบปล่อยพิชชาวีร์ลงยืนบนพื้น เธอเตรียมคำต่อว่ามากมายไว้ในใจ แต่ก็ได้แค่คิด เมื่อรองเท้าสัมผัสพื้น ริมฝีปากอิ่มก็ถูกปิดทับด้วยริมฝีปากแข็งกระด้างร้อนชื้น จาคอบดันเอวบางชิดผนังเย็นเฉียบ เขาบดจูบกลีบปากอิ่ม หมดสิ้นความยับยั้งชั่งใจ มือซ้ายกดแป้นควบคุมแผงลิฟต์ ให้ตัวลิฟต์ปิดสนิท แต่ค้างไว้ไม่ให้เปิดออก ขอจูบพิชชาวีร์ให้พอใจ ลดความปั่นป่วนในช่องท้องที่กำลังทำให้เขารุ่มร้อนอยู่ในขณะนี้ รสจูบรสชาติแรงๆ ปลายลิ้นสากระคายเกี่ยวกระหวัดรัดร้อยลิ้นเล็กๆ นุ่มนิ่ม เขาดูดซึมความหวามไหว บดเบียดร่างกายร้อนผ่าวกับเรือนกายโปร่งบาง มือหนาๆ เกาะกุมเอวบางไว้มั่น ลากไล้ปลายนิ้วเกลี่ยไล้และกอบกุมบั้นท้ายตึงแน่นพลางขยำขยี้ก้อนเนื้อแน่นๆ อย่างเมามัน ลืมสิ้นว่าแค่อยากจูบ แต่ตอนนี้ชายหนุ่มทำมากกว่าที่หัวใจต้องการ พิชชาวีรร์หัวหมุนคว้าง เธอปัดป้องจาคอบไม่ถูกเมื่อสองมือของชายหนุ่มยุ่มย่ามยิ่งกว่าหนวดปลาหมึก ที่ค่อยๆ แตะ ค่อยๆ ต้อง จับนั่นจับนี่จนเธอตั้งรับไม่ทัน ปากอิ่มโดนปล้นจูบและเธอก็แหงนเงยหน้าให้เขาสัมผัสได้เต็มที่ มือเล็กๆ วางนิ่งๆ บนแผ่นอกแน่นตึง ผิวกายสั่นกระตุกช่องท้องบิดเป็นเกลียว
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม